คะแนนเครดิตบูโร FF คืออะไร? ไขข้อสงสัย ผลกระทบ และ 7 วิธีสร้างเครดิตให้กลับมาดีอีกครั้ง

บทนำ: คะแนนเครดิตบูโร FF คืออะไร และทำไมคุณควรรู้

ภาพประกอบบุคคลสับสนกับรายงานเครดิตที่มีสัญลักษณ์สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ และบัตรเครดิต

ในยุคที่การเงินส่วนบุคคลมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวัน การเข้าใจเรื่อง “คะแนนเครดิตบูโร” จึงไม่ใช่แค่ความรู้พื้นฐาน แต่เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกคน โดยเฉพาะในบริบทของประเทศไทย ซึ่งระบบการให้สินเชื่อขึ้นอยู่กับข้อมูลทางการเงินอย่างชัดเจน คะแนนเครดิตบูโรถือเป็นตัวชี้วัดสุขภาพการเงินส่วนตัวที่สถาบันการเงินใช้ประเมินความน่าเชื่อถือของผู้กู้ ไม่ว่าคุณจะต้องการขอสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือเปิดบัตรเครดิต คะแนนนี้ก็ส่งผลโดยตรงต่อโอกาสในการอนุมัติ และเงื่อนไขที่คุณจะได้รับ บทความนี้จะเจาะลึกถึงความหมายของรหัส “FF” ที่หลายคนมองว่าเป็นเครื่องหมายคำถามใหญ่ในรายงานเครดิต พร้อมอธิบายว่าทำไมมันถึงไม่ใช่ “ประวัติเสีย” แต่กลับกลายเป็น “การไม่มีประวัติ” และแนวทางในการเปลี่ยนจุดเริ่มต้นนี้ให้กลายเป็นโอกาสในการสร้างอนาคตทางการเงินที่ดีขึ้น

ทำความเข้าใจคะแนนเครดิตบูโร: พื้นฐานที่คุณควรรู้

ภาพประกอบศูนย์กลางข้อมูลเครดิตที่รวบรวมข้อมูลจากธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ

ก่อนจะเข้าใจถึงรหัส FF อย่างลึกซึ้ง สิ่งที่ต้องรู้ก่อนคือระบบทั้งหมดของเครดิตบูโรในประเทศไทยทำงานอย่างไร เพราะสิ่งนี้คือรากฐานของการตัดสินใจทางการเงินที่ตามมา

เครดิตบูโรคืออะไร?

เครดิตบูโร หรือที่รู้จักในชื่อทางการว่า บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) คือหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลด้านเครดิตของประชาชนและนิติบุคคลทั่วประเทศ โดยข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งมาจากธนาคาร บริษัทสินเชื่อ หรือสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของระบบ เมื่อคุณขอสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อบ้าน ข้อมูลทั้งหมดตั้งแต่การขอสินเชื่อ การผ่อนชำระ หรือแม้แต่การผิดนัด ก็จะถูกบันทึกไว้ที่นี่

เป้าหมายหลักของเครดิตบูโรคือช่วยให้สถาบันการเงินสามารถตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น โดยใช้ข้อมูลจริงประกอบการพิจารณา ทั้งในด้านความเสี่ยงของการให้กู้ยืม และการตั้งอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับระดับความน่าเชื่อถือของแต่ละคน

ความสำคัญของคะแนนเครดิตบูโร

ความสำคัญของคะแนนเครดิตบูโรไม่ได้อยู่แค่ในเรื่องของการ “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” สินเชื่อ แต่มันส่งผลต่อเงื่อนไขทั้งหมดที่คุณจะได้รับ หากคุณมีคะแนนที่ดี คุณมีโอกาสได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง วงเงินที่สูงขึ้น และแม้แต่ขั้นตอนการอนุมัติที่รวดเร็วขึ้น ในทางกลับกัน หากคุณมีประวัติที่ไม่ดี หรือแม้แต่ไม่มีประวัติเลยอย่างรหัส FF สถาบันการเงินอาจมองว่าคุณเป็น “ความเสี่ยง” ที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งทำให้โอกาสในการได้รับสินเชื่อหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

เจาะลึกคะแนนเครดิตบูโร FF: ความหมายและผลกระทบ

ภาพประกอบบุคคลที่มีป้าย FF พยายามเปิดประตูที่เขียนว่าการอนุมัติสินเชื่อ

หนึ่งในสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับผู้ตรวจสอบรายงานเครดิตบูโรมากที่สุด คือการพบว่าตัวเองมีรหัส “FF” ปรากฏอยู่ หลายคนอาจเข้าใจผิดว่านี่คือสัญญาณของปัญหาทางการเงิน หรือแม้แต่ “ติดเครดิตบูโร” แต่ความจริงกลับไม่ใช่เช่นนั้น

คะแนน FF หมายถึงอะไร?

ในระบบรายงานเครดิตบูโรของประเทศไทย รหัส “FF” ไม่ได้หมายถึงว่าคุณมีหนี้ค้าง หรือเคยผิดนัดชำระ แต่หมายความว่า “ไม่มีข้อมูล” หรือ “ไม่เคยมีประวัติการขอสินเชื่อ” ภายในระบบของเครดิตบูโรเลย ซึ่งต่างจากข้อมูลอื่น ๆ เช่น “EE” ที่หมายถึงผู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ตรงเวลา หรือ “TT” ที่บ่งบอกว่าเคยมีการชำระล่าช้า และ “GE02” ที่ระบุว่าอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้

กล่าวง่าย ๆ รหัส FF คือการ “เริ่มต้นจากศูนย์” ไม่ใช่ “ติดลบ” นั่นเอง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น

– คุณไม่เคยยื่นขอสินเชื่อใด ๆ มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล หรือสินเชื่อรถยนต์
– คุณเพิ่งเริ่มต้นทำงาน และยังไม่มีโอกาสสร้างประวัติทางการเงิน
– คุณเลือกที่จะใช้เงินสดในการใช้จ่ายทุกอย่าง
– ข้อมูลของคุณยังไม่ถูกส่งเข้าระบบอย่างสมบูรณ์ (กรณีที่พบได้น้อยมาก)

สาเหตุทั่วไปที่ทำให้ได้คะแนน FF

สาเหตุหลักที่ทำให้คนจำนวนมากได้รหัส FF คือการ “ยังไม่เคยขอสินเชื่อ” หรือ “ยังไม่ได้เริ่มสร้างประวัติเครดิต” กลุ่มนี้มักเป็นนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ หรือคนที่มีวินัยทางการเงินสูง ใช้เงินสดตลอด และหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ ซึ่งในมุมมองหนึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ดี แต่ในอีกมุมหนึ่ง การไม่มีประวัติเครดิตอาจกลายเป็นอุปสรรคเมื่อคุณต้องการกู้เงินก้อนใหญ่ เช่น บ้านหรือรถ

อีกกรณีหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ผู้ที่เคยมีประวัติการชำระล่าช้ารุนแรง จนบัญชีถูกปิดไปแล้ว และไม่ได้ขอสินเชื่อใหม่เป็นเวลานาน อาจเข้าข่าย “ไม่มีข้อมูลการเคลื่อนไหว” ทำให้ระบบแสดงรหัส FF ได้เช่นกัน เนื่องจากรหัสจะอิงจากข้อมูลล่าสุดในช่วง 36 เดือนที่ผ่านมา

ผลกระทบของคะแนน FF ต่อการขอสินเชื่อในประเทศไทย

แม้ FF จะไม่ใช่ “ประวัติเสีย” แต่การ “ไม่มีข้อมูล” ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับธนาคาร เพราะไม่มีข้อมูลให้ประเมินว่าคุณจะชำระหนี้ตรงเวลาหรือไม่ ผลที่ตามมาอาจรวมถึง

โอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อลดลง โดยเฉพาะสินเชื่อก้อนใหญ่ เช่น สินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อรถยนต์
ได้รับเงื่อนไขที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ดอกเบี้ยสูงขึ้น หรือวงเงินที่ต่ำกว่าที่ต้องการ
ต้องมีผู้ค้ำประกันหรือหลักทรัพย์ เพื่อลดความเสี่ยงให้กับธนาคาร
ถูกปฏิเสธสินเชื่อส่วนบุคคลหรือบัตรเครดิต แม้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้เริ่มต้น

ดังนั้น ถึงแม้คุณจะไม่เคยมีปัญหาการเงินมาก่อน การไม่มีประวัติเครดิตก็อาจทำให้คุณเสียเปรียบได้ ธนาคารส่วนใหญ่จึงพึ่งพาประวัติเครดิตเป็นปัจจัยสำคัญ และหากคุณอยู่ในกลุ่ม FF คุณจำเป็นต้องแสดงหลักฐานอื่น ๆ เช่น รายได้ประจำ หรือสินทรัพย์ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

วิธีตรวจสอบและทำความเข้าใจรายงานเครดิตบูโรของคุณ

การรู้สถานะของตัวเองคือก้าวแรกสู่การแก้ไขปัญหา การตรวจสอบรายงานเครดิตบูโรอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ

ช่องทางการตรวจสอบเครดิตบูโรในประเทศไทย

คุณสามารถตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิตของตัวเองได้หลายช่องทางที่สะดวกและปลอดภัย ได้แก่

บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB): ผ่านเว็บไซต์ https://www.ncb.co.th/check-credit-bureau หรือแอปพลิเคชันมือถือ โดยสามารถทำรายการออนไลน์ได้ทันที
ธนาคารพาณิชย์: ธนาคารชั้นนำอย่าง ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ มีบริการตรวจสอบรายงานเครดิตได้ทั้งที่สาขาและผ่านโมบายแบงก์กิ้ง
ไปรษณีย์ไทย: ที่ทำการบางแห่งมีบริการรับคำขอตรวจสอบรายงานเครดิต
ตู้ ATM หรือ Mobile Banking: บางธนาคารอนุญาตให้ตรวจสอบได้ผ่านช่องทางดิจิทัล

ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบอยู่ในระดับต่ำ และคุณควรตรวจสอบอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้องและทันสมัย

การอ่านและตีความรายงาน

เมื่อคุณได้รับรายงานเครดิตบูโรแล้ว สิ่งสำคัญคือการรู้วิธีอ่านและเข้าใจข้อมูลที่อยู่ในนั้น รายงานโดยทั่วไปจะประกอบด้วย

ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่
ข้อมูลสินเชื่อ: รายละเอียดบัญชีสินเชื่อทั้งหมด เช่น ประเภทสินเชื่อ วงเงิน วันที่เปิดบัญชี และยอดหนี้คงเหลือ
ประวัติการชำระหนี้: ส่วนที่สำคัญที่สุด แสดงการชำระหนี้ในแต่ละเดือนย้อนหลัง 36 เดือน ถ้าชำระตรงเวลาจะขึ้นเลข 1 ถ้าล่าช้าจะขึ้นตัวเลขตามจำนวนเดือนที่ล่าช้า
สถานะบัญชี: แสดงสถานะปัจจุบัน เช่น ปกติ ปิดบัญชี หรืออยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้

หากพบข้อผิดพลาด ควรรีบติดต่อ NCB เพื่อขอแก้ไขข้อมูลทันที เพราะข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลต่อโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคต

กลยุทธ์แก้ไขและปรับปรุงคะแนน FF ของคุณ

การมีรหัส FF ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นโอกาสทองที่จะเริ่มต้นสร้างประวัติเครดิตที่แข็งแกร่ง หากคุณวางแผนอย่างมีระบบ คุณสามารถเปลี่ยน “ไม่มีข้อมูล” ให้กลายเป็น “ข้อมูลที่ดี” ได้ในไม่กี่ปี

แผนปฏิบัติการเร่งด่วนสำหรับผู้ได้คะแนน FF

สำหรับผู้ที่อยู่ในสถานะ FF นี่คือแนวทางที่ควรทำทันที

1. เริ่มต้นจากสินเชื่อขนาดเล็ก:
– สมัครบัตรเครดิตที่มีเงื่อนไขไม่เข้มงวด หรือบัตรกดเงินสดที่ออกแบบมาสำหรับผู้เริ่มต้น
– พิจารณาสินเชื่อผ่อนสินค้า เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อสร้างประวัติการชำระหนี้
– หรือเลือกสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ หรือสินเชื่อรถยนต์ที่มีการวางดาวน์สูง

2. สร้างวินัยทางการเงิน:
– ชำระทุกยอดหนี้ให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นยอดขั้นต่ำหรือยอดเต็ม
– ใช้บัตรเครดิตอย่างระมัดระวัง ไม่ใช้เกินตัว และพยายามชำระเต็มจำนวนทุกเดือน

3. ติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ:
– ตรวจสอบรายงานเครดิตบูโรทุก 6-12 เดือน เพื่อดูว่าข้อมูลถูกบันทึกถูกต้องหรือไม่ และคะแนนของคุณเริ่มดีขึ้นหรือยัง

การสร้างประวัติเครดิตที่ดีขึ้น

เมื่อเริ่มมีประวัติการชำระหนี้แล้ว สิ่งสำคัญคือการรักษานิสัยที่ดีต่อเนื่อง

ชำระหนี้ตรงเวลาเสมอ: ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อรถ ควรชำระตรงเวลาทุกครั้ง
ควบคุมสัดส่วนหนี้ต่อรายได้: พยายามไม่ให้ภาระหนี้เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อแสดงถึงความสามารถในการบริหารจัดการ
ไม่ปิดบัญชีเก่าทันที: ถ้ามีบัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี การเก็บไว้จะช่วยยืดอายุประวัติเครดิต ซึ่งเป็นปัจจัยบวก
กระจายประเภทสินเชื่ออย่างเหมาะสม: การมีสินเชื่อหลายประเภทที่บริหารได้ดี จะช่วยให้คะแนนเครดิตดีขึ้นในระยะยาว

ทางเลือกทางการเงินสำหรับผู้มีคะแนน FF ในไทย

หากยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารได้ คุณยังมีทางเลือกอื่นที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และนาโนไฟแนนซ์: เป็นสินเชื่อรายย่อยที่ให้บริการโดยผู้ให้กู้ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย สามารถใช้ได้กับผู้ที่ยังไม่มีประวัติเครดิต อ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากธนาคารแห่งประเทศไทย
สหกรณ์ออมทรัพย์: หากคุณเป็นสมาชิก อาจสามารถกู้ยืมได้โดยพิจารณาจากเงินเดือนและอายุการเป็นสมาชิก
โรงรับจำนำที่ถูกกฎหมาย: เหมาะสำหรับการกู้ยืมระยะสั้นที่มีทรัพย์สินค้ำประกัน
หลีกเลี่ยงมิจฉาชีพ: อย่าใช้บริการผู้ให้กู้นอกระบบที่เรียกดอกเบี้ยสูง เพราะอาจทำให้คุณติดกับดักหนี้ได้ง่าย

สรุป: คะแนน FF ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นโอกาสในการเริ่มต้นใหม่

การได้รหัส FF ในรายงานเครดิตบูโรไม่ได้แปลว่าคุณหมดหวัง หรือไม่มีโอกาสทางการเงิน แต่มันคือจุดเริ่มต้นที่บ่งบอกว่าคุณจำเป็นต้องเริ่มสร้างประวัติทางการเงินอย่างจริงจัง การเข้าใจว่า FF หมายถึง “ไม่มีข้อมูล” ไม่ใช่ “ประวัติเสีย” จะช่วยให้คุณวางกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้อง การตรวจสอบรายงานอย่างสม่ำเสมอ การสร้างนิสัยการชำระหนี้ที่ดี และการใช้สินเชื่อขนาดเล็กเพื่อสร้างเครดิต จะช่วยให้คุณมีข้อมูลที่ดีในระบบในไม่ช้า จำไว้ว่า ความมั่นคงทางการเงินเริ่มต้นจากวินัย และทุกการชำระหนี้ตรงเวลา คือก้าวสำคัญสู่อิสระภาพทางการเงินที่คุณสามารถเข้าถึงสินเชื่อในเงื่อนไขที่ดีขึ้นได้

คำถามที่พบบ่อย

คะแนนเครดิตบูโร FF กู้ซื้อรถได้ไหม?

การมีคะแนนเครดิตบูโร FF ทำให้การกู้ซื้อรถยนต์เป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น เนื่องจากธนาคารหรือสถาบันการเงินไม่มีข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของคุณเพื่อประเมินความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะกู้ไม่ได้เลย คุณอาจต้องเตรียมเอกสารแสดงรายได้ที่มั่นคง มีเงินดาวน์ที่สูงขึ้น หรือหาผู้ค้ำประกันที่มีประวัติเครดิตดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติ

ถ้าได้คะแนน FF จะขอสินเชื่อบ้านจากธนาคารไหนได้บ้างในไทย?

ธนาคารส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะพิจารณาประวัติเครดิตเป็นสำคัญสำหรับการอนุมัติสินเชื่อบ้าน หากคุณมีคะแนน FF คุณอาจต้องใช้เวลาในการสร้างประวัติเครดิตที่ดีก่อน หรือพิจารณาธนาคารที่มีนโยบายยืดหยุ่นสำหรับผู้ที่ไม่มีประวัติ เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หรือธนาคารออมสิน ซึ่งอาจมีโครงการสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างเครดิต หรือพิจารณาจากความมั่นคงของอาชีพและรายได้เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การมีเงินออมที่สูงและเอกสารแสดงแหล่งรายได้ที่ชัดเจนจะช่วยเพิ่มโอกาสได้มาก

คะแนนเครดิตบูโร TT คืออะไร แตกต่างจาก FF อย่างไร?

คะแนนเครดิตบูโร TT หมายถึง “มีประวัติเครดิต แต่มีประวัติการชำระหนี้ล่าช้า” ซึ่งแตกต่างจาก FF ที่หมายถึง “ไม่มีข้อมูล หรือไม่เคยมีประวัติ” ผู้ที่ได้ TT คือผู้ที่มีประสบการณ์ในการใช้สินเชื่อ แต่บริหารจัดการได้ไม่ดีนัก มีการชำระล่าช้าเกิน 90 วัน ในขณะที่ FF คือผู้ที่ไม่มีประวัติให้ประเมินเลย

การที่ไม่มีประวัติเครดิตเลย จะได้คะแนน FF หรือไม่?

ใช่, โดยทั่วไปแล้ว หากคุณไม่เคยมีประวัติการขอสินเชื่อใดๆ ในระบบของเครดิตบูโรเลย คุณจะได้รับรหัส “FF” ซึ่งแปลว่า “ไม่มีข้อมูล” หรือ “ไม่เคยมีประวัติการขอสินเชื่อ” ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน หรือผู้ที่นิยมใช้จ่ายด้วยเงินสดมาโดยตลอด

ใช้เวลานานแค่ไหนในการปรับปรุงคะแนน FF ให้ดีขึ้น?

การปรับปรุงคะแนน FF ให้ดีขึ้นนั้น ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการสร้างประวัติเครดิต โดยทั่วไปแล้ว หากคุณเริ่มสร้างเครดิตด้วยการขอสินเชื่อขนาดเล็ก เช่น บัตรเครดิต หรือสินเชื่อผ่อนสินค้า และชำระตรงเวลาอย่างน้อย 6-12 เดือน ข้อมูลของคุณก็จะเริ่มปรากฏในระบบ และสถาบันการเงินก็จะเริ่มมีข้อมูลเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือของคุณได้ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ในการสร้างประวัติที่แข็งแกร่งพอสมควร

มีวิธีไหนบ้างที่จะสร้างเครดิตให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว?

  • เริ่มต้นด้วยสินเชื่อขนาดเล็ก: สมัครบัตรเครดิตใบแรก หรือสินเชื่อผ่อนสินค้าที่มีวงเงินไม่สูง
  • ชำระหนี้ตรงเวลา: เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ชำระเต็มจำนวนและไม่เคยพลาดกำหนด
  • ใช้จ่ายอย่างมีวินัย: ไม่สร้างหนี้เกินตัว และรักษายอดหนี้คงค้างในบัตรเครดิตให้อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับวงเงิน
  • ตรวจสอบรายงานเครดิต: ตรวจสอบเป็นประจำเพื่อความถูกต้องและติดตามความคืบหน้า

ถ้าติดเครดิตบูโร FF สามารถใช้บัตรกดเงินสดได้ไหม?

การมีคะแนน FF ทำให้การอนุมัติบัตรกดเงินสดเป็นเรื่องที่ท้าทายเช่นเดียวกับบัตรเครดิตทั่วไป เนื่องจากสถาบันการเงินไม่มีข้อมูลประวัติเครดิตของคุณ อย่างไรก็ตาม บัตรกดเงินสดบางประเภทอาจมีเงื่อนไขการอนุมัติที่ยืดหยุ่นกว่าบัตรเครดิตปกติ หรือมีผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างเครดิต คุณอาจต้องแสดงเอกสารยืนยันรายได้ที่ชัดเจน และอาจได้รับวงเงินเริ่มต้นที่ไม่สูงนัก

คะแนนเครดิตบูโร FF มีผลต่อการสมัครงานในประเทศไทยหรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว คะแนนเครดิตบูโร FF ไม่ได้มีผลโดยตรงต่อการสมัครงานในประเทศไทยสำหรับงานทั่วไป อย่างไรก็ตาม สำหรับบางตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการเงิน การบัญชี หรือตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูงในสถาบันการเงิน นายจ้างบางรายอาจพิจารณาข้อมูลเครดิตเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบประวัติ (Background Check) เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและความรับผิดชอบทางการเงินของผู้สมัคร แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจ

ควรปรึกษาใครดีถ้าคะแนนเครดิตบูโรเป็น FF และต้องการขอคำแนะนำ?

หากคุณมีคะแนนเครดิตบูโร FF และต้องการคำแนะนำ คุณสามารถปรึกษากับเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารที่คุณสนใจจะขอสินเชื่อได้โดยตรง พวกเขาจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและเอกสารที่จำเป็น หรือคุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน เพื่อวางแผนการสร้างเครดิตอย่างเป็นระบบ

ถ้าเคยมีประวัติชำระล่าช้า แต่ตอนนี้เคลียร์แล้ว คะแนน FF จะหายไปเมื่อไหร่?

หากคุณเคยมีประวัติชำระล่าช้าแล้ว และได้ทำการชำระหนี้ทั้งหมดจนเคลียร์แล้ว ข้อมูลการชำระล่าช้านั้นจะยังคงอยู่ในรายงานเครดิตบูโรเป็นเวลา 3 ปีนับจากวันที่ปิดบัญชี หรือวันที่ข้อมูลถูกบันทึกล่าสุด ในระหว่างนี้ หากคุณไม่มีการขอสินเชื่อใหม่หรือไม่มีการเคลื่อนไหวของเครดิตเลย คุณอาจได้รับรหัส FF เนื่องจากการไม่มีข้อมูลใหม่ๆ แต่หากคุณเริ่มสร้างเครดิตใหม่ด้วยการขอสินเชื่อและชำระตรงเวลา รหัส FF จะเปลี่ยนไปเป็นรหัสที่สะท้อนประวัติการชำระหนี้ปัจจุบันของคุณแทน