ภงด91 คืออะไร? ทำความเข้าใจก่อนยื่นภาษี
การเสียภาษีเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคนที่มีรายได้ และในแต่ละปี ผู้มีรายได้ส่วนใหญ่ในประเทศไทยต้องดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หนึ่งในแบบฟอร์มที่พบเห็นบ่อยที่สุดคือ แบบ ภงด91 ซึ่งใช้สำหรับผู้ที่มีรายได้จากการทำงานประจำเป็นหลัก การเข้าใจหลักเกณฑ์และขั้นตอนอย่างถูกต้องจะช่วยให้การยื่นภาษีเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่เกิดข้อผิดพลาดหรือปัญหาในภายหลัง
บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับแบบฟอร์ม ภงด91 ว่าคืออะไร มีวัตถุประสงค์อย่างไร ใครควรยื่น ต่างจากแบบอื่นอย่างไร และขั้นตอนการยื่นออนไลน์ผ่านระบบ E-Filing พร้อมคำแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อย รวมถึงตอบคำถามที่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูยื่นภาษี
ความหมายและวัตถุประสงค์ของ ภงด91
แบบ ภงด91 หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 40(1) เป็นเอกสารที่ใช้สำหรับผู้มีรายได้ประเภทเดียว คือ เงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส หรือประโยชน์ตอบแทนอื่น ๆ ที่ได้รับจากการจ้างงานเพียงแห่งเดียว ไม่รวมรายได้จากธุรกิจส่วนตัว การลงทุน หรือการให้เช่าทรัพย์สิน
จุดประสงค์หลักของการยื่นแบบนี้คือการรายงานรายได้ที่ได้รับในรอบปีภาษีที่ผ่านมา พร้อมคำนวณยอดภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม หรือขอคืนภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายเกินไป ให้กับ กรมสรรพากร การยื่นภาษีไม่ใช่เพียงหน้าที่ทางกฎหมาย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ผ่านการสนับสนุนงบประมาณภาครัฐที่นำไปใช้ในโครงการสาธารณูปโภค สาธารณสุข และการศึกษา
รายได้ที่เข้าข่าย ภงด91 ได้แก่ เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา เบี้ยเลี้ยง โบนัสประจำปี หรือสวัสดิการต่าง ๆ ที่ได้รับจากระบบงานประจำ ทั้งนี้ ต้องไม่มีรายได้จากแหล่งอื่นที่เข้าข่ายมาตรา 40(2) ถึง (8) หากมีรายได้เพิ่มเติม แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจต้องยื่นแบบอื่นแทน
ใครบ้างที่ต้องยื่น ภงด91? เงื่อนไขและข้อกำหนด
การยื่นแบบ ภงด91 เหมาะสำหรับบุคคลที่มีลักษณะดังนี้:
- เป็นพนักงานประจำ ลูกจ้าง หรือผู้รับจ้างในสถานประกอบการเดียว
- ไม่มีรายได้เสริมจากการขายของออนไลน์ ธุรกิจส่วนตัว การให้เช่าบ้าน หรือรายได้จากงานฟรีแลนซ์
- ไม่มีรายได้จากดอกเบี้ย เงินปันผล หรือการขายอสังหาริมทรัพย์
แม้คุณจะมีรายได้เพียงจากเงินเดือน แต่หากมีเงินได้พึงประเมินรวมกันเกิน 120,000 บาทต่อปี (สำหรับผู้ที่อยู่ในสถานภาพโสด) หรือ 220,000 บาท (หากมีคู่สมรสที่ไม่มีรายได้) ก็จำเป็นต้องยื่นแบบภาษี โดยไม่จำเป็นต้องมีภาษีต้องชำระจริง เพราะอาจได้รับเงินคืนจากภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายเกิน
ตัวอย่างเช่น พนักงานบริษัทเอกชนที่ทำงานเพียงที่เดียว ไม่มีงานเสริม ไม่ได้ลงทุนในกองทุน RMF หรือ SSF มาก่อน ก็สามารถใช้แบบ ภงด91 ได้ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงสถานภาพ เช่น สมรส หย่า หรือมีบุตรในปีนั้น ๆ
ภงด91 แตกต่างจาก ภงด90 และ ภงด94 อย่างไร?
การเลือกแบบฟอร์มที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญในการยื่นภาษีอย่างถูกกฎหมาย หลายคนมักสับสนระหว่าง ภงด91 ภงด90 และ ภงด94 เพราะชื่อคล้ายกัน แต่มีจุดประสงค์ต่างกันโดยสิ้นเชิง การเลือกผิดอาจทำให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือถูกปรับในอนาคตได้
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่าง
เพื่อให้เห็นภาพรวมอย่างชัดเจน ด้านล่างนี้คือตารางเปรียบเทียบรายละเอียดของแต่ละแบบฟอร์ม:
| คุณสมบัติ | ภงด91 | ภงด90 | ภงด94 |
|---|---|---|---|
| ประเภทเงินได้ | เงินได้ประเภทที่ 1 (มาตรา 40(1)) เท่านั้น เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง | เงินได้ทุกประเภท (มาตรา 40(1)-(8)) เช่น เงินเดือน ธุรกิจ เช่าทรัพย์สิน | เงินได้ประเภทที่ 5-8 (มาตรา 40(5)-(8)) เช่น ค่าเช่า ค่าวิชาชีพอิสระ (ครึ่งปี) |
| ผู้มีเงินได้ | พนักงานประจำ ลูกจ้างที่มีเงินเดือนอย่างเดียว | บุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากหลายแหล่ง หรือมีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือน | บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้ประเภทที่ 5-8 ในช่วงครึ่งปีแรก |
| ระยะเวลาการยื่น | 1 มกราคม – 31 มีนาคม ของปีถัดไป (สำหรับเงินได้ของปีก่อนหน้า) | 1 มกราคม – 31 มีนาคม ของปีถัดไป (สำหรับเงินได้ของปีก่อนหน้า) | 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน ของปีเดียวกัน (สำหรับเงินได้ครึ่งปีแรก) |
| วัตถุประสงค์ | ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี สำหรับผู้มีเงินเดือนอย่างเดียว | ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี สำหรับผู้มีเงินได้หลายประเภท | ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี สำหรับผู้มีเงินได้บางประเภท |
เกณฑ์การเลือกใช้แบบฟอร์มที่เหมาะสม
แนวทางง่าย ๆ ในการเลือกแบบฟอร์มมีดังนี้:
- หากคุณเป็นพนักงานประจำ และมีรายได้แค่เงินเดือน ค่าจ้าง โบนัสจากนายจ้างเพียงที่เดียว ไม่มีรายได้อื่นใดเลย → ใช้ ภงด91
- หากคุณมีรายได้หลากหลายประเภท เช่น เป็นพนักงานประจำแต่มีรายได้เสริมจากการขายของออนไลน์ มีรายได้จากการให้เช่าบ้าน หรือมีเงินปันผลจากการลงทุน → ใช้ ภงด90
- หากคุณมีรายได้จากค่าเช่า ค่าวิชาชีพอิสระ หรือธุรกิจส่วนตัวในช่วงครึ่งปีแรก และต้องการยื่นภาษีครึ่งปี → ใช้ ภงด94
การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณมั่นใจว่ากำลังยื่นแบบฟอร์มที่ตรงกับสถานะทางการเงินของตนเอง ลดความเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบหรือปรับในอนาคต
เตรียมตัวยื่น ภงด91: เอกสารที่ต้องมีและข้อมูลสำคัญ
การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนยื่นภาษีคือหัวใจสำคัญของการยื่นที่ถูกต้องและรวดเร็ว ไม่ว่าจะยื่นออนไลน์หรือยื่นด้วยตนเอง สิ่งที่ต้องมีคือเอกสารที่ครบถ้วนและข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิประโยชน์หรือเกิดข้อผิดพลาดในการคำนวณ
เอกสารประกอบการยื่นภาษี
สำหรับผู้ยื่นแบบ ภงด91 มีเอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมดังนี้:
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ): เอกสารนี้เป็นหัวใจสำคัญที่นายจ้างต้องจัดทำให้ในทุกปี แสดงรายได้ทั้งปีและยอดภาษีที่ถูกหักไปแล้ว หากทำงานหลายที่ในปีเดียวกัน ต้องรวบรวม 50 ทวิ จากทุกแห่ง
- บัตรประจำตัวประชาชน: ใช้ยืนยันตัวตน และระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ซึ่งตรงกับเลขบัตรประชาชน
- เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี: หากต้องการใช้สิทธิลดหย่อน ควรเตรียมหลักฐานให้พร้อม เช่น:
- ใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันบำนาญ
- หนังสือรับรองการชำระดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัย
- ใบเสร็จรับเงินบริจาค (เพื่อการศึกษา สาธารณกุศล หรืออื่นๆ)
- ใบรับรองการซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
- หลักฐานค่าลดหย่อนบุตร หรือค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา
ควรจัดเตรียมเอกสารเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถกรอกข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ทำความเข้าใจค่าลดหย่อนภาษี
ค่าลดหย่อนภาษีช่วยให้เงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษีลดลง ซึ่งหมายถึงภาษีที่ต้องจ่ายจะลดตามไปด้วย โดยกฎหมายอนุญาตให้ลดหย่อนได้หลายรายการ สำหรับผู้มีรายได้ประเภทที่ 1 มีรายการที่ใช้บ่อย ดังนี้:
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว: 60,000 บาท สำหรับทุกคนที่ยื่นภาษี
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส: อีก 60,000 บาท ถ้าคู่สมรสไม่มีรายได้และจดทะเบียนสมรสถูกต้อง
- ค่าลดหย่อนบุตร: 30,000 บาทต่อบุตรหนึ่งคน สูงสุดไม่เกิน 3 คน
- เบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพ: รวมกันไม่เกิน 100,000 บาท
- ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย: ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท
- เงินบริจาค: ทั่วไปสูงสุด 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน หรือบริจาคเพื่อการศึกษา/สาธารณกุศลพิเศษ สามารถนำมายื่นเพิ่มได้อีก 10%
- เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/ประกันสังคม: ตามที่จ่ายจริง ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- การลงทุนใน SSF และ RMF: มีเงื่อนไขเฉพาะ เช่น ต้องถือครองครบ 10 ปี (RMF) หรือ 5 ปี (SSF)
การวางแผนใช้สิทธิลดหย่อนให้เหมาะสมเป็นวิธีที่ดีในการ ประหยัดภาษีอย่างถูกกฎหมาย โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ยังสามารถซื้อกองทุนหรือชำระค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติมได้
ขั้นตอนการยื่นภาษี ภงด91 ออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร
การยื่นภาษีออนไลน์ผ่านระบบ E-Filing ของกรมสรรพากรมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ไม่ต้องเดินทางไปสำนักงานสรรพากร ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที นี่คือขั้นตอนการยื่นแบบ ภงด91 ออนไลน์อย่างละเอียด
เข้าสู่ระบบ E-Filing และยืนยันตัวตน
- เข้าสู่เว็บไซต์ E-Filing: เปิดเบราว์เซอร์แล้วเข้าไปที่ efiling.rd.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการสำหรับยื่นภาษีออนไลน์
- เลือกประเภทการยื่น: บนหน้าแรก ให้เลือก “ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา”
- เข้าสู่ระบบ:
- สำหรับผู้ที่เคยยื่นแล้ว: ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (เลขบัตรประชาชน) และรหัสผ่านที่ตั้งไว้
- สำหรับผู้ยื่นครั้งแรก: กด “ลงทะเบียน” เพื่อสร้างบัญชี โดยต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวและยืนยันตัวตนผ่าน OTP
- ยืนยันตัวตน: หลังล็อกอิน ระบบอาจขอให้ยืนยันตัวตนอีกครั้งผ่านรหัส OTP ที่ส่งไปยังเบอร์มือถือ หรือผ่านแอปพลิเคชัน ID ของกรมสรรพากร
เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อย คุณจะเห็นหน้าแดชบอร์ดที่แสดงสถานะการยื่นภาษีและรายการแบบฟอร์มที่สามารถยื่นได้
กรอกข้อมูลส่วนตัวและรายได้
- เลือกแบบฟอร์ม ภงด91: ในเมนู “ยื่นแบบ” ให้เลือก “ภงด91”
- กรอกข้อมูลส่วนตัว: ระบบจะดึงข้อมูลที่เคยลงทะเบียนไว้มาให้ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง เช่น ที่อยู่ สถานภาพการสมรส หรือเบอร์โทรศัพท์ ควรแก้ไขให้เป็นปัจจุบัน
- กรอกรายได้จาก 50 ทวิ:
- นำข้อมูลจากหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายมาใช้
- กรอก “เงินได้พึงประเมิน” และ “ภาษีหัก ณ ที่จ่าย” ให้ตรงตามเอกสาร
- หากมี 50 ทวิ หลายฉบับ ให้กด “เพิ่มรายการ” เพื่อกรอกข้อมูลทีละฉบับ
ระบบจะคำนวณเงินได้สุทธิเบื้องต้นให้อัตโนมัติ การตรวจสอบข้อมูลจาก 50 ทวิ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันการผิดพลาด
บันทึกค่าลดหย่อนและตรวจสอบภาษีที่ต้องชำระ
- กรอกค่าลดหย่อน: เลือกรายการค่าลดหย่อนที่มีสิทธิ เช่น เบี้ยประกัน ดอกเบี้ยบ้าน หรือบริจาค แล้วกรอกจำนวนเงินตามที่จ่ายจริง โดยไม่เกินวงเงินสูงสุด
- บางรายการ เช่น เบี้ยประกันชีวิต ระบบอาจดึงข้อมูลจากกรมธรรม์โดยตรง ทำให้ไม่ต้องกรอกเอง
- ตรวจสอบสรุปการคำนวณภาษี: หลังกรอกข้อมูลครบ ระบบจะแสดงยอดเงินได้สุทธิ และผลลัพธ์ว่าคุณต้อง “ชำระเพิ่ม” หรือ “ได้รับเงินคืน”
- ตรวจสอบความถูกต้อง: ทบทวนข้อมูลทุกส่วน โดยเฉพาะตัวเลขรายได้และยอดค่าลดหย่อน เพื่อความมั่นใจก่อนยืนยัน
ยืนยันการยื่นภาษีและรับใบเสร็จ
- ยืนยันการยื่นแบบ: ถ้าข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง ให้คลิก “ยืนยันการยื่นแบบ”
- เลือกวิธีชำระภาษี (ถ้ามี):
- ชำระออนไลน์: ผ่าน Mobile Banking, Internet Banking, QR Code หรือบัตรเครดิต
- ชำระที่ธนาคารหรือไปรษณีย์: พิมพ์ใบแจ้งชำระเงินแล้วนำไปชำระได้
- รับใบเสร็จ: หลังยื่นเรียบร้อย ระบบจะออกใบเสร็จในรูปแบบดิจิทัล สามารถดาวน์โหลดหรือพิมพ์เก็บไว้เป็นหลักฐานได้
ใบเสร็จนี้มีความสำคัญมาก ควรเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อใช้ยืนยันในกรณีที่ต้องตรวจสอบย้อนหลัง
ข้อควรระวังและแก้ไขข้อผิดพลาดในการยื่น ภงด91
แม้การยื่นภาษีออนไลน์จะง่ายและแม่นยำ แต่ก็ยังมีจุดที่อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ โดยเฉพาะจากความรีบร้อนหรือความไม่เข้าใจในรายละเอียด การรู้เท่าทันข้อผิดพลาดที่พบบ่อยจะช่วยให้คุณดำเนินการได้อย่างปลอดภัย
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีหลีกเลี่ยง
- กรอกข้อมูล 50 ทวิ ผิดพลาด: เช่น ใส่จำนวนเงินได้หรือภาษีหัก ณ ที่จ่ายคลาดเคลื่อน วิธีหลีกเลี่ยง: ตรวจสอบข้อมูลใน 50 ทวิ กับที่กรอกในระบบทุกครั้งอย่างละเอียด
- ลืมกรอกหรือกรอกค่าลดหย่อนไม่ครบ: ทำให้เสียสิทธิประโยชน์ วิธีหลีกเลี่ยง: จัดทำเช็กลิสต์สิทธิลดหย่อนล่วงหน้า และเตรียมเอกสารไว้ให้ครบ
- เลือกแบบฟอร์มผิด: เช่น มีรายได้จากหลายแหล่งแต่ยื่น ภงด91 วิธีหลีกเลี่ยง: ทบทวนประเภทรายได้ของตนเองให้ชัดเจนก่อนเริ่มยื่น
- ยื่นเกินกำหนดเวลา: ส่งผลให้ต้องเสียค่าปรับ วิธีหลีกเลี่ยง: ตั้งเตือนในปฏิทิน หรือยื่นล่วงหน้าก่อนช่วงท้ายเดือนมีนาคม
กรณีลืมยื่นหรือยื่นผิด: เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
หากเกิดกรณีลืมยื่นหรือยื่นผิดพลาด ควรดำเนินการโดยเร็วเพื่อจำกัดความเสียหาย:
- กรณีไม่ได้ยื่นแบบภายในกำหนด:
- เบี้ยปรับ: สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
- เงินเพิ่ม: ร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ของจำนวนภาษีที่ต้องชำระ
วิธีแก้ไข: รีบยื่นและชำระภาษีพร้อมค่าปรับโดยเร็ว
- กรณียื่นแบบผิดพลาดและต้องการแก้ไข:
- สามารถใช้เมนู “ยื่นเพิ่มเติม” หรือ “แก้ไขแบบ” ในระบบ E-Filing
- หากการแก้ไขทำให้ภาษีเพิ่ม อาจมีเงินเพิ่มตามมา
วิธีแก้ไข: ติดต่อ กรมสรรพากร หรือโทร 1161 เพื่อขอคำแนะนำ
ยิ่งรีบดำเนินการแก้ไข ยิ่งช่วยลดภาระค่าปรับและเงินเพิ่มที่อาจเกิดขึ้นได้มาก
ภงด91 ยื่นได้ถึงเมื่อไหร่ และหากยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว การยื่น ภงด91 จะมีกำหนดเวลายื่นภายในวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป สำหรับเงินได้ของปีก่อนหน้า (เช่น เงินได้ปี 2566 ยื่นภายใน 31 มีนาคม 2567) หากยื่นไม่ทัน คุณจะต้องรีบยื่นแบบและชำระภาษีโดยเร็วที่สุด พร้อมกับเสียเบี้ยปรับไม่เกิน 2,000 บาท และเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของจำนวนภาษีที่ต้องชำระนับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดจนถึงวันชำระ
ถ้าไม่มีรายได้ หรือรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี ต้องยื่น ภงด91 ไหม?
แม้ว่าคุณจะไม่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี (เช่น เงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี) แต่หากมีเงินได้พึงประเมินเกิน 120,000 บาทต่อปี (สำหรับคนโสด) หรือเกิน 220,000 บาทต่อปี (สำหรับคนมีคู่สมรส) ก็ยังมีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภงด91 เพื่อแสดงสถานะรายได้ของคุณต่อกรมสรรพากร
ยื่น ภงด91 ออนไลน์ไปแล้ว แต่ต้องการแก้ไขข้อมูล ทำได้หรือไม่?
ทำได้ หากคุณยื่น ภงด91 ออนไลน์ไปแล้วและพบว่าข้อมูลผิดพลาด สามารถเข้าไปในระบบ E-Filing เลือกเมนู “ยื่นเพิ่มเติม” หรือ “แก้ไขแบบ” เพื่อดำเนินการแก้ไขข้อมูลได้ โดยต้องแก้ไขภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากการแก้ไขทำให้มีภาษีที่ต้องชำระเพิ่ม อาจมีเงินเพิ่มเกิดขึ้นได้
หากเป็นฟรีแลนซ์ หรือมีรายได้จากหลายแหล่ง ต้องยื่น ภงด91 หรือ ภงด90 กันแน่?
หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ หรือมีรายได้จากหลายแหล่ง (เช่น มีทั้งเงินเดือนและรายได้จากงานฟรีแลนซ์ หรือรายได้จากการเช่าทรัพย์สิน) คุณจะต้องยื่นแบบ ภงด90 ไม่ใช่ ภงด91 เนื่องจาก ภงด91 ใช้สำหรับผู้ที่มีเงินได้ประเภทที่ 1 เพียงประเภทเดียวเท่านั้น
ยื่น ภงด91 แล้ว จะได้รับเงินคืนภาษีเมื่อไหร่ และตรวจสอบสถานะได้อย่างไร?
โดยปกติแล้ว กรมสรรพากรจะดำเนินการคืนภาษีภายใน 30-90 วันทำการ หลังจากยื่นแบบและเอกสารหลักฐานครบถ้วน คุณสามารถตรวจสอบสถานะการขอคืนภาษีได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร ผ่านระบบ E-Filing หรือเมนู “ตรวจสอบสถานะการขอคืนภาษี” โดยกรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
เอกสาร “50 ทวิ” คืออะไร และสำคัญกับการยื่น ภงด91 อย่างไร?
“50 ทวิ” คือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่นายจ้างหรือผู้จ่ายเงินได้ออกให้แก่ผู้รับเงิน เพื่อแสดงจำนวนเงินได้ที่ได้รับและภาษีที่ถูกหักไว้ ณ ที่จ่าย ตลอดปีภาษีที่ผ่านมา เอกสารนี้สำคัญมากในการยื่น ภงด91 เพราะใช้เป็นข้อมูลหลักในการกรอกรายได้และภาษีที่ถูกหักไปแล้ว เพื่อนำไปคำนวณภาษีที่ต้องชำระหรือขอคืน
มีค่าลดหย่อนอะไรบ้างที่คนทำงานประจำมักใช้ และสามารถลดหย่อนได้สูงสุดเท่าไหร่?
คนทำงานประจำมักใช้ค่าลดหย่อนหลักๆ ได้แก่:
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว (60,000 บาท)
- เบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพ (สูงสุด 100,000 บาท)
- เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา (สูงสุด 15,000 บาท)
- ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย (สูงสุด 100,000 บาท)
- เงินสมทบกองทุนประกันสังคม (ตามที่จ่ายจริง)
- เงินลงทุนในกองทุน SSF และ RMF (มีวงเงินและเงื่อนไขเฉพาะ)
จำนวนเงินลดหย่อนสูงสุดขึ้นอยู่กับแต่ละประเภทและเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
หากลืมรหัสผ่านสำหรับเข้าสู่ระบบ E-Filing ของกรมสรรพากร ต้องทำอย่างไร?
หากลืมรหัสผ่านสำหรับเข้าสู่ระบบ E-Filing ของกรมสรรพากร คุณสามารถคลิกที่เมนู “ลืมรหัสผ่าน” บนหน้าเข้าสู่ระบบ ระบบจะนำคุณเข้าสู่ขั้นตอนการกู้คืนรหัสผ่าน ซึ่งอาจต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวและ/หรือ OTP ในการยืนยันตัวตนเพื่อตั้งรหัสผ่านใหม่
การยื่น ภงด91 ครั้งแรก ควรเตรียมตัวอย่างไร และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
สำหรับการยื่น ภงด91 ครั้งแรก ควรเตรียมตัวดังนี้:
- รวบรวมเอกสาร 50 ทวิ และเอกสารค่าลดหย่อนทั้งหมดให้ครบถ้วน
- ลงทะเบียนเป็นผู้ใช้ระบบ E-Filing ล่วงหน้า
- ทำความเข้าใจประเภทเงินได้ของตนเองว่าเข้าข่าย ภงด91 จริงหรือไม่
- ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวให้ถูกต้องก่อนยื่น
ข้อควรระวังคือ อย่ารีบร้อนกรอกข้อมูล ตรวจสอบตัวเลขทุกครั้ง และยื่นภายในกำหนดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงเบี้ยปรับ
ถ้าไม่ยื่น ภงด91 หรือยื่นไม่ถูกต้อง จะมีโทษทางกฎหมายอย่างไรบ้าง?
หากไม่ยื่น ภงด91 ภายในกำหนดเวลา อาจมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากมีภาษีที่ต้องชำระ จะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระ หากยื่นไม่ถูกต้องและมีการปกปิดข้อมูลหรือเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี อาจมีโทษทางอาญาที่รุนแรงกว่า เช่น ปรับเป็นสองเท่าของจำนวนภาษีที่ต้องชำระ และจำคุกไม่เกิน 1 ปี
