Exness บัญชี: เลือกแบบไหนดี? เปรียบเทียบทุกประเภทเพื่อเทรดเดอร์มือใหม่ถึงมืออาชีพ

บทนำ: ทำความรู้จักบัญชี Exness โบรกเกอร์ยอดนิยม

นักเทรดเลือกบัญชี Exness อย่างมั่นใจพร้อมกราฟการเงินในพื้นหลัง

Exness คือหนึ่งในผู้ให้บริการโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นด้านสเปรดต่ำ เลเวอเรจสูง และความเร็วในการประมวลผลคำสั่งซื้อขาย ทำให้ผู้เทรดจากหลากหลายกลุ่มต่างให้ความสนใจ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงแค่คุณภาพของโบรกเกอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเลือกประเภทบัญชีที่ตรงกับสไตล์การเทรดและระดับประสบการณ์ของคุณด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มต้นหรือเทรดเดอร์ที่มีความชำนาญ การตัดสินใจเลือกบัญชีที่เหมาะสมคือก้าวแรกที่สำคัญที่สุด บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจรายละเอียดทั้งหมดของบัญชี Exness เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

ทำไมต้องเปิดบัญชีกับ Exness? ข้อดีที่เทรดเดอร์ไม่ควรมองข้าม

ข้อดีของ Exness ได้แก่ สเปรดต่ำ การโอนเงินเร็ว และการกำกับดูแลระดับสากล

การเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพคือพื้นฐานสำคัญของการลงทุนในตลาดการเงิน Exness ไม่ได้เพียงแค่ดูดีบนกระดาษ แต่ยังพิสูจน์ตัวเองด้วยประสิทธิภาพที่แท้จริงในหลายด้านที่ส่งผลต่อประสบการณ์การเทรดโดยตรง

จุดแข็งแรกคือต้นทุนการเทรดที่ต่ำ โดย Exness เสนอสเปรดที่แข่งขันได้ และค่าคอมมิชชั่นที่โปร่งใส ช่วยให้ผู้เทรดสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เทรดบ่อยหรือใช้กลยุทธ์ระยะสั้น เช่น Scalping นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถใช้เลเวอเรจได้สูงและยืดหยุ่น ซึ่งช่วยขยายกำลังซื้อ แต่ก็ต้องใช้ร่วมกับการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

อีกหนึ่งข้อได้เปรียบที่สังเกตเห็นได้ทันทีคือระบบการเงินที่รวดเร็วและเสถียร การฝากและถอนเงินใน Exness ได้รับการยกย่องว่ามีความเร็วสูง โดยเฉพาะในช่องทางที่รองรับในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการโอนผ่านธนาคารในเครือข่าย หรือ e-wallet ยอดนิยม ข้อมูลเกี่ยวกับการฝากและถอนเงินของ Exness ระบุว่าธุรกรรมส่วนใหญ่ดำเนินการได้ภายในไม่กี่นาที ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการบริหารพอร์ต

ความปลอดภัยก็เป็นหัวใจสำคัญ Exness อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น CySEC (ไซปรัส) FCA (สหราชอาณาจักร) และ FSCA (แอฟริกาใต้) ซึ่งหมายความว่า เงินทุนของลูกค้าถูกแยกเก็บไว้ในบัญชีพิเศษ และต้องผ่านมาตรฐานการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ดูข้อมูลการกำกับดูแลของ Exness เพิ่มเติม รวมถึงบริการลูกค้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ไม่ว่าจะผ่านแชท โทรศัพท์ หรืออีเมล ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกมั่นใจแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน

เจาะลึกประเภทบัญชี Exness ทั้งหมด: เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?

กลุ่มนักเทรดหลากหลายระดับมองหาบัญชี Exness ที่เหมาะสมกับตนเอง

Exness ออกแบบบัญชีให้ครอบคลุมความต้องการของนักลงทุนทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นที่ยังไม่มั่นใจ ไปจนถึงมืออาชีพที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด แต่ละประเภทมีจุดเด่นเฉพาะตัว ไม่ใช่แค่เรื่องสเปรดหรือค่าคอมมิชชั่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องมือซื้อขาย ความเร็วในการดำเนินคำสั่ง และข้อกำหนดขั้นต่ำที่แตกต่างกัน การเข้าใจรายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับประเภทบัญชีทั้งหมดของ Exness มีรายละเอียดครบถ้วน แต่เรามาดูสรุปที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นกันก่อน

บัญชี Standard (Standard Account)

บัญชี Standard ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นและผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการเทรด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าคอมมิชชั่น

  • คุณสมบัติเด่น: สเปรดเริ่มต้นที่ 0.3 pips, ไม่มีค่าคอมมิชชั่น, เงินฝากขั้นต่ำเพียง 1 ดอลลาร์, เลเวอเรจสูงสุดไม่จำกัดภายใต้เงื่อนไข, และรองรับสินทรัพย์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคู่เงิน, โลหะ, พลังงาน, ดัชนี และคริปโตเคอร์เรนซี
  • ข้อดี: เข้าถึงง่าย ไม่ต้องใช้ทุนมาก เหมาะกับกลยุทธ์หลากหลาย ทั้งเทรดระยะสั้นและระยะยาว
  • ข้อเสีย: สเปรดอาจสูงกว่าบัญชีประเภท Pro หรือ Raw Spread ในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน
  • เหมาะกับใคร: เทรดเดอร์มือใหม่, ผู้ที่ต้องการทดลองระบบโดยใช้ทุนน้อย, หรือผู้ที่เน้นการบริหารความเสี่ยงในระยะเริ่มต้น

บัญชี Standard Cent (Standard Cent Account)

หากคุณยังลังเลหรือกลัวความเสี่ยง การเริ่มต้นด้วยบัญชี Standard Cent คือทางเลือกที่ชาญฉลาด บัญชีนี้อนุญาตให้คุณเทรดด้วยหน่วย “เซนต์” แทนดอลลาร์ ทำให้แม้แต่การเคลื่อนไหวเล็กๆ ของราคา ก็ไม่ส่งผลรุนแรงต่อพอร์ตของคุณ

  • คุณสมบัติเด่น: ใช้หน่วยการซื้อขายเป็นเซนต์ (1 ดอลลาร์ = 100 เซนต์), สเปรดเริ่มต้น 0.3 pips, ไม่มีค่าคอมมิชชั่น, เงินฝากขั้นต่ำเพียง 1 ดอลลาร์, เลเวอเรจสูงสุดไม่จำกัด, เหมาะสำหรับการฝึกฝน
  • ข้อดี: ความเสี่ยงต่ำมาก เหมาะสำหรับการเรียนรู้ การทดสอบกลยุทธ์ หรือการใช้ EA โดยไม่ต้องกลัวขาดทุนมาก
  • ข้อเสีย: ไม่เหมาะสำหรับการสร้างกำไรในระดับที่มีนัยสำคัญ และมีเครื่องมือการซื้อขายจำกัดเฉพาะคู่เงินและโลหะ
  • เหมาะกับใคร: ผู้เริ่มต้นที่ต้องการฝึกฝนด้วยเงินจริง, ผู้ที่ต้องการทดสอบแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องลงทุนมาก

บัญชี Raw Spread (Raw Spread Account)

สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพหรือผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping บัญชี Raw Spread คือตัวเลือกที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้สเปรดที่ต่ำที่สุดเท่าที่ตลาดรองรับ

  • คุณสมบัติเด่น: สเปรดดิบเริ่มต้น 0.0 pips สำหรับคู่เงินหลัก, ค่าคอมมิชชั่นคงที่ $3.5 ต่อล็อตต่อด้าน (รวม $7 ไปกลับ), เงินฝากขั้นต่ำ $200, เลเวอเรจไม่จำกัด, รองรับสินทรัพย์หลากหลาย
  • ข้อดี: สเปรดต่ำที่สุดในตลาด เหมาะสำหรับการเทรดที่ต้องการความแม่นยำและต้นทุนต่ำ
  • ข้อเสีย: มีค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายทุกครั้งที่เปิด-ปิดออร์เดอร์ จึงเหมาะกับผู้ที่เทรดบ่อย ไม่ใช่ผู้เริ่มต้น
  • เหมาะกับใคร: เทรดเดอร์มืออาชีพ, Scalper, ผู้ใช้ EA ที่ไวต่อสเปรด

บัญชี Zero (Zero Account)

บัญชี Zero เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสเปรด 0 pips อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในการเทรดคู่เงินหลักในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด

  • คุณสมบัติเด่น: สเปรด 0 pips สำหรับ 30 ตราสารยอดนิยมใน 95% ของเวลาเทรด, ค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้น $0.2 ต่อล็อตต่อด้าน (ขึ้นอยู่กับตราสาร), เงินฝากขั้นต่ำ $200, เลเวอเรจไม่จำกัด, รองรับทุกประเภทสินทรัพย์
  • ข้อดี: สเปรดศูนย์สำหรับตราสารหลัก ช่วยลดต้นทุนในระยะยาว โดยเฉพาะกับผู้ที่เทรดบ่อย
  • ข้อเสีย: สเปรด 0 pips ไม่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ หรือทุกช่วงเวลา และยังมีค่าคอมมิชชั่นที่ต้องคำนวณรวม
  • เหมาะกับใคร: เทรดเดอร์ที่เน้นคู่เงินหลัก, Scalper, ผู้ที่ต้องการความแน่นอนในเรื่องต้นทุน

บัญชี Pro (Pro Account)

บัญชี Pro เป็นตัวเลือกที่ผสมผสานระหว่างสเปรดต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชั่น ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และต้องการความเรียบง่าย

  • คุณสมบัติเด่น: สเปรดเริ่มต้น 0.1 pips, ไม่มีค่าคอมมิชชั่น, เงินฝากขั้นต่ำ $200, เลเวอเรจไม่จำกัด, รองรับสินทรัพย์ทุกประเภท
  • ข้อดี: สเปรดต่ำโดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น ทำให้คำนวณต้นทุนได้ง่าย และมีการดำเนินคำสั่งที่รวดเร็วสำหรับตราสารบางตัว
  • ข้อเสีย: เงินฝากขั้นต่ำสูงกว่าบัญชี Standard จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีทุนน้อย
  • เหมาะกับใคร: เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์, ผู้ที่ต้องการต้นทุนที่คาดเดาได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าคอมมิชชั่น

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติบัญชี Exness อย่างละเอียด

เพื่อให้เห็นภาพรวมอย่างชัดเจน ด้านล่างนี้คือตารางเปรียบเทียบบัญชี Exness ทั้ง 5 ประเภท พร้อมข้อมูลหลักที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจ

| คุณสมบัติ | Standard | Standard Cent | Raw Spread | Zero | Pro |
| :—————- | :————————————- | :————————————— | :————————————- | :————————————– | :————————————- |
| **สเปรดเริ่มต้น** | 0.3 pips | 0.3 pips | 0.0 pips | 0.0 pips (สำหรับ 30 ตราสาร) | 0.1 pips |
| **ค่าคอมมิชชั่น** | ไม่มี | ไม่มี | $3.5/ล็อต/ด้าน ($7 ไปกลับ) | เริ่มต้น $0.2/ล็อต/ด้าน (แปรผัน) | ไม่มี |
| **เงินฝากขั้นต่ำ** | $1 | $1 | $200 | $200 | $200 |
| **เลเวอเรจสูงสุด** | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด |
| **เครื่องมือ** | ฟอเร็กซ์, โลหะ, พลังงาน, ดัชนี, คริปโต | ฟอเร็กซ์, โลหะ | ฟอเร็กซ์, โลหะ, พลังงาน, ดัชนี, คริปโต | ฟอเร็กซ์, โลหะ, พลังงาน, ดัชนี, คริปโต | ฟอเร็กซ์, โลหะ, พลังงาน, ดัชนี, คริปโต |
| **เหมาะสำหรับ** | มือใหม่, ทั่วไป | มือใหม่ (ฝึกฝนความเสี่ยงต่ำ) | มืออาชีพ, Scalper | Scalper (เน้นสเปรด 0) | มีประสบการณ์, ทั่วไป (สเปรดต่ำ) |

บัญชีทดลอง Exness vs. บัญชีจริง: ความแตกต่างและประโยชน์

ก่อนจะลงทุนด้วยเงินจริง การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างบัญชีทดลองและบัญชีจริงคือสิ่งที่ชาญฉลาดที่สุด

**บัญชีทดลอง** เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้มีประสบการณ์ คุณสามารถฝึกใช้งานแพลตฟอร์ม MT4 หรือ MT5 ได้โดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบกลยุทธ์การเทรด การปรับตั้งค่า EA หรือการเรียนรู้วิธีอ่านกราฟ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เหมือนจริง แต่ใช้เงินเสมือน นี่คือโอกาสทองในการสร้างความมั่นใจและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจทำให้สูญเสียเงินจริงในอนาคต

**บัญชีจริง** คือขั้นต่อไปที่จะพาคุณเข้าสู่โลกของการเทรดอย่างแท้จริง แม้ว่าเงื่อนไขการเทรดจะเหมือนกัน แต่ความรู้สึกทางจิตวิทยาจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง การจัดการความกลัว ความโลภ และการตัดสินใจภายใต้แรงกดดัน คือทักษะที่พัฒนาได้เฉพาะเมื่อคุณใช้เงินจริง การเริ่มต้นด้วยทุนน้อยในบัญชีจริงหลังจากใช้บัญชีทดลองมาแล้ว จึงเป็นแนวทางที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สุด

ขั้นตอนการเปิดบัญชี Exness: เริ่มต้นเทรดง่ายๆ ในไม่กี่นาที

การสมัครใช้งาน Exness ใช้เวลาไม่กี่นาที และไม่ซับซ้อน แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยใช้แพลตฟอร์มการเทรดมาก่อนก็สามารถทำตามได้

การลงทะเบียนเบื้องต้น

เพียงเข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Exness และคลิกปุ่ม “เปิดบัญชี” คุณจะถูกขอให้กรอกข้อมูลพื้นฐาน เช่น ประเทศที่อยู่อาศัย อีเมล และตั้งรหัสผ่านที่รัดกุม หลังจากนั้น ระบบจะส่งอีเมลยืนยันไปยังกล่องจดหมายของคุณ ให้คลิกลิงก์เพื่อยืนยันตัวตนเบื้องต้น

การยืนยันตัวตน (KYC)

ขั้นตอนนี้เป็นสิ่งจำเป็นตามมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันการฟอกเงินและการฉ้อโกง Exness ต้องการเอกสารยืนยันตัวตนและที่อยู่ของคุณ

  • ยืนยันตัวตน: บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง หรือใบขับขี่ ที่ยังไม่หมดอายุ
  • ยืนยันที่อยู่: ใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร หรือบิลค่าน้ำ-ไฟ-โทรศัพท์ ที่ออกภายใน 6 เดือนล่าสุด และมีชื่อ-ที่อยู่ตรงกับที่ลงทะเบียน

กระบวนการนี้มักใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงหากเอกสารถูกต้อง และจำเป็นเพื่อปลดล็อกฟังก์ชันการฝาก-ถอนเงินอย่างเต็มรูปแบบ

การเลือกประเภทบัญชีและการฝากเงินครั้งแรก

เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จสิ้น คุณสามารถเลือกเปิดบัญชีประเภทใดก็ได้ตามความต้องการ เช่น Standard, Pro, Raw Spread, Zero หรือ Cent หลังจากเลือกแล้ว คุณสามารถฝากเงินครั้งแรกได้ทันทีผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น ธนาคารออนไลน์, บัตรเครดิต/เดบิต, Skrill, Neteller หรือ TrueMoney Wallet โปรดจำไว้ว่าบัญชีบางประเภทต้องใช้เงินฝากขั้นต่ำ $200 ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนทำธุรกรรม

การจัดการบัญชี Exness ขั้นสูง: เคล็ดลับสำหรับเทรดเดอร์

เมื่อคุ้นเคยกับพื้นฐานแล้ว การพัฒนาทักษะการจัดการบัญชีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดและลดความเสี่ยงได้อย่างมีนัยสำคัญ

การเปิดบัญชี Exness หลายบัญชี

Exness อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดบัญชีได้หลายบัญชีภายใต้บัญชีหลักเดียวกัน ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มาก เช่น คุณอาจใช้บัญชี Standard สำหรับการเทรดระยะยาว บัญชี Raw Spread สำหรับ Scalping และบัญชี Cent สำหรับการทดลองกลยุทธ์ใหม่ การแยกบัญชีช่วยให้คุณติดตามผลตอบแทนและจัดการความเสี่ยงได้อย่างชัดเจน ไม่ปนเปกัน

บัญชี Exness เงินบาท: ทางเลือกสำหรับเทรดเดอร์ไทย

สำหรับนักเทรดในประเทศไทย ข้อดีสำคัญคือ Exness รองรับการตั้งค่าบัญชีเป็นสกุลเงินบาท (THB) โดยตรง ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินจากดอลลาร์ และลดความผันผวนจากราคาแลกเปลี่ยน ทำให้การคำนวณผลกำไรขาดทุนแม่นยำยิ่งขึ้น และการฝาก-ถอนเงินสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้กับธนาคารในไทย อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบว่าบัญชีประเภทที่คุณเลือกสามารถใช้สกุลเงิน THB เป็นสกุลเงินหลักได้หรือไม่

การฝากและถอนเงินในบัญชี Exness อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

Exness ตั้งชื่อเสียงด้านความเร็วในการทำธุรกรรมการเงิน โดยเฉพาะการถอนเงินที่มักใช้เวลาไม่กี่นาทีถึงไม่กี่ชั่วโมง

  • ช่องทางที่รองรับ: ครอบคลุมทั้งธนาคารในประเทศ, Internet Banking, บัตร, Skrill, Neteller, และอื่นๆ
  • ความเร็ว: การฝากมักเข้าทันที การถอนขึ้นอยู่กับช่องทางแต่โดยทั่วไปรวดเร็วมาก
  • ค่าธรรมเนียม: Exness ไม่คิดค่าธรรมเนียม แต่ธนาคารหรือผู้ให้บริการอาจมี
  • เคล็ดลับ: ใช้ข้อมูลที่ตรงกับชื่อในบัญชี Exness เพื่อป้องกันการปฏิเสธการทำธุรกรรม

สรุป: เลือกบัญชี Exness ที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณ

การเลือกบัญชีที่เหมาะสมคือก้าวสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นเส้นทางการเทรดกับ Exness ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่ต้องการทดลองด้วยทุนน้อย หรือเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการสเปรดต่ำสุด Exness มีตัวเลือกที่ครอบคลุมทุกความต้องการ

พิจารณาจากสไตล์การเทรด เงินทุนเริ่มต้น ความไวต่อสเปรดและค่าคอมมิชชั่น จากนั้นใช้บัญชีทดลองเพื่อทดสอบกลยุทธ์และทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มก่อนลงทุนจริง ด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ คุณสามารถเริ่มต้นการเทรดได้อย่างมั่นใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

Exness มีบัญชีประเภทใดบ้าง?

Exness มีบัญชีหลักๆ 5 ประเภท ได้แก่ Standard, Standard Cent, Raw Spread, Zero และ Pro ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและเงื่อนไขที่แตกต่างกันเพื่อตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ทุกระดับ

บัญชี Exness แบบไหนดีที่สุดสำหรับมือใหม่?

สำหรับมือใหม่ บัญชี Standard และ Standard Cent เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

  • บัญชี Standard: เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นทั่วไปที่ต้องการเงื่อนไขที่สมดุลและใช้งานง่าย
  • บัญชี Standard Cent: เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการฝึกฝนด้วยเงินจริงแต่มีความเสี่ยงต่ำมาก เนื่องจากเทรดด้วยหน่วยเซนต์

ฉันสามารถเปิดบัญชี Exness ได้หลายบัญชีหรือไม่?

ได้ Exness อนุญาตให้คุณเปิดบัญชีเทรดได้หลายบัญชีภายใต้โปรไฟล์เดียว ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการทดลองกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน หรือการจัดการความเสี่ยงแยกกันในแต่ละพอร์ต

การยืนยันตัวตนบัญชี Exness ใช้เวลานานเท่าไหร่?

โดยปกติแล้ว กระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) ของ Exness จะใช้เวลาไม่กี่นาทีถึงไม่กี่ชั่วโมง หากเอกสารที่คุณส่งมีความชัดเจนและถูกต้อง แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลานานขึ้นหากมีข้อสงสัยหรือต้องการเอกสารเพิ่มเติม

บัญชี Exness Standard กับ Pro แตกต่างกันอย่างไร?

ความแตกต่างหลักคือ:

  • บัญชี Standard: มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.3 pips ไม่มีค่าคอมมิชชั่น และเงินฝากขั้นต่ำ $1 เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป
  • บัญชี Pro: มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.1 pips ไม่มีค่าคอมมิชชั่น และเงินฝากขั้นต่ำ $200 เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ที่ต้องการสเปรดที่ต่ำกว่า

Exness มีบัญชีที่รองรับสกุลเงินบาทไทยหรือไม่?

ใช่ Exness มีตัวเลือกบัญชีที่รองรับสกุลเงินบาท (THB) ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ชาวไทยสามารถฝากและถอนเงินได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน

เงินฝากขั้นต่ำสำหรับบัญชี Exness แต่ละประเภทคือเท่าไหร่?

เงินฝากขั้นต่ำของ Exness แตกต่างกันไปตามประเภทบัญชี:

  • Standard และ Standard Cent: $1 (หรือเทียบเท่า)
  • Raw Spread, Zero และ Pro: $200 (หรือเทียบเท่า)

ถ้าฉันเลือกบัญชีผิด จะเปลี่ยนได้หรือไม่?

คุณไม่สามารถเปลี่ยนประเภทบัญชีที่มีอยู่ได้โดยตรง แต่คุณสามารถเปิดบัญชีใหม่ภายใต้โปรไฟล์เดียวกันด้วยประเภทบัญชีที่คุณต้องการ และโอนเงินระหว่างบัญชีได้หากจำเป็น

บัญชีทดลอง Exness มีวันหมดอายุไหม?

บัญชีทดลองของ Exness โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีวันหมดอายุ ตราบใดที่คุณมีการใช้งานบัญชีอย่างสม่ำเสมอ หากไม่มีการใช้งานเป็นเวลานาน บัญชีอาจถูกปิดอัตโนมัติ

ฉันจะเข้าสู่ระบบบัญชี Exness ได้อย่างไรหากลืมรหัสผ่าน?

หากคุณลืมรหัสผ่าน คุณสามารถไปที่หน้าเข้าสู่ระบบของ Exness และคลิกที่ “ลืมรหัสผ่าน” จากนั้นทำตามขั้นตอนเพื่อรีเซ็ตรหัสผ่านของคุณผ่านอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณลงทะเบียนไว้