รหัส SWIFT Code คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับคนไทยในการโอนเงินต่างประเทศ
ในยุคที่การสื่อสารและการทำงานข้ามพรมแดนกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนไทยที่เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ นายจ้างที่จ่ายค่าแรงให้พนักงานต่างชาติ หรือผู้ประกอบการที่ต้องซื้อสินค้าจากผู้ขายในต่างทวีป การโอนเงินระหว่างประเทศจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่จะทำให้ธุรกรรมเหล่านี้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่สุดก็คือ “รหัส SWIFT Code” หรือรหัสระบุตัวตนของธนาคารทั่วโลก ที่ทำหน้าที่เหมือนตัวกลางในการเชื่อมโยงสถาบันการเงินให้สามารถสื่อสารและโอนเงินกันได้อย่างแม่นยำ
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกมุมของ SWIFT Code ตั้งแต่ความหมายและโครงสร้าง วิธีใช้งานจริง รวมถึงข้อควรระวังที่หลายคนอาจไม่ทันสังเกต โดยเฉพาะสำหรับคนไทยที่จำเป็นต้องส่งหรือรับเงินจากต่างประเทศบ่อยครั้ง เพื่อให้คุณมั่นใจว่าทุกบาทที่ส่งไปจะถึงมือผู้รับอย่างถูกต้อง ไม่เสียเวลาและค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์

SWIFT Code คืออะไร และทำไมจึงจำเป็นต่อการโอนเงินต่างประเทศ
หากคุณเคยฝากเงินจากธนาคารไทยไปยังบัญชีในอเมริกา ยุโรป หรือญี่ปุ่น คุณคงเคยเจอคำว่า SWIFT Code อย่างแน่นอน แต่จริงๆ แล้วมันคืออะไร? SWIFT Code หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า **Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication** คือรหัสประจำตัวของธนาคารที่ใช้ในระบบโอนเงินข้ามประเทศ มีบทบาทเหมือน “เลขที่อยู่” สำหรับธนาคารในเครือข่ายโลก ช่วยให้ธนาคารผู้ส่งรู้ว่าควรส่งเงินไปให้ธนาคารไหน
บางครั้งรหัสนี้อาจถูกเรียกว่า **BIC (Bank Identifier Code)** ซึ่งทั้งสองมีความหมายใกล้กันและสามารถใช้แทนกันได้ในบริบทส่วนใหญ่ โดย SWIFT ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายที่อัปเดตและบริหารจัดการรหัสนี้ทั่วโลก
เมื่อคุณไม่ระบุ SWIFT Code อย่างถูกต้อง ธนาคารจะไม่สามารถระบุตัวธนาคารปลายทางได้ ทำให้เงินอาจถูกส่งผิด ถูกตีกลับ หรือต้องใช้เวลานานหลายวันในการดำเนินการแก้ไข ธุรกรรมที่ควรถึงภายใน 2–3 วัน อาจยืดเยื้อเป็นสัปดาห์ และเกิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามมาได้
ถอดรหัส SWIFT Code: ชุดตัวอักษร 8-11 ตัวที่ซ่อนข้อมูลสำคัญ
แม้ดูผิวเผินเหมือนเป็นเพียงลำดับตัวอักษรที่ไม่มีความหมาย แต่ SWIFT Code กลับถูกออกแบบอย่างมีขั้นตอนและมีข้อมูลซ่อนอยู่ในแต่ละตำแหน่ง โดยทั่วไป รหัสนี้ประกอบด้วย 8 หรือ 11 ตัวอักษร แบ่งเป็น 4 ส่วน ดังนี้:
- 4 ตัวอักษรแรก: รหัสธนาคาร (Bank Code)
ตัวอักษรภาษาอังกฤษ 4 ตัวที่ใช้จำแนกธนาคาร ตัวอย่างเช่น KASI สำหรับธนาคารกสิกรไทย หรือ AYUD สำหรับธนาคารกรุงศรีอยุธยา - 2 ตัวถัดมา: รหัสประเทศ (Country Code)
ใช้มาตรฐาน ISO 2 ตัวอักษร เช่น TH สำหรับประเทศไทย, US สำหรับสหรัฐอเมริกา, DE สำหรับเยอรมนี - 2 ตัวถัดมา: รหัสทำเลที่ตั้ง (Location Code)
ระบุเมืองหรือภูมิภาคที่ธนาคารตั้งอยู่ หรืออาจเป็นสำนักงานใหญ่ เช่น BK ที่ใช้บ่อยหมายถึง Bangkok - 3 ตัวสุดท้าย: รหัสสาขา (Branch Code)
ส่วนนี้เป็นทางเลือก (optional) หากไม่ระบุ หรือเป็นสำนักงานใหญ่ มักใช้ XXX แทน เช่น KASITHBKXXX
ตัวอย่าง: **KASITHBK**
– KASI = ธนาคารกสิกรไทย
– TH = ประเทศไทย
– BK = กรุงเทพฯ
– XXX (ไม่ระบุ) = สำนักงานใหญ่
สวิฟท์โค้ดบอกอะไรได้มากกว่าแค่ชื่อธนาคาร?
ไม่ใช่แค่ช่วยระบุธนาคารเท่านั้น SWIFT Code ยังช่วยให้ระบบการเงินเข้าใจว่า ควรนำเงินไปยังจุดหมายเฉพาะใดในธนาคารนั้นๆ โดยเฉพาะหากผู้รับต้องการให้เงินเข้าที่สาขาหนึ่งโดยเฉพาะ หรือธนาคารต้นทางต้องโอนไปยังหน่วยงานเฉพาะ เช่น ฝ่ายการเงินนานาชาติ หรือสาขาที่รับเฉพาะธุรกรรมต่างประเทศ
ในบางกรณี หากใช้รหัส SWIFT แบบทั่วไป (เช่น KASITHBK) แทนที่จะใช้รหัสสาขาเฉพาะ ระบบอาจส่งเงินไปยังสำนักงานใหญ่ก่อน แล้วค่อยกระจายไปยังสาขาอื่น ซึ่งอาจใช้เวลาเพิ่มขึ้น 1-2 วัน ดังนั้นการให้รหัสที่ถูกต้องโดยสมบูรณ์ (11 หลัก) ถือเป็นข้อมูลที่มีค่า โดยเฉพาะในกรณีที่โอนจำนวนมากหรือต้องการความแม่นยำสูง

รายชื่อ SWIFT Code ธนาคารชั้นนำในประเทศไทย อัปเดตปี 2024
เพื่อความสะดวกและลดความเสี่ยงจากการค้นหาผิดพลาด เรามีข้อมูล SWIFT Code ของธนาคารหลักในประเทศไทย รวบรวมไว้ในตารางอ่านง่าย เพื่อใช้เป็นคู่มือในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ:
ชื่อธนาคาร (ภาษาไทย) | ชื่อธนาคาร (ภาษาอังกฤษ) | SWIFT Code |
---|---|---|
ธนาคารกรุงเทพ | Bangkok Bank Public Company Limited | BKKBTHBK |
ธนาคารกรุงไทย | Krung Thai Bank Public Company Limited | KRTHTHBK |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | Bank of Ayudhya Public Company Limited | AYUDTHBK |
ธนาคารกสิกรไทย | KASIKORNBANK Public Company Limited | KASITHBK |
ธนาคารไทยพาณิชย์ | Siam Commercial Bank Public Company Limited | SICOTHBK |
ธนาคารทหารไทยธนชาต | TMBThanachart Bank Public Company Limited | TMBKTHBK |
ธนาคารออมสิน | Government Savings Bank | GSBATHBK |
ธนาคารยูโอบี (ประเทศไทย) | United Overseas Bank (Thai) Public Company Limited | UOVBTHBK |
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย | CIMB Thai Bank Public Company Limited | CIMBTHBK |
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร | Kiatnakin Phatra Bank Public Company Limited | KKPBTHBK |
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ | Land and Houses Bank Public Company Limited | LHABTHBK |
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย | Islamic Bank of Thailand | IBOTTHBK |
ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) | Industrial and Commercial Bank of China (Thai) Public Company Limited | ICBKTHBK |
ธนาคารซิตี้แบงก์ | Citibank N.A. | CITITHBX |
ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย | Thai Credit Retail Bank Public Company Limited | TCRBTHB1 |
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้อัปเดต ณ วันที่เผยแพร่บทความ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรหัสบางธนาคารอาจมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะสาขา กรุณาตรวจสอบกับธนาคารผู้รับหรือผู้ส่งอีกครั้งก่อนดำเนินการโอนเงิน เพื่อลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
แยกให้ชัด: SWIFT Code กับรหัสอื่นๆ ที่มักสับสน
หลายคนมักเข้าใจผิดว่า SWIFT Code, IBAN, Bank Code หรือ Routing Number เป็นสิ่งเดียวกัน แต่จริงๆ แล้ว แต่ละรหัสมีหน้าที่เฉพาะและใช้ในบริบทต่างกันอย่างสิ้นเชิง
- SWIFT Code vs Bank Code (รหัสธนาคารในประเทศ)
Bank Code หรือรหัสธนาคาร 8 หลักในประเทศไทย เช่น 026 สำหรับธนาคารกสิกรไทย เป็นรหัสที่ใช้สำหรับระบบโอนเงินภายในประเทศผ่าน PromptPay หรือระบบ BI-FAST ของธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่สามารถใช้แทน SWIFT Code ได้ - SWIFT Code vs BIC Code
BIC (Bank Identifier Code) เป็นคำทางเทคนิคที่กว้างกว่า ซึ่ง SWIFT Code ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบของ BIC ดังนั้นในทางปฏิบัติ ทั้งสองคำจึงใช้สลับกันได้ - SWIFT Code vs IBAN
IBAN (International Bank Account Number) เป็นรหัสเฉพาะที่ใช้ในยุโรปและบางภูมิภาค ใช้ระบุ “บัญชีผู้รับ” โดยตรง ไม่ใช่ธนาคาร หากคุณโอนเงินไปยังยุโรป คุณอาจต้องใช้ทั้ง SWIFT Code ของธนาคารปลายทาง และ IBAN ของผู้รับ - SWIFT Code vs Routing Number
ใช้ในสหรัฐอเมริกา เป็นรหัส 9 หลักสำหรับระบุธนาคารในประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของระบบ ACH ไม่เกี่ยวกับ SWIFT โดยตรง แต่ในบางกรณีธนาคารในสหรัฐฯ อาจใช้ร่วมกันเพื่อรับเงินจากต่างประเทศ
เบื้องหลังระบบที่ซับซ้อน: SWIFT ทำงานอย่างไร?
มากกว่าแค่ “รหัสของธนาคาร” SWIFT คือระบบการสื่อสารระดับโลกที่มีความปลอดภัยสูง พัฒนาโดยองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มีสำนักงานในเบลเยียม โดยทำหน้าที่เหมือน “เครือข่ายโทรเลขอิเล็กทรอนิกส์” ที่ช่วยให้ธนาคารต่างๆ แลกเปลี่ยนข้อความ เช่น คำสั่งโอนเงิน หรือการยืนยันรายการ อย่างปลอดภัยและได้มาตรฐาน
สำคัญที่ต้องเข้าใจว่า **SWIFT ไม่ได้จัดการกับเงินโดยตรง** แต่จัดการกับ “ข้อมูล” ในการโอนเงิน เมื่อธนาคารผู้ส่งส่งคำสั่งผ่าน SWIFT ระบบจะส่งข้อความไปยังธนาคารปลายทาง ว่า “มีคำสั่งชำระเงินจำนวนนี้จากบัญชี X ไปยังบัญชี Y”
เงินจริงจะเคลื่อนย้ายผ่าน “บัญชี Nostro” และ “บัญชี Vostro” ซึ่งเป็นชื่อเรียกบัญชีที่ธนาคารต่างประเทศถือไว้ข้ามกัน เช่น ธนาคารไทยอาจเปิดบัญชีเงินดอลลาร์ที่ธนาคารในอเมริกา และเมื่อต้องชำระเงิน ธนาคารอเมริกาก็ตัดยอดจากบัญชีนั้นและโอนให้ผู้รับในบัญชีของตนเอง [อ้างอิง: ธนาคารแห่งประเทศไทย]
ระบบเช่นนี้ช่วยลดความจำเป็นในการส่งเงินจริงข้ามทวีปในทุกครั้ง และทำให้ธุรกรรมเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ค้นหา SWIFT Code ด้วยวิธีที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
แม้จะหาข้อมูล SWIFT Code ได้จากหลายแหล่ง แต่สิ่งสำคัญคือต้องมั่นใจในความถูกต้อง เพราะข้อมูลผิดเพียงหลักเดียว อาจทำให้เงินหลงทางได้ ช่องทางหลักที่น่าเชื่อถือที่สุดมีดังนี้:
- ส่งผ่านธนาคารออนไลน์หรือแอปมือถือ
ทุกธนาคารในประเทศไทย เช่น K PLUS, SCB Easy, Krungthai NEXT ล้วนมีส่วน “โอนเงินต่างประเทศ” ที่แสดง SWIFT Code อัตโนมัติเมื่อคุณเลือกธนาคารปลายทาง - ใบแจ้งยอดบัญชี (Bank Statement)
บางธนาคารระบุ SWIFT Code ของตนเองไว้ในด้านหน้าหรือหลังของ statement โดยเฉพาะสำหรับลูกค้าที่มีธุรกรรมต่างประเทศบ่อยๆ - เว็บไซต์ทางการของธนาคาร
หน้้า “บริการโอนเงินต่างประเทศ” หรือ “คำถามที่พบบ่อย” มักมีข้อมูล SWIFT Code ให้ดาวน์โหลดหรือดูออนไลน์ - ติดต่อ Call Center หรือสาขา
วิธีที่แม่นยำที่สุด โดยเฉพาะหากคุณต้องการรหัสสาขาเฉพาะ คือการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรง
ข้อแนะนำ: อย่าหลงเชื่อเว็บไซต์รวบรวมรหัส SWIFT Code ที่ไม่มีที่มาชัดเจน เพราะอาจไม่ได้รับการอัปเดต และเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงหรือใส่ข้อมูลผิด
พลาดแล้วตามทันไหม? ถ้าใส่ SWIFT Code ผิดจะเกิดอะไรขึ้น
ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจนำไปสู่ปัญหาระดับใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก การใส่ SWIFT Code ผิด เช่น พิมพ์ KASITHBK ผิดเป็น KASITHBB หรือสับสนระหว่างสาขา อาจทำให้เกิดสถานการณ์ดังนี้:
- เงินถูกตีกลับ: ระบบทะเบียนไม่พบธนาคารปลายทาง ทำให้ธุรกรรมล้มเหลว แต่ช้าอย่างน้อย 2-3 วัน พร้อมค่าธรรมเนียมย้อนกลับ
- เงินไปถึงธนาคารผิด: หากโค้ดที่ผิดตรงกับธนาคารอื่นในประเทศนั้น ระบบอาจส่งต่อเงินไปให้ และอาจไม่สามารถกู้คืนได้ทันที
- เงินเข้าผิดบัญชี: ในกรณีที่โค้ดผิดแต่ยังอยู่ในระบบของธนาคารเดียวกัน อาจถูกส่งไปยังสาขาผิด และผู้รับอาจได้รับเงินช้าหรือต้องดำเนินการเพิ่มเติม
หากคุณสังเกตว่าใส่ SWIFT Code ผิด:
ให้รีบติดต่อธนาคารที่คุณทำธุรกรรมทันที แจ้งเลขที่รายการ วันที่ ยอดเงิน และรหัสที่ใช้ผิด ธนาคารสามารถติดต่อผู้รับหรือขอ “หยุดจ่าย” (stop payment) ได้ แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับระยะเวลานับจากที่โอนไปแล้ว หากเงินยังไม่ถูกตัด อาจยกเลิกได้ แต่หากโอนผ่านระบบแล้ว การติดตามอาจใช้เวลาหลายวันถึงสัปดาห์ [อ้างอิงจากประสบการณ์ผู้ใช้จริง: ใส่ swift code ผิดทำยังไงดีครับ และ โอนเงินผ่าน swift code ของกสิกร แต่ที่อยู่สาขาผิดจะได้รับเงินไหมคะ???]
สรุป: SWIFT Code คือกุญแจสู่การเงินไร้พรมแดน
ไม่ว่าคุณจะเป็นแรงงานไทยในต่างประเทศ ผู้ประกอบการ E-commerce ที่ขายของออนไลน์ไปต่างประเทศ หรือครอบครัวที่ส่งเงินให้ลูกเรียนต่อเมืองนอก การเข้าใจ SWIFT Code คือพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่ง
นี่ไม่ใช่เพียงรหัสที่ต้องกรอกให้ครบ แต่เป็นตัวแทนของระบบนิเวศการเงินโลกที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพ มันช่วยให้เงินไหลเวียนอย่างแม่นยำ ปลอดภัย และรวดเร็วทั่วโลก
ดังนั้นก่อนกดยืนยันโอนเงิน อย่าลืมตรวจสอบ SWIFT Code ให้ถูกต้องทุกครั้ง คำนึงถึงค่าธรรมเนียมที่อาจแฝงอยู่ และเปิดช่องทางติดต่อกับผู้รับเพื่อตรวจสอบการเข้าบัญชีอย่างใกล้ชิด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรหัส SWIFT Code (FAQ)
Q1: รหัส swift code กรุงไทยคืออะไร และฉันจะหาได้อย่างไร?
รหัส SWIFT Code ของธนาคารกรุงไทยคือ KRTHTHBK คุณสามารถหาได้จากเว็บไซต์ทางการของธนาคารกรุงไทย, ในแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรง.
Q2: รหัส swift ธนาคารกสิกรไทย ดูตรงไหน เมื่อฉันต้องการรับเงินจากต่างประเทศ?
รหัส SWIFT Code ของธนาคารกสิกรไทยคือ KASITHBK คุณสามารถดูได้จากใบแจ้งยอดบัญชี (Bank Statement), ในแอปพลิเคชัน K PLUS, เว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทย หรือติดต่อ K-Contact Center.
Q3: มี swift code ทุกธนาคารในประเทศไทยให้ฉันตรวจสอบได้จากที่ไหนบ้าง?
คุณสามารถตรวจสอบ SWIFT Code ของธนาคารต่างๆ ในประเทศไทยได้จากตารางในบทความนี้, เว็บไซต์ทางการของแต่ละธนาคาร หรือเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลทางการเงินที่น่าเชื่อถือเช่น Forexnew.org
Q4: รหัส swift คืออะไร กสิกร และแตกต่างจาก Bank Code อย่างไร?
รหัส SWIFT Code ของธนาคารกสิกรไทยคือ KASITHBK ซึ่งใช้สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ส่วน Bank Code (บางครั้งเรียกรหัสธนาคาร) มักเป็นรหัสที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรมภายในประเทศเท่านั้น.
Q5: รหัสธนาคารกสิกรไทย ที่ใช้สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศคืออันไหน?
รหัส SWIFT Code ที่ใช้สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศของธนาคารกสิกรไทยคือ KASITHBK.
Q6: รหัสswift ของธนาคารออมสินมีกี่ตัว และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด?
รหัส SWIFT Code ของธนาคารออมสินคือ GSBATHBK ซึ่งมี 8 ตัวอักษร ใช้เพื่อระบุธนาคารออมสินในการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศ.
Q7: ฉันจะค้นหารหัส swift กรุงศรี สำหรับสาขาเฉพาะของฉันได้อย่างไร?
รหัส SWIFT Code พื้นฐานของธนาคารกรุงศรีอยุธยาคือ AYUDTHBK สำหรับสาขาเฉพาะอาจมีรหัสต่อท้าย 3 ตัวอักษร คุณสามารถตรวจสอบกับธนาคารโดยตรง หรือดูข้อมูลบนเว็บไซต์/แอปพลิเคชันของธนาคาร หากเป็นสำนักงานใหญ่จะใช้ AYUDTHBKXXX.
Q8: swift code ธนาคารกรุงเทพ pantip มีการพูดถึงประเด็นอะไรบ้าง และข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือได้หรือไม่?
ใน Pantip มักมีการพูดถึง SWIFT Code ของธนาคารกรุงเทพ (BKKBTHBK) ในประเด็นเกี่ยวกับการโอนเงินผิดพลาดหรือวิธีการค้นหาข้อมูล ข้อมูลจากผู้ใช้งานอาจเป็นประโยชน์สำหรับประสบการณ์ส่วนตัว แต่ควรยืนยันข้อมูล SWIFT Code ที่ถูกต้องจากช่องทางทางการของธนาคารกรุงเทพเสมอ เช่น เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน.
Q9: ถ้าฉันใส่ SWIFT Code ผิดพลาดในการโอนเงินระหว่างประเทศ จะเกิดอะไรขึ้นและแก้ไขอย่างไร?
หากใส่ SWIFT Code ผิดพลาด การโอนเงินอาจล่าช้า ถูกตีกลับ หรือในกรณีที่แย่ที่สุดคือเงินไปเข้าบัญชีผิด คุณควรรีบติดต่อธนาคารต้นทางทันทีเพื่อแจ้งแก้ไขหรือติดตามสถานะเงินของคุณ.
Q10: ค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนเงินต่างประเทศโดยใช้ SWIFT Code โดยทั่วไปเป็นอย่างไรในประเทศไทย?
ค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน SWIFT Code ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร จำนวนเงินที่โอน และประเทศปลายทาง ซึ่งอาจประกอบด้วยค่าธรรมเนียมต้นทาง ค่าธรรมเนียมธนาคารตัวกลาง และค่าธรรมเนียมปลายทาง ควรสอบถามรายละเอียดค่าธรรมเนียมจากธนาคารของคุณโดยตรงก่อนทำรายการ.