XM ค่าสเปรดทอง, Swap และค่าธรรมเนียมแฝง: สิ่งที่เทรดเดอร์ไทยต้องรู้
ในโลกของการเทรด Forex และ CFD ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและเต็มไปด้วยการแข่งขัน การจับจุดให้ได้ว่า “อะไรคือต้นทุนที่แท้จริง” ย่อมเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ XM ซึ่งเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ไม่เพียงแต่มอบโอกาสการเข้าถึงตลาดโลกเท่านั้น แต่ยังมีโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่ซับซ้อนซ่อนอยู่เบื้องหลังบริการที่ดูเหมือนเรียบง่าย หากคุณไม่เข้าใจค่าสเปรด ค่า Swap หรือค่าธรรมเนียมแฝงต่างๆ ก็อาจสูญเสียทุนไปโดยไม่รู้ตัว บทความนี้จะเจาะลึกทุกมิติของค่าใช้จ่ายในการเทรดกับ XM พร้อมเปิดเผยสิ่งที่หลาย ๆ คนอาจมองข้าม โดยเฉพาะกับสินทรัพย์ยอดนิยมอย่างทองคำ (XAUUSD) และกลยุทธ์การเลือกบัญชีที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ
XM คืออะไร? รู้จักโบรกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเทรดเดอร์ไทย
XM เป็นกลุ่มบริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2009 และปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกชั้นนำของนักเทรดทั่วโลก รวมถึงนักลงทุนชาวไทยจำนวนมาก จุดแข็งของ XM อยู่ที่การผ่านการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับสากลหลายแห่ง เช่น FSC (ศรีลังกา), CySEC (ไซปรัส) และ ASIC (ออสเตรเลีย) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความมั่นคง ความโปร่งใส และระดับมาตรฐานสูง
นอกจากนี้ XM ยังโดดเด่นในเรื่องการสนับสนุนผู้เทรดในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะตลาดไทย ด้วยการรองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารในเครือข่ายของไทย เช่น ธนาคารกรุงเทพ, กสิกร ไทย, กรุงศรี และอื่น ๆ พร้อมทีมงานบริการลูกค้าที่สื่อสารภาษาไทยได้ชัดเจน ทั้งทางโทรศัพท์ อีเมล และแชทสด แพลตฟอร์มการเทรดที่นำเสนอก็ครอบคลุมทั้ง MT4 และ MT5 ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ พร้อมฟีเจอร์ครบครัน สำหรับผู้เริ่มต้นหรืออย่างเต็มตัว เรียกได้ว่า XM ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทุกระดับประสบการณ์
ค่าสเปรดและ Pip คืออะไร? พื้นฐานสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ในการเทรด ไม่ว่าจะเป็นคู่เงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือหุ้น CFD คำว่า “สเปรด” คือจุดเริ่มต้นของต้นทุนทุกครั้งที่คุณเปิดคำสั่ง ค่าสเปรด (Spread) คือความแตกต่างระหว่างราคา “เสนอซื้อ” (Bid) และ “เสนอขาย” (Ask) ของสินทรัพย์ใด ๆ เช่น หาก EUR/USD มีราคา Bid ที่ 1.0800 และ Ask ที่ 1.0802 ค่าสเปรดนั้นคือ 2 พิป
ในโลกของ Forex เทรดเดอร์ใช้ “พิป” (Pip) เป็นหน่วยวัดการเคลื่อนไหวราคา สำหรับคู่เงินส่วนใหญ่ พิปคือจุดทศนิยมตำแหน่งที่สี่ เช่น จาก 1.0800 ไป 1.0801 คือขยับ 1 พิป ยกเว้นคู่เงินที่เกี่ยวกับเยน (JPY) ที่นิยมใช้ทศนิยมตำแหน่งที่สอง สำหรับทองคำ (XAUUSD) ความเคลื่อนไหว 1 พิป เท่ากับทศนิยมตำแหน่งที่สอง เช่น จาก 1900.00 ไป 1900.01 ถือว่าขยับ 1 พิป ในขณะที่ “พอยต์” คือหน่วยย่อยกว่าพิป คือตำแหน่งที่ห้า เช่น 1.08002
ความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสเปรดกับพิปจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันช่วยให้คุณประเมินได้ทันทีว่าในแต่ละคำสั่งคุณต้อง “ชดเชย” เท่าไหร่ก่อนเริ่มทำกำไร
ประเภทบัญชี XM และการกระจายต้นทุน: เลือกให้ตรงกับสไตล์การเทรด
XM นำเสนอทางเลือกบัญชีหลากหลาย เพื่อรองรับผู้ใช้งานตั้งแต่ผู้เริ่มต้นจนถึงมืออาชีพ โดยแต่ละประเภทมีผลโดยตรงต่อโครงสร้างต้นทุนที่คุณจะพบเจอ
บัญชี Standard: เริ่มต้นง่าย ได้โบนัส
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือต้องการทดลองระบบการเทรดด้วยโบนัส เป็นบัญชีที่ได้รับความนิยมสูงสุดเนื่องจากมีข้อได้เปรียบในการรับโปรโมชั่นเงินฝากจาก XM เช่น โบนัส 50% หรือ 20% ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการบริหารความเสี่ยงในช่วงเริ่มต้น
– **จุดเด่น**: เข้าถึงโบนัสง่าย, Leverage สูงสุด 1:1000, ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น
– **ค่าสเปรด**: สำหรับคู่เงินหลักประมาณ 1.6 พิป ขณะที่ทองคำ (XAUUSD) อยู่ที่ประมาณ 4.3 พิป ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบัญชีอื่น
บัญชี Micro: ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ
ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการลงทุนด้วยเงินทุนจำกัด โดยขนาด Lot ต่ำกว่ามาตรฐาน (1 Micro Lot = 1,000 หน่วยสกุลเงิน) ทำให้สามารถควบคุมตำแหน่งการเทรดได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้มือใหม่เรียนรู้โดยไม่ต้องเสี่ยงเยอะ
– **จุดเด่น**: เหมาะกับผู้มีทุนน้อย, สามารถรับโบนัสได้, ควบคุมความเสี่ยงง่าย
– **ค่าสเปรด**: มักจะใกล้เคียงกับบัญชี Standard สิ่งที่แตกต่างหลักคือขนาดตำแหน่งการเทรดไม่ใช่ค่าสเปรด
บัญชี Ultra Low: สำหรับนักเทรดที่เน้นต้นทุนต่ำ
หากคุณเทรดบ่อย ๆ เช่น กลุ่ม Scalping หรือ Day Trading บัญชีนี้คือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากมีโครงสร้างสเปรดที่ “ต่ำสุด” ในทุกบัญชีของ XM และยังมาพร้อมกับนโยบาย Free Swap ที่ครอบคลุมทองคำและคู่เงินหลัก
– **จุดเด่น**: ค่าสเปรดต่ำมาก, Free Swap สำหรับ XAUUSD และคู่เงินหลัก, เหมาะกับการเทรดระยะสั้นบ่อยครั้ง
– **ข้อควรระวัง**: บัญชีนี้ไม่ได้รับสิทธิ์จากโปรโมชั่นโบนัสของ XM เนื่องจากระบบต้นทุนต่ำถูกออกแบบมาเพื่อการปราศจากค่าคอมมิชชั่นและโบนัสที่อาจส่งผลต่อการคำนวณราคา
– **ค่าสเปรด**: ทองคำ (XAUUSD) เริ่มต้นที่ประมาณ 2.2 พิป ซึ่งต่ำกว่าบัญชี Standard ถึงเกือบครึ่ง
บัญชี Shares: การลงทุนในหุ้นระดับโลกผ่าน CFD
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อขายหุ้นรายตัว เช่น Apple, Tesla หรือ Coca-Cola โดยไม่ต้องถือหุ้นจริง XM ให้บริการ CFD หุ้นผ่านบัญชีนี้โดยเฉพาะ โดยแตกต่างอย่างชัดเจนจากบัญชีอื่นในด้านค่าธรรมเนียม
– **จุดเด่น**: ซื้อขายหุ้นชื่อดังได้,
– **ค่าธรรมเนียม**: เนื่องจากเป็น CFD หุ้น จึงมีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติมในแต่ละครั้งที่เทรด และ Leverage ของบัญชีนี้อยู่ที่ 1:1 ค่อนข้างต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงในสินทรัพย์ที่มูลค่าเปลี่ยนแปลงเร็ว
ค่า Swap ของ XM: ค่าธรรมเนียมข้ามคืนที่หลายคนไม่ทันระวัง
ค่า Swap หรือ Rollover Fee คือค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นเมื่อคุณถือตำแหน่งการเทรดข้ามคืน โดยปกติจะประมวลผลในเวลาประมาณ 00:00 ตามเวลาของตลาด New York ซึ่งตรงกับช่วงเช้าตรู่ในประเทศไทย
Swap เกิดขึ้นได้อย่างไร?
Swap เกิดจากการที่คุณ “ยืม” สกุลเงินในอีกฝั่งของคู่เทรดเพื่อซื้ออีกสกุลหนึ่ง แล้วมีผลจากการต่างอัตราดอกเบี้ย ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อ AUD/USD (ซื้อเยน, ขายดอลลาร์) และอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียสูงกว่าสหรัฐอเมริกา คุณจะได้รับ Swap แต่หากคุณซื้อ USD/JPY โดยอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นต่ำกว่าสหรัฐอเมริกา คุณมักจะต้อง “จ่าย” Swap ทุกคืน
สามเท่าในวันพุธและผลกระทบ
XM (เช่นเดียวกับโบรกเกอร์อื่น ๆ) มีนโยบาย “Triple Swap” ในคืนวันพุธเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ตลาดปิดตั้งแต่วันเสาร์ถึงอาทิตย์ ทำให้หลาย ๆ คนไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะผู้ที่ถือ Long คู่เงินที่มี Swap ติดลบ เช่น GBP/USD หรือ EUR/JPY อาจโดนหักค่าธรรมเนียมสามเท่าโดยไม่รู้ตัว
Swap สำหรับทองคำและบัญชี Ultra Low
สำหรับทองคำ (XAUUSD) ส่วนใหญ่มักมีค่า Swap ที่เป็นลบ ไม่ว่าจะเปิด Long หรือ Short ซึ่งหมายความว่าคุณต้องจ่ายในทุกกรณี แต่สำหรับผู้ใช้บัญชี Ultra Low จะได้รับข้อดีใหญ่คือ Free Swap สำหรับทองคำและคู่เงินหลัก แปลว่าไม่ว่าจะถือยาวแค่ไหน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายข้ามคืน ข้อดีนี้เหมาะมากกับกลยุทธ์แนว Hold หรือ Position Trading
อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบเงื่อนไขเป็นระยะ เพราะโบรกเกอร์อาจมีการปรับเปลี่ยนนโยบาย โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์ตลาดผันผวนสูง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางโลก
ปัจจัยที่ทำให้สเปรดเปลี่ยนแปลง รู้ไว้ หนีไว้ก่อนขาดทุน
ค่าสเปรดไม่ใช่ตัวเลขคงที่ มันผันผวนตลอดเวลา และมีปัจจัยหลายอย่างส่งผลโดยตรง ถ้าไม่เข้าใจ อาจทำให้คุณเปิดคำสั่งแล้ว “ตกใจ” เมื่อเห็นราคาที่แย่ลงทันที
ความผันผวนจากข่าวกำลังสูง
ในช่วงเวลาที่มีประกาศเศรษฐกิจสำคัญ เช่น Non-Farm Payrolls (NFP), อัตราเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI), หรือการประชุมธนาคารกลาง (FED, ECB) สภาพคล่องในตลาดจะแปรปรวน ส่งผลให้สเปรดกว้างขึ้นหลายเท่าอย่างรวดเร็ว บางครั้งอาจพุ่งไปแตะ 10 พิป หรือมากกว่าในช่วงไม่กี่วินาที นี่คือเหตุผลที่เทรดเดอร์หลายคนหลีกเลี่ยงการเปิดคำสั่งในช่วงนี้ เว้นแต่จะใช้กลยุทธ์เฉพาะ
เวลาเปิด-ปิดตลาด
ขณะที่ตลาดหลักอย่างยุโรปและอเมริกาเปิดทำการ ค่าสเปรดมักจะแคบมากเนื่องจากมีผู้เข้าซื้อขายหนาแน่น แต่ในช่วงเช้าตรู่ของไทยซึ่งตลาดเอเชียเพิ่งเริ่มหรือตลาดยังไม่เปิดเต็มที่ สเปรดอาจกว้างกว่าปกติ หรือในวันหยุดยาว แม้ตลาดเปิด แต่ก็อาจมีสภาพคล่องต่ำจนทำให้สเปรดปรับตัวสูงขึ้น
ตรวจสอบสเปรดแบบ Real-time ได้ที่ไหน?
เพื่อความโปร่งใสและวางแผนได้แม่นยำ คุณสามารถตรวจสอบค่าสเปรดปัจจุบันได้ทุกเมื่อใน MT4 หรือ MT5:
– **บนคอมพิวเตอร์**: กดปุ่ม Ctrl + M เพื่อเปิดหน้า Market Watch จากนั้นคลิกขวาที่เครื่องมือใดก็ตาม แล้วเลือก “Spread” หรือ “Columns” > “Spread” จะปรากฏคอลัมน์แสดงค่าสเปรดปัจจุบัน
– **บนมือถือ**: ไปที่แท็บ Quotes แตะที่สินทรัพย์ที่ต้องการ จะแสดงราคา Bid และ Ask พร้อมรายละเอียดอื่น ๆ รวมถึงสเปรด
ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่ในบริการของ XM
สเปรดและ Swap ไม่ใช่ต้นทุนเพียงอย่างเดียว ยังมีรายการย่อยที่อาจปรากฏเมื่อคุณไม่ระวัง โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้งานไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ
การไม่ใช้งานบัญชี
หากบัญชีของคุณไม่มีการเทรด ฝาก หรือถอน เป็นระยะเวลาต่อเนื่องถึง 90 วัน XM อาจเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน เดือนละ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ จนกว่าบัญชีจะถูกใช้งานอีกครั้ง การตรวจสอบยอดเงินอย่างสม่ำเสมอหรือเข้าสู่ระบบเป็นระยะ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อหลีกเลี่ยง
ค่าธรรมเนียมจากธนาคารหรือวอเล็ต
แม้ว่า XM จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอนโดยตรง แต่ผู้ให้บริการทางการเงินของคุณ เช่น ธนาคารในประเทศ หรือ eWallet (เช่น Skrill, Neteller) อาจมีค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามสกุลหรือการถอนเงิน
การแปลงสกุลเงิน
หากคุณมีบัญชีหลักเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เทรดทองคำในสกุลเงินยูโร หรือฝากเงินจากธนาคารไทยเป็นบาท XM จะใช้อัตราแลกเปลี่ยนภายในของตนเองในการแปลง อาจมีส่วนต่างเล็กน้อยที่ถือเป็นต้นทุนแฝง ทั้งนี้ ยิ่งคุณใช้สกุลเงินให้สอดคล้องกับบัญชีเปิด ยิ่งลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้
ค่าสเปรดทองคำของ XM: เปรียบเทียบแบบเจาะลึก
ทองคำ (XAUUSD) เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงตลาดมีความไม่แน่นอนหรือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเลือกบัญชีที่เหมาะกับการเทรดทองคำจึงมีผลโดยตรงต่อผลตอบแทน
ต่างกันเพียงบัญชีเดียว: ประหยัดถึง 2 พิป
เมื่อเปรียบเทียบค่าสเปรดทองคำในแต่ละบัญชี พบว่า:
– บัญชี Standard: ค่าสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 4.3 พิป
– บัญชี Ultra Low: ค่าสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 2.2 พิป
ต่างกันถึง 2.1 พิปต่อการเปิดคำสั่งหนึ่งครั้ง การเทรดเพียง 10 ครั้งต่อเดือน คุณก็ประหยัดต้นทุนไปแล้ว 21 พิป หรือประมาณ $21 ต่อ 1 ล็อต — นี่ยังไม่นับค่า Swap เพิ่มเติมที่ถูกตัดทอนไปด้วย
เทียบกับโบรกเกอร์อื่น: XM แข่งขันได้ไหม?
แม้บางโบรกเกอร์อาจเสนอสเปรดทองคำต่ำกว่า 1 พิป แต่มักมาพร้อมค่าคอมมิชชั่นต่อการเทรดสูงหรือขอบเขตการบริการที่จำกัด กับ XM โดยเฉพาะบัญชี Ultra Low คุณได้ทั้งสเปรดต่ำ แพลตฟอร์มเสถียร เลเวอเรจสูง และการสนับสนุนภาษาไทยอย่างจริงจัง ถือว่าเป็นทางเลือกที่ “คุ้มค่า” โดยรวม
เสียงจากผู้ใช้จริง: ปัญหาบัญชี Swap Free และสิ่งที่ควรระวัง
แม้บริการของ XM จะได้รับความไว้ใจโดยรวม แต่ในสังคมออนไลน์อย่าง Pantip เคยมีกระทู้ที่ผู้ใช้ตั้งคำถามเรื่อง “บัญชี Swap Free ถูกหักเงิน” โดยเฉพาะในบัญชี Micro ที่เคยมีการตั้งค่า Swap Free แต่ในบางช่วงเวลาอาจมีการปรับเปลี่ยนนโยบายโดยไม่แจ้งให้ทราบอย่างชัดเจน
ปัญหานี้มักเกิดจากข้อสับสนสองประการ: ประการแรก คือ การที่ “Swap Free” อาจไม่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ เช่น คู่เงินรองหรือคริปโตเคอร์เรนซี ประการที่สอง คือ ผู้ใช้งานอาจคาดว่า “ไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งหมด” แต่ระบบจริงยังคงคิดค่าธรรมเนียมในบางกรณีที่ไม่อยู่ในเงื่อนไข
ดังนั้น คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ อย่าเพียงพึ่งภาพรวมจากเว็บไซต์หรือคำบอกเล่าจากผู้อื่น ควรเข้าไปตรวจสอบหน้า “ตัวเลือกบัญชี” และ “ค่าธรรมเนียม” โดยตรงในเว็บไซต์ของ XM ทุกครั้งก่อนเปิดบัญชี และหากมีข้อสงสัย ควรติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์เพื่อขอคำยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร
ค่าใช้จ่ายกับสินทรัพย์อื่น: ดัชนีหุ้นและ Thematic Index
นอกจากทองคำ XM ยังเปิดตัว CFD ดัชนีหุ้นชั้นนำ เช่น US30 (Dow Jones), US100 (Nasdaq), GER40 (DAX) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงโดยไม่ต้องเทรดหุ้นรายตัว โดยค่าสเปรดจะขึ้นอยู่กับดัชนีนั้น ๆ และผันผวนตามชั่วโมงตลาด บัญชี Standard และ Ultra Low ใช้ Leverage สูงสุด 1:1000 สำหรับดัชนีเหล่านี้เช่นกัน
ส่วน ดัชนีแนวคิด หรือ Thematic Indices เช่น AI_INDX (หุ้นด้านปัญญาประดิษฐ์), ElectricVehicles (ยานยนต์ไฟฟ้า), GreenEnergy (พลังงานสะอาด) เป็นจุดเด่นที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงแนวโน้มใหญ่ของโลกได้ในคำสั่งเดียว ค่าสเปรดของดัชนีเหล่านี้อาจเริ่มต้นที่ 4–8 พิป ขึ้นอยู่กับความนิยมและสภาพตลาด
สรุป: เลือกบัญชี XM อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
การตัดสินใจเลือกบัญชี XM ควรเริ่มจากการถามตัวเองว่า “ฉันเทรดแบบไหน?”:
– ถ้าคุณเป็นมือใหม่ หรืออยากได้โบนัสเพื่อเสริมทุน: เลือกบัญชี Standard หรือ Micro
– ถ้าคุณเทรดบ่อย โดยเฉพาะ Scalping หรือ Day Trading: บัญชี Ultra Low เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยสเปรดต่ำสุดและ Free Swap
– ถ้าคุณสนใจหุ้น CFD: บัญชี Shares ตอบโจทย์ แม้มีค่าคอมมิชชั่น แต่คุณได้เข้าถึงสินทรัพย์จริง
สุดท้ายนี้ ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงแค่การวิเคราะห์กราฟ แต่ต้องเริ่มต้นที่ความเข้าใจใน “ต้นทุนที่แท้จริง” การบริหารค่าใช้จ่ายแต่ละครั้ง แม้เพียงแค่ 1-2 พิป ก็อาจเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของการเทรดในระยะยาวได้ XM มีจุดแข็งหลายด้าน แต่การใช้งานอย่างชาญฉลาดจะทำให้คุณยืนหยัดในตลาดได้ยาวนานยิ่งขึ้น
1. XM มีค่าสเปรดสำหรับทองคำ (XAUUSD) เท่าไหร่?
ค่าสเปรดทองคำ (XAUUSD) ของ XM แตกต่างกันไปตามประเภทบัญชี โดยเฉลี่ยแล้ว บัญชี Standard จะมีสเปรดประมาณ 4.3 pips ในขณะที่บัญชี Ultra Low มีสเปรดที่ต่ำกว่าอย่างมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.2 pips
2. บัญชี XM Ultra Low มีค่า Swap ฟรีจริงหรือไม่ และมีเงื่อนไขอย่างไร?
ใช่ บัญชี XM Ultra Low มีนโยบาย Free Swap สำหรับการเทรดทองคำ (XAUUSD) และคู่สกุลเงินหลัก ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ถูกเรียกเก็บหรือได้รับค่า Swap สำหรับการถือครองสถานะข้ามคืนสำหรับสินทรัพย์เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบเงื่อนไขที่อัปเดตล่าสุดบนเว็บไซต์ของ XM เพื่อยืนยันความถูกต้องและขอบเขตของ Free Swap
3. ค่าธรรมเนียม XM นอกเหนือจากสเปรดและ Swap มีอะไรบ้าง?
นอกจากค่าสเปรดและค่า Swap แล้ว XM ยังมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:
- ค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน (ซึ่ง XM มักไม่เรียกเก็บ แต่ธนาคารบุคคลที่สามอาจมี)
- ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน (Inactivity Fee) หากไม่มีกิจกรรมในบัญชีเป็นระยะเวลานาน
- ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน (หากสกุลเงินบัญชีและสกุลเงินเทรดไม่ตรงกัน)
- ค่าคอมมิชชั่นสำหรับบัญชี Shares (สำหรับการเทรดหุ้น CFD)
4. ฉันจะตรวจสอบค่าสเปรดและ Swap ของ XM บนแพลตฟอร์ม MT4/MT5 ได้อย่างไร?
คุณสามารถตรวจสอบค่าสเปรดแบบเรียลไทม์ได้ในหน้าต่าง “Market Watch” บน MT4/MT5 โดยคลิกขวาที่สินทรัพย์แล้วเลือก “Spread” สำหรับค่า Swap คุณสามารถตรวจสอบได้ในหน้าต่าง “Specification” (หรือ “คุณสมบัติ”) ของแต่ละสินทรัพย์ ซึ่งจะแสดงอัตรา Swap สำหรับสถานะ Long และ Short
5. XM มีค่าสเปรดแพงกว่าโบรกเกอร์อื่นหรือไม่ และควรพิจารณาอย่างไร?
ค่าสเปรดของ XM แตกต่างกันไปตามประเภทบัญชีและสินทรัพย์ที่เทรด สำหรับบัญชี Standard ค่าสเปรดอาจอยู่ในระดับกลางค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์บางราย แต่บัญชี Ultra Low ของ XM เสนอค่าสเปรดที่ต่ำมากและแข่งขันได้ การพิจารณาควรดูที่:
- ประเภทบัญชีที่เลือก
- สินทรัพย์ที่ต้องการเทรด
- ค่า Swap (โดยเฉพาะบัญชี Free Swap)
- ความน่าเชื่อถือ, แพลตฟอร์ม, และบริการลูกค้าโดยรวมของโบรกเกอร์
6. “ค่าสเปรด คือ” อะไร และมีผลต่อการเทรด Forex อย่างไร?
ค่าสเปรด (Spread) คือส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อ (Bid) และราคาเสนอขาย (Ask) เป็นต้นทุนแรกที่คุณต้องจ่ายเมื่อเปิดสถานะการเทรด ยิ่งสเปรดกว้างเท่าไหร่ ต้นทุนการเทรดของคุณก็จะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อผลกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่เปิดปิดสถานะบ่อยครั้ง (เช่น Scalping)
7. ทำไมบางครั้งค่าสเปรดของ XM ถึงกว้างขึ้นผิดปกติ?
ค่าสเปรดของ XM (และโบรกเกอร์อื่นๆ) อาจกว้างขึ้นผิดปกติเนื่องจากหลายปัจจัย ได้แก่:
- **ช่วงเวลาตลาดปิดหรือสภาพคล่องต่ำ**: เช่น ช่วงตลาดเอเชียเปิดใหม่ หรือก่อนวันหยุดยาว
- **การประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ**: ข่าวที่มีผลกระทบสูงสามารถทำให้ตลาดผันผวนและสเปรดกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว
- **เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด**: เช่น ภัยธรรมชาติ หรือความตึงเครียดทางการเมือง
8. การเลือกประเภทบัญชี XM มีผลต่อต้นทุนการเทรดอย่างไร?
การเลือกประเภทบัญชี XM มีผลอย่างมากต่อต้นทุนการเทรด:
- **บัญชี Standard/Micro**: มีสเปรดสูงกว่าเล็กน้อยแต่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นและได้รับโบนัส
- **บัญชี Ultra Low**: มีสเปรดต่ำมากและ Free Swap สำหรับสินทรัพย์หลัก แต่ไม่ได้รับโบนัส
- **บัญชี Shares**: มีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติมจากการเทรดหุ้น CFD
ดังนั้น การเลือกบัญชีที่ตรงกับกลยุทธ์การเทรดของคุณจะช่วยลดต้นทุนโดยรวมได้ดีที่สุด
9. ค่า Swap ของ XM คำนวณอย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าติดลบหรือเป็นบวก?
ค่า Swap ของ XM คำนวณจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินในคู่เทรด บวกกับค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ คุณสามารถดูอัตรา Swap ได้ในหน้าต่าง “Specification” (หรือ “คุณสมบัติ”) ของแต่ละสินทรัพย์บน MT4/MT5 ซึ่งจะระบุค่า Swap สำหรับสถานะ Long (ซื้อ) และ Short (ขาย) โดยตรง หากตัวเลขเป็นบวกคือได้รับ หากเป็นลบคือต้องจ่าย
10. XM มีค่าสเปรดสำหรับดัชนีหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์เท่าไหร่?
ค่าสเปรดสำหรับดัชนีหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ของ XM จะแตกต่างกันไปตามสินทรัพย์และสภาพตลาด ณ ขณะนั้น คุณสามารถตรวจสอบค่าสเปรดสำหรับดัชนีหุ้นหลัก (เช่น US30, US100) และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ได้แบบเรียลไทม์บนแพลตฟอร์ม MT4/MT5 ของ XM โดยไปที่หน้าต่าง “Market Watch” และดูรายละเอียดของแต่ละสินทรัพย์
