เพื่อนผมคนหนึ่งที่ทำงานสายครีเอทีฟ เพิ่งมาบ่นให้ฟังว่าพักหลังๆ เนี่ย เวลาจะใช้โปรแกรมตัดต่อรูป ทำกราฟิก หรือวิดีโอ อะไรพวกนี้ รู้สึกว่าเครื่องไม้เครื่องมือมันล้ำขึ้นเยอะมาก แถมมี AI มาช่วยอำนวยความสะดวกเพียบเลย
พูดถึงงานออกแบบ รูปสวยๆ วิดีโอเจ๋งๆ เนี่ย ถ้าไม่นับพวกมือถือ หรือแอปง่ายๆ แล้ว หนึ่งในชื่อแรกๆ ที่ผุดขึ้นมาเลยคือ ‘อะโดบี’ หรือ Adobe ใช่ไหมครับ? บริษัทนี้เขาเป็นเบอร์ใหญ่ในวงการซอฟต์แวร์สำหรับสื่อดิจิทัลและโซลูชันการตลาดดิจิทัลเลยนะ โปรแกรมที่เราคุ้นๆ กันอย่าง Photoshop, Illustrator, Premiere Pro ที่อยู่ในชุด Creative Cloud หรือ Acrobat ที่อยู่ใน Document Cloud นี่ก็ของเขาทั้งนั้น
ด้วยความที่ อะโดบี เป็นบริษัทเทคโนโลยีแถวหน้า แถมเป็นหุ้นที่อยู่ในตลาดแนสแด็ก (Nasdaq) ของสหรัฐอเมริกา มันก็เลยเป็นที่จับตาของนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงนักลงทุนไทยหลายคนที่สนใจลงทุน หุ้น adobe ด้วย
แต่พักหลังๆ เหมือน หุ้น adobe จะมีเรื่องให้คุยกันเยอะหน่อย ทั้งเรื่องผลประกอบการที่ออกมาดี แต่ราคาหุ้นดันร่วง หรือเรื่อง AI ที่กำลังมาแรง แล้วอะโดบีจะรับมือยังไง? วันนี้ผมในฐานะคนเขียนคอลัมน์การเงินที่ชอบเล่าเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่าย จะพาไปแกะรอยเรื่องราวของ หุ้น adobe กันแบบเจาะลึก ตามข้อมูลล่าสุดที่นักวิเคราะห์เขาคุยกันเลยครับ
อะโดบี เบอร์ใหญ่แห่งโลกดิจิทัล แต่ หุ้น adobe กำลังเจออะไร?
อย่างที่บอกไปว่า อะโดบี เป็นบริษัทที่เน้นซอฟต์แวร์และบริการแบบสมัครสมาชิก (Subscription Model) ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ค่อนข้างมั่นคง เพราะมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งคนทำงานดิจิทัลเยอะขึ้น อะโดบีก็ยิ่งสำคัญ รายได้หลักๆ ก็มาจาก Creative Cloud (สำหรับสายสร้างสรรค์) และ Document Cloud (สำหรับงานเอกสารและ PDF) นอกจากนี้ยังมี Experience Cloud สำหรับธุรกิจที่ใช้จัดการประสบการณ์ลูกค้าด้วย เรียกว่าครอบคลุมหลายด้านเลย
ในช่วงที่ผ่านมา อะโดบีก็มีผลประกอบการที่ดูดีเลยนะ อย่างในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2568 (ที่สิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2568) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 5.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนกำไรต่อหุ้น (EPS) ก็อยู่ที่ 5.08 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 13%
พอมาถึงไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2568 รายได้ก็ยังทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 5.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 11% และกำไรต่อหุ้นที่ปรับแล้วก็อยู่ที่ 5.06 ดอลลาร์สหรัฐฯ แถมผู้บริหารยังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ทั้งปีงบประมาณ 2568 เป็น 23.5-23.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วย
ตัวเลขพวกนี้ถ้าดูผิวเผินคือ “ดีมาก” เลยใช่ไหมครับ บริษัทก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แล้วทำไมตลาดถึงดูเหมือนไม่ค่อยแฮปปี้กับ หุ้น adobe เท่าไหร่?
AI มาแล้ว… แต่ทำไม หุ้น adobe ยังไม่พุ่งปรี๊ด?
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนกังวล และอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคา หุ้น adobe ปรับตัวลดลงในช่วงที่ประกาศผลประกอบการ ก็คือเรื่องของ “จังหวะ” หรือ “สปีด” ที่ AI จะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับบริษัทนี่แหละครับ
อะโดบีเองก็ไม่ยอมตกขบวนนะ เขาก็พัฒนานวัตกรรม AI มาเยอะแยะเลย เช่น Acrobat AI Assistant ที่ช่วยสรุปหรือถามตอบเกี่ยวกับเอกสาร PDF หรือ Firefly ที่เป็น AI สร้างสรรค์ภาพ หรือ GenStudio ที่ช่วยให้การทำงานด้านการตลาดง่ายขึ้น โดยข้อมูลล่าสุดบอกว่า รายได้จากผลิตภัณฑ์ AI ของเขาทำได้มากกว่า 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วนะ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในสิ้นปีงบประมาณ 2568 นี้ด้วย
แต่ที่น่าแปลกใจคือ หลังประกาศงบ Q1 แม้ตัวเลขโดยรวมจะสวย แต่ราคา หุ้น adobe กลับร่วงลงไปมากกว่า 14%! แล้วพอประกาศงบ Q2 ซึ่งดีกว่าคาด และปรับเพิ่มเป้าทั้งปี หุ้นก็ยังร่วงต่ออีกประมาณ 5%
คุณอาจสงสัยว่า เอไอของอะโดบีทำไมถึงไม่ทำให้ หุ้น adobe พุ่งปรี๊ดเหมือนตัวอื่นในตลาดเทคโนโลยีที่เน้น AI ใช่ไหมครับ? นักวิเคราะห์มองว่า นักลงทุนอาจจะยังไม่มั่นใจว่ารายได้จาก AI เหล่านี้จะเติบโตได้เร็วพอที่จะมาชดเชย หรือเพิ่มมูลค่าให้บริษัทได้มากเท่าที่คาดหวังไว้หรือเปล่า
การแข่งขันดุเดือด กับมุมมองของ “กูรู”
นอกจากเรื่องสปีดของ AI แล้ว อีกเรื่องที่ทำให้นักลงทุนกังวลคือ “การแข่งขัน” ครับ ตอนนี้มีผู้เล่นใหม่ๆ ที่เน้น AI ในงานสร้างสรรค์และงานเอกสารโผล่มาเยอะมาก เช่น แคนวา (Canva) ที่กินส่วนแบ่งตลาดโปรแกรมออกแบบที่ใช้งานง่าย หรือแม้แต่บริษัทใหญ่ๆ อย่าง โอเพนเอไอ (OpenAI) หรือ อัลฟาเบท (Alphabet) บริษัทแม่ของ Google ที่ก็กำลังพัฒนา AI ที่อาจมาแข่งกับผลิตภัณฑ์ของอะโดบีได้
ความกังวลเหล่านี้ทำให้แม้พื้นฐานบริษัทจะยังแข็งแกร่ง มีรายได้เติบโต มีนวัตกรรม AI ออกมา แต่ก็ยังไม่พอที่จะทำให้นักลงทุน “กล้า” เข้ามาซื้อ หุ้น adobe จนราคาดีดกลับขึ้นไปแรงๆ เหมือนช่วงก่อนหน้านี้ได้
แต่ถ้าไปดูมุมมองของ “กูรู” ในวงการ หรือนักวิเคราะห์หลายๆ ท่านล่ะ? ส่วนใหญ่แล้ว 43 นักวิเคราะห์ยังให้เรตติ้ง หุ้น adobe เป็น “น่าซื้อ” (Buy) หรือ “ซื้อรุนแรง” (Strong Buy) เลยนะ
นักวิเคราะห์ 34 คนให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 488.51 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ราคา หุ้น adobe ตอนนี้อยู่แถวๆ 379 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูล ณ ช่วงที่มีการอัปเดต) ซึ่งหมายความว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมองว่า หุ้น adobe มีอัพไซด์ หรือมีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปได้อีกเยอะพอสมควรเลย
การคาดการณ์รายเดือนในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ก็มีน่าสนใจ อย่างเดือนสิงหาคม 2567 คาดว่าราคาจะค่อนข้างทรงตัวอยู่แถวๆ 538.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่พอถึงเดือนกันยายน 2567 บางคนคาดว่าราคาอาจพุ่งไปถึง 615.69 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้เลยนะ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 15% ในเดือนเดียว แต่เดือนตุลาคม 2567 ก็คาดว่าจะผันผวนมากหน่อย ส่วนในระยะยาวถึงปี 2568 นักวิเคราะห์คาดว่าราคา หุ้น adobe อาจสูงถึง 613.9 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้
แล้ว หุ้น adobe ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไง?
อย่างที่บอกไปครับว่าราคา หุ้น adobe ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 379.31 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับราคาเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ถือว่าราคาลดลงไปถึง 17.4% เลยนะ แถมยังห่างจากราคาสูงสุดตลอดกาลที่เคยทำไว้ที่ 699.54 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปลายปี 2564 อยู่เยอะมาก มูลค่าตามราคาตลาดของอะโดบีตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 160.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ข้อมูลทางการเงินอื่นๆ ก็ยังดูดีอยู่ บริษัทมีอัตรากำไร EBITDA สูงถึง 40.74% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการดำเนินงานของเขายังทำกำไรได้เก่งใช้ได้เลย ส่วนค่าสัมประสิทธิ์เบต้า (Beta) อยู่ที่ 0.94 ซึ่งหมายความว่า หุ้น adobe มีความผันผวนใกล้เคียงกับตลาดโดยรวม ไม่ได้ผันผวนหวือหวามากเป็นพิเศษ
แต่สิ่งที่อะโดบี ‘ไม่มี’ คือเงินปันผลนะครับ นักลงทุนที่มองหาหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมออาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของ หุ้น adobe เพราะเขานำกำไรไปลงทุนต่อยอดในธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนวัตกรรม AI ที่กำลังเป็นประเด็น
สรุปแล้ว หุ้น adobe น่าลงทุนไหม?
สรุปแล้ว หุ้น adobe ตอนนี้ก็เหมือนอยู่ในช่วง ‘วัดใจ’ นักลงทุนครับ บริษัทมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ มีโมเดลธุรกิจที่มั่นคงจากค่าสมาชิก และกำลังพยายามผลักดันนวัตกรรม AI อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่จะขับเคลื่อนรายได้ในอนาคต
แต่ความกังวลเรื่องจังหวะที่ AI จะสร้างรายได้จริงจัง และการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่ง ก็ยังคงเป็น ‘ก้อนเมฆ’ ที่ปกคลุม หุ้น adobe อยู่ ทำให้นักลงทุนบางส่วนยังลังเล และราคาก็ยังไม่ไปไหนไกลจากความคาดหวังของนักวิเคราะห์
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
ถ้าเป็นนักลงทุนระยะยาว ที่เชื่อมั่นในพื้นฐานของอะโดบี และมองว่าในที่สุดแล้วนวัตกรรม AI ของเขาจะทำเงินได้จริง ราคา หุ้น adobe ในตอนนี้ที่ลดลงมาเยอะ อาจมองว่าเป็น ‘โอกาส’ ในการเข้าสะสม เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่สูงกว่าราคาปัจจุบันพอสมควร แต่ก็ต้องอดทนหน่อยนะครับ เพราะกว่าที่ตลาดจะมองเห็นมูลค่าของ AI อาจต้องใช้เวลา
ส่วนสายซิ่งระยะสั้น หรือนักลงทุนที่ชอบเล่นกับข่าว อาจต้องเฝ้าระวังข่าวสารเกี่ยวกับความคืบหน้าของ AI จากอะโดบี และการเคลื่อนไหวของคู่แข่งอย่าง แคนวา (Canva) หรือ โอเพนเอไอ ให้ดี รวมถึงติดตามผลประกอบการในไตรมาสต่อๆ ไปอย่างใกล้ชิด เพราะความผันผวนระยะสั้นยังคงมีอยู่แน่นอน
⚠️ การลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีที่มีความผันผวนสูง และเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมใหม่อย่าง AI มีความเสี่ยงสูงกว่าปกติ นักลงทุนควรทำความเข้าใจธุรกิจ เทคโนโลยี ความเสี่ยงจากการแข่งขัน และความไม่แน่นอนด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ AI อย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน และไม่ควรนำเงินทั้งหมดมาลงทุนใน หุ้น adobe ตัวเดียว ควรกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่นๆ ด้วยครับ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนสายไหน การติดตามข่าวสารและทำความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อ หุ้น adobe เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุนครับ!
