เคยสงสัยไหมครับว่า ตลาดหุ้นไทยที่เราดูกราฟกันทุกวันเนี่ย เขาเปิดทำการกี่โมงถึงกี่โมง? แล้ว **ตลาดหุ้น** เปิด วัน ไหน บ้างที่เราจะเข้าไปส่งคำสั่งซื้อขายได้? ในฐานะคนที่คลุกคลีกับตัวเลขและกราฟมานาน วันนี้ผมจะพาไปไขข้อข้องใจนี้กันแบบบ้านๆ เข้าใจง่าย ไม่ต้องกลัวศัพท์ยากครับ
เหมือนกับร้านค้าทั่วไปที่ต้องมีเวลาเปิด-ปิด ตลาดหุ้นก็เช่นกันครับ การรู้เวลาทำการและวันหยุดนี่สำคัญมากนะ ไม่ใช่แค่รู้ไว้ประดับความรู้ แต่เอาไว้ใช้วางแผนการลงทุน จัดการพอร์ตโฟลิโอของเราได้แบบสบายๆ เพราะถ้าส่งคำสั่งซื้อขายไปตอนที่ตลาดปิด คำสั่งนั้นก็จะไม่ถูกจับคู่แน่นอน (ยกเว้นบางประเภทคำสั่ง แต่เอาเป็นว่าส่วนใหญ่ต้องส่งตอนตลาดเปิดนี่แหละ)
ทีนี้มาดูกันว่า **ตลาดหุ้น** เปิด วัน ไหน และมีเวลาทำการยังไงบ้างสำหรับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ของเราครับ
**เวลาทำการปกติของ ตลาดหุ้น เปิด วัน ไหน บ้างในแต่ละวัน?**
ถ้าพูดถึงเวลาเทรดหุ้นที่เราคุ้นเคยกัน ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 ช่วงหลักๆ ครับ คือรอบเช้ากับรอบบ่าย ขั้นตอนการเปิด-ปิด ก็ไม่ได้ปุบปับนะ มีช่วงเตรียมตัวด้วย ลองนึกภาพเหมือนห้างสรรพสินค้าที่จะมีช่วงให้พนักงานเตรียมร้านก่อนเปิดประตูให้ลูกค้าเข้าอะไรแบบนั้นครับ
* **ช่วงก่อนเปิดทำการรอบเช้า (Pre-open 1):** เริ่มประมาณ 09:30 น. ช่วงนี้ยังซื้อขายไม่ได้นะ แต่ส่งคำสั่งเข้าไปรอได้ ระบบจะเอาคำสั่งทั้งหมดมารวมกัน เพื่อเตรียมหา “ราคาเปิด” ของวันนั้นๆ
* **ช่วงเปิดทำการรอบเช้า (Trading Session 1):** อันนี้แหละเวลาเทรดจริง! จะเริ่มประมาณ 10:00 น. (เวลาเปิดจริงๆ จะมี “สุ่มเวลา” เล็กน้อยระหว่าง 09:55-10:00 น. นะครับ เหมือนให้ลุ้นนิดๆ ว่าจะเปิดเป๊ะกี่โมงในกรอบนี้) เราสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ปกติเลยครับ ทั้งแบบจับคู่อัตโนมัติ (Automated Order Matching) หรือซื้อขายเป็นล็อตใหญ่ๆ ก็ทำในรอบนี้ได้ รอบเช้าจะยาวไปจนถึง 12:30 น. เป๊ะๆ
* **ช่วงหยุดพักการซื้อขาย (Lunch Break):** เหมือนได้พักทานข้าวครับ ตลาดจะหยุดเทรดตั้งแต่ 12:30 น. ถึง 14:00 น. ช่วงนี้ส่งคำสั่งก็ยังไม่แมทช์ครับ
* **ช่วงก่อนเปิดทำการรอบบ่าย (Pre-open 2):** เริ่มประมาณ 13:30 น. คล้ายๆ รอบเช้าเลยครับ ส่งคำสั่งรอไว้ได้ เพื่อเตรียมหา “ราคาเปิด” ของรอบบ่าย
* **ช่วงเปิดทำการรอบบ่าย (Trading Session 2):** รอบบ่ายเริ่มประมาณ 14:00 น. (อันนี้ก็มี “สุ่มเวลา” เหมือนกันระหว่าง 13:55-14:00 น.) ซื้อขายกันได้ปกติ จนยาวไปถึงช่วงก่อนปิดตลาด
* **ช่วงก่อนปิดทำการ (Pre-close):** เริ่มประมาณ 16:30 น. ช่วงนี้ระบบจะเตรียมตัวหา “ราคาปิด” ของวันครับ การซื้อขายอัตโนมัติจะหยุดไป แต่ยังส่งคำสั่งเพื่อรอการจับคู่ตอนปิดตลาดได้
* **ช่วงนอกเวลาทำการ (After-hours):** ตั้งแต่ตลาดปิดจริง (จะมี “สุ่มเวลา” ตอนปิดอีกทีระหว่าง 16:35-16:40 น.) ไปจนถึง 17:00 น. ช่วงนี้หลักๆ คือไว้สำหรับการบันทึกการซื้อขายรายใหญ่ (Trade Report) หรือรายการพิเศษบางประเภท ไม่ใช่การซื้อขายแบบอัตโนมัติปกติครับ
* **ปิดทำการซื้อขาย:** 17:00 น. ระบบปิดสนิท
สรุปง่ายๆ คือเวลาเทรดหลักๆ ของ **ตลาดหุ้น** เปิด วัน จันทร์ถึงวันศุกร์ (ยกเว้นวันหยุด) จะเป็น 10:00-12:30 น. และ 14:00-16:30 น. ครับ
**แล้วถ้าไม่ใช่หุ้นปกติล่ะ? อย่าง DRx ล่ะเวลา ตลาดหุ้น เปิด เป็นยังไง?**
สำหรับผลิตภัณฑ์ลงทุนบางประเภทที่มีสินทรัพย์อ้างอิงอยู่ต่างประเทศ อย่าง DRx (ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือบางทีเรียกว่า หุ้นต่างประเทศบน **ตลาดหุ้น**ไทย) เวลาทำการจะพิเศษหน่อยครับ เพื่อให้ครอบคลุมเขตเวลา (Time Zone) ที่หลากหลาย
DRx มีการซื้อขายตลอดวันทำการของ **ตลาดหุ้น**ไทย ตั้งแต่ 07:00 น. ถึง 17:00 น. (เขตเวลาเอเชีย) แต่ถ้าเป็น DRx ที่อ้างอิงหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา จะมีช่วงเวลาซื้อขายเพิ่มเติมที่ครอบคลุมเขตเวลาสหรัฐฯ ด้วย คือตั้งแต่ 20:00 น. ของวันนั้น ไปจนถึง 04:00 น. ของวันถัดไป (ตามเวลาประเทศไทย) นั่นทำให้เราสามารถเทรด DRx ได้เกือบตลอด 24 ชั่วโมงในวันทำการปกติของ **ตลาดหุ้น**ไทย เลยทีเดียวครับ แถมยังมีความยืดหยุ่นตรงที่ไม่มีการกำหนดหน่วยการซื้อขายขั้นต่ำด้วย จะซื้อเท่าไหร่ก็ได้ แค่ 0.0001 หน่วยก็ยังได้
**ที่สำคัญสุดๆ: วันหยุด ตลาดหุ้น เปิด วัน ไหน บ้าง? (มองอีกมุมคือ ไม่เปิดวันไหนบ้าง?)**
นี่คืออีกเรื่องที่นักลงทุนต้องจดจำ หรืออย่างน้อยก็รู้ว่าจะไปหาข้อมูลได้จากที่ไหนครับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่ได้เปิดทำการทุกวันตลอดปี เหมือนกับหน่วยงานราชการหรือธนาคารพาณิชย์ครับ จะมีวันหยุดตามปฏิทินทางการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็อิงตามวันหยุดราชการและวันหยุดธนาคารนั่นแหละ
การรู้ล่วงหน้าว่า **ตลาดหุ้น** เปิด วัน ไหน หรือหยุดวันไหน ทำให้เราวางแผนได้ว่าช่วงไหนจะส่งคำสั่งได้ ช่วงไหนไม่ได้ ถ้ามีกำหนดจ่ายเงินหรือรับเงินปันผลก็ต้องดูวันหยุดประกอบด้วยครับ
สำหรับปี 2568 (2025) วันหยุดของ **ตลาดหุ้น**ไทย ที่ประกาศออกมาแล้ว มีดังนี้ครับ (อ้างอิงข้อมูลจาก ก.ล.ต. และ ธปท.):
* วันพุธที่ 1 มกราคม: วันขึ้นปีใหม่
* วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์: วันมาฆบูชา
* วันจันทร์ที่ 7 เมษายน: วันหยุดชดเชยวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ (จริงๆ ตรงกับ 6 เมษา ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ เลยชดเชยครับ)
* วันจันทร์ที่ 14 เมษายน: วันสงกรานต์
* วันอังคารที่ 15 เมษายน: วันสงกรานต์
* วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม: วันแรงงานแห่งชาติ
* วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม: วันหยุดชดเชยวันฉัตรมงคล (จริงๆ ตรงกับ 4 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ เลยชดเชยครับ)
* วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม: วันหยุดชดเชยวันวิสาขบูชา (จริงๆ ตรงกับ 11 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ เลยชดเชยครับ)
* วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน: วันหยุดพิเศษเพิ่มเติม (อันนี้เป็นวันหยุดพิเศษที่อาจมีการประกาศเพิ่มเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหรือเศรษฐกิจครับ ต้องติดตามประกาศทางการ)
* วันอังคารที่ 3 มิถุนายน: วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
* วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม: วันอาสาฬหบูชา
* วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม: วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
* วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม: วันหยุดพิเศษเพิ่มเติม (อีกหนึ่งวันหยุดพิเศษครับ)
* วันอังคารที่ 12 สิงหาคม: วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และวันแม่แห่งชาติ
* วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม: วันนวมินทรมหาราช
* วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม: วันปิยมหาราช
* วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม: วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ
* วันพุธที่ 10 ธันวาคม: วันรัฐธรรมนูญ
* วันพุธที่ 31 ธันวาคม: วันสิ้นปี
จะเห็นว่ามีวันหยุดยาวๆ หลายช่วงเลยใช่ไหมครับ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ หรือปีใหม่ ส่วนวันหยุดพิเศษ (วันจันทร์ที่ 2 มิ.ย. และ 11 ส.ค.) นี่ก็เป็นเหมือนของขวัญที่หน่วยงานรัฐประกาศเพิ่มในบางปี ต้องคอยเช็กข่าวสารจากตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เป็นหลักครับ
ถ้าคุณลงทุนใน ตลาดหุ้นต่างประเทศ ด้วย ก็ต้องเช็กวันหยุดของตลาดนั้นๆ ด้วยนะครับ อย่าง ตลาดหุ้น สหรัฐฯ ตลาดหุ้น ญี่ปุ่น หรือ ตลาดหุ้น ฮ่องกง เขาก็มีวันหยุดของตัวเองตามประเพณีของประเทศนั้นๆ ครับ
**นอกจากเวลาเปิด-ปิด และวันหยุดแล้ว ตลาดหุ้น ยังมีอะไรน่าสนใจอีก?**
จริงๆ แล้ว ตลาดหุ้นไทย ไม่ได้มีแค่เรื่องเวลาเปิด-ปิดครับ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 มีบทบาทเป็นศูนย์กลางการซื้อขายหลักทรัพย์ ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เพื่อให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน และให้บริษัทต่างๆ ระดมทุนไปใช้ขยายกิจการ ทุกอย่างอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้มั่นใจว่าการซื้อขายเป็นธรรมและโปร่งใส
ในแต่ละวันที่ **ตลาดหุ้น** เปิด เราจะเห็นภาพรวมของตลาดได้จากตัวเลขต่างๆ เช่น ดัชนี **ตลาดหุ้น** (SET Index) ที่เป็นเหมือนเครื่องวัดสุขภาพของตลาดโดยรวม ถ้าดัชนีขึ้นก็แปลว่าโดยรวมหุ้นส่วนใหญ่ราคาดีขึ้น ถ้าดัชนีลงก็ตรงกันข้าม นอกจาก SET Index ยังมีดัชนีอื่นๆ อีกหลายตัว เช่น SET50 (วัดจาก 50 หุ้นใหญ่สุด), SET100 (วัดจาก 100 หุ้นใหญ่สุด), หรือ MAI Index (สำหรับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ) ข้อมูลพวกนี้ พร้อมกับปริมาณและมูลค่าการซื้อขาย บอกให้เรารู้ว่าบรรยากาศการลงทุนวันนั้นเป็นยังไง มีหุ้นตัวไหนขึ้น ตัวไหนลง กี่ตัว ซึ่งข้อมูลพวกนี้หาดูได้ไม่ยากเลยครับ บนเว็บไซต์ของ **ตลาดหุ้น** หรือแอปพลิเคชันซื้อขายหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ
**สรุปและคำแนะนำสำหรับนักลงทุน**
สำหรับคำถามยอดฮิตที่ว่า **ตลาดหุ้น** เปิด วัน ไหน คำตอบก็คือ ส่วนใหญ่เปิดทำการทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดทางการ) โดยมีเวลาซื้อขายหลักๆ คือ 10:00-12:30 น. และ 14:00-16:30 น. ส่วนผลิตภัณฑ์พิเศษอย่าง DRx อาจมีเวลาซื้อขายที่แตกต่างและยาวนานกว่า
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การวางแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับเวลาทำการและวันหยุดเหล่านี้ครับ
1. **เช็กปฏิทินวันหยุดเสมอ:** ก่อนจะวางแผนซื้อขายในช่วงเทศกาล หรือวันหยุดยาว ให้เช็กปฏิทินวันหยุดของ **ตลาดหุ้น** ปี 2568 ให้แน่นอน เพื่อจะได้ไม่พลาดจังหวะ หรือส่งคำสั่งเก้อ
2. **วางแผนการเงิน:** ถ้าคาดว่าจะมีเงินเข้า-ออกบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงใกล้เคียงวันหยุดยาว ต้องเผื่อเวลาให้ระบบจัดการให้เรียบร้อยก่อนตลาดปิด
3. **ติดตามประกาศ:** บางปีอาจมีวันหยุดพิเศษเพิ่มเติม (อย่างปี 2568 ก็มี 2 มิ.ย. กับ 11 ส.ค.) ซึ่งต้องติดตามประกาศจาก **ตลาดหุ้น** หรือ ก.ล.ต. โดยตรง
⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ การรู้เวลาทำการและวันหยุดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวางแผนการลงทุน ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องพิจารณาครับ
หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ **ตลาดหุ้น** เปิด วัน ไหน ได้นะครับ ขอให้นักลงทุนทุกท่านโชคดีกับการลงทุนครับ!
