สวัสดีครับเพื่อนๆ หรือใครก็ตามที่กำลังแอบมองๆ ตลาดหุ้นอยู่ หรือบางทีกำลังคิดว่า “เอ๊ะ การซื้อขายหุ้นออนไลน์นี่มันยากไหมนะ? ต้องเริ่มยังไง?” วันนี้ในฐานะคอลัมนิสต์การเงินที่พอจะคลุกคลีกับเรื่องพวกนี้มาบ้าง ขออาสามาเล่าให้ฟังแบบบ้านๆ เข้าใจง่ายๆ เหมือนคุยกับเพื่อนเลยครับ
หลายคนคงเคยเห็นข่าวหรือได้ยินมาว่า การลงทุนในหุ้นมันทำเงินได้นะ บางคนรวยเลยก็มี แต่พอจะเริ่มจริงๆ ก็กลัวใช่ไหมครับ? กลัวทำไม่เป็น กลัวกดผิด กลัวขาดทุน แล้วไหนจะต้องไปเปิดบัญชีที่โบรกเกอร์อีก ยุ่งยากไปหมด… แต่เชื่อมั้ยครับว่า โลกของการเทรดหุ้นมันมาถึงจุดที่สะดวกสบายขึ้นเยอะมากๆ แล้วนะ แค่มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็ทำได้เกือบทุกอย่างแล้วครับ ไม่ต้องเดินทางไปหาโบรกเกอร์ให้เสียเวลาอีกต่อไป

การซื้อขายหุ้นออนไลน์เนี่ย เอาเข้าจริงมันก็คือการที่เราซื้อขายความเป็นเจ้าของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตนี่แหละครับ ง่ายๆ คือเราซื้อหุ้นบริษัทไหน เราก็เหมือนเป็นเจ้าของเล็กๆ ในบริษัทนั้นตามสัดส่วนที่เราถืออยู่ไงครับ ส่วนการทำเงินจากการถือหุ้น ก็มี 2 ทางหลักๆ คือ ส่วนต่างกำไร (Capital Gain) เวลาเราซื้อถูกแล้วไปขายแพง กับ เงินปันผล (Dividend) ที่บริษัทเขาแบ่งกำไรมาให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งการซื้อขายพวกนี้มันต้องทำผ่านตัวกลางที่เรียกว่า บริษัทหลักทรัพย์ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “โบรกเกอร์” หน้าที่ของโบรกเกอร์ก็เหมือนพ่อค้าคนกลางที่คอยส่งคำสั่งซื้อขายของเราเข้าไปในตลาดนั่นแหละครับ ดังนั้น ขั้นตอนแรกสุดที่เราต้องทำก่อนจะเริ่มเทรดจริง ก็คือการไป “เปิดบัญชี” หรือ “เปิดพอร์ต” กับโบรกเกอร์ที่เราเลือก ซึ่งตอนนี้หลายๆ โบรกเกอร์ก็เปิดบัญชีออนไลน์ได้แล้ว สะดวกขึ้นไปอีก
ทีนี้ พอเปิดบัญชีเสร็จแล้ว เราจะส่งคำสั่งซื้อขายยังไงล่ะ? นี่แหละครับที่ “แอปพลิเคชันเทรดหุ้น” เข้ามามีบทบาทสำคัญ มันคือเครื่องมือหลักที่เราใช้ในการเข้าถึงตลาด ส่งคำสั่งซื้อขาย ดูข้อมูล ดูราคาหุ้นแบบเรียลไทม์ แถมยังมีฟังก์ชันสนับสนุนอื่นๆ อีกเพียบ เหมือนเป็นรีโมทคอนโทรลที่ช่วยให้เราควบคุมการลงทุนได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านหน้าจอมือถือของเรา
แล้วแอปเทรดหุ้นมันมีเยอะแยะไปหมด เราจะเลือกตัวไหนดีล่ะ? เรื่องนี้ต้องพิจารณาหลายๆ อย่างครับ เหมือนเราจะซื้อรถยนต์สักคัน ก็ต้องดูว่าฟังก์ชันครบไหม ขับง่ายไหม ปลอดภัยรึเปล่า แอปเทรดหุ้นก็เหมือนกันครับ ต้องดูว่ามีฟังก์ชันที่เราจำเป็นต้องใช้ครบไหม เช่น ส่งคำสั่งซื้อขายได้รวดเร็ว ให้ข้อมูลข่าวสาร บทวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ได้ไหม ดูกราฟเทคนิค หรือวิเคราะห์กราฟได้รึเปล่า มีระบบตั้งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ (Auto Trade) ไหม
นอกจากฟังก์ชันแล้ว ความปลอดภัยก็น่าจะเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เลยนะครับ แอปที่ดีต้องมีระบบเข้ารหัสข้อมูลที่แน่นหนา ปลอดภัยกับข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการเงินของเรา ความเสถียรและความรวดเร็วของแอปก็สำคัญไม่แพ้กัน ลองคิดดูสิครับ ถ้าตลาดกำลังผันผวน ราคากำลังวิ่ง แล้วแอปที่เราใช้ค้าง หรือส่งคำสั่งไม่ได้ พลาดโอกาสในการซื้อขายไป เสียหายเลยนะครับ ส่วนใหญ่เราก็ดูกันที่รีวิวของผู้ใช้งานจริงนี่แหละครับ ว่ามีปัญหาจุกจิกบ่อยไหม

อีกปัจจัยที่ต้องดูคือ แอปนั้นรองรับกับโบรกเกอร์ที่เราไปเปิดบัญชีไว้รึเปล่า เพราะบางแอปก็ใช้ได้เฉพาะกับบางโบรกเกอร์เท่านั้นนะครับ และที่สำคัญคือเรื่อง “ค่าธรรมเนียม” อันนี้แหละครับตัวแปรสำคัญที่ทำให้แต่ละโบรกเกอร์แตกต่างกันออกไป ค่าธรรมเนียมเทรดนี่แหละครับ คือค่าบริการที่เราจ่ายให้โบรกเกอร์ ซึ่งแต่ละที่ก็มีเรทไม่เท่ากัน บางที่อาจจะมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำต่อวันด้วย อันนี้ต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีครับ
ถ้าพูดถึงแอปเทรดหุ้นยอดนิยมในไทย ตัวแรกๆ ที่คนนึกถึงและใช้กันเยอะมากๆ ก็คือ **Streaming** ครับ แอปตัวนี้พัฒนาโดย Settrade ซึ่งเป็นบริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเลยนะ จุดเด่นคือใช้ได้กับโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ในไทย ฟังก์ชันแน่นมากๆ ครับ ทั้งข้อมูลหลักทรัพย์และอนุพันธ์แบบเรียลไทม์ วิเคราะห์กราฟได้ แจ้งเตือนราคาหุ้นที่เราสนใจได้ มีฟังก์ชันตั้งคำสั่งแบบต่างๆ เช่น DCA Order (อันนี้เหมาะสำหรับคนอยากออมหุ้นแบบสม่ำเสมอ ตั้งซื้อทุกเดือนอัตโนมัติ) หรือตั้งเวลาซื้อขายอัตโนมัติก็ได้ แถมยังมีข่าวสาร บทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่างๆ ให้ตามอ่านด้วย ข้อมูลเขาก็มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถืออย่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และ Settrade เองเลยครับ
ส่วนอีกตัวที่น่าสนใจคือ **efin Trade Plus** ตัวนี้ใช้ได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ ฟังก์ชันเด่นๆ ของเขาคือมีระบบ Learning History ที่ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์การลงทุนของเรา มี Auto Trade ที่หลากหลาย แสดงข้อมูลพอร์ตลงทุนได้ละเอียดมากๆ แจ้งเตือนกิจกรรมการซื้อขายของเราได้ แถมกราฟเทคนิค งบการเงิน ข่าวสารก็มาจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ซึ่งเป็นแหล่งข่าวการเงินที่เชื่อถือได้ครับ แต่ก่อนใช้ก็ต้องเช็ครายชื่อโบรกเกอร์ที่รองรับก่อนนะครับ
พักเรื่องฟังก์ชันมาดูเรื่องค่าธรรมเนียมบ้างครับ ช่วงหลังๆ ก็มีโบรกเกอร์ที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ๆ อย่างเช่น **Liberator** ตัวนี้เขาจุดเด่นที่ค่าคอมมิชชั่น 0% ครับ คือเราจ่ายแค่ค่าธรรมเนียมที่ให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯ และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เท่านั้นเอง เขาเคลมว่ามี AI ช่วยคัดกรองหุ้นให้ด้วย มีกราฟวิเคราะห์แนวโน้ม/จุดซื้อขาย และเครื่องมือวิเคราะห์ให้ใช้ฟรีๆ แถมในอนาคตก็วางแผนจะเปิดบัญชีมาร์จิ้น (Margin – ยืมเงินโบรกเกอร์มาเทรด) และให้รายย่อยอย่างเราๆ จองซื้อหุ้น IPO (หุ้นที่บริษัทเพิ่งนำมาขายให้ประชาชนครั้งแรก) ได้ด้วยครับ ข้อมูลพวกนี้ก็มาจาก บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด โดยตรง
ล่าสุดก็มีแอปอย่าง **Dime!** ที่พัฒนาโดย บริษัทหลักทรัพย์ KKP Dime ภายใต้กลุ่มเกียรตินาคินภัทร ตัวนี้แรกๆ เขาเน้นซื้อขายหุ้นต่างประเทศ (โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ) ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำที่น้อยมากๆ แต่ตอนนี้เขาก็เปิดให้บริการซื้อขายหุ้นไทยแล้วครับ
จะเห็นว่าแอปเทรดหุ้นแต่ละตัวก็มีจุดเด่น จุดด้อย และค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป การเลือกก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและโบรกเกอร์ที่เราเลือกใช้นั่นแหละครับ
แต่ก่อนที่จะกระโดดเข้าไปเทรดจริงด้วยเงินจริงๆ เนี่ย ผมมีตัวช่วยที่ดีมากๆ ที่อยากจะแนะนำครับ นั่นก็คือ **โปรแกรมจำลองการเทรดหุ้น** หรือที่บางคนอาจจะเรียก **แอ พ ฝึก เล่น หุ้น** นี่แหละครับ มันคือแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมที่สร้างสภาพแวดล้อมการซื้อขายหุ้นให้เหมือนจริงทุกอย่างเลยครับ แต่ที่ต่างคือ เราจะใช้ “เงินจำลอง” หรือที่เรียกว่า “เงินเสมือน” หรือ “เงินเดโม่ (Demo Money)” ในการซื้อขายครับ
ถามว่าทำไมโปรแกรมจำลอง หรือ แอ พ ฝึก เล่น หุ้น ถึงสำคัญ? ลองนึกภาพว่าเรากำลังจะหัดขับรถยนต์ เราคงไม่กระโดดขึ้นไปขับบนถนนใหญ่ที่มีรถวิ่งพลุกพล่านเลยใช่ไหมครับ เราต้องเริ่มจากในสนามฝึกหัด หรือมีครูสอนนั่งไปด้วยก่อน การเทรดหุ้นก็เหมือนกันครับ โดยเฉพาะมือใหม่ การใช้ แอ พ ฝึก เล่น หุ้น เป็นก้าวแรกที่ฉลาดมากๆ เลยนะ

วัตถุประสงค์หลักๆ ของการใช้ แอ พ ฝึก เล่น หุ้น ก็คือ การฝึกฝนการซื้อขายในสถานการณ์เสมือนจริงครับ ทำให้เราคุ้นเคยกับวิธีการส่งคำสั่งซื้อขาย หน้าตาของแอปเทรดจริง และภาพรวมของตลาดหุ้น ได้ลองทดสอบกลยุทธ์การเทรดต่างๆ ที่เราไปศึกษามา ว่ามันใช้ได้จริงไหมในสภาพตลาดปัจจุบัน โดยที่ “ไม่มีความเสี่ยงทางการเงินจริง” เลยครับ เราได้เก็บประสบการณ์ ได้ลองผิดลองถูก โดยที่ไม่ต้องเสียเงินสักบาทเดียว ที่สำคัญคือได้ฝึกใช้เครื่องมือต่างๆ ในแอปเทรดจริง ทำให้วันที่จะเทรดด้วยเงินจริง เราจะไม่ต้องมางงกับฟังก์ชันต่างๆ ครับ และการใช้ แอ พ ฝึก เล่น หุ้น ก็เป็นเหมือนบททดสอบตัวเราเองด้วย ว่าเราเหมาะสมกับการลงทุนในตลาดหุ้นหรืออนุพันธ์รึเปล่า เราชอบมันจริงๆ ไหม
ถ้าถามว่ามี แอ พ ฝึก เล่น หุ้น ตัวไหนน่าลองบ้าง ตัวแรกที่อยากแนะนำมากๆ สำหรับคนไทยที่อยากคุ้นเคยกับแอปเทรดหลักๆ ก็คือ **Streaming Click2Win** ครับ อันนี้พัฒนาโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเลยนะ จุดเด่นคือมันจำลองสภาพแวดล้อมเหมือนแอป Streaming ที่คนใช้จริงเกือบ 100% ครับ แถมยังใช้ข้อมูลราคาหุ้นและอนุพันธ์จากตลาดจริงด้วยนะ (แต่อาจจะมีดีเลย์นิดหน่อย) เขาให้เงินจำลองมาให้เราลองเทรดกันแบบจุกๆ เลยครับ หุ้น 5 ล้านบาท อนุพันธ์อีก 5 ล้านบาท! เยอะกว่าเงินจริงของเราอีกมั้ง (แซวเล่นนะครับ) เราสามารถฝึกจัดพอร์ต ฝึกใช้เครื่องมือต่างๆ ในแอปจริง ทั้งการส่งคำสั่งซื้อขายแบบต่างๆ ดูกระดานหุ้น ดูพอร์ตลงทุน ดูกราฟ ได้หมดเลยครับ ล็อกอินก็ง่ายมากๆ ใช้ Facebook, Line, หรือ Gmail ก็ได้ สำหรับคนทั่วไปล็อกอินได้ 30 วัน แต่ถ้าเราเป็นสมาชิก SET Member ก็ใช้ได้ไม่จำกัดเลยครับ ตัวนี้เหมาะมากๆ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่อยากจะทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มหลักก่อนลงสนามจริงครับ
อีกรูปแบบหนึ่งของ แอ พ ฝึก เล่น หุ้น ที่ไม่เหมือน Click2Win เป๊ะๆ แต่เน้นเรื่องกลยุทธ์และความเข้าใจเศรษฐกิจคือ **เกมตลาดหลักทรัพย์ (“Stock Exchange”)** ครับ อันนี้เป็นเหมือนเกมที่อิงจากกลยุทธ์เศรษฐกิจโลกหรือเหตุการณ์สำคัญๆ วัตถุประสงค์ของเกมคือให้เราได้เรียนรู้วิธีสร้างรายได้จากความผันผวนของราคาทางการเงิน ฝึกการใช้สติปัญญา ความจำ และกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล จุดเด่นคือใช้ข้อมูลและเหตุการณ์จริงในการจำลองสถานการณ์ ทุกขั้นตอนไม่ซ้ำกัน ไม่ต้องเสียเงินเบื้องต้น ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็เล่นได้ มีระบบบริหารจัดการและปรับระดับความยากได้ด้วย อันนี้อาจจะไม่ใช่การจำลองการกดซื้อขายหุ้นแบบตรงไปตรงมาเหมือนแอปเทรดจริง แต่เป็นเหมือนการจำลองแนวคิดและกลยุทธ์ในการรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งก็มีประโยชน์ในแง่การฝึกคิดวิเคราะห์ครับ
นอกเหนือจากแอปเทรดหุ้นและ แอ พ ฝึก เล่น หุ้น แล้ว ยังมีแอปพลิเคชันด้านการลงทุนอื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางการเงินและการลงทุนของเราได้อีกนะครับ อย่างเช่น **AomWise App** ที่ช่วยให้การออมและการลงทุนเป็นเรื่องง่ายๆ เหมาะกับมือใหม่ อยากลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ก็มีฟีเจอร์รองรับครับ หรือถ้าอยากหาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการลงทุนแบบครบวงจรจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ก็ต้องแอป **SET App** จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเลยครับ เป็นเหมือนห้องสมุดความรู้เคลื่อนที่ มีข้อมูลต่างๆ แจ้งกิจกรรม สัมมนา คลิปความรู้ย้อนหลังให้ดูเพียบ อีกแอปที่มาจาก Settrade เหมือนกันคือ **Settrade App** ตัวนี้ก็ให้ข้อมูลและเครื่องมือสนับสนุนการลงทุนครับ ติดตามข้อมูลหลักทรัพย์ อนุพันธ์ กองทุนรวมได้ มีข่าวสาร บทความให้อ่าน เหมาะสำหรับมือใหม่ใช้ศึกษา วิเคราะห์ เตรียมพร้อมก่อนลงทุนจริงครับ (ฟังก์ชันอาจจะมีทับซ้อนกับ Streaming บ้างนะครับ) และถ้าอยากบริหารจัดการเงินส่วนบุคคล สร้างวินัยการออม ก็มีแอปอย่าง **Happy Money App** ที่ช่วยบันทึกรายรับ-รายจ่าย สินทรัพย์ หนี้สิน วิเคราะห์สุขภาพทางการเงิน และให้คำแนะนำการวางแผนได้ครับ
จะเห็นว่าเครื่องมือต่างๆ ในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการลงทุนมันเยอะแยะไปหมดเลยใช่ไหมครับ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เครื่องมือดีๆ อย่าง Streaming เองเขาก็มีแหล่งความรู้ดีๆ อย่าง e-Learning ให้เราได้เรียนรู้เพิ่มเติมด้วยนะ ซึ่ง e-Learning จาก Settrade Streaming นี่แหละครับ ตัวช่วยชั้นดีที่จะทำให้เราใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ในแอปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เขาจะสอนตั้งแต่พื้นฐานการลงทุนหุ้นออนไลน์ แนะนำฟังก์ชันต่างๆ ไปจนถึงเรื่องที่ Advance ขึ้นมาหน่อย เช่น การจับจังหวะลงทุนด้วย Technical Chart (การวิเคราะห์กราฟเทคนิค) การบริหารจัดการเงินลงทุนด้วย Conditional Order (คำสั่งซื้อขายที่มีเงื่อนไข) หรือการสร้างวินัยออมลงทุนอัตโนมัติด้วย DCA Order ครับ การศึกษาจากแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้ ควบคู่กับการฝึกฝนจาก แอ พ ฝึก เล่น หุ้น จะช่วยให้เรามีความมั่นใจและพร้อมมากขึ้นก่อนจะลงสนามจริงครับ
สรุปแล้ว การลงทุนในตลาดหุ้นออนไลน์ยุคนี้สะดวกสบายมากๆ ครับ มีแอปพลิเคชันดีๆ ให้เลือกใช้มากมาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดก่อนจะนำเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปลงทุนจริง ก็คือการ “เตรียมความพร้อม” ครับ และเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับการเตรียมความพร้อมสำหรับมือใหม่ก็คือ โปรแกรมจำลองการเทรดหุ้น หรือ **แอ พ ฝึก เล่น หุ้น** นี่แหละครับ
คำแนะนำของผมคือ:
1. เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจพื้นฐานการลงทุนให้ดี
2. เลือก แอ พ ฝึก เล่น หุ้น ที่เราสนใจและลองใช้งานดูครับ ถ้าอยากคุ้นเคยกับแอปเทรดจริงในไทย ก็ลอง Streaming Click2Win ก่อนเลย
3. ใช้เงินจำลองที่มีให้ ฝึกส่งคำสั่งซื้อขาย ลองดูกราฟ ลองใช้ฟังก์ชันต่างๆ ให้คล่องมือ
4. ทดลองใช้กลยุทธ์การลงทุนต่างๆ ที่เราไปศึกษามาในพอร์ตจำลองนี่แหละครับ ดูผลลัพธ์ว่าเป็นยังไง
5. ควบคู่ไปกับการฝึกฝน ก็อย่าหยุดเรียนรู้จากแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้ครับ
การใช้ แอ พ ฝึก เล่น หุ้น จะช่วยให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น ลดความประหม่าเมื่อต้องเทรดด้วยเงินจริง และช่วยให้เราได้รู้ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นมันใช่สำหรับเราจริงๆ ไหมนะครับ
⚠️ แต่จำไว้เสมอว่า แม้เราจะฝึกฝนมาอย่างดีด้วย แอ พ ฝึก เล่น หุ้น แล้วก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นจริงยังคงมีความเสี่ยงอยู่นะครับ ราคาหุ้นมีการขึ้นลงเสมอ และมีความเป็นไปได้ที่เราจะขาดทุนได้ครับ อย่าลงทุนด้วยเงินที่เราจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน หรือเงินที่เราไม่สามารถเสียได้นะครับ การลงทุนในตลาดจริงต้องใช้การศึกษาข้อมูล การบริหารจัดการความเสี่ยง และการตัดสินใจที่รอบคอบอยู่เสมอครับ
ขอให้ทุกคนที่กำลังสนใจการลงทุน ลองใช้ แอ พ ฝึก เล่น หุ้น เป็นก้าวแรกนะครับ ประสบการณ์จากการฝึกฝนจะช่วยให้เราพร้อมสำหรับสนามจริงได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ ขอให้โชคดีกับการลงทุนครับ!