
เคยรู้สึกไหมครับว่า ข้อมูลส่วนตัวของเราบนอินเทอร์เน็ตนี่มีค่ามหาศาลจริงๆ? แค่เราเลื่อนดูฟีด เล่นแอปฯ ช้อปปิ้งออนไลน์ ข้อมูลเหล่านั้นก็ถูกเก็บไปหมด แล้วบริษัทต่างๆ ก็เอาไปใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการยิงโฆษณาแบบตรงเป้า หรือเอาไปวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ แต่… แล้วเราล่ะ? เราในฐานะเจ้าของข้อมูลตัวจริง ได้อะไรจากตรงนั้นบ้าง? ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้อะไรเลยใช่ไหมครับ
นี่แหละครับคือปัญหาใหญ่ในโลกดิจิทัลยุคปัจจุบัน ข้อมูลของผู้ใช้เป็นเหมือน “ทองคำ” ยุคใหม่ แต่ทองคำส่วนใหญ่กลับไปตกอยู่ในมือบริษัท ไม่ใช่เจ้าของทองคำตัวจริง ลองนึกภาพดูสิครับว่า ข้อมูลการซื้อของออนไลน์ของคุณ ข้อมูลการเดินทางของคุณ ข้อมูลสิ่งที่คุณสนใจ มันบอกอะไรบริษัทได้เยอะแยะแค่ไหน แล้วถ้าข้อมูลพวกนี้มีมูลค่าจริงๆ ทำไมเราถึงไม่ได้ส่วนแบ่งจากมูลค่านั้นเลยล่ะ?
ตรงนี้เองครับที่เริ่มมีการพูดถึงแนวคิดที่จะเปลี่ยนเกม การทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและสร้างรายได้จากข้อมูลของตัวเองได้ ซึ่งโครงการ โทเค็นข้อมูลที่วัดได้ (Measurable Data Token) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า MDT ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่พยายามเข้ามาตอบโจทย์นี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า mdt คือ อะไร เกี่ยวข้องกับข้อมูลของเรายังไง? พูดง่ายๆ คือ MDT ต้องการสร้างระบบนิเวศที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย และยุติธรรม สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง “ผู้ขายข้อมูล” (ก็คือพวกเรา ผู้ใช้ทั้งหลาย) กับ “ผู้ซื้อข้อมูล” (ก็คือบริษัทต่างๆ ที่ต้องการข้อมูลไปใช้)

แล้วระบบของ MDT ทำงานยังไงล่ะครับ? ลองนึกภาพว่ามันเป็นเหมือนตลาดกลางที่เปิดโอกาสให้เรานำข้อมูล (ในรูปแบบที่ไม่ระบุตัวตน เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของเรานะครับ อันนี้สำคัญมาก!) ไปวางขาย แล้วบริษัทที่สนใจก็เข้ามาเลือกซื้อ โดยใช้โทเค็น MDT เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ซึ่งส่วนแบ่งที่ได้จากการขายข้อมูลนั้น ก็จะกลับมาสู่ผู้ใช้ในรูปแบบของรางวัล
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น MDT มีผลิตภัณฑ์และองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำงานร่วมกันครับ อย่างเช่น แอปพลิเคชันที่ชื่อว่า RewardMe ซึ่งเป็นแอปที่น่าจะใกล้ตัวผู้ใช้มากที่สุด คุณสามารถเชื่อมต่อบัญชีช้อปปิ้งหรืออีเมล (ที่ใช้รับใบเสร็จ) เข้ากับแอปนี้ได้แบบปลอดภัย ระบบก็จะรวบรวมข้อมูลการซื้อขายของคุณโดยอัตโนมัติและแปลงเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน จากนั้นข้อมูลเหล่านี้ก็จะถูกนำไปรวมกับข้อมูลของผู้ใช้อีกมากมาย เพื่อสร้างเป็นชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีค่าสำหรับธุรกิจต่างๆ และสิ่งที่คุณจะได้รับกลับมาก็คือ “รางวัล” ในรูปแบบของโทเค็น MDT โดยตรงผ่านระบบสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) บนบล็อกเชน ซึ่งทำให้กระบวนการทั้งหมดโปร่งใสและตรวจสอบได้
นอกจาก RewardMe แล้ว ยังมีส่วนอื่นๆ อีก เช่น Measurable-ai ซึ่งเป็นโซลูชันที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ เข้าถึงชุดข้อมูลธุรกรรมความละเอียดสูงที่ไม่ระบุตัวตน เพื่อนำไปวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดหรือพฤติกรรมผู้บริโภค และยังมี Measurable Finance (MeFi) ซึ่งเป็นเหมือนแหล่งข้อมูลทางการเงินบนบล็อกเชน สำหรับวงการการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ซึ่งทั้งหมดนี้ก็วนกลับมาใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศข้อมูลที่ MDT สร้างขึ้น

ประโยชน์ของโทเค็น MDT คือ การที่มันเข้ามาช่วยให้การซื้อขายข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น มีมาตรฐาน และที่สำคัญคือ เป็นการคืนอำนาจและมูลค่ากลับมาให้ผู้ใช้ข้อมูลอย่างเราๆ ได้รับรางวัลจากการแบ่งปันข้อมูลที่เราสร้างขึ้นมาในชีวิตประจำวัน ในขณะเดียวกัน ธุรกิจต่างๆ ก็ได้รับข้อมูลที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ตรวจสอบย้อนหลังได้ และเป็นข้อมูลเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้พวกเขาวิเคราะห์และเข้าใจตลาดได้ดีขึ้นกว่าเดิม
ในมุมมองของผมในฐานะคอลัมนิสต์การเงินที่เฝ้าดูเทรนด์ใหม่ๆ เทคโนโลยีที่เข้ามาทำให้ข้อมูลมีมูลค่าและกระจายมูลค่านั้นอย่างเป็นธรรม เป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง มันสอดคล้องกับกระแสของ “เศรษฐกิจข้อมูล” (Data Economy) ที่กำลังเติบโต ข้อมูลไม่ใช่แค่สิ่งที่ถูกเก็บไปเฉยๆ อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและสามารถนำมาแลกเปลี่ยนได้ โครงการอย่าง MDT ก็เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จริงบนแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน
อย่างไรก็ตามครับ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ๆ นั้นยังมีความผันผวนและซับซ้อนสูงมาก แนวคิดเรื่องการสร้างรายได้จากข้อมูลส่วนตัวผ่านโทเค็นก็นับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ การลงทุนในโทเค็นใดๆ รวมถึง MDT ย่อมมีความเสี่ยงอยู่ในตัวเสมอ มูลค่าของโทเค็นอาจขึ้นหรือลงได้มากตามกลไกตลาดและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเองด้วย
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน และไม่ควรนำเงินที่จำเป็นต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้
ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจข้อมูล หรืออยากลองสำรวจดูว่าข้อมูลของคุณจะมีค่าได้จริงๆ ไหม โครงการอย่าง MDT ก็เป็นตัวอย่างที่น่าศึกษา แต่จำไว้เสมอว่า การตัดสินใจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุน ต้องอยู่บนพื้นฐานของการหาข้อมูลที่เพียงพอและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ