**TMBCHEQ: เจาะลึกกองทุนหุ้นจีน เสี่ยงสูง…ผลตอบแทนคุ้มไหม?**

ช่วงนี้เห็นข่าวเกี่ยวกับประเทศจีนค่อนข้างเยอะเลยนะครับ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจที่ดูชะลอตัวไปบ้าง นโยบายรัฐบาลที่บางทีก็ทำให้ตลาดหุ้นสะดุ้ง หรือแม้กระทั่งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ พอเห็นแบบนี้ นักลงทุนหลายคนก็เริ่มหันมามองตลาดหุ้นจีนกันอีกครั้ง บางคนก็ถามว่า “น่าสนใจลงทุนไหม แล้วถ้าจะลงทุน ต้องเริ่มยังไงดี?” คำถามนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยครับ เพราะจีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก จะมองข้ามก็คงไม่ได้ แต่การลงทุนในตลาดหุ้นจีนโดยตรงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆ กองทุนรวมจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ และวันนี้ผมขอหยิบกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นจีนกองหนึ่งที่ชื่อว่า **กองทุนเปิดอีสท์สปริง China Equity Index** หรือชื่อย่อที่หลายคนคุ้นเคยกันดีคือ **TMBCHEQ** มาเล่าสู่กันฟังแบบเข้าใจง่ายๆ สไตล์คอลัมนิสต์การเงินเพื่อนซี้ของคุณครับ

ทีนี้มาดูกันว่าเจ้า **tmbcheq** เนี่ย มันมีรายละเอียดเป็นยังไงบ้าง กองทุนนี้จัดว่าเป็นกองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) ประเภท Feeder Fund ครับ ลองนึกภาพง่ายๆ ว่า **tmbcheq** เป็นเหมือน ‘กองทุนลูก’ ที่ทำหน้าที่รวบรวมเงินลงทุนจากพวกเรา แล้วนำเงินก้อนใหญ่ที่ได้ไปลงทุนต่อใน ‘กองทุนแม่’ ซึ่งก็คือ **iShares FTSE A50 China Index ETF** กองทุน ETF ตัวนี้เขาไปจดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงครับ จุดเด่นของกองทุนแม่ตัวนี้คือ เขาเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ 50 อันดับแรกของตลาดหุ้น A-share ในประเทศจีน โดยมีเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องการทำให้ผลตอบแทนของกองทุนเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับ **ดัชนี FTSE China A 50 Net Total Return Index** ให้มากที่สุด

การที่ **tmbcheq** เลือกลงทุนในกองทุนแม่ที่อ้างอิงดัชนีแบบนี้ แสดงว่าเขามีกลยุทธ์การบริหารแบบ ‘เชิงรับ’ หรือ Passive Investment Strategy ครับ ไม่ได้เน้นการวิเคราะห์เลือกหุ้นเป็นรายตัวแบบเชิงรุก (Active Management) ที่ผู้จัดการกองทุนจะพยายามหาหุ้นเด็ดๆ ที่คิดว่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด แต่ Passive Strategy คือการลงทุนตามสัดส่วนของดัชนีอ้างอิงเป็นหลัก พูดง่ายๆ คือ ดัชนีมีหุ้นอะไร สัดส่วนเท่าไหร่ กองทุนก็พยายามลงทุนตามนั้น เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี benchmark ที่สุด ข้อดีของกลยุทธ์นี้คือมักจะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าการบริหารแบบเชิงรุก แต่ข้อเสียคือ ถ้าตลาดหุ้นจีนที่อ้างอิง (ในที่นี้คือหุ้นใหญ่ 50 ตัวในดัชนี FTSE China A 50) ปรับตัวลง กองทุน **tmbcheq** ก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงตามไปด้วยครับ ไม่มีผู้จัดการกองทุนมาคอยหลบหลีกความเสี่ยงให้แบบเต็มที่เท่ากองทุนเชิงรุก

มาดูตัวเลขสำคัญๆ ของ **tmbcheq** กันบ้างครับ (อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 17 เมษายน 2568 เป็นหลักนะครับ ตัวเลขพวกนี้เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา) มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ล่าสุดอยู่ที่ 6.11 บาท ในวันนั้นมีการเปลี่ยนแปลงบวกขึ้นมา 1.30% แหม ฟังดูดีชื่นใจใช่มั้ยครับ? แต่อย่าเพิ่งดีใจไปครับ เพราะนั่นแค่การเคลื่อนไหวในวันเดียว การลงทุนในกองทุนหุ้น โดยเฉพาะกองทุนหุ้นต่างประเทศอย่าง **tmbcheq** ที่เน้นตลาดจีน ต้องมองภาพระยะยาวกว่านั้นครับ

ลองย้อนดูผลตอบแทนในอดีตกันหน่อย ซึ่งตัวเลขนี้แหละที่สะท้อนความผันผวนของตลาดหุ้นจีนได้ดีครับ ผลตอบแทนย้อนหลังในรูปเงินบาทไทยเป็นดังนี้: YTD (ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 17 เม.ย.) ติดลบ -4.98%, 3 ปี ย้อนหลัง (เฉลี่ยต่อปี) ติดลบ -4.80%, 5 ปี ย้อนหลัง (เฉลี่ยต่อปี) บวกจิ๋วๆ 1.01%, และ 10 ปี ย้อนหลัง (เฉลี่ยต่อปี) ติดลบ -0.21% เห็นตัวเลขติดลบหลายช่วงแบบนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจจนรีบปิดหน้านะครับ นี่คือ ‘หน้าตา’ ของกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงปรอทแตกครับ! กองทุน **tmbcheq** ถูกจัดอยู่ในระดับความเสี่ยงที่ 8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตามเกณฑ์ของ ก.ล.ต. เลยทีเดียวครับ

เพื่อเน้นย้ำเรื่องความเสี่ยง ผมขอหยิบอีกตัวเลขที่สำคัญมากๆ มาให้ดู นั่นคือ ‘การขาดทุนสูงสุด’ หรือ Maximum Drawdown ของ **tmbcheq** ครับ ตัวเลขนี้อยู่ที่ -42.00% หมายความว่าอย่างไร? อธิบายง่ายๆ ก็คือ หากคุณลงทุนในกองทุนนี้แล้วราคาหน่วยลงทุนขึ้นไปถึงจุดสูงสุด แล้วหลังจากนั้นมันก็ปรับตัวลดลงไปเรื่อยๆ จุดต่ำสุดที่มันเคยลงไปจากจุดสูงสุดนั้นคือลบถึง 42% ครับ! นึกภาพเงินลงทุน 100,000 บาท หายไป 42,000 บาท เหลือแค่ 58,000 บาทได้เลย นี่เป็นสิ่งที่นักลงทุนที่คิดจะเข้าลงทุนใน **tmbcheq** ต้องทำความเข้าใจและรับความเสี่ยงแบบนี้ได้จริงๆ ครับ เพราะการลงทุนในหุ้นจีนย่อมมีความผันผวนที่สูงมาก และปัจจัยต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศจีนส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นได้รวดเร็วและรุนแรงครับ

นอกจากเรื่องผลตอบแทนและความเสี่ยงแล้ว เรื่อง ‘ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย’ ก็เป็นอีกจุดที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ กองทุน **tmbcheq** มีค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) ที่เรียกเก็บจริงอยู่ที่ 0.9970% ต่อปี และมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด (Total Expense Ratio) อยู่ที่ 1.1291% ต่อปี ตัวเลขพวกนี้จะถูกหักออกจากมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนไปเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนสุทธิที่เราจะได้รับครับ แม้ว่าค่าธรรมเนียมระดับนี้อาจจะไม่ได้สูงปรี๊ดเมื่อเทียบกับกองทุนหุ้นเชิงรุกบางกอง แต่ก็เป็นต้นทุนที่เราต้องจ่ายออกไปครับ

ในส่วนของ ‘การจัดสรรสินทรัพย์’ นั้น อย่างที่บอกไปครับว่า **tmbcheq** เป็น Feeder Fund ที่ไปลงทุนในกองทุน iShares FTSE A50 China Index ETF เกือบทั้งหมด (ข้อมูล ณ 31/12/2567 สัดส่วนลงทุนใน Equity Fund คิดเป็น 99.31% ของ NAV) ดังนั้นพอร์ตของ **tmbcheq** ก็จะไปผูกกับพอร์ตของกองทุนแม่ตัวนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ กองทุนแม่ก็จะไปลงทุนในหุ้นจีนใหญ่ 50 ตัวตามดัชนี FTSE China A 50 ซึ่งสะท้อนภาพรวมของหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดหุ้น A-share ของจีนเป็นหลักครับ

ข้อมูลการซื้อขายของ **tmbcheq** ก็มีรายละเอียดตามมาตรฐานกองทุนรวมทั่วไปครับ มีวันทำการซื้อขาย กำหนดเวลาขั้นต่ำในการซื้อ/ขาย และระยะเวลาชำระราคาที่ต้องเผื่อไว้ ซึ่งรายละเอียดพวกนี้สามารถดูได้จาก Fund Factsheet หรือเอกสารข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ลงทุนของกองทุนครับ ผู้จัดการกองทุนของ **tmbcheq** ปัจจุบันคือ คุณรุจิรา เข็มเพ็ชร และ คุณปริพนธ์ ศรีบุญ ครับ

สรุปแล้ว **tmbcheq** เหมาะกับใคร? กองทุนนี้ไม่ใช่สำหรับทุกคนครับ! ถ้าเปรียบกองทุนเป็นการเดินทาง **tmbcheq** คือเส้นทางที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงชันและเหวลึก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เป็นสายผจญภัยจริงๆ ที่…
1. **ยอมรับความเสี่ยงระดับสูงมากได้จริงๆ:** พร้อมที่จะเห็นเงินลงทุนติดลบหนักๆ ได้โดยไม่ panic ขายทิ้งขาดทุน
2. **มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว:** การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศที่ผันผวนสูงอย่างจีนต้องใช้เวลาครับ อาจจะต้องถือยาวๆ 5 ปี 10 ปี หรือนานกว่านั้น เพื่อให้มีโอกาสเห็นผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว (ถ้าตลาดเป็นใจ)
3. **เชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดหุ้นจีนในระยะยาว:** แม้จะมีปัญหาและความท้าทายในปัจจุบัน แต่ถ้าคุณมองว่าในระยะยาว เศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีนจะเติบโตได้ กองทุนนี้ก็อาจจะอยู่ในเรดาร์ของคุณครับ
4. **เข้าใจว่าเป็นการลงทุนแบบ Passive:** ผลตอบแทนจะเคลื่อนไหวตามดัชนีอ้างอิงเป็นหลัก ไม่ได้หวังว่าผู้จัดการกองทุนจะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดอย่างสม่ำเสมอ

สิ่งสำคัญที่สุดก่อนตัดสินใจก้าวเท้าเข้าสู่เส้นทางการลงทุนใน **tmbcheq** หรือกองทุนอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูง คือ **คุณต้องทำการบ้านอย่างละเอียด!** อ่าน Fund Factsheet เอกสารข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วน ทำความเข้าใจนโยบาย ความเสี่ยง ค่าธรรมเนียม และประเมินตัวเองว่ารับความผันผวนได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ควรมองแค่ตัวเลข NAV ที่ขึ้นลงในแต่ละวัน หรือผลตอบแทนระยะสั้นที่อาจจะดูดีหรือดูแย่เป็นพิเศษนะครับ **tmbcheq** เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการลงทุนในตลาดหุ้นจีน การเลือกใช้เครื่องมือนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ และต้องเหมาะกับแผนการเงินส่วนตัวของคุณด้วยครับ

⚠️ **คำเตือน:** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น