หุ้น AMZN: เจาะลึกเบื้องหลัง Amazon ที่ไม่ใช่แค่ร้านค้าออนไลน์

คุณอาจเคยสั่งซื้อของออนไลน์ หรือใช้บริการเก็บข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสำหรับการทำงาน หรือแม้แต่ดูซีรีส์เรื่องโปรดผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง… ถ้าใช่ล่ะก็ มีโอกาสสูงมากที่คุณกำลังมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกนามว่า อเมซอน ดอท คอม อิงค์ (Amazon.com Inc.) ซึ่งชื่อเสียงเรียงนามนี้ไปไกลกว่าแค่ร้านค้าออนไลน์ที่เราคุ้นเคยกันเยอะเลยครับ

ในโลกของการลงทุน หุ้นของบริษัทนี้ก็เป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางในชื่อสัญลักษณ์ว่า อะเอ็มแซดเอ็น (AMZN) หรือที่เราจะเรียกกันติดปากว่า หุ้นอเมซอน นั่นแหละครับ และสำหรับนักลงทุนชาวไทยที่สนใจ หุ้นamzn ตอนนี้ก็มีช่องทางเข้าถึงที่สะดวกขึ้นกว่าเมื่อก่อนด้วยนะครับ เดี๋ยวเราจะมาดูกันว่ายักษ์ใหญ่อย่างอเมซอนมีดีอะไร ทำไมคนทั่วโลกถึงจับตามอง และมันน่าสนใจสำหรับพอร์ตการลงทุนของเราแค่ไหน

อเมซอน ไม่ใช่แค่ร้านค้าออนไลน์อีกต่อไป

ถ้าลองมองลึกเข้าไป บริษัทที่ก่อตั้งโดยคุณเจฟฟ์ เบซอส (Jeff Bezos) เมื่อปี ๒๕๓๗ และปัจจุบันนำทัพโดยซีอีโอ คุณแอนดี้ แจสซี่ (Andy Jassy) ไม่ได้มีแค่เว็บไซต์ขายของที่เรากดสั่งกันง่ายๆ เท่านั้นนะครับ โครงสร้างธุรกิจหลักๆ ของเขาแบ่งออกเป็น ๓ ส่วนใหญ่ๆ คือ

1. **ส่วนอเมริกาเหนือและระหว่างประเทศ:** อันนี้คือสิ่งที่เราเห็นชัดที่สุด เป็นธุรกิจค้าปลีกขายสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งผ่านเว็บไซต์และร้านค้าจริง (เขาก็มีร้านจริงนะ!) รวมถึงรายได้จากค่าสมาชิกต่างๆ เช่น อเมซอน ไพรม์ (Amazon Prime) ที่ให้สิทธิพิเศษสารพัด
2. **ส่วนบริการ อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services – AWS):** นี่คือหัวใจสำคัญที่หลายคนอาจไม่รู้ อะดับเบิลยูเอส คือบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง หรือพูดง่ายๆ คือการให้เช่าคอมพิวเตอร์, พื้นที่เก็บข้อมูล, ฐานข้อมูล และบริการประมวลผลสารพัดรูปแบบผ่านอินเทอร์เน็ต ลูกค้าคือใครน่ะเหรอ? ตั้งแต่สตาร์ทอัพเล็กๆ ยันองค์กรใหญ่โต หน่วยงานรัฐบาล หรือสถาบันการศึกษาทั้งหลาย เทียบง่ายๆ เหมือนอเมซอนเป็นเจ้าของตึกดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดมหาศาล แล้วให้คนอื่นมาเช่าพื้นที่หรือเครื่องมือข้างในไปใช้ โดยไม่ต้องลงทุนสร้างเอง
3. **ธุรกิจอื่นๆ:** นอกจากนี้เขายังมีธุรกิจผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตัวเอง เช่น เครื่องอ่านอีบุ๊ก คินเดิล (Kindle), แท็บเล็ต ไฟร์ (Fire Tablet), ลำโพงอัจฉริยะ เอคโค่ (Echo) พร้อมผู้ช่วยส่วนตัว อเล็กซ่า (Alexa) รวมถึงลงทุนในธุรกิจโฆษณาดิจิทัล และผลิตคอนเทนต์บันเทิงอีกด้วย

เห็นไหมครับว่าโมเดลธุรกิจมันหลากหลายมาก ไม่ได้พึ่งแค่ยอดขายของอย่างเดียวแล้ว ซึ่งความหลากหลายนี่แหละที่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับ หุ้นamzn ได้ระดับหนึ่ง

**หัวใจสำคัญที่ทำกำไรมหาศาล: AWS**

คุณอาจสงสัยว่า ทำไม อเมซอน ถึงยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ทั้งที่ค้าปลีกก็มีการแข่งขันสูง? คำตอบส่วนใหญ่อยู่ที่ อะดับเบิลยูเอส (AWS) นี่แหละครับ

จากข้อมูลที่น่าสนใจ ถึงแม้อะดับเบิลยูเอสอาจไม่ได้สร้างรายได้รวมให้ อเมซอน สูงที่สุดเท่าธุรกิจค้าปลีก แต่เป็นธุรกิจที่มี “อัตรากำไร” สูงมากๆ ครับ ลองนึกภาพว่าค่าเช่าตึกหรือค่าบริการโครงสร้างพื้นฐานพวกนี้มันเป็นรายได้ที่ค่อนข้างเสถียรและมีต้นทุนผันแปรต่ำกว่าการซื้อมาขายไปสินค้าจริงเยอะเลย นั่นทำให้อะดับเบิลยูเอสกลายเป็น “ตัวปั๊มกำไร” ที่สำคัญมากๆ ของบริษัท ยิ่งไปกว่านั้น อะดับเบิลยูเอสยังเป็นผู้นำตลาดคลาวด์คอมพิวติ้งระดับโลก มีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่าคู่แข่งอย่าง ไมโครซอฟท์ (Microsoft) หรือ กูเกิล คลาวด์ (Google Cloud) เสียอีก ความเป็นผู้นำตรงนี้ทำให้ อเมซอน มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และมีศักยภาพในการนำเสนอบริการใหม่ๆ บนคลาวด์ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันด้าน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือการประมวลผลขั้นสูงต่างๆ นี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ หุ้นamzn ดูมีอนาคตไกล

**มองผ่านตัวเลขการเงิน: หุ้น AMZN กำไรดีแค่ไหน?**

ทีนี้มาดูเรื่องตัวเลขที่นักลงทุนอย่างเราต้องสนใจกันบ้างครับ

อเมซอน เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่มากๆ ณ ช่วงกลางปี ๒๕๖๘ มูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) พุ่งไปกว่า ๒ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดต่อบริษัทนี้

เมื่อดูผลประกอบการล่าสุด รายได้รวมของ อเมซอน ก็อยู่ในระดับแสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อไตรมาส ซึ่งถือว่ามหาศาลมาก และที่น่าดีใจคือกำไรสุทธิก็ทำได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะรายได้จากอะดับเบิลยูเอสที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่งถึงเกือบ ๒๐% ในไตรมาสล่าสุด ส่วนธุรกิจโฆษณาก็เป็นอีกขาที่น่าสนใจ คิดเป็นสัดส่วนรายได้ ๘-๙% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

อัตราส่วนทางการเงินต่างๆ ก็ช่วยให้เราเห็นภาพรวมได้ชัดขึ้นครับ เช่น อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ในช่วง ๑๒ เดือนที่ผ่านมาของ หุ้นamzn อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบางธุรกิจ อาจจะราวๆ ๓๐-๔๐ เท่า (หรือบางข้อมูลอาจสูงกว่านี้ ขึ้นอยู่กับวิธีคำนวณและช่วงเวลา) ซึ่งการที่ P/E สูงๆ มักจะบอกว่าตลาดคาดหวังการเติบโตในอนาคตจากบริษัทนี้สูงนั่นเอง

ส่วนตัวเลขอื่นๆ อย่างอัตราส่วนหนี้สินสุทธิเมื่อเทียบกับกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Net Debt/EBITDA) ที่ติดลบ ก็สะท้อนว่าบริษัทมีเงินสดมากกว่าหนี้สิน แสดงถึงสุขภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งครับ และผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนของผู้ถือหุ้นได้ดี

สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้สำหรับนักลงทุนที่ชอบหุ้นปันผลคือ อเมซอน “ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล” ครับ กำไรที่ได้มา บริษัทจะนำกลับไปลงทุนเพื่อขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เน้นการเติบโต (Growth Stock) ครับ

**ความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้น: หุ้น AMZN ขึ้นลงแรงแค่ไหน?**

ในฐานะหุ้นที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (Nasdaq) ซึ่งเป็นแหล่งรวมหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐอเมริกา หุ้น อเมซอน (สัญลักษณ์ AMZN) เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีสำคัญหลายตัว ทั้ง แนสแด็ก ๑๐๐ (Nasdaq 100), เอสแอนด์พี ๕๐๐ (S&P 500), และยังอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า แอฟเอเอ็นจี (FANG/FAANG) ซึ่งรวมหุ้นเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุด

ราคา หุ้นamzn มีความผันผวนค่อนข้างสูงครับ ค่าเบต้า (Beta) ของหุ้นนี้มักจะมากกว่า ๑ ซึ่งแปลว่า โดยเฉลี่ยแล้วราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวขึ้นลงแรงกว่าตลาดโดยรวมครับ อย่างในช่วง ๕๒ สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นก็มีการปรับตัวขึ้นลงในกรอบที่กว้างพอสมควร แต่ถ้ามองภาพรวมในรอบ ๑ ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นก็แสดงการเติบโตที่น่าสนใจเลยทีเดียว

คุณอาจเคยได้ยินเรื่อง “การแตกหุ้น” หรือ สต็อก สปลิต (Stock Split) หุ้น อเมซอน เคยแตกหุ้นมาแล้ว ๓ ครั้งในอดีต โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี ๒๕๖๕ ในอัตรา ๒๐ ต่อ ๑ นั่นหมายความว่า หากก่อนหน้านั้นคุณถือหุ้น ๑ หุ้น หลังจากแตกหุ้น คุณจะมี ๒๐ หุ้นแทน การแตกหุ้นมักจะทำให้ราคาหุ้นต่อหน่วยถูกลง ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อให้ หุ้นamzn สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่มีเงินลงทุนไม่สูงมากครับ ลองนึกภาพว่าถ้าหุ้นราคาเป็นพันๆ ดอลลาร์ต่อหุ้น คนที่งบน้อยก็ซื้อลำบาก แต่พอราคาลงมาเหลือหลักร้อย ก็ซื้อได้สบายขึ้น

**อนาคตของ Amazon: จะไปต่อทางไหน?**

การลงทุนใน หุ้นamzn ไม่ใช่แค่การมองอดีตหรือปัจจุบัน แต่ต้องมองไปถึงอนาคตด้วยครับ อเมซอน กำลังลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต

หนึ่งในเรื่องที่น่าจับตาคือการลงทุนใน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ ซึ่งซีอีโอเองก็เคยพูดถึงบทบาทของ AI ในการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานภายในบริษัท

นอกจากนี้ ยังมีโครงการเชิงกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เช่น โครงการ คุยเปอร์ (Project Kuiper) ซึ่งเป็นโครงการที่จะปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วโลก ฟังดูเหมือนหนังไซไฟ แต่เป็นเรื่องจริงที่กำลังทำอยู่! เขายังคงขยายโครงสร้างพื้นฐาน ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เช่น การลงทุนมหาศาลในออสเตรเลียเพื่อรองรับความต้องการบริการคลาวด์ที่เพิ่มขึ้น

และยังมีการสำรวจธุรกิจใหม่ๆ อีก เช่น การเปิดร้านขายยาและบริการเวชกรรม หรือแม้แต่การศึกษาเรื่อง สกุลเงินเสถียร (Stablecoin) ของตัวเอง สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า อเมซอน ไม่หยุดนิ่งที่จะมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายอาณาจักรธุรกิจ

**นักวิเคราะห์ว่าไง? แล้วคนไทยจะลงทุน หุ้น AMZN ได้ยังไง?**

โดยรวมแล้ว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงบวกต่อ หุ้นamzn มองเห็นศักยภาพการเติบโตที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากธุรกิจคลาวด์อย่าง อะดับเบิลยูเอส ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก พวกเขามีการให้ประมาณการราคาหุ้นในอนาคตออกมาเป็นช่วงต่างๆ ทั้งประมาณการสูงสุดและต่ำสุด ซึ่งก็เป็นข้อมูลที่เราใช้ประกอบการตัดสินใจได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่านั่นคือ “ประมาณการ” ไม่ใช่การรับประกันนะครับ

แล้วสำหรับนักลงทุนในประเทศไทยล่ะ จะเข้าไปลงทุนใน หุ้นamzn ที่ซื้อขายอยู่ในแนสแด็กได้โดยตรงเลยไหม? คำตอบคือมีช่องทางที่สะดวกมากๆ ครับ ผ่าน **ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt – DR)** ซึ่งมีการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนี่เอง

ลองนึกภาพว่า DR เหมือนใบรับรองสิทธิ์ ที่ออกโดยสถาบันการเงินในไทย (อย่างในกรณีของ หุ้นamzn นี้ ออกโดย ธนาคารกรุงไทย) โดยใบรับรองนี้ไปอ้างอิงกับหุ้น อเมซอน ที่ซื้อขายอยู่ในสหรัฐฯ อีกทีหนึ่ง การที่เราซื้อขาย DR ในตลาดหุ้นไทย ก็เหมือนเราได้ลงทุนใน หุ้นamzn ทางอ้อม โดยใช้เงินบาท ซื้อขายผ่านบัญชีหลักทรัพย์ที่เรามีอยู่แล้วในประเทศไทย และอิงตามราคาหุ้น อเมซอน ในต่างประเทศ ทำให้การเข้าถึง หุ้นamzn ทำได้ง่ายและสะดวกขึ้นมากครับ

**สรุปและข้อคิดสำหรับนักลงทุน**

จากทั้งหมดที่เล่ามา จะเห็นว่า อเมซอน เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและหลากหลาย โดยมี อะดับเบิลยูเอส เป็นหัวหอกสำคัญในการสร้างกำไรและการเติบโตในยุคดิจิทัล การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของ หุ้นamzn

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีระดับโลกแบบนี้ย่อมมีความเสี่ยงตามมาเสมอครับ ราคาหุ้นมีความผันผวนสูง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสภาวะเศรษฐกิจโลก การแข่งขันในอุตสาหกรรม และผลประกอบการของบริษัทเอง

หากคุณสนใจลงทุนใน หุ้นamzn หรือตราสารแสดงสิทธิในหุ้น อเมซอน สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เข้าใจความเสี่ยง และพิจารณาว่าการลงทุนนี้เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้หรือไม่

⚠️ **ข้อควรระวัง:** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน และควรพิจารณาถึงสภาพคล่องของตนเองก่อนลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวน เช่น หุ้น หรือตราสารแสดงสิทธิในหุ้นต่างประเทศ มูลค่าการลงทุนอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ และผลตอบแทนในอดีตไม่ได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต

ลองพิจารณาดูนะครับว่า หุ้นamzn จะเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนของคุณได้หรือไม่ ด้วยข้อมูลที่เราได้ทำความเข้าใจกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของคุณนะครับ!