
โอ้โห ช่วงนี้ไปไหนมาไหนก็เจอแต่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มไปหมดเลยนะครับ ยิ่ง BYD เนี่ย เห็นวิ่งกันให้ควั่ก ทั้ง Atto 3, Dolphin, Seal สวยๆ ทั้งนั้น เพื่อนฝูงหลายคนก็มาถามผมในฐานะคอลัมนิสต์การเงินนี่แหละว่า “เฮ้ย อยากเป็นเจ้าของหุ้น BYD บ้าง ทำไงดี?” เพราะรู้ว่าบริษัทนี้เขาเป็นเบอร์ต้นๆ ของโลกเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ พลังงานสะอาดมาแรงขนาดนี้ ใครๆ ก็อยากเกาะขบวนรถไฟความเร็วสูงขบวนนี้ทั้งนั้น
แต่ปัญหาคือ หุ้น BYD มันอยู่นอกประเทศนี่สิครับ ไปจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) นู่น แล้วนักลงทุนไทยอย่างเราๆ ที่เทรดหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อยู่แล้วเนี่ย จะเข้าไปซื้อหุ้น BYD ที่ฮ่องกง มันก็มีขั้นตอนยุ่งยากอยู่เหมือนกันนะ ต้องเปิดบัญชีต่างประเทศ ต้องแลกเงิน ต้องนั่น ต้องนี่ บางทีก็ถอดใจไปก่อน
นี่แหละครับคือพระเอกของเราในวันนี้ที่ผมอยากจะเล่าให้ฟัง มันคือ BYDCOM80! แล้ว BYDCOM80 คือ อะไรล่ะ? ง่ายๆ เลยครับ มันคือ “ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ” หรือที่เขาเรียกกันสั้นๆ ว่า DR (ดีอาร์) นั่นแหละครับ คิดซะว่ามันเป็นใบรับรองสิทธิ์ที่เราซื้อมา แล้วใบรับรองนี้มันอ้างอิงอยู่กับ “หุ้น BYD” ที่จดทะเบียนในฮ่องกงอีกที
ใครเป็นคนออก DR ตัวนี้ให้เราซื้อขายง่ายๆ ในไทย? ก็คือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ครับ เขาออก BYDCOM80 มาให้นักลงทุนไทยอย่างเราๆ นี่แหละได้เข้าถึงหุ้น BYD ได้ง่ายขึ้น โดยเราซื้อขาย BYDCOM80 ได้ในตลาดหุ้นไทย (SET) เหมือนซื้อหุ้นไทยทั่วไปเลยครับ ใช้บัญชีหุ้นที่เรามีอยู่แล้วนี่แหละ ซื้อขายเป็นเงินบาท ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องแลกเงินต่างประเทศด้วย! แถมเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำแค่ 1 หน่วยเท่านั้น ค่าธรรมเนียมซื้อขายก็คิดเท่ากับหุ้นไทยนี่แหละ ส่วนเรื่องสภาพคล่อง ธนาคารกรุงไทยเขาก็เป็นผู้ออกและดูแลสภาพคล่องให้ด้วย เหมือนมีเพื่อนคอยช่วยดูแลการซื้อขายอยู่ข้างๆ

แล้วบริษัท BYD ที่ว่าเนี่ย มันน่าสนใจยังไง ทำไมถึงมีคนอยากลงทุนเยอะ? โอ้โห BYD นี่เขาไม่ธรรมดานะครับ เขาเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากประเทศจีน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1995 แล้วไม่ใช่แค่ทำรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวนะ ธุรกิจเขามีหลากหลายมาก ทั้งยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับมือถือ แบตเตอรี่ พลังงานแสงอาทิตย์ ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเลย แต่ที่เด่นสุดๆ ชั่วโมงนี้ก็ต้องยกให้ “รถยนต์ไฟฟ้า” นี่แหละครับ
BYD เขามีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ อย่าง Blade Battery ที่เขาบอกว่าปลอดภัยมากๆ วิ่งได้ไกล และมีอายุการใช้งานยาวนาน ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD นี่พุ่งกระฉูดมากเลยนะ ทั้งในจีนที่เป็นตลาดใหญ่สุดๆ และกำลังขยายตลาดไปทั่วโลกอย่างจริงจังเลย ที่สำคัญคือ BYD เขามีกำหนดจะมาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยด้วยนะในปี 2024 นี้เลย ซึ่งอันนี้ก็เป็นสัญญาณที่ดีมากๆ ว่าเขาเห็นศักยภาพของตลาดอาเซียนและประเทศไทย นโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลจีนเองก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ BYD เติบโตอย่างก้าวกระโดด การที่บริษัทมีการระดมทุนก็เพื่อเอาไปขยายธุรกิจในต่างประเทศและใช้ในงานวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ นี่แหละครับ
นักวิเคราะห์หลายๆ คนก็มองว่า BYD เป็นหุ้นเติบโตที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่กำลังมาแรง อย่าง บล.กรุงศรี เขาก็เคยมีบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ใน BYDCOM80 ด้วยนะ การที่ BYDCOM80 เป็นแบบ Direct Listing คือเราซื้อขายได้ทันทีในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องไปจองซื้อให้ยุ่งยาก (เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่ 22 ก.ค. 65) ก็ยิ่งทำให้นักลงทุนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นไปอีกครับ

แต่! ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ BYDCOM80 คือ เครื่องมือที่ช่วยให้เราลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องเข้าใจความเสี่ยงของมันด้วยนะ ความเสี่ยงหลักๆ ของ BYDCOM80 เนี่ย มันวิ่งตามราคาหุ้น BYD ที่ฮ่องกงเลยครับ ถ้าหุ้น BYD ที่ฮ่องกงราคาขึ้น BYDCOM80 ก็มีแนวโน้มขึ้นตาม แต่ถ้าหุ้น BYD ที่ฮ่องกงราคาตก BYDCOM80 ก็ตกตามเช่นกันนะ
แถมยังมีเรื่อง “อัตราแลกเปลี่ยน” เข้ามาเกี่ยวอีกครับ ราคา BYDCOM80 มันอ้างอิงกับราคาหุ้น BYD ในหน่วยดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) แล้วแปลงกลับมาเป็นเงินบาทไทย (THB) ถ้าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ฮ่องกง ราคา BYDCOM80 ก็อาจจะถูกกดดันให้ลดลงได้ แม้ว่าราคาหุ้น BYD ที่ฮ่องกงจะเท่าเดิม หรือถ้าเงินบาทอ่อนค่า ราคา BYDCOM80 ก็อาจจะดูดีขึ้นได้ แม้ราคาหุ้น BYD ที่ฮ่องกงจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ อีก เช่น สภาพคล่องในการซื้อขาย BYDCOM80 ที่บางช่วงอาจจะไม่สูงเท่าหุ้นไทยตัวใหญ่ๆ ถ้าอยากจะซื้อจะขายเยอะๆ อาจจะต้องใช้เวลานิดนึง หรือความเสี่ยงเฉพาะตัวของบริษัท BYD เอง ถ้าผลประกอบการไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือมีข่าวลบเกี่ยวกับบริษัท หรือเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ก็ส่งผลกระทบต่อราคา BYDCOM80 ได้หมดเลยครับ รวมถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผู้ออก DR อย่างธนาคารกรุงไทยด้วย แม้ว่าจะเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่น่าเชื่อถือ แต่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณา
เรื่องภาษีก็อย่างที่บอกไปครับ กำไรจากการขาย BYDCOM80 (Capital Gain Tax) ตอนนี้ยังไม่ต้องเสีย แต่ถ้า BYD จ่ายเงินปันผล (Dividend) เราก็จะได้รับตามสัดส่วน แล้วเงินปันผลตรงนี้ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานะครับ
ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อราคา BYDCOM80 ก็เช่น ความต้องการซื้อขาย DR ในตลาดไทยนี่แหละครับ บางทีมีคนอยากซื้อเยอะ ราคาก็อาจจะขยับขึ้นได้ หรือช่วงเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งจะแตกต่างจากตลาดหุ้นไทย ก็มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละวันได้ครับ ข้อมูลราคาและสถิติการซื้อขายล่าสุด (อย่างเช่น ข้อมูล ณ วันที่ 19 เม.ย. 2568 หรือ 18 เม.ย. 68 ที่เห็นกัน) ก็ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของสภาพการซื้อขายและความเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นได้ครับ
สรุปแล้ว BYDCOM80 คือ เครื่องมือที่น่าสนใจมากๆ สำหรับนักลงทุนไทยที่อยากจะไปลงทุนในหุ้นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง BYD ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตสูงมากๆ มันช่วยให้เราเข้าถึงการลงทุนในต่างประเทศได้ง่าย สะดวก ซื้อขายในเงินบาทผ่านบัญชีหุ้นไทยเดิม ขั้นต่ำก็ไม่สูง
⚠️ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจโดดเข้าไปลงทุนนะครับ ผมอยากให้ทุกคนลองสำรวจตัวเองก่อนนะว่า เราเข้าใจธรรมชาติของ DR ตัวนี้ดีแล้วหรือยัง? เรารับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นจากราคาหุ้นในฮ่องกงและอัตราแลกเปลี่ยนได้แค่ไหน? เราเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของบริษัท BYD จริงๆ หรือเปล่า? และที่สำคัญที่สุด อย่าลืม “ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ” ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับ DR เอง (ที่ธนาคารกรุงไทยและตลาดหลักทรัพย์มีให้) และข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท BYD ด้วยนะครับ ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ ลองปรึกษาผู้แนะนำการลงทุนมืออาชีพดูก่อนก็ได้ครับ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ!