เอาล่ะครับทุกท่าน! วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องหุ้นตัวหนึ่งที่ช่วงนี้มีแต่คนพูดถึง ไม่ใช่หุ้นไทยบ้านเรานะ แต่เป็นหุ้นรถยนต์ไฟฟ้าจากแดนมังกรที่ชื่อว่า NIO หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า nio หุ้น นั่นแหละครับ

หลายคนคงเห็นรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งกันเต็มท้องถนนบ้านเราแล้วใช่ไหมครับ ตลาดนี้มันกำลังมาแรงแซงทางโค้งจริงๆ และ nio หุ้น ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวสำคัญในสนามระดับโลกเลยนะ เขาไม่ได้ทำแค่รถสวยๆ อย่างเดียว แต่ยังลุยไปถึงบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ทั้งสถานีสลับแบตเตอรี่ (เจ๋งมาก!) การชาร์จไฟ บริการหลังการขาย ประกัน จัดไฟแนนซ์ ยันรถมือสองที่ผ่านการรับรอง คือกะจะดูแลลูกค้าตั้งแต่ซื้อยันขายต่อเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทำระบบนิเวศ (ecosystem) ของตัวเองขึ้นมาเลย
แต่ก่อนจะไปไกลกว่านั้น เพื่อนๆ อาจจะถามว่า แล้ว nio หุ้น เนี่ย สถานะการเงินเป็นยังไง? น่าสนใจลงทุนไหม? ข้อมูลล่าสุดที่เราได้มา (ณ เดือนธันวาคม 2567) บอกว่า รายได้ของบริษัทก็เติบโตดีนะ เพิ่มขึ้นตั้ง 15.20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำรายได้ไปเกือบสองหมื่นล้านหยวน (19.70 พันล้านหยวน) ฟังดูดีใช่ไหมครับ?
แต่เดี๋ยวก่อนครับ… การทำธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้ามันลงทุนสูงมากจริงๆ ข้อมูลทางการเงินบอกเราว่า ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน ส่วนที่น่ากังวลคือตัวเลข “กำไรสุทธิ” มันยังเป็น “ติดลบ” อยู่ครับ หรือพูดง่ายๆ คือยัง “ขาดทุน” อยู่หนักเลย แถมตัวเลขขาดทุนนี้ยังเยอะขึ้นกว่าปีก่อนอีกนะ (ขาดทุนสุทธิ -7.13 พันล้านหยวน ขาดทุนเพิ่มขึ้น 27.52%) อัตรากำไรสุทธิก็เลยติดลบไปถึง 36.20% กำไรต่อหุ้น (EPS) ก็ติดลบเหมือนกัน (-3.17 หยวน) ตัวเลขพวกนี้สะท้อนว่า แม้จะขายรถได้มากขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งการผลิต การตลาด การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ (อย่างแบตเตอรี่ความจุสูงที่เขาพัฒนาอยู่) มันยังมากกว่ารายรับทั้งหมดอยู่มาก

ลองมองไปที่ฐานะการเงินบ้าง เงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นของบริษัทลดลงไปถึง 32.30% ในขณะที่หนี้สินรวมกลับเพิ่มขึ้น 7.19% ตรงนี้อาจจะบอกเราได้ว่า บริษัทกำลังใช้เงินสดที่มีอยู่และอาจจะต้องก่อหนี้เพิ่ม เพื่อมาขับเคลื่อนธุรกิจและลงทุนต่อ ตรงกันข้ามกับสินทรัพย์รวมที่ลดลงไปนิดหน่อย อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์และอัตราผลตอบแทนจากเงินทุน (ที่ลงทุนไป) ก็ยังติดลบอยู่ลึกๆ เลย ตัวเลขพวกนี้เป็นสัญญาณว่าบริษัทยังอยู่ในช่วง “เผาเงิน” เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต
แล้ว nio หุ้น ในตลาดล่ะเป็นยังไง? ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 3.74 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงในวันนั้นนิดหน่อย นักวิเคราะห์ 25 คนให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยไว้ที่ 5.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ (นี่คือราคาเฉลี่ยนะ ไม่ได้แปลว่าจะไปถึงแน่นอน) หุ้น nio จดทะเบียนในหลายตลาดชั้นนำทั่วโลก ทั้ง ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) และ ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) แต่ที่น่าสังเกตคือ บริษัทนี้ยังไม่เคยจ่ายเงินปันผลเลย และยังไม่มีแผนจะจ่ายในตอนนี้ด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่กำลังเน้นการเติบโต
ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลกับราคา nio หุ้น ล่ะ? แน่นอนว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้นทั่วโลกเป็นปัจจัยบวก รัฐบาลหลายประเทศก็ออกนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษ อันนี้ก็ดีต่อ nio แต่… การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามันดุเดือดมาก! คู่แข่งแต่ละรายก็ไม่ใช่เล่นๆ นะ ทั้งเจ้าใหญ่อย่าง เทสลา (Tesla) หรือเจ้าอื่นๆ ที่กำลังมาแรงอย่าง ลูซิด มอเตอร์ส (Lucid Motors) ฟาราเดย์ ฟิวเจอร์ (Faraday Future) หรือ โหย่วเซี่ย มอเตอร์ส (Youxia Motors) ผลประกอบการทางการเงินของ nio เองนี่แหละที่เป็นปัจจัยสำคัญ ถ้าตัวเลขขาดทุนยังเยอะอยู่เรื่อยๆ ตลาดก็อาจจะมองไม่ค่อยดี

แต่ nio ก็มีแต้มต่ออยู่เหมือนกันนะ เขาได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่หลายราย เช่น เลอโนโว (Lenovo) เทนเซ็นต์ (Tencent) เซควอยา (Sequoia) แถมยังร่วมมือกับ เอ็นวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้นำด้านชิปสำหรับรถยนต์อัตโนมัติด้วย เรื่องความร่วมมือและผู้สนับสนุนรายใหญ่เหล่านี้ก็เป็นสัญญาณที่ดี ที่บอกว่ายังมีเงินทุนและพันธมิตรคอยหนุนอยู่
ข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับบริษัทเองก็มีผล เช่น ถ้าบริษัทประกาศขายหุ้นเพิ่มทุนอีกรอบ เพื่อระดมเงินทุนมาใช้จ่าย นักลงทุนก็อาจจะตอบรับในเชิงลบได้ หรือถ้าคู่แข่งอย่าง เทสลา ออกมาประกาศผลประกอบการดีมากๆ อันนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อ nio หุ้น ในแง่การเปรียบเทียบได้เหมือนกัน
สรุปแล้ว nio หุ้น เนี่ยเป็นยังไง? มันเหมือนกับการลงทุนในสตาร์ทอัพยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตแรงมาก เขามีวิสัยทัศน์ มีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ และมีระบบบริการครบวงจรที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายราย แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายเรื่องการทำกำไร และการแข่งขันที่รุนแรงมากๆ ตัวเลขขาดทุนที่เพิ่มขึ้น และการลดลงของเงินสดก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
สำหรับใครที่สนใจ nio หุ้น หรือหุ้นในลักษณะนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่านี่เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง “สูง” ครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นการเทรดด้วยเครื่องมือที่มีอัตราทด (Leverage) อย่าง CFD ซึ่งข้อมูลบอกชัดเจนว่านักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ขาดทุนจากการเทรด CFD นะครับ ข้อมูลที่เราคุยกันวันนี้เป็นแค่ภาพรวม ไม่ใช่คำแนะนำให้ซื้อหรือขายหุ้น nio หรือหุ้นตัวไหนทั้งสิ้น
ถ้าคุณกำลังคิดจะลงทุนใน nio หุ้น หรือหุ้นตัวอื่นๆ ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แนะนำให้ “ทำการบ้าน” ด้วยตัวเองเยอะๆ ศึกษาข้อมูลทางการเงินให้ลึกกว่านี้ ทำความเข้าใจว่าบริษัทมีแผนจะทำกำไรเมื่อไหร่ และมีความเสี่ยงอะไรอีกบ้างที่ยังไม่ถูกพูดถึง ประเมินความเสี่ยงที่ “คุณ” เองยอมรับได้ อย่าลงทุนตามกระแส หรือตามเพื่อนเด็ดขาด และที่สำคัญคืออย่าใช้เงินที่จำเป็นต้องใช้มาลงทุนในตลาดหุ้นที่ผันผวนสูงแบบนี้ครับ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ