บทนำ: “Bid คืออะไร” — คำเดียวหลายความหมายที่คุณควรรู้

ในยุคที่ข้อมูลไหลเวียนอย่างรวดเร็ว การตีความคำศัพท์ให้ถูกต้องจึงเป็นทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้เข้าใจโลกได้ลึกขึ้น โดยเฉพาะคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่แทรกตัวเข้ามาในบริบทภาษาไทยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หนึ่งในคำที่มักถูกใช้ซ้ำแต่กลับมีความหมายหลากหลายจนหลายคนอาจสับสนก็คือคำว่า “bid” หากฟังผ่าน ๆ อาจดูเหมือนแค่คำธรรมดาที่เกี่ยวกับการเสนอราคา แต่แท้จริงแล้ว ความหมายของ “bid คือ” สิ่งที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่มันถูกใช้ ไม่ว่าจะเป็นในห้องประชุมบริษัท หน้าจอเทรดหุ้น แผงยาในร้านขายยา หรือแม้แต่แดชบอร์ดโฆษณาออนไลน์ การเข้าใจความหมายของ “bid” ในแต่ละแวดวง จึงไม่ใช่แค่เรื่องของคำศัพท์ แต่คือกุญแจสำคัญสู่การสื่อสารและการตัดสินใจที่แม่นยำ
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของคำว่า “bid” ตั้งแต่ความหมายพื้นฐาน ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในบริบทเฉพาะทางอย่างละเอียด เรียบเรียงใหม่ด้วยมุมมองที่เป็นธรรมชาติ อ่านง่าย และเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมตัวอย่างจริง คำแนะนำใช้งานจริง และข้อมูลที่อัปเดตเพื่อให้คุณสามารถใช้ความรู้นี้ได้ทันทีในชีวิตและการทำงาน
1. Bid ในความหมายทั่วไป: พื้นฐานคำศัพท์ที่คุณต้องเข้าใจ
1.1 ความหมายดั้งเดิม: การเสนอราคาและการประมูล
เมื่อพูดถึงคำว่า “bid” ภาพแรกที่หลายคนนึกขึ้นมา คือฉากการประมูล ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด รถยนต์โบราณ หรือแม้แต่บ้านในรายการทีวี โดยต้นกำเนิดของคำนี้อยู่ที่การเสนอ หรือยื่นราคาเพื่อซื้อสินค้า โดยมีการแข่งขันระหว่างผู้เสนอราคาคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบเศรษฐกิจที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ในภาษาอังกฤษ “bid” สามารถใช้ทั้งในรูปคำกริยาและคำนามได้ ขึ้นอยู่กับบริบท
- คำกริยา (Verb): เมื่อใช้ในเชิงการกระทำ “bid” หมายถึง “เสนอราคา” หรือ “เข้าร่วมการประมูล” เช่น “She bid 50,000 baht for the antique vase.” หรือในเชิงเปรียบเปรย อาจใช้เมื่อบริษัทพยายามชิงโอกาส เช่น “The startup bid to enter the Southeast Asian market.”
- คำนาม (Noun): เมื่อใช้เป็นคำนาม “bid” หมายถึง “ข้อเสนอราคา” หรือ “ความพยายาม” ในการได้มาซึ่งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น “The company’s bid for the government contract was rejected.” หรือในบริบทอื่น “His bid for freedom ended in failure.” ซึ่งแสดงถึงความพยายามที่ไม่เกี่ยวกับเงิน
การแยกความหมายระหว่างบทบาทของคำนี้ช่วยให้เข้าใจบริบทได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมันปรากฏในข่าวหรือเอกสารทางธุรกิจ
1.2 “Bid” ในบริบทอื่นๆ ที่พบได้บ่อย

แม้จะเริ่มต้นจาก “การประมูล” แต่ “bid” ยังแฝงตัวอยู่ในสำนวนและวลีประจำวันที่เราอาจไม่ทันสังเกต เช่น
- “bid farewell”: แปลว่า “กล่าวลา” หรือ “อาลัย” เป็นคำที่ใช้ในทางการ เช่น “They bid farewell to their colleagues after 20 years of service.”
- “bid for a contract”: หมายถึง “เข้าร่วมประมูลสัญญา” หรือ “เสนอราคาเพื่อชิงงานโครงการ” ซึ่งพบบ่อยในวงการก่อสร้าง หรือการจัดซื้อจัดจ้าง
- “do someone’s bidding”: หมายถึง “ทำตามคำสั่งของใครบางคน” มักใช้ในเชิงลบ เช่น “He always does his boss’s bidding without questioning.”
การเข้าใจวลีเหล่านี้ช่วยให้คุณอ่านข่าว ฟังพอดแคสต์ หรืออ่านหนังสือภาษาอังกฤษได้ลึกขึ้น เพราะ “bid” ไม่ได้มีแค่แง่เศรษฐกิจ แต่ยังเชื่อมโยงกับพฤติกรรม แรงจูงใจ และความสัมพันธ์ของมนุษย์
2. Bid ในโลกการเงินและการลงทุน: หัวใจสำคัญของตลาดหลักทรัพย์
2.1 Bid Price คืออะไร? กลไกการซื้อขายหุ้น
เมื่อก้าวเข้าสู่โลกการลงทุน คำว่า “bid” ได้รับความหมายเชิงเทคนิคที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหุ้นและตลาดการเงิน “Bid Price” หรือ “ราคาเสนอซื้อ” คือ ราคาที่นักลงทุนหรือสถาบันการเงินต้องการจ่ายเพื่อซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์ใด ๆ ในขณะนั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ราคาเสนอซื้อสูงสุดที่ยังไม่ได้ถูกจับคู่
ในทางตรงกันข้าม “Offer Price” หรือ “Ask Price” คือราคาที่ผู้ขายต้องการขายหุ้นในขณะนั้น หรือกล่าวง่าย ๆ คือ ราคาเสนอขายต่ำสุดที่ยังไม่มีใครซื้อ
ส่วนต่างระหว่างสองราคาดังกล่าว เรียกว่า “Bid-Offer Spread” หรือ “Bid-Ask Spread” ตัวอย่างเช่น หากหุ้น A แสดง Bid Price ที่ 100 บาท และ Offer Price ที่ 100.50 บาท แปลว่า “สเปรด” คือ 0.50 บาท ซึ่งทั้งนักลงทุนและโบรกเกอร์จะต้องพิจารณาเมื่อตัดสินใจซื้อขาย

ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ระบบการซื้อขายทำงานบนหลักการ “การจับคู่คำสั่ง” กล่าวคือ เมื่อคำสั่งซื้อ (Bid) และคำสั่งขาย (Offer) มีราคาที่ตรงกัน เทรดก็จะเกิดขึ้นทันที หากคุณต้องการซื้อหุ้นเร็ว คุณอาจต้องยอมรับราคาที่เสนอขาย (Offer) ซึ่งสูงกว่าราคา Bid ที่แสดงอยู่
สเปรดที่แคบ มักบ่งชี้ว่าหุ้นมีสภาพคล่องสูง มีผู้ซื้อ-ผู้ขายจำนวนมาก และสามารถซื้อขายได้ทันทีในปริมาณมาก ขณะที่สเปรดที่กว้าง อาจบ่งบอกถึงความไม่สมดุลของอุปสงค์-อุปทาน หรือความไม่แน่นอนในตลาด ซึ่งนักลงทุนมืออาชีพมักจับตาดูเป็นพิเศษ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกการซื้อขายใน SET สามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งให้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับระบบการซื้อขายในประเทศไทย
2.2 ทำไมต้องเข้าใจ Bid-Offer ในการลงทุน?
การเข้าใจ Bid และ Offer ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่มีผลโดยตรงต่อผลตอบแทนและประสิทธิภาพการลงทุน
- การตัดสินใจซื้อขาย: หากคุณส่งคำสั่งซื้อที่ต่ำกว่าราคา Ask คุณอาจต้องรอจนกว่าราคาจะปรับตัวลง หรือมีผู้ขายรายอื่นยอมลดราคา ซึ่งช่วยให้คุณควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น
- ประเมินสภาพคล่อง: หุ้นขนาดใหญ่ เช่น PTTEP หรือ ADVANC มักมีสเปรดแคบ แสดงว่าซื้อขายได้ง่าย แต่หุ้นเล็กบางตัวอาจมีสเปรดกว้าง ทำให้เสี่ยงต่อการได้ราคาที่ไม่เป็นธรรม
- วิเคราะห์อารมณ์ตลาด: หาก Bid Volume หรือปริมาณคำสั่งซื้อสูงมาก อาจแสดงถึงความต้องการหุ้นตัวนั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นสัญญาณก่อนราคาจะขึ้น
ดังนั้น การดู Bid-Offer อย่างต่อเนื่องจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่นักลงทุนสายเทคนิคใช้ควบคู่กับกราฟราคาและปริมาณการซื้อขาย เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์
3. B.I.D. คืออะไร? ความหมายในวงการแพทย์และการใช้ยา
3.1 B.I.D. ย่อมาจากอะไรและหมายถึงอะไร?
ในวงการแพทย์ คำว่า “B.I.D.” ไม่ได้เกี่ยวกับการประมูล แต่เป็นคำย่อสำคัญที่เกี่ยวกับการใช้ยาอย่างถูกต้อง ย่อมาจากภาษาละติน “bis in die” แปลว่า “วันละสองครั้ง” เป็นคำกำหนดความถี่ที่แพทย์ใช้ในใบสั่งยาเพื่อสื่อสารกับผู้ป่วยและเภสัชกรอย่างชัดเจน
แม้จะเขียนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่และมีจุดแยก (B.I.D.) แต่ในทางการแพทย์ ยังมีคำย่ออื่น ๆ ที่ใช้บ่อย เช่น
- Q.D. (quaque die): วันละครั้ง
- T.I.D. (ter in die): วันละสามครั้ง
- Q.I.D. (quater in die): วันละสี่ครั้ง
- P.R.N. (pro re nata): ใช้เมื่อจำเป็น
- A.C. (ante cibum): ก่อนอาหาร
- P.C. (post cibum): หลังอาหาร
การใช้คำย่อเหล่านี้ช่วยลดข้อผิดพลาดในการสื่อสาร และทำให้แพทย์สามารถสั่งยาได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสถานพยาบาลที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก
3.2 ความสำคัญของการเข้าใจ B.I.D. เพื่อการใช้ยาอย่างปลอดภัยในไทย
สำหรับผู้ป่วยชาวไทย การอ่านฉลากยาและเข้าใจคำว่า “B.I.D.” มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการรับประทานยาผิดเวลาหรือผิดความถี่ อาจทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลง หรือแม้แต่เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
โดยทั่วไป การรับประทานยา “B.I.D.” หมายถึงการกินยาห่างกันประมาณ 12 ชั่วโมง เช่น ตอนเช้าหลังอาหารเช้า และตอนเย็นหลังอาหารเย็น เพื่อรักษาความเข้มข้นของยาในเลือดให้คงที่ตลอดวัน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกกรณีที่ควรเว้น 12 ชั่วโมงพอดี เช่น ยาบางชนิดอาจต้องกินช่วงเช้า-บ่าย หรือเช้า-ก่อนนอน ขึ้นอยู่กับลักษณะของยาและโรค
ผู้ป่วยควรสอบถามเภสัชกรหรือแพทย์ทุกครั้งหากมีข้อสงสัย เพราะแม้จะเป็นคำย่อมาตรฐาน แต่บริบทของโรคและผู้ป่วยแต่ละรายอาจต่างกัน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ยาอย่างปลอดภัยสามารถหาได้จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งเปิดให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับประชาชนทั่วไป
4. Bid ในบริบทธุรกิจและการตลาด: กลยุทธ์เพื่อความสำเร็จ
4.1 Bidding Strategy ในการตลาดออนไลน์

ในยุคดิจิทัล “bid” ได้กลายเป็นแกนกลางของกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มอย่าง Google Ads และ Facebook Ads ที่ใช้ระบบ “Real-Time Bidding” (RTB) เพื่อประมูลพื้นที่โฆษณาในแบบเรียลไทม์
“Bidding Strategy” หรือ “กลยุทธ์การเสนอราคา” คือวิธีที่ผู้ลงโฆษณาเลือกกำหนดว่าจะยอมจ่ายเท่าไรเพื่อให้โฆษณาของตนแสดงต่อกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลต่อทั้งต้นทุนและประสิทธิภาพของแคมเปญ
รูปแบบการเสนอราคาที่พบบ่อย ได้แก่:
- CPC (Cost-Per-Click): จ่ายเมื่อมีผู้คลิกโฆษณา เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์
- CPM (Cost-Per-Mille): จ่ายต่อการแสดงโฆษณา 1,000 ครั้ง เหมาะกับการสร้างการรับรู้แบรนด์
- CPA (Cost-Per-Acquisition): จ่ายเมื่อเกิดการกระทำ เช่น การซื้อสินค้าหรือสมัครสมาชิก เป็นกลยุทธ์ที่เน้นผลลัพธ์
- Enhanced CPC: ระบบปรับราคาอัตโนมัติเมื่อคาดว่าจะเกิดการแปลงสภาพ (Conversion)
- Target CPA: ตั้งเป้าหมายต้นทุนต่อการได้ลูกค้าหนึ่งคน แล้วให้ระบบบริหารจัดการการเสนอราคาให้
การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับเป้าหมายแคมเปญ งบประมาณ และข้อมูลการตลาด หากคุณเป็นผู้ประกอบการรายย่อย อาจเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์ CPC ก่อน แล้วค่อยปรับเป็น Smart Bidding เมื่อมีข้อมูลเพียงพอ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่า bidding strategy ใน Google Ads สามารถศึกษาได้จาก Google Ads Help ซึ่งมีคำแนะนำที่ชัดเจนและอัปเดตอยู่เสมอ
4.2 การประมูลและเสนอราคาในธุรกิจทั่วไปของไทย
นอกเหนือจากการตลาดออนไลน์ “bid” ยังคงเป็นคำที่ใช้บ่อยในโลกธุรกิจแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะการยื่นซองประมูลโครงการต่าง ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน ก่อสร้าง หรือการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งมีกระบวนการที่เป็นมาตรฐานและเข้มงวด
ในประเทศไทย การประมูลภาครัฐต้องเปิดเผย และปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดโดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรมบัญชีกลาง เพื่อป้องกันการทุจริต และส่งเสริมความโปร่งใส บริษัทที่ต้องการยื่น “bid” จึงต้องเตรียมเอกสารอย่างละเอียด ทั้งแผนงาน ราคาเสนอ และประวัติการดำเนินงาน
การชนะการประมูลไม่ใช่แค่การเสนอราคาต่ำที่สุด แต่ต้องพิจารณาคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการดำเนินงานด้วย ดังนั้น การวาง “bid” ที่ชาญฉลาด คือการนำเสนอคุณค่าที่เกินกว่าตัวเลข
สรุปและตารางเปรียบเทียบ: “Bid” ในมุมมองเดียว
จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าคำว่า “bid” เป็นคำที่มีชีวิต มีหลายเสียง และเปลี่ยนรูปตามบริบทที่มันถูกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการชูมือในห้องประมูล การดูราคาหุ้นผ่านแอปพลิเคชัน การอ่านฉลากยา หรือการตั้งค่าโฆษณาออนไลน์ “bid” ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ
บริบท (Context) | ความหมาย (Meaning) | คำศัพท์เกี่ยวข้อง (Related Terms) | หน่วยงาน/บุคคลสำคัญ (Key Entities/Persons) | สถานการณ์การใช้งาน (Usage Scenarios) |
---|---|---|---|---|
ทั่วไป | การเสนอราคา, ประมูล, ความพยายาม | เสนอราคา, ประมูล, พยายาม, คำกริยา, คำนาม | ผู้เข้าร่วมประมูล, ผู้ขาย | การประมูลสินค้า, การยื่นข้อเสนอ, การพยายามทำบางสิ่ง |
การเงิน/การลงทุน | ราคาเสนอซื้อสูงสุด (Bid Price) | Offer Price, Ask Price, Bid-Offer Spread, หุ้น, ตลาดหลักทรัพย์, ซื้อ, ขาย | นักลงทุน, โบรกเกอร์, SET | การซื้อขายหุ้น, การวิเคราะห์สภาพคล่องของหลักทรัพย์ |
การแพทย์/การใช้ยา | วันละสองครั้ง (Twice a day) | bis in die, Q.D., T.I.D., Q.I.D., กินยา, วันละ | แพทย์, เภสัชกร, ผู้ป่วย, ยา | คำแนะนำในการรับประทานยาตามใบสั่งแพทย์ |
ธุรกิจ/การตลาด | กลยุทธ์การเสนอราคา (Bidding Strategy) | CPC, CPM, CPA, การตลาดออนไลน์, แคมเปญ, ประมูล, โครงการ | ผู้ลงโฆษณา, บริษัท, Google Ads, Facebook Ads, หน่วยงานภาครัฐ | การกำหนดงบประมาณโฆษณาออนไลน์, การประมูลงานภาครัฐ |
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุน ผู้ป่วย ผู้ประกอบการ หรือพนักงานออฟฟิศ การเข้าใจ “bid” ในแต่ละแง่มุมจะช่วยให้คุณสื่อสารได้ชัดเจนขึ้น ตัดสินใจได้ดีขึ้น และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากความเข้าใจผิด
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Bid Price กับ Offer Price ในตลาดหุ้นไทยต่างกันอย่างไร?
Bid Price คือ ราคาเสนอซื้อสูงสุดที่ผู้ซื้อยินดีจ่าย ส่วน Offer Price (หรือ Ask Price) คือ ราคาเสนอขายต่ำสุดที่ผู้ขายยินดีขายใน ตลาดหลักทรัพย์ไทย ทั้งสองราคานี้เป็นกลไกสำคัญในการจับคู่คำสั่งซื้อขายหุ้น
ถ้าหมอบอกให้กินยา “b.i.d.” หมายถึงต้องกินตอนไหนบ้าง?
ถ้าแพทย์สั่งให้กินยา “b.i.d.” (วันละสองครั้ง) โดยทั่วไปหมายถึงให้รับประทานยาห่างกันประมาณ 12 ชั่วโมง เช่น หลังอาหารเช้าและหลังอาหารเย็น เพื่อรักษาระดับยาในร่างกายให้คงที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรสอบถาม เภสัชกร หรือ แพทย์ เพื่อความชัดเจน
การตั้งค่ากลยุทธ์ Bid ใน Google Ads สำหรับธุรกิจ SME ของไทย ควรเริ่มต้นอย่างไร?
สำหรับธุรกิจ SME ในไทยที่ใช้ Google Ads ควรเริ่มต้นจากการกำหนดเป้าหมาย แคมเปญ ให้ชัดเจน (เช่น ต้องการยอดคลิก, ยอดขาย, หรือการรับรู้แบรนด์) จากนั้นจึงเลือก กลยุทธ์ Bid ที่เหมาะสม โดยอาจเริ่มต้นจากกลยุทธ์ที่เน้นปริมาณคลิกอย่าง CPC หรือใช้ Smart Bidding ที่ระบบปรับอัตโนมัติเพื่อ Conversion หากมีข้อมูลเพียงพอ
“Bid” นอกจากแปลว่าประมูลแล้ว ยังมีความหมายอื่นที่คนไทยเข้าใจผิดบ่อยๆ ไหม?
ใช่ครับ นอกจากความหมายว่า ‘ประมูล’ แล้ว คนไทยอาจสับสนกับความหมายในบริบททางการแพทย์ (b.i.d. ที่แปลว่า วันละสองครั้ง) หรือในบริบทการลงทุน (Bid Price ที่แปลว่า ราคาเสนอซื้อสูงสุด) ซึ่งมีความหมายเฉพาะเจาะจงและแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ทำไมบางครั้งราคา Bid-Offer ในหุ้นไทยถึงกว้างมาก?
ราคา Bid-Offer ที่กว้างมากใน ตลาดหุ้นไทย มักเกิดขึ้นกับหุ้นที่มี สภาพคล่อง ต่ำ หรือมีปริมาณการซื้อขายที่น้อย ซึ่งหมายความว่ามีผู้ซื้อและผู้ขายน้อยราย ทำให้ราคาเสนอซื้อและเสนอขายอยู่ห่างกันมาก การซื้อขายหุ้นเหล่านี้อาจทำได้ยากและมีผลต่อราคาที่นักลงทุนจะได้รับ
ถ้าเจอคำว่า “bid for a project” ในเอกสารธุรกิจไทย ควรแปลว่าอะไร?
ในเอกสารธุรกิจไทย “bid for a project” ควรแปลว่า “การเสนอราคาเพื่อชิง โครงการ” หรือ “การยื่นประมูล โครงการ” ซึ่งหมายถึงการที่ บริษัท หนึ่งเสนอแผนงานและราคาเพื่อแข่งขันให้ได้ สัญญา หรือ โครงการ นั้นๆ
มีคำย่อทางการแพทย์อื่นๆ ที่คนไข้ไทยควรรู้คล้ายกับ B.I.D. อีกไหม?
มีครับ นอกจาก B.I.D. แล้ว คำย่อที่ผู้ป่วยไทยควรรู้เพื่อความปลอดภัยในการ กินยา ได้แก่:
- Q.D. (วันละครั้ง)
- T.I.D. (วันละสามครั้ง)
- Q.I.D. (วันละสี่ครั้ง)
- P.R.N. (เมื่อจำเป็น)
- A.C. (ก่อนอาหาร)
- P.C. (หลังอาหาร)
ควรสอบถาม เภสัชกร หรือ แพทย์ หากไม่แน่ใจ
การใช้ “bid” ในประโยคภาษาอังกฤษที่คนไทยมักสับสนคืออะไร?
คนไทยมักสับสนระหว่างการใช้ “bid” ในความหมายทั่วไปกับการใช้ในบริบทเฉพาะ เช่น การใช้ “bid” เป็นคำนามที่หมายถึง ‘ความพยายาม’ (e.g., a bid for freedom) ซึ่งอาจไม่คุ้นเคยเท่าการใช้ในความหมาย ‘เสนอราคา’ หรือ ‘ประมูล’ และการผันรูปอดีตที่อาจจะเป็น “bid” หรือ “bade” ก็ทำให้สับสนได้
ในกรณีที่เราต้องการประมูลสินค้าออนไลน์ในไทย “bid” มีความหมายอย่างไร?
ในการประมูลสินค้าออนไลน์ในไทย “bid” มีความหมายตรงตัวว่า “การเสนอราคา” หรือ “การให้ราคา” เพื่อแข่งขันกับผู้เข้าร่วมประมูลรายอื่น เพื่อให้ได้สินค้าที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีฟังก์ชันการประมูล ผู้ใช้งานจะ “bid” หรือเสนอราคาเพื่อชนะการประมูลสินค้าชิ้นนั้น
การทำความเข้าใจ Bid ในแต่ละบริบท มีประโยชน์อย่างไรต่อชีวิตประจำวันของคนไทย?
การเข้าใจ “bid” ในแต่ละบริบทมีประโยชน์อย่างมากต่อชีวิตประจำวันของคนไทย เช่น ช่วยให้เข้าใจข้อมูลข่าวสารทางเศรษฐกิจและการลงทุนได้ดีขึ้น, สามารถใช้ยาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยตามคำแนะนำของ แพทย์, และสำหรับผู้ประกอบการก็สามารถวาง กลยุทธ์ทางธุรกิจ และ การตลาดออนไลน์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น