บทนำ: ทำไม Spread ต่ำจึงสำคัญต่อนักเทรด Forex ในปี 2025?

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือ Forex ยังคงเป็นหนึ่งในตลาดการเงินที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดและเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนทั่วโลก การทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนนั้นดูน่าสนใจ แต่สิ่งหนึ่งที่มีผลโดยตรงต่อผลตอบแทนก็คือ “สเปรด” หรือส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อ (Bid) และเสนอขาย (Ask) ซึ่งเปรียบเสมือนค่าธรรมเนียมแฝงในการเริ่มต้นธุรกรรมแต่ละครั้ง โดยเฉพาะในปี 2025 ที่ทั้งความผันผวนของตลาดและระดับการแข่งขันสูงขึ้นอย่างมาก การเลือกใช้โบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำจึงไม่ใช่แค่เรื่องของต้นทุน แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความได้เปรียบในการเทรด ยิ่งใครที่ใช้กลยุทธ์ระยะสั้น เช่น Scalping หรือ Day Trading ที่ต้องเปิด-ปิดออร์เดอร์หลายครั้งต่อวัน การประหยัดแต่ละพิพก็ยิ่งสะสมเป็นผลกำไรที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม การมองหาโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่เปรียบเทียบตัวเลขสเปรดเพียงอย่างเดียว หลายคนอาจตกหลุมพรางเมื่อเห็น “สเปรด 0” แต่กลับต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นสูง หรือเผชิญกับความล่าช้าในการดำเนินคำสั่ง ความจริงก็คือ ความคุ้มค่าที่แท้จริงเกิดจากการมองภาพรวม ทั้งเรื่องต้นทุน ความเร็ว ความปลอดภัย แพลตฟอร์มที่ใช้ และการสนับสนุนลูกค้า บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุม เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ชาวไทยเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ไม่เพียงแค่ให้สเปรดต่ำ แต่ยังมอบประสบการณ์การเทรดที่ราบรื่นและน่าเชื่อถือในปี 2025
เกณฑ์สำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ Forex Spread ต่ำและคุ้มค่าสำหรับเทรดเดอร์ไทย
Spread และค่าคอมมิชชั่น: ความสัมพันธ์ที่ไม่ควรมองข้าม
เมื่อพูดถึงต้นทุนในการเทรด สเปรดคือสิ่งแรกที่หลายคนสังเกต แต่สิ่งที่ตามมาคือค่าคอมมิชชั่น ซึ่งมักถูกมองข้าม โบรกเกอร์หลายรายแบ่งบัญชีออกเป็นสองประเภทหลัก: บัญชี Standard ที่รวมต้นทุนไว้ในสเปรด โดยไม่คิดค่าคอมมิชชั่นเพิ่ม และบัญชี ECN หรือ Raw Spread ที่เปิดเผยสเปรดใกล้เคียงศูนย์ แต่หักค่าคอมมิชชั่นต่อล็อต ซึ่งอาจดูดีในทางทฤษฎี แต่ถ้าคุณเทรดบ่อย ค่าคอมมิชชั่นสะสมก็อาจสูงกว่าการใช้บัญชี Standard ที่มีสเปรดต่ำปานกลาง ดังนั้น สิ่งสำคัญคือคำนวณต้นทุนรวมต่อออร์เดอร์ (สเปรด + ค่าคอมมิชชั่น) แล้วเทียบกับสไตล์การเทรดของคุณ หากคุณเปิดคำสั่งหลายครั้งต่อวัน การเลือกบัญชีที่มีสเปรดต่ำและค่าคอมมิชชั่นต่ำจริง ๆ จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในระยะยาว แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับ Spread
ความเร็วในการดำเนินการและ Slippage
แม้สเปรดจะต่ำแค่ไหน หากคำสั่งของคุณถูกดำเนินการช้า หรือเกิด Slippage บ่อย คุณก็อาจเสียโอกาสและสูญเสียผลกำไรไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนจากการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ หรือเหตุการณ์ระดับโลก โบรกเกอร์ที่มีโครงสร้างการเชื่อมต่อ (Execution Infrastructure) ที่ทันสมัย พร้อมระบบ Direct Market Access (DMA) จะช่วยลดความล่าช้าและควบคุม Slippage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่เทรดเดอร์ระยะสั้นไม่ควรมองข้าม เพราะความเร็วในวินาทีเดียวอาจเปลี่ยนผลลัพธ์ของการเทรดทั้งวัน
แพลตฟอร์มการเทรดและเครื่องมือวิเคราะห์
แพลตฟอร์มการเทรดคือเครื่องมือหลักที่เทรดเดอร์ใช้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) หรือ cTrader ต่างมีจุดแข็งเฉพาะตัว เช่น MT4 เหมาะกับการใช้ EA และอินดิเคเตอร์ ส่วน MT5 เสนอข้อมูลเพิ่มเติมและรองรับสัญลักษณ์มากกว่า ความเสถียร การออกแบบที่ใช้งานง่าย และฟีเจอร์การวิเคราะห์เชิงเทคนิคที่ครบครัน จึงเป็นสิ่งจำเป็น ยิ่งไปกว่านั้น แอปพลิเคชันมือถือและ WebTrader ที่ตอบสนองรวดเร็วจะช่วยให้คุณติดตามตลาดได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
การกำกับดูแลและความปลอดภัยของเงินทุน
ความปลอดภัยของเงินทุนควรเป็นหัวข้อที่พิจารณาเป็นอันดับต้นๆ โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำระดับโลก เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), ASIC (ออสเตรเลีย), หรือ CySEC (ไซปรัส) ซึ่งมีมาตรการควบคุมเข้มงวด โดยเฉพาะในเรื่องการแยกบัญชีลูกค้า (Segregated Accounts) เพื่อป้องกันไม่ให้เงินของลูกค้าถูกนำไปใช้ในกิจการของบริษัท และมีกลไกคุ้มครองในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย การเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานเหล่านี้ จึงเป็นการลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น ตรวจสอบข้อมูลการกำกับดูแลจาก ASIC
การสนับสนุนลูกค้าและบริการภาษาไทย
สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย การได้รับความช่วยเหลือในภาษาที่เข้าใจได้ทันทีมีความหมายมาก โดยเฉพาะเมื่อเกิดปัญหาด้านการฝาก-ถอน หรือการตั้งค่าบัญชี การมีทีมสนับสนุนที่พูดภาษาไทยได้คล่อง หรือมีเจ้าหน้าที่เฉพาะทางสำหรับภูมิภาคเอเชีย จะช่วยให้การสื่อสารรวดเร็วและลดความสับสน ช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย เช่น Live Chat, อีเมล และโทรศัพท์ ควรให้บริการในช่วงเวลาที่ตลาดเอเชียและยุโรปเปิด เพื่อให้คุณได้รับความช่วยเหลือทันทีเมื่อต้องการ
ตัวเลือกการฝาก-ถอนเงินที่สะดวกสำหรับคนไทย
ความสะดวกในการทำธุรกรรมการเงินมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานโดยรวมอย่างมาก โบรกเกอร์ที่เหมาะกับนักลงทุนไทยควรมีช่องทางการเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโอนผ่านธนาคารในประเทศไทย, PromptPay, หรือ e-Wallet ยอดนิยมอย่าง TrueMoney Wallet และ Rabbit LINE Pay การทำธุรกรรมที่รวดเร็ว ไม่มีค่าธรรมเนียม หรือมีวงเงินต่ำ จะช่วยให้คุณเข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น และบริหารเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จัดอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ Spread ต่ำและคุ้มค่าที่สุดในประเทศไทยปี 2025
จากเกณฑ์ทั้งหมดที่กล่าวมา นี่คือรายชื่อโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่โดดเด่นที่สุดในด้านสเปรดต่ำและมอบคุณค่าโดยรวมให้กับเทรดเดอร์ชาวไทยในปี 2025
อันดับ | โบรกเกอร์ | จุดเด่นด้าน Spread | การกำกับดูแล | แพลตฟอร์ม | ความคุ้มค่าสำหรับเทรดเดอร์ไทย |
---|---|---|---|---|---|
1 | Moneta Markets | สเปรดต่ำมากในบัญชี Raw Spread (ECN), ไม่มีค่าคอมมิชชั่นในบัญชี Standard | FCA (สหราชอาณาจักร) | MT4, MT5, WebTrader, App | ความเร็วสูง, สนับสนุนลูกค้าดี, เครื่องมือวิเคราะห์ครบ |
2 | IC Markets | สเปรดต่ำมากในบัญชี Raw Spread | ASIC, CySEC | MT4, MT5, cTrader | ECN แท้, เหมาะกับ Scalping, ความเร็วสูง |
3 | Tickmill | สเปรดและค่าคอมมิชชั่นต่ำ, เหมาะสำหรับ Scalping | FCA, CySEC | MT4, MT5 | ต้นทุนการเทรดต่ำ, ตัวเลือกบัญชีหลากหลาย |
4 | Exness | สเปรดต่ำในหลายบัญชี, เลเวอเรจสูง | CySEC, FSA | MT4, MT5, Exness Terminal | รองรับการฝาก-ถอนเงินไทย, บัญชีหลากหลาย |
5 | FP Markets | สเปรดต่ำในบัญชี Raw, CFD หลากหลาย | ASIC, CySEC | MT4, MT5, WebTrader | เครื่องมือการเทรดเยอะ, ความเร็วในการดำเนินการดี |
Moneta Markets: เจาะลึกโบรกเกอร์ที่ตอบโจทย์เทรดเดอร์ไทยในปี 2025
Moneta Markets คือหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่เทรดเดอร์ชาวไทย ด้วยจุดแข็งที่ครอบคลุมทุกมิติที่นักเทรดต้องการ ตั้งแต่สเปรดที่แข่งขันได้ แพลตฟอร์มที่ทันสมัย ไปจนถึงการกำกับดูแลระดับโลก ทำให้เป็นตัวเลือกที่ “คุ้มค่า” อย่างแท้จริงในปี 2025
Spread ที่แข่งขันได้และความโปร่งใส
Moneta Markets เสนอบัญชี Raw Spread ที่มีสเปรดเริ่มต้นต่ำมาก บางครั้งใกล้เคียง 0 pip สำหรับคู่สกุลเงินหลักอย่าง EUR/USD และ GBP/USD โดยมีค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้และเปิดเผยอย่างชัดเจน สำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบง่าย บัญชี Standard ก็ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น และยังคงมีสเปรดที่ต่ำในระดับที่น่าประทับใจ การมีตัวเลือกที่หลากหลายช่วยให้นักเทรดสามารถปรับใช้ให้เหมาะกับกลยุทธ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดระยะสั้นหรือระยะยาว
แพลตฟอร์มการเทรดที่ทันสมัยและเสถียร
Moneta Markets รองรับทั้ง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่นักเทรดส่วนใหญ่เลือกใช้ ด้วยความเสถียร ฟีเจอร์การวิเคราะห์ที่ครบครัน และรองรับการใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันมือถืออย่างราบรื่น ผู้ใช้สามารถติดตามตลาด วางคำสั่ง และบริหารพอร์ตได้จากทุกที่ ระบบการดำเนินคำสั่งที่รวดเร็วช่วยลดโอกาสการเกิด Slippage ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดเคลื่อนไหวรุนแรง
การกำกับดูแลระดับโลกและความน่าเชื่อถือ
ความน่าเชื่อถือของ Moneta Markets มาจากการได้รับการกำกับดูแลจาก Financial Conduct Authority (FCA) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดที่สุดในโลก การอยู่ภายใต้การดูแลของ FCA หมายความว่าโบรกเกอร์ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการเงิน การรายงาน และการคุ้มครองลูกค้าอย่างเคร่งครัด รวมถึงการแยกบัญชีลูกค้าออกจากบัญชีดำเนินงานของบริษัท ทำให้เงินทุนของนักลงทุนได้รับการปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพ
บริการลูกค้าและการสนับสนุนสำหรับเทรดเดอร์ไทย
Moneta Markets มีทีมสนับสนุนลูกค้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือผ่านหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นอีเมล โทรศัพท์ หรือ Live Chat โดยมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษา แม้ขณะนี้จะยังไม่มีทีมสนับสนุนเฉพาะภาษาไทยตลอด 24 ชั่วโมง แต่บริการที่เป็นสากลและการตอบสนองที่รวดเร็ว ทำให้เทรดเดอร์ชาวไทยสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างไม่ติดขัด โดยเฉพาะเมื่อใช้คู่มือและทรัพยากรการเรียนรู้ที่มีให้ในภาษาท้องถิ่น
ข้อเสนอและเครื่องมือพิเศษ
นอกจากความได้เปรียบด้านต้นทุน Moneta Markets ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทรดเดอร์ โดยมีทรัพยากรการเรียนรู้มากมาย เช่น บทวิเคราะห์รายวัน วิดีโอสอนกลยุทธ์ สัมมนาออนไลน์ และเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง ซึ่งเหมาะทั้งสำหรับมือใหม่และนักเทรดระดับกลางถึงสูง ยิ่งไปกว่านั้น โบรกเกอร์ยังมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่ เช่น โบนัสต้อนรับ หรือโปรแกรมแลกคะแนน ซึ่งเพิ่มมูลค่าให้กับการเริ่มต้นเทรด
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการจัดการค่า Spread และการเทรดให้มีกำไร
เลือกช่วงเวลาเทรดที่เหมาะสม
สเปรดมักจะแคบลงในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง เช่น ช่วงเวลาที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กทับซ้อนกัน (ประมาณ 14:00 – 22:00 น. ตามเวลาไทย) ซึ่งเป็นช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุด แนะนำให้เทรดในช่วงนี้เพื่อลดต้นทุน การหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่มีข่าวสำคัญ เช่น NFP หรืออัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ก็ช่วยลดความเสี่ยงจากการถ่างของสเปรดและ Slippage ที่อาจเกิดขึ้นได้
การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ Spread แบบเรียลไทม์
แพลตฟอร์มการเทรดหลายตัวมีฟังก์ชันแสดงค่าสเปรดแบบเรียลไทม์ นักเทรดควรใช้ประโยชน์จากเครื่องมือนี้ในการสังเกตแนวโน้มของสเปรด และตัดสินใจเปิดคำสั่งเมื่อสเปรดอยู่ในระดับที่เหมาะสม บางครั้งสเปรดอาจแคบลงเพียงไม่กี่วินาที แต่ก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนผลลัพธ์ของการเทรดให้ดีขึ้น
ทำความเข้าใจค่า Slippage และ Requotes
Slippage เกิดขึ้นเมื่อคำสั่งของคุณถูกดำเนินการที่ราคาที่ต่างจากที่คุณตั้งไว้ โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวน ส่วน Requotes คือเมื่อโบรกเกอร์เสนอราคาใหม่เพราะราคาเดิมหมดอายุไปแล้ว โบรกเกอร์ที่มีระบบการดำเนินการเร็วและเชื่อมต่อกับผู้ให้สภาพคล่องโดยตรง จะช่วยลดปรากฏการณ์เหล่านี้ได้ ซึ่งเป็น “ต้นทุนแฝง” ที่เทรดเดอร์ต้องระมัดระวัง ติดตามข่าวสารตลาดเงินตราต่างประเทศ
สรุป: เลือกโบรกเกอร์ Spread ต่ำและคุ้มค่า เพื่อการเทรดที่ยั่งยืนในปี 2025
การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ในปี 2025 ไม่ควรตัดสินจากเพียงแค่ตัวเลขสเปรดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ตั้งแต่โครงสร้างต้นทุน ความเร็วในการดำเนินคำสั่ง ความปลอดภัยของเงินทุน แพลตฟอร์มที่ใช้งาน และการสนับสนุนลูกค้า ทุกองค์ประกอบล้วนส่งผลต่อความสำเร็จในระยะยาว
Moneta Markets โดดเด่นด้วยสเปรดที่ต่ำ แพลตฟอร์มที่เสถียร การกำกับดูแลจาก FCA ที่เข้มงวด และการให้บริการที่คำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้ ทำให้เป็นตัวเลือกชั้นนำสำหรับนักเทรดชาวไทยที่ต้องการความคุ้มค่าและความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการทดลองใช้บัญชีเดโมเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริง ก่อนตัดสินใจฝากเงินจริง เพื่อให้มั่นใจว่าโบรกเกอร์นั้นตอบโจทย์สไตล์และเป้าหมายการเทรดของคุณอย่างแท้จริง
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มี Spread ต่ำและคุ้มค่าในประเทศไทยปี 2025 คือเจ้าไหน?
จากการวิเคราะห์ของเรา Moneta Markets เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มี Spread ต่ำและคุ้มค่าในประเทศไทยปี 2025 ด้วยบัญชี Raw Spread ที่แข่งขันได้, แพลตฟอร์มที่เสถียร, และการกำกับดูแลที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังมีโบรกเกอร์อื่น ๆ เช่น IC Markets และ Tickmill ที่นำเสนอ Spread ต่ำเช่นกัน
Spread ต่ำหมายถึงอะไร และสำคัญอย่างไรต่อการเทรด?
Spread ต่ำหมายถึงส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ที่แคบลง ซึ่งหมายถึงต้นทุนการเทรดที่ลดลง ยิ่ง Spread ต่ำเท่าไหร่ เทรดเดอร์ก็จะยิ่งเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงในการเปิดและปิดคำสั่งซื้อขาย ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดระยะสั้นหรือผู้ที่เทรดบ่อยครั้ง เนื่องจากช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
โบรกเกอร์ที่มี Spread 0 (Zero Spread) เชื่อถือได้จริงหรือไม่?
โบรกเกอร์ที่โฆษณา Spread 0 มักจะคิดค่าคอมมิชชั่นแยกต่างหาก หรือมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ต้องพิจารณา เช่น Spread 0 อาจมีให้เฉพาะคู่สกุลเงินหลักบางคู่ หรือเฉพาะในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง สิ่งสำคัญคือต้องอ่านเงื่อนไขอย่างละเอียดและคำนวณต้นทุนรวม (Spread + Commission) เพื่อพิจารณาความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือ
นอกจาก Spread แล้ว ควรพิจารณาอะไรอีกในการเลือกโบรกเกอร์?
นอกจาก Spread แล้ว ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญอื่นๆ เช่น ค่าคอมมิชชั่น, ความเร็วในการดำเนินการคำสั่ง (Slippage), ความเสถียรของแพลตฟอร์ม (MT4/MT5), การกำกับดูแลจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียง (เช่น ASIC), การสนับสนุนลูกค้าภาษาไทย, และช่องทางการฝาก-ถอนเงินที่สะดวกสำหรับประเทศไทย
ค่าสเปรดทองคำ (Gold Spread) ของแต่ละโบรกเกอร์แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน?
ค่าสเปรดทองคำ (XAU/USD) มีความผันผวนสูงและแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละโบรกเกอร์ ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องและนโยบายของโบรกเกอร์นั้นๆ โบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูงมักจะเสนอ Spread ทองคำที่แคบกว่า อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรตรวจสอบ Spread ทองคำแบบเรียลไทม์จากบัญชีทดลองหรือเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ที่สนใจ
Moneta Markets มีข้อดีอะไรบ้างสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการ Spread ต่ำ?
สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการ Spread ต่ำ Moneta Markets มีข้อดีคือ บัญชี Raw Spread ที่เสนอ Spread ใกล้ 0 pip สำหรับคู่สกุลเงินหลักบางคู่พร้อมค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการที่รวดเร็ว ช่วยลด Slippage และแพลตฟอร์ม MT4/MT5 ที่เสถียร ทำให้การเทรดด้วย Spread ต่ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ในประเทศไทยต้องมีใบอนุญาตอะไรบ้าง?
ในปัจจุบันยังไม่มีใบอนุญาตสำหรับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ออกโดยหน่วยงานของประเทศไทยโดยตรง นักเทรดชาวไทยจึงนิยมเลือกใช้โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียงและเข้มงวด เช่น ASIC (ออสเตรเลีย), FCA (สหราชอาณาจักร), หรือ CySEC (ไซปรัส) ซึ่งเป็นหลักประกันความปลอดภัยของเงินทุน
ควรใช้บัญชีประเภทไหนเพื่อรับ Spread ที่ดีที่สุด?
โดยทั่วไปแล้ว บัญชีประเภท ECN หรือ Raw Spread มักจะเสนอ Spread ที่ต่ำที่สุด เนื่องจากเป็นการส่งคำสั่งโดยตรงไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Providers) โดยมีการคิดค่าคอมมิชชั่นแยกต่างหาก ในขณะที่บัญชี Standard หรือ STP มักจะมี Spread ที่สูงกว่าเล็กน้อยแต่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม การเลือกขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและปริมาณการเทรดของคุณ