2025 คู่มือ SWIFT Code ธนาคารไทย: ค้นหา รหัสธนาคาร การโอนเงินระหว่างประเทศ และวิธีประหยัดค่าธรรมเนียม

ในยุคโลกาภิวัตน์ที่การเคลื่อนย้ายของเงินทุนไม่ต้องหยุดอยู่แค่ชายแดน การโอนเงินข้ามประเทศกลายเป็นกิจกรรมประจำวันของหลายคน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยที่ส่งเงินกลับบ้าน ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจกับต่างประเทศ หรือบุคคลที่ลงทุนในสินทรัพย์ต่างชาติ ทุกการส่งเงินเหล่านี้ต้องอาศัยกลไกหลักอย่าง SWIFT Code เพื่อให้มั่นใจว่าเงินจะไปถึงปลายทางอย่างถูกต้องและปลอดภัย
นี่คือคู่มืออัปเดตปี 2025 ที่รวบรวมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ SWIFT Code ของธนาคารในประเทศไทยอย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีอ่านโครงสร้าง แหล่งค้นหา ตัวอย่างของธนาคารชั้นนำ ไปจนถึงกลยุทธ์การลดค่าธรรมเนียม และคำแนะนำเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติ การทำความเข้าใจระบบโอนเงินระหว่างประเทศจะช่วยให้คุณจัดการธุรกรรมได้อย่างมั่นใจ สอดคล้องกับมาตรฐานโลก และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
SWIFT Code คืออะไร ทำไมถึงจำเป็นต้องใช้?
SWIFT Code หรือที่บางครั้งเรียกว่า BIC (Business Identifier Code) คือรหัสเฉพาะที่ใช้ระบุธนาคารหรือสถาบันการเงินทั่วโลก มันเหมือนหมายเลขประจำตัวของธนาคารในระบบการเงินสากล ถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์กร Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication ซึ่งก่อตั้งในปี 1973 เพื่อจัดตั้งเครือข่ายการสื่อสารที่ปลอดภัยสำหรับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
จุดประสงค์หลักของ SWIFT ไม่ใช่การส่ง “เงิน” โดยตรง แต่เป็นการส่ง “ข้อความ” ที่มีความหมายชัดเจน เช่น คำสั่งโอนเงิน จากธนาคารหนึ่งไปยังอีกธนาคารหนึ่ง ด้วยความแม่นยำ ปลอดภัย และลดข้อผิดพลาดจากการสื่อสารที่ไม่เป็นมาตรฐาน ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการโอนเงินระหว่างประเทศ ระบบจะต้องรู้ว่า “ธนาคารปลายทาง” คือที่ไหน ซึ่ง SWIFT Code ก็ทำหน้าที่นั้น
ถอดรหัสโครงสร้าง SWIFT Code: รู้จักแต่ละส่วนของรหัส
SWIFT Code ประกอบด้วยอักขระ (ตัวอักษรและตัวเลข) 8 หรือ 11 ตัว โดยแต่ละชุดมีความหมายเฉพาะเจาะจง ซึ่งช่วยให้ระบุธนาคารได้แม่นยำ down to the city level หรือแม้แต่สาขา
- 4 ตัวแรก: รหัสธนาคาร (Bank Code) – เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษขนาดสูง (Upper-case) ที่บ่งบอกถึงชื่อธนาคาร ปกติจะมาจากชื่อเต็มของธนาคาร เช่น “KASIKORNBANK” กลายเป็น KASI
- 2 ตัวถัดไป: รหัสประเทศ (Country Code) – ใช้ตามมาตรฐาน ISO ซึ่งสำหรับประเทศไทยคือ TH โดยเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้ในเว็บไซต์หรือระบบสากล
- 2 ตัวถัดไป: รหัสตำแหน่ง (Location Code) – บ่งบอกถึงเมืองหรือสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ โดยสามารถเป็นทั้งตัวอักษรและตัวเลข เช่น BK สำหรับกรุงเทพฯ หรือ SI สำหรับสระบุรี
- 3 ตัวสุดท้าย: รหัสสาขา (Branch Code) – ส่วนนี้เป็นตัวเลือก หากไม่มีการระบุ จะใช้ XXX แทน หมายถึง สำนักงานใหญ่ (Head Office) หากมีการระบุสาขาเฉพาะ จะเป็นรหัสเฉพาะ เช่น K02 (สาขาท่าพระ)
ตัวอย่าง: AYUDTHBKXXX
- AYUD: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- TH: ประเทศไทย
- BK: กรุงเทพมหานคร
- XXX: สำนักงานใหญ่
รู้โครงสร้างนี้จะช่วยให้คุณตรวจสอบรหัสได้ง่ายขึ้น และลดโอกาสผิดพลาด
ตาราง SWIFT Code ธนาคารไทยยอดนิยม (อัปเดตปี 2025)

การมี SWIFT Code ที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญของการโอนเงินที่สำเร็จ ด้านล่างนี้คือรายชื่อธนาคารชั้นนำในประเทศไทยพร้อม SWIFT Code หลัก (สำนักงานใหญ่) ข้อมูลติดต่อ และเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เพื่อใช้อ้างอิง
ธนาคาร (ไทย) | ธนาคาร (อังกฤษ) | SWIFT Code (สำนักงานใหญ่) | ที่อยู่สำนักงานใหญ่ | เว็บไซต์ | เบอร์โทรศัพท์ (บริการลูกค้า) |
---|---|---|---|---|---|
ธนาคารกรุงเทพ | Bangkok Bank Public Company Limited | BKKBTHBKXXX | 333 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 | www.bangkokbank.com | +66 2 645 5555 |
ธนาคารกรุงไทย | Krungthai Bank Public Company Limited | KRTHTHBKXXX | 35 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 | www.ktb.co.th | 0-2111-1111 |
ธนาคารกสิกรไทย | Kasikornbank Public Company Limited | KASITHBKXXX | 400/22 อาคารพหลโยธิน ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 | www.kasikornbank.com | +66 2 888 8888 |
ธนาคารไทยพาณิชย์ | Siam Commercial Bank Public Company Limited | SICOTHBKXXX | 9 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 | www.scb.co.th | 0 2777 7777 |
ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต | TMBThanachart Bank Public Company Limited | TMBKTHBKXXX | 3000 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 | www.ttbbank.com | 1428 |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | Bank of Ayudhya Public Company Limited | AYUDTHBKXXX | 1222 ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 | www.krungsri.com | 1572 หรือ +66-2296-2000 #1 |
ธนาคารออมสิน | Government Savings Bank | GSBATHBKXXX | 470 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 | www.gsb.or.th | +66 2 299 8000 |
ธนาคารยูโอบี | United Overseas Bank (Thai) Public Company Limited | UOVBTHBKXXX | 690 อาคารยูโอบี พลาซา ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 | www.uob.co.th | +66 2 285 1555 |
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย | CIMB Thai Bank Public Company Limited | UBOBTHBKXXX | 44 อาคารหลังสวน ถนนหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 | www.cimbthai.com | 0 2626 7777 |
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร | Kiatnakin Phatra Bank Public Company Limited | KKPBTHBKXXX | 209 อาคารเคเคพี ทาวเวอร์ ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 | www.kkpfg.com | +66 2 165 5555 |
ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย | Thai Credit Retail Bank Public Company Limited | THCETHB2XXX | ชั้น 1, 123 อาคารไทยประกันชีวิต ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 | www.thaicreditbank.com | +66(0) 2697 5454 |
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ | Land and Houses Bank Public Company Limited | LAHRTHB2XXX | 1 อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 | www.lhbank.co.th | 1327 |
ธนาคารไอซีบีซี ไทย | Industrial and Commercial Bank of China (Thai) Public Company Limited | ICBKTHBKXXX | ชั้น 11-13, 622 อาคารเอ็มโพเรียม ทาวเวอร์ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 | www.icbcthai.com | 0 2629 5588 |
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย | Islamic Bank of Thailand | TIBTTHBKXXX | 66 อาคารคิวเฮ้าส์ เอ็ม ชั้น 21-22 ถนนสุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 | www.ibank.co.th | 0-2650-6999 |
ธนาคารซิตี้แบงก์ | Citibank N.A. | CITITHBXXXX | 399 อาคารอินเตอร์เชนจ์ 21 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 | www.citibank.co.th | 1588 |
หมายเหตุ: รหัสของแต่ละสาขาอาจแตกต่างกัน หากคุณต้องโอนไปยังสาขาเฉพาะ ควรสอบถามจากธนาคารเป้าหมายโดยตรง
ค้นหา SWIFT Code ได้จากที่ไหนบ้าง?
ไม่จำเป็นต้องกังวลหากไม่ทราบรหัสของตนเองหรือผู้รับ มีหลายช่องทางที่คุณสามารถตรวจสอบได้อย่างเชื่อถือได้ดังนี้:
- เว็บไซต์ธนาคาร: ส่วนใหญ่ธนาคารจะมีหน้า “การโอนเงินต่างประเทศ” หรือ “คำถามที่พบบ่อย” ที่เปิดเผยรหัสนี้อย่างเปิดเผย
- เอกสารของธนาคาร: สมุดบัญชี ใบแจ้งยอด หรือเอกสารการเปิดบัญชีบางครั้งระบุ SWIFT Code ไว้
- แอปพลิเคชันมือถือธนาคาร (Mobile Banking): หากคุณเคยโอนเงินระหว่างประเทศผ่านแอป ข้อมูลนี้มักจะปรากฏในประวัติการทำรายการหรือข้อมูลบัญชีของคุณ
- โทรสอบถาม: เมื่อไม่มั่นใจ ให้ติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของธนาคารโดยตรง หรือไปที่สาขาเพื่อขอข้อมูลอย่างเป็นทางการ
ใช้ SWIFT Code เมื่อไร? สถานการณ์ทั่วไปที่ต้องใช้
คุณจำเป็นต้องมี SWIFT Code ทุกครั้งที่เกี่ยวข้องกับการส่งหรือรับเงินจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ:
- รับเงินจากต่างประเทศ: เมื่อมีคนในต่างประเทศ (เพื่อน ครอบครัว หรือบริษัท) ต้องการโอนเงินให้คุณ พวกเขาจะต้องให้ธนาคารของตนระบุ SWIFT Code ของธนาคารที่คุณมีบัญชี เพื่อให้เงินไหลเข้าระบบไทยอย่างถูกต้อง
- ส่งเงินไปต่างประเทศ: ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทางการศึกษา อสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุน คุณต้องระบุ SWIFT Code ของธนาคารผู้รับ
- ถอนเงินจากแพลตฟอร์มต่างประเทศ: หากคุณใช้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ, ฟอเร็กซ์ หรือแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ (เช่น Upwork, Fiverr) การถอนเงินเข้าบัญชีไทย มักต้องกรอก SWIFT Code และเลขบัญชี
ขั้นตอนการโอนเงินผ่าน SWIFT Code:
- เตรียมข้อมูลผู้รับ: ชื่อ-นามสกุลผู้รับ (ต้องตรงกับบัญชี), เลขที่บัญชี, ชื่อธนาคาร, ที่อยู่ธนาคาร, และ SWIFT Code
- เลือกช่องทาง: ทำผ่านสาขา, Internet Banking, หรือ Mobile Banking
- กรอกข้อมูล: กรอกทุกอย่างอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะ SWIFT Code และเลขบัญชี
- ยืนยันและชำระค่าธรรมเนียม: ตรวจสอบข้อมูลซ้ำสองทั้งก่อนและหลังกดยืนยัน
- เก็บใบแจ้งการโอน: ทุกธนาคารจะให้หมายเลข reference หรือเอกสารการโอน ให้เก็บไว้เพื่อติดตามหรืออ้างอิง
ค่าใช้จ่าย เวลา และสิ่งที่ต้องรู้ก่อนโอน
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม: BEN, SHA, OUR ต่างกันอย่างไร?
ค่าธรรมเนียมการโอนระหว่างประเทศไม่ได้ถูกเรียกจากธนาคารเดียว แต่มักมีหลายส่วน ได้แก่ ธนาคารต้นทาง, ธนาคารตัวกลาง (Intermediary Bank), และธนาคารปลายทาง
- OUR (Originator): ผู้โอนเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ผู้รับได้เงินตามยอดเต็มที่ระบุ แต่ค่าธรรมเนียมรวมมักสูงที่สุด
- SHA (Shared): ค่าธรรมเนียมของธนาคารต้นทาง ผู้โอนจ่าย ส่วนธนาคารปลายทางและตัวกลาง ผู้รับเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าธรรมเนียมกลางๆ
- BEN (Beneficiary): ผู้รับจ่ายค่าธรรมเนียมทุกส่วน ดังนั้นเงินที่เข้าบัญชีจะน้อยกว่ายอดที่ผู้โอนตั้งใจส่งไป
แนะนำ: หากผู้รับยินดี ควรเลือก SHA เพื่อประหยัด แต่หากต้องการให้ผู้รับได้เต็ม ต้องเลือก OUR พร้อมเตรียมยอดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
ค่าธรรมเนียมของธนาคารไทย (ประมาณการ)
ค่าธรรมเนียมการโอนระหว่างประเทศของธนาคารในประเทศไทยโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 250 – 1,250 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน ธนาคาร และช่องทางการโอน
ธนาคาร | ค่าธรรมเนียมการโอน (โดยประมาณ) | ค่าธรรมเนียมปลายทาง (โดยประมาณ) | เคล็ดลับประหยัด |
---|---|---|---|
กรุงเทพ | 250 – 1,000 บาท | 200 – 500 บาท | ใช้ Bualuang iBanking ลดค่าธรรมเนียม |
กรุงไทย | 250 – 1,000 บาท | 200 – 500 บาท | โอนผ่าน Krungthai NEXT มักมีโปรโมชั่น |
กสิกร | 250 – 1,050 บาท | 200 – 500 บาท | K PLUS บางช่วงมีค่าธรรมเนียมต่ำ |
ไทยพาณิชย์ | 250 – 1,250 บาท | 200 – 500 บาท | ใช้ SCB Easy App ราคาแข่งขันได้ดี |
กรุงศรี | 250 – 1,000 บาท | 200 – 500 บาท | มีสิทธิฟรีค่าธรรมเนียมสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม |
ใช้เวลานานแค่ไหนในการโอนเงิน?
โดยเฉลี่ยแล้ว ใช้เวลา 1 ถึง 5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเทศปลายทาง หากเป็นสหรัฐฯ หรือยุโรป อาจเร็วภายใน 1-2 วัน แต่หากเป็นประเทศที่ระบบการคลังยังไม่พัฒนา อาจใช้ถึง 5-7 วัน
- วันหยุดในประเทศไทยหรือประเทศปลายทางจะทำให้การประมวลผลช้าลง
- การโอนผ่านธนาคารกลางหลายขั้นตอน (เช่น ต้องใช้ธนาคารกลางของสหรัฐฯ) จะกินเวลาและมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- ธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงอาจต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
ข้อควรระวังก่อนยืนยันการโอน
- ตรวจสอบ SWIFT Code อย่างน้อย 2 รอบ แม้สะกดผิดหรือสลับตัวอักษรเพียงตัวเดียว เงินอาจส่งไปผิดที่ แก้ไขยุ่งยากและมีค่าใช้จ่าย
- ยืนยันชื่อผู้รับให้ตรงกับบัญชีเป๊ะ ชื่อที่ใช้ในระบบต้องเหมือนกันทุกตัวอักษร
- เก็บหลักฐานการโอนไว้ทุกครั้ง ทั้งใบสลิป หรือหน้าจอการทำรายการ
- สอบถามทั้งค่าธรรมเนียมต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพื่อไม่ให้ผู้รับตกอกตกใจเมื่อเงินเข้ามาไม่เต็ม
ชาวต่างชาติควรรู้: เอกสารที่ต้องมีสำหรับการโอนเงินออก
ตามนโยบายของ ธนาคารแห่งประเทศไทย และกฎหมาย AML (Anti-Money Laundering) ชาวต่างชาติที่โอนเงินออกมากกว่า 50,000 บาท/เดือน มักต้องแสดงเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันที่มาของเงินและวัตถุประสงค์ เช่น:
- หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ และใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
- สำเนาสัญญาเช่าบ้าน หรือใบจดแจ้งที่อยู่ (ถ้ามี)
- สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองรายได้จากนายจ้าง หรือเอกสารแสดงที่มาอื่น
- ใบแจ้งหนี้ (Invoice) หากส่งเงินเพื่อชำระค่าบริการหรือค่าสินค้า
- หนังสือรับรองความสัมพันธ์หากส่งเงินให้ครอบครัวในต่างประเทศ (เช่น บัตรประชาชนของบุคคลในครอบครัวที่ระบุความสัมพันธ์)
ธนาคารแต่ละแห่งอาจมีข้อกำหนดเพิ่มเติม ดังนั้นควรเตรียมเอกสารให้พร้อม และสอบถามล่วงหน้าจะช่วยให้กระบวนการราบรื่น
SWIFT Code กับ IBAN ต่างกันอย่างไร?
แม้จะดูคล้ายกัน แต่ทั้งสองระบบมีบทบาทที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
- SWIFT Code (หรือ BIC): ระบุ ธนาคาร เหมาะกับประเทศที่ไม่ใช้ IBAN เช่น ไทย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น
- IBAN (International Bank Account Number): คือรหัสบัญชีธนาคารระหว่างประเทศที่รวม SWIFT Code, รหัสประเทศ และเลขที่บัญชีไว้ในรูปแบบหนึ่ง เช่น
DE44500105170445678901
ใช้กันอย่างแพร่หลายในยูโรโซน
สำคัญคือ ประเทศไทยไม่มีระบบ IBAN ดังนั้น คุณจะไม่ต้องใช้เมื่อโอนเข้ามา แต่หากคุณกำลังโอนเงินไปยูโรโซน คุณต้องให้ผู้รับระบุทั้ง IBAN และ SWIFT Code ของธนาคารผู้รับ
ข้อดี ข้อเสีย ของการใช้ SWIFT สำหรับการโอนเงิน
ข้อดี
- ความเชื่อถือได้สูง: ใช้กันทั่วโลกมานาน หลายพันธนาคารเข้าร่วม
- ปลอดภัย: ระบบการสื่อสารเข้ารหัสระดับสูง ลดความเสี่ยงการดักฟังหรือปลอมแปลง
ข้อเสีย
- แพง: ค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง โดยเฉพาะกับการโอนผ่านหลายธนาคารกลาง
- ช้า: มักใช้หลายวันทำการ ไม่เหมาะกับการส่งด่วน
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่ดี: ธนาคารมักบวกค่าสเปรด (Spread) มากกว่าอัตราจริง ทำให้ผู้โอนได้เงินน้อยลง
ทางเลือกใหม่: บริการโอนเงินดิจิทัล (เช่น Wise, Remitly)
บริการเหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะให้ข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการของคนยุคใหม่
- Wise (เดิม TransferWise): เน้นอัตราแลกเปลี่ยนใกล้เคียงกับตลาดจริงสูงสุด ค่าธรรมเนียมต่ำ โอนไว (บางครั้งไม่กี่ชั่วโมง) แต่อาจไม่ได้รับเอกสารยืนยันเป็นทางการสำหรับการจ่ายภาษีหรือยื่นวีซ่า
- Remitly: มีหลายตัวเลือกการรับเงิน เช่น รับเข้าบัญชี หรือรับเป็นเงินสดที่ตัวแทน
หากคุณโอนเงินจำนวนมากหรือต้องการเอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการ การใช้ธนาคารผ่าน SWIFT ยังคงเหมาะสม แต่หากต้องการความเร็ว ค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า และความโปร่งใส บริการดิจิทัลเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
SWIFT Code คืออะไร และใช้ทำอะไรในการโอนเงินระหว่างประเทศ?
SWIFT Code หรือ Business Identifier Code (BIC Code) คือรหัสมาตรฐานสากลที่ใช้ระบุธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลกในการทำธุรกรรมและการสื่อสารทางการเงินระหว่างประเทศ เช่น การโอนเงินข้ามประเทศ เพื่อให้เงินถูกส่งไปยังธนาคารปลายทางได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
ฉันจะหา SWIFT Code ของธนาคารกรุงไทยหรือธนาคารกสิกรไทยได้จากที่ไหน?
คุณสามารถค้นหา SWIFT Code ได้จากหลายช่องทาง ได้แก่:
- เว็บไซต์ทางการของธนาคารในส่วนข้อมูลการโอนเงินระหว่างประเทศ
- สมุดบัญชีเงินฝากหรือแอปพลิเคชัน Mobile Banking/Internet Banking
- ติดต่อสอบถามโดยตรงที่สาขาธนาคาร หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของธนาคาร
SWIFT Code มีกี่ตัวอักษร และแต่ละส่วนหมายถึงอะไร?
SWIFT Code มีความยาว 8 หรือ 11 ตัวอักษร โดยแบ่งเป็น:
- 4 ตัวแรก: รหัสธนาคาร (Bank Code)
- 2 ตัวถัดมา: รหัสประเทศ (Country Code) (สำหรับไทยคือ TH)
- 2 ตัวถัดมา: รหัสตำแหน่ง (Location Code)
- 3 ตัวสุดท้าย (ทางเลือก): รหัสสาขา (Branch Code) หากไม่มีการระบุสาขา มักใช้ XXX แทน
การโอนเงินระหว่างประเทศด้วย SWIFT Code ใช้เวลากี่วันถึงปลายทาง?
โดยทั่วไปแล้ว การโอนเงินระหว่างประเทศผ่านระบบ SWIFT จะใช้เวลาประมาณ 1-7 วันทำการ ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง ธนาคารตัวกลาง และเวลาทำการ
ค่าธรรมเนียมการโอนเงินต่างประเทศผ่าน SWIFT Code แพงไหม และใครเป็นผู้รับผิดชอบ?
ค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่าน SWIFT มักจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับบริการโอนเงินดิจิทัล โดยมีค่าธรรมเนียมทั้งธนาคารต้นทาง ธนาคารตัวกลาง และธนาคารปลายทาง
การรับผิดชอบค่าธรรมเนียมสามารถเลือกได้ 3 แบบ:
- BEN (Beneficiary): ผู้รับเงินเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมทั้งหมด
- SHA (Shared): ผู้โอนและผู้รับแบ่งกันรับผิดชอบค่าธรรมเนียมของธนาคารตนเอง
- OUR (Originator): ผู้โอนเงินเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมทั้งหมด
SWIFT Code แตกต่างจาก IBAN อย่างไร?
SWIFT Code ใช้ระบุ ธนาคารหรือสถาบันการเงิน ในขณะที่ IBAN (International Bank Account Number) ใช้ระบุ เลขที่บัญชีธนาคารแต่ละบัญชี ในระดับสากล ประเทศไทยไม่ได้ใช้ระบบ IBAN แต่จะใช้ SWIFT Code ควบคู่กับเลขที่บัญชีปกติ
หากฉันเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการโอนเงินออกนอกประเทศ?
โดยทั่วไป คุณจะต้องใช้หนังสือเดินทาง (Passport), ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) หรือวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ, หลักฐานที่มาของเงิน, และหลักฐานวัตถุประสงค์การโอนเงิน ทั้งนี้ ธนาคารอาจขอเอกสารเพิ่มเติมตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย
มีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศ?
คุณสามารถลดค่าธรรมเนียมได้โดย:
- เลือกใช้บริการโอนเงินดิจิทัล เช่น Wise (TransferWise) หรือ Remitly ซึ่งมักจะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าและอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม
- หากใช้ธนาคาร ควรตรวจสอบโปรโมชั่นหรือส่วนลดสำหรับการโอนเงินผ่านช่องทางออนไลน์ และเลือกประเภทค่าธรรมเนียมแบบ SHA หรือ BEN หากผู้รับยอมรับ
ฉันจะตรวจสอบสถานะการโอนเงินระหว่างประเทศของฉันได้อย่างไร?
หากคุณโอนเงินผ่านธนาคาร คุณสามารถติดต่อสอบถามสถานะกับธนาคารที่คุณใช้บริการได้โดยตรง โดยระบุหมายเลขอ้างอิงการทำรายการ (Reference Number) หากใช้บริการดิจิทัล แพลตฟอร์มจะมีระบบติดตามสถานะการโอนเงินให้คุณผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์
SWIFT Code ของธนาคารในประเทศไทยทุกแห่งมีอะไรบ้าง?
คุณสามารถดูรายชื่อ SWIFT Code ของธนาคารหลักๆ ในประเทศไทยได้จากตารางในหัวข้อ “ตาราง SWIFT Code ธนาคารไทยหลัก (2025 ล่าสุด)” ในบทความนี้ หรือตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการของธนาคารแต่ละแห่ง