โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ในประเทศไทยที่นักลงทุนต่างชาติแนะนำปี 2025: วิเคราะห์ลึก แพลตฟอร์มไหนมาแรง และทำไม Moneta Markets ถึงถูกจับตา
บทนำ: เหตุใดการเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ใช่จึงเป็นกุญแจสำคัญในปี 2025
ตลาดฟอเร็กซ์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจอย่างประเทศไทยที่เห็นความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยและมืออาชีพเพิ่มขึ้นทุกปี ปี 2025 ไม่ใช่แค่จุดเปลี่ยนของเทคโนโลยี แต่ยังเป็นยุคที่การซื้อขายสินทรัพย์ข้ามแดนต้องอาศัยความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และประสิทธิภาพอย่างแท้จริง การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์จึงไม่ใช่แค่เรื่องราคาหรือเลเวอเรจเพียงอย่างเดียว แต่คือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อชัยชนะหรือความเสี่ยงในเส้นทางการลงทุน
สำหรับนักลงทุนชาวไทย ความท้าทายใหญ่ที่สุดคือการเลือกแพลตฟอร์มจากต่างประเทศที่ให้บริการรองรับความต้องการของตลาดในท้องถิ่น ทั้งในด้านการชำระเงิน การสนับสนุนภาษาไทย และความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล บทความนี้เจาะลึกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับความนิยมและได้รับคำแนะนำจากนักลงทุนต่างชาติในปี 2025 โดยเฉพาะ Moneta Markets ซึ่งกำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางว่าอาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมในวงการเทรดไทย

สภาพแวดล้อมทางกฎหมายของการซื้อขายฟอเร็กซ์ในประเทศไทย: สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มลงทุน
แม้การซื้อขายฟอเร็กซ์จะได้รับความนิยมในประเทศไทย แต่บทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังไม่อนุญาตให้มีบริษัทโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ในประเทศที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นั่นหมายความว่าโบรกเกอร์ที่ชาวไทยใช้งานส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือในระดับโลก
การพึ่งพาโบรกเกอร์ต่างประเทศจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเรื่องการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับสากล เช่น Financial Conduct Authority (FCA) จากสหราชอาณาจักร หรือ Australian Securities and Investments Commission (ASIC) จากออสเตรเลีย ซึ่งมีข้อกำหนดเข้มงวดในการจัดการเงินทุนของลูกค้า เช่น นโยบาย “แยกบัญชีลูกค้า (Segregated Accounts)” เพื่อป้องกันการนำเงินไปใช้ดำเนินกิจกรรมของบริษัท
นอกจากนี้ หน่วยงานเหล่านี้ยังมีระบบประกันความเสียหาย เช่น นักลงทุนสามารถเข้าถึงกองทุนชดเชย (Compensation Scheme) ในกรณีที่โบรกเกอร์ผิดนัดหรือล้มละลาย ทำให้ความปลอดภัยของเงินทุนไม่ใช่แค่คำสัญญา แต่เป็นความคุ้มครองที่มีกรอบชัดเจน
7 เกณฑ์สำคัญ ที่นักลงทุนต่างประเทศใช้คัดเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ปี 2025
1. ความน่าเชื่อถือและใบอนุญาตจากหน่วยงานกลาง
คุณสมบัติอันดับหนึ่งที่ไม่มีข้ออภิสิทธิ์ในการละเลย คือการตรวจสอบว่าโบรกเกอร์นั้นได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่มีชื่อเสียงหรือไม่ การถูกกำกับดูแลโดย ASIC, FCA หรือแม้แต่ CySEC จากยุโรป ถือเป็นหลักฐานสำคัญแสดงว่าบริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส และปฏิบัติตามมาตรฐานทางการเงินที่เข้มงวด
อย่าลืมตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีระบบการแยกบัญชีลูกค้าหรือไม่ เพราะนี่คือเกราะป้องกันเงินทุนของคุณในกรณีที่บริษัทเกิดปัญหาทางการเงิน
2. ต้นทุนการเทรด: สเปรด ค่าคอมมิชชัน และค่าสวอป
ต้นทุนคือปัจจัยที่เห็นผลโดยตรงต่อผลกำไรในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดที่ทำธุรกรรมบ่อย (Scalping) การเลือกโบรกเกอร์ที่มีโครงสร้างค่าใช้จ่ายชัดเจนจึงจำเป็น
- สเปรด (Spread): คือส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและเสนอขาย โดยเฉพาะคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD การมีสเปรดต่ำจะช่วยให้คุณ “เริ่มต้นใกล้จุดคุ้มทุน” มากขึ้น
- ค่าคอมมิชชัน: พบได้ในบัญชีประเภท ECN หรือ Raw ที่มักจะมีสเปรดต่ำมาก แต่หักค่าดำเนินการต่อล็อต
- ค่าสวอป (Swap): ค่าธรรมเนียมเมื่อถือออร์เดอร์ข้ามคืน บางโบรกเกอร์เสนอ “บัญชีสวอปฟรี” หรือ “บัญชีอิสลาม” ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ชอบถือสถานะระยะกลางถึงยาว
โบรกเกอร์ที่ดีต้องไม่ซ่อนค่าใช้จ่ายแฝง และควรเปิดเผยอัตราทั้งหมดในเว็บไซต์อย่างชัดเจน
3. ความสะดวกในการฝาก-ถอนเงิน: ความเร็วคือทุกอย่าง
สำหรับนักลงทุนในประเทศไทย การฝาก-ถอนเงินที่รวดเร็วและรองรับช่องทางท้องถิ่น เช่น การโอนผ่านธนาคารในระบบ PromptPay, TrueMoney Wallet หรือ Rabbit Line Pay ถือเป็นข้อได้เปรียบใหญ่
โบรกเกอร์ชั้นนำหลายรายในปี 2025 ได้พัฒนาช่องทาง “พร้อมเพย์” และ e-Wallet ให้รองรับการดำเนินการในไม่กี่นาที และถอนเงินได้ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งช่วยลดเวลาและรอยต่อในการบริหารกระแสเงินสด
4. แพลตฟอร์มการเทรด: เสถียร ลื่นไหล และใช้งานง่าย
ไม่ว่าคุณจะใช้ MT4, MT5, cTrader หรือ WebTrader สิ่งที่สำคัญคือความเสถียรของระบบ การรั่วไหลของข้อมูล หรือคำสั่ง “Requote” ที่เกิดขึ้นบ่อย คือสัญญาณร้ายของระบบปิดช่องโหว่ไม่ดี
แพลตฟอร์มที่ดีควรมีความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น ตัวชี้วัดทางเทคนิค ตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจแบบเรียลไทม์ และระบบอัตโนมัติ (Expert Advisor) ได้ พร้อมกับแอปพลิเคชันมือถือที่ใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่ของแถม
5. เลเวอเรจและเครื่องมือบริหารความเสี่ยง
แม้เลเวอเรจจะช่วยขยายโอกาสรับผลตอบแทน แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงเช่นกัน โบรกเกอร์ที่ดีควรเสนอเลเวอเรจที่ปรับตามอายุการเทรด เช่น ให้เลเวอเรจสูงสำหรับผู้มีประสบการณ์ แต่จำกัดเลเวอเรจในบัญชีมือใหม่ พร้อมทั้งระบบการเตือนความเสี่ยง (Risk Warning) และ Stop Loss อัตโนมัติ
6. การสนับสนุนลูกค้าที่ตอบสนองได้จริง
ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเทรด เช่น การล็อกอินไม่ได้ หรือคำสั่งไม่ดำเนินการ ต้องได้รับการแก้ไขอย่างฉับพลัน การมีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่พร้อมตอบคำถาม 24/5 และใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร จะช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจ
7. ความหลากหลายของประเภทบัญชีและสินทรัพย์
นักลงทุนแต่ละรายมีสไตล์ต่างกัน โบรกเกอร์ที่ให้เลือกบัญชีได้หลายรูปแบบ เช่น บัญชี Standard, ECN, Micro หรือ Islamic จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ส่วนสินทรัพย์ที่ควรมี ได้แก่ คู่เงิน, ทอง, น้ำมัน, ดัชนี หุ้น CFD และคริปโต

5 อันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่นักลงทุนต่างประเทศแนะนำในประเทศไทยปี 2025
1. Moneta Markets: โบรกเกอร์ที่กำลังมาแรงที่สุดในปี 2025
Moneta Markets คือชื่อที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุดในวงการเทรดทั่วเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทยที่นักลงทุนต่างให้คำชมในเรื่องความโปร่งใส ความเร็ว และความทันสมัยของแพลตฟอร์ม
- กำกับดูแลโดย ASIC และ FSA: ความน่าเชื่อถือคือหัวใจหลัก โดยมีใบอนุญาตจากสองหน่วยงานชั้นนำ ช่วยสร้างความมั่นใจว่าการจัดการเงินทุนของลูกค้าอยู่ในมาตรฐานระดับโลก
- สเปรดต่ำ ค่าคอมมิชชันสมเหตุสมผล: บัญชี ECN ของ Moneta Markets เสนอสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pip และค่าคอมมิชชันที่แข่งขันได้ เหมาะทั้งมือใหม่และมือโปร
- แพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งาน: รองรับ MT4 และ MT5 อย่างเต็มรูปแบบ พร้อม WebTrader ที่พัฒนาขึ้นเองแบบคลาวด์ ใช้งานลื่นไหลบนทุกอุปกรณ์ และมีเครื่องมือวิเคราะห์ครบครัน
- การฝาก-ถอนที่รวดเร็วและครอบคลุม: รองรับ PromptPay, โอนผ่านธนาคารในประเทศ, e-Wallets และบัตรเครดิต โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียม และดำเนินการภายในไม่กี่ชั่วโมง
- บริการลูกค้าระดับพรีเมียม: มีทีมสนับสนุน 24 ชั่วโมง 5 วัน แม้ภาษาไทยยังไม่ครอบคลุมเต็มที่ แต่ทีมงานที่พูดภาษาอังกฤษมีความเข้าใจและตอบกลับอย่างรวดเร็ว
Moneta Markets จึงไม่ใช่แค่โบรกเกอร์ธรรมดา แต่เป็นทางเลือกปลอดภัยสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความสมดุลระหว่างความมั่นคง ต้นทุนต่ำ และประสิทธิภาพสูง
2. Exness: ผู้นำด้านความเร็วและการตั้งค่าที่ยืดหยุ่น
Exness เข้าตาชาวไทยด้วยการฝาก-ถอนแบบทันที เลเวอเรจสูง และบริการลูกค้าภาษาไทยที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง
- จุดเด่น: เลเวอเรจได้ถึงไม่จำกัดในบางประเภทบัญชี, สเปรดต่ำเริ่มต้นที่ 0.0 pip, ระบบการเงินตอบสนองเร็ว, มีบัญชี Cent สำหรับมือใหม่, บริการลูกค้าภาษาไทยอย่างเต็มตัว
- ข้อควรทราบ: เลเวอเรจอาจถูกจำกัดในช่วงข่าวใหญ่, โปรโมชั่นไม่หลากหลายเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางราย
3. IC Markets: โบรกเกอร์ ECN ตัวจริงสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ
ใครที่เน้นความเร็วและการดำเนินคำสั่งในระดับนาโนวินาที IC Markets คือคำตอบ
- จุดเด่น: สเปรด 0.0 pip จริง, ค่าคอมมิชชันต่ำ, ระบบ ECN แท้ ไม่มี dealing desk, รองรับ MT4, MT5 และ cTrader, ข้อมูลจริงจากฝั่ง LIQUIDITY PROVIDER
- ข้อควรทราบ: ขั้นต่ำ $200 อาจสูงสำหรับมือใหม่, ไม่มีโปรโมชั่นสำหรับนักลงทุนรายย่อย
4. Pepperstone: เทคโนโลยีการเทรดระดับสูงในมือคุณ
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่ดีไซน์ระบบสำหรับนักเทรดที่ต้องการ “ประสิทธิภาพสูงสุด”
- จุดเด่น: สเปรดต่ำ, การดำเนินคำสั่งด้วยระบบ STP/ECN, มีเครื่องมืออย่าง Autochartist และ Smart Trade Tools, ถูกกำกับโดย ASIC และ FCA
- ข้อควรทราบ: สินทรัพย์คริปโตมีข้อจำกัด, การถอนเงินอาจใช้เวลา 1–2 วัน
5. XM: โบรกเกอร์ที่ใส่ใจนักลงทุนมือใหม่
XM คือตัวเลือกในฝันของเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจ เพราะเน้นการศึกษาและการเริ่มต้นอย่างมั่นคง
- จุดเด่น: เงินฝากขั้นต่ำแค่ $5, บัญชี Micro รองรับมือใหม่, สอนฟรีผ่านเว็บีนาร์, มีโบนัสต้อนรับและโปรโมชั่นต่อเนื่อง
- ข้อควรทราบ: สเปรดอาจไม่ต่ำสุดเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์แบบ ECN, VPS มีค่าใช้จ่ายหากเทรดไม่ถึงเกณฑ์
ตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำปี 2025 – ช่วยให้คุณตัดสินใจได้แม่นยำ
โบรกเกอร์ | ใบอนุญาตหลัก | สเปรดเฉลี่ย (EUR/USD) | ค่าคอมมิชชัน (ต่อล็อต) | Free Swap | เลเวอเรจสูงสุด | เงินฝากขั้นต่ำ | ความเร็วในการฝาก-ถอน | สนับสนุนภาษาไทย | จุดแข็งเด่น |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Moneta Markets | ASIC, FSA | เริ่มต้น 0.0 pip | ต่ำ | มี (บัญชี Islamic) | 500:1 (ตามประเภทสินทรัพย์) | $50 | เร็ว (ภายใน 1–2 วันทำการ) | ทีมภาษาอังกฤษมีประสิทธิภาพ | กำกับดูแลเข้มงวด, สเปรดต่ำ, แพลตฟอร์มทันสมัย |
Exness | CySEC, FCA, FSA | เริ่มต้น 0.0 pip | ไม่มี (บัญชี Standard) | มี | ไม่จำกัด (ตามเงื่อนไข) | $1 | เร็วมาก (ภายในไม่กี่นาที) | มี | เลเวอเรจสูง, ฝาก-ถอนเร็ว, รองรับพร้อมเพย์ |
IC Markets | ASIC, CySEC | เริ่มต้น 0.0 pip | $3.5 ต่อข้าง | มี (บัญชี Islamic) | 500:1 | $200 | เร็ว (1–2 วันทำการ) | ไม่มี | ECN แท้, ความเร็วสูง, เหมาะกับมืออาชีพ |
Pepperstone | ASIC, FCA, DFSA | เริ่มต้น 0.0 pip | $3.5 ต่อข้าง | มี (บัญชี Islamic) | 500:1 | $200 | เร็ว (1–2 วันทำการ) | ไม่มี | การดำเนินคำสั่งเร็ว, สนับสนุนเครื่องมือการวิเคราะห์ขั้นสูง |
XM | ASIC, CySEC, IFSC | เริ่มต้น 0.6 pip | ไม่มี | มี (บัญชี Islamic) | 1000:1 | $5 | เร็ว (1–2 วันทำการ) | มี | โปรโมชั่นดี, เหมาะมือใหม่, ทรัพยากรการเรียนรู้ครบ |
ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนฟอเร็กซ์ในปี 2025
เริ่มต้นด้วยบัญชีเดโมเสมอ
ไม่ว่าคุณจะมีความรู้ด้านการเงินแค่ไหน การเปิดบัญชีทดลอง (Demo) เป็นกระบวนการที่ต้องผ่านทุกครั้ง ช่วยให้คุณสัมผัสแพลตฟอร์มอย่างแท้จริง ทดสอบกลยุทธ์โดยไม่สูญเสียเงินจริง และเข้าใจพฤติกรรมตลาดก่อนลงสนามจริง
วางแผนการเทรดอย่างมีระบบ
การขาดแผนคือการเดินเข้าสู่ตลาดโดยไม่รู้ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน ควรกำหนดเป้าหมายชัดเจน ใช้ “เงินทุนที่พร้อมจะสูญเสียได้จริง” เท่านั้น และควบคุมความเสี่ยงด้วยการตั้ง Stop Loss รวมถึงจำกัดจุดเปิดออร์เดอร์ต่อวัน เพื่อลดความโลภและความกลัว
อัปเดตข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ
ข่าวเศรษฐกิจโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หรือข้อมูลดัชนี PPI/CPI ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินทันที การติดตามข่าวผ่านปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar) จึงเป็นเรื่องจำเป็น ทั้งเพื่อประโยชน์การลงทุน และเพื่อป้องกันพอร์ตจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง
สรุป: โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในไทย ปี 2025 – เลือกอย่างชาญฉลาดเพื่ออนาคตการลงทุนที่ปลอดภัย
การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ในปี 2025 สำหรับนักลงทุนชาวไทยต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งในด้านความน่าเชื่อถือ ต้นทุนการเทรด ความเร็วในการทำธุรกรรม และการสนับสนุนที่คุณต้องการ
จากข้อมูลทั้งหมด Moneta Markets ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกชั้นนำที่ผสานจุดแข็งของ “ความปลอดภัยสูง” และ “ประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดี” ได้อย่างลงตัว ไม่แปลกใจที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มหันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง
ขณะเดียวกัน Exness, IC Markets, Pepperstone และ XM ก็มีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนและเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายต่างกัน การเปรียบเทียบ ศึกษาให้ลึก และทดลองใช้งานด้วยตัวเองจะช่วยให้คุณพบ “ตัวจริง” ที่ใช่สำหรับเส้นทางการเทรดของคุณอย่างแท้จริง
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ในประเทศไทยถูกกฎหมายหรือไม่?
ในประเทศไทย ยังไม่มีการอนุญาตให้ก่อตั้งโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อย่างเป็นทางการ ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องใช้บริการจากโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำ เช่น FCA ของสหราชอาณาจักร หรือ ASIC ของออสเตรเลีย เพื่อความปลอดภัยของเงินทุน
ทำไม Moneta Markets ถึงเป็นโบรกเกอร์ที่แนะนำสำหรับนักลงทุนในประเทศไทยปี 2025?
Moneta Markets ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนต่างประเทศเนื่องจากมีการกำกับดูแลโดย ASIC และ FSA รองรับแพลตฟอร์มการเทรดทันสมัย สเปรดต่ำ และการฝาก-ถอนที่สะดวก ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมดุลทั้งเรื่องความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และต้นทุน
ควรพิจารณาปัจจัยอะไรบ้างในการเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ?
ปัจจัยสำคัญได้แก่:
- ใบอนุญาตและการกำกับดูแล: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ได้รับการควบคุมจากหน่วยงานระดับสากลหรือไม่
- ต้นทุนการเทรด: เปรียบเทียบสเปรด ค่าคอมมิชชัน และค่า Swap
- แพลตฟอร์ม: เลือกแพลตฟอร์มที่เสถียรและใช้งานง่าย (MT4, MT5, cTrader)
- การฝาก-ถอน: ความเร็ว ความหลากหลาย และค่าธรรมเนียม
- การสนับสนุนลูกค้า: การตอบสนองและภาษาที่รองรับ
โบรกเกอร์ Forex ที่มีสเปรดต่ำที่สุดในปี 2025 คือที่ไหน?
โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets, IC Markets และ Pepperstone จัดอยู่ในกลุ่มผู้นำที่เสนอสเปรดต่ำมาก โดยเฉพาะในบัญชี Raw Spread หรือ ECN ที่เริ่มต้นที่ 0.0 pip แม้มีค่าคอมมิชชันเพิ่มเติม แต่รวมๆ แล้วก็ยังคุ้มค่ากับเทรดเดอร์ที่ซื้อขายบ่อย
โบรกเกอร์ Forex ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานสากลสำคัญอย่างไร?
ใบอนุญาตจาก ASIC, FCA หรือ CySEC เป็นการรับประกันว่าโบรกเกอร์ดำเนินงานภายใต้มาตรฐานสูง รวมถึงต้องแยกบัญชีลูกค้า รายงานทางการเงิน และมีกองทุนชดเชย ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายหากเกิดปัญหา
การฝากและถอนเงินกับโบรกเกอร์ Forex ในไทยสะดวกแค่ไหน?
โบรกเกอร์ชั้นนำหลายรายที่รองรับนักลงทุนไทยมีช่องทางการเงินที่หลากหลายและรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้ PromptPay และ e-Wallets ทำให้การฝาก-ถอนเสร็จภายในไม่กี่นาที จนถึง 24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโบรกเกอร์
Moneta Markets มีข้อดีอะไรที่แตกต่างจากโบรกเกอร์อื่น?
Moneta Markets โดดเด่นที่การรวมเอาเอกลักษณ์ของการเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำ, สเปรดต่ำทั้งในบัญชี Standard และ ECN, แพลตฟอร์มที่พัฒนาเองอย่าง WebTrader ที่ใช้งานง่าย และการรองรับการเงินท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในปี 2025
Australian Securities and Investments Commission (ASIC)
Financial Conduct Authority (FCA)
ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand)