วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2568 พร้อมโปรแกรมและเครื่องมือช่วยคำนวณ
ทำให้การวางแผนภาษีไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป หากคุณทำงาน รับจ้าง หรือมีรายได้จากหลายทาง การเข้าใจวิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณยื่นภาษีได้ถูกต้อง ใช้สิทธิ์ลดหย่อนอย่างเต็มที่ และลดภาระทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ในปีภาษี 2567 ที่จะต้องยื่นในปี 2568 นี้ การเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยให้คุณประหยัดเวลา ลดความเครียด และเพิ่มโอกาสได้รับเงินคืนภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจขั้นตอนการคำนวณภาษีอย่างละเอียด พร้อมอัปเดตสิทธิ์ลดหย่อนล่าสุดในปี 2568 พร้อมแนะนำเครื่องมือและโปรแกรมที่ช่วยให้การจัดการภาษีง่ายดายกว่าที่คิด

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คืออะไร? เรื่องพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีป้ายแดง เป็นภาษีที่รัฐจัดเก็บจากรายได้ของบุคคลธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง รายได้จากอาชีพอิสระ หรือรายได้จากกิจกรรมอื่นๆ ที่เกิดขึ้นภายในรอบปีภาษี (1 มกราคม – 31 ธันวาคม)
ผู้ที่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดต้องมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี (ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91) ภายในระยะเวลาที่กำหนด และหากเงินได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและลดหย่อนยังคงเกิน 150,000 บาท ก็ต้องชำระภาษีตามอัตราที่กำหนด หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า “ไม่ได้รับเงินเดือนจากบริษัท ก็ไม่ต้องยื่นภาษี” แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ รับจ้างทำเว็บไซต์ ขายของออนไลน์ หรือแม้แต่ขายที่ดินก็ต้องยื่นภาษีทุกปี
องค์ประกอบหลัก 3 ประการในการคำนวณภาษี
การคำนวณภาษีไม่ใช่แค่เอารายได้มาคูณเปอร์เซ็นต์ แต่มีกระบวนการที่ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ดังนี้
1. เงินได้พึงประเมิน
ขั้นตอนแรกในการคำนวณภาษี คือ การรวม “เงินได้พึงประเมิน” ทุกประเภทที่ได้รับในรอบปีภาษี ตามที่กฎหมายกำหนดในมาตรา 40 มีทั้งหมด 8 ประเภท ได้แก่:
– เงินเดือน โบนัส ค่าคอมมิชชัน (มาตรา 40(1))
– ค่าธรรมเนียม ค่านายหน้า (มาตรา 40(2))
– ค่าลิขสิทธิ์ ค่าเช่า (มาตรา 40(3), (5))
– เงินปันผล (มาตรา 40(4))
– รายได้จากอาชีพอิสระ เช่น ทนาย หมอ ช่างภาพ โปรแกรมเมอร์ (มาตรา 40(6)-(8))
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นพนักงานประจำและมีรายได้เสริมจากการถ่ายภาพรับจ้าง คุณต้องรวมทั้งสองส่วนนี้เข้าไว้ด้วยกันเพื่อนำมาคำนวณภาษี
2. ค่าใช้จ่ายในการหารายได้
ไม่ใช่ทุกรายได้ที่ต้องถูกนำมากำหนดภาษีเต็มจำนวน เพราะกฎหมายอนุญาตให้หัก “ค่าใช้จ่าย” ที่เกี่ยวข้องกับการหารายได้ได้ เช่น
– สำหรับผู้รับเงินเดือน: สามารถหักเป็นเหมา 50% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
– สำหรับผู้มีรายได้จากมาตรา 40(6)-(8): หักได้สูงสุด 60% ของรายได้
– รายได้อื่นๆ: อาจเลือกหักตามจริง (ต้องมีใบเสร็จ) หรือหักเป็นเหมาเปอร์เซ็นต์ตามที่กรมสรรพากรกำหนด
การวางแผนหักค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมจึงช่วยลดฐานภาษีได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะผู้ประกอบการและฟรีแลนซ์
3. ค่าลดหย่อนภาษี ปี 2568: ลดภาษีได้จริง ต้องรู้ให้ทัน
ค่าลดหย่อนเป็น “ช่องทางประหยัดภาษี” ที่รัฐให้มาเพื่อสนับสนุนประชาชน ซึ่งสามารถหักออกจากฐานรายได้ก่อนคิดอัตราภาษี ยิ่งลดหย่อนได้มาก เงินได้สุทธิก็ยิ่งต่ำ ภาษีที่ต้องจ่ายก็ลดลงตาม
สำหรับปีภาษี 2567 (ยื่นปี 2568) มีรายการลดหย่อนที่ควรรู้ดังนี้:
หมวดค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว
– ค่าลดหย่อนส่วนตัว: 60,000 บาท สำหรับผู้มีรายได้ทุกคน
– ค่าลดหย่อนคู่สมรส: 60,000 บาท ถ้าคู่สมรสไม่มีรายได้และจดทะเบียนสมรสถูกต้อง
– ค่าลดหย่อนบุตร:
– ลูกคนแรก–คนที่สอง (เกิดก่อนปี 2561): 30,000 บาท/คน
– ลูกคนที่สอง (เกิดตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป): 60,000 บาท/คน
– ต้องอายุไม่เกิน 25 ปี และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
– ค่าลดหย่อนบิดา-มารดา: คนละ 30,000 บาท (ต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป และรายได้ไม่ถึง 30,000 บาท/ปี)
– ค่าเลี้ยงดูผู้พิการ: คนละ 60,000 บาท (ต้องมีบัตรผู้พิการและรายได้ไม่ถึง 30,000 บาท/ปี)
หมวดประกัน การออม และการลงทุน
– ประกันชีวิตทั่วไป: สูงสุด 100,000 บาท (รวมประกันสุขภาพตัวเองได้ 25,000 บาท)
– ประกันสุขภาพบิดา-มารดา: สูงสุด 15,000 บาท
– ประกันชีวิตแบบบำนาญ: สูงสุด 300,000 บาท
– กองทุน RMF: สูงสุด 500,000 บาท (หรือไม่เกิน 30% ของรายได้)
– กองทุน SSF: สูงสุด 200,000 บาท (หรือไม่เกิน 30% ของรายได้)
– กองทุน Thai ESG: สูงสุด 300,000 บาท (รวมกับ SSF และ RMF ไม่เกิน 800,000 บาท)
– เงินสมทบประกันสังคม: สูงสุด 9,000 บาท
– PVD, กบข., กอช., โรงเรียนเอกชน: รวมกับ RMF และประกันบำนาญ อย่าเกิน 500,000 บาท
หมวดการบริจาค
– บริจาคทั่วไป: ไม่เกิน 10% ของเงินได้สุทธิ
– บริจาคเพื่อการศึกษา สาธารณประโยชน์ รพ.รัฐ: ได้รับสิทธิ์ 2 เท่า (เช่น บริจาค 10,000 บาท นำมาลดหย่อนได้ 20,000 บาท) แต่รวมกันต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้สุทธิ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
– โครงการ Easy E-Receipt: ใช้ลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุด 50,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567 (ต้องใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt และลงทะเบียนกับโครงการ)

ขั้นตอนการคำนวณภาษี: เข้าใจเป็นขั้นตอน ง่ายไม่ยุ่ง
เมื่อรู้จักองค์ประกอบทั้งสามส่วนแล้ว การคำนวณภาษีสามารถทำได้ด้วยสูตรพื้นฐานดังนี้
สูตรคำนวณภาษี
เงินได้สุทธิ = เงินได้พึงประเมิน – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน
จากนั้นนำ “เงินได้สุทธิ” ไปคำนวณตามอัตราภาษีก้าวหน้า ตามช่วงที่คุณอยู่
อัตราภาษีก้าวหน้าปี 2568
ประเทศไทยใช้ระบบภาษีก้าวหน้า หมายความว่ายิ่งรายได้สูง จะจ่ายภาษีในอัตราที่สูงขึ้นตามชั้นเงินได้
| เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี |
|—————————–|———-|
| 0 – 150,000 | 0% (ยกเว้น) |
| 150,001 – 300,000 | 5% |
| 300,001 – 500,000 | 10% |
| 500,001 – 750,000 | 15% |
| 750,001 – 1,000,000 | 20% |
| 1,000,001 – 2,000,000 | 25% |
| 2,000,001 – 5,000,000 | 30% |
| 5,000,001 ขึ้นไป | 35% |
ตัวอย่างการคำนวณ (ช่วยให้เห็นภาพชัดเจน)
**สมมุติฐาน:**
– เงินเดือนต่อปี: 500,000 บาท
– ค่าใช้จ่ายแบบเหมา: 100,000 บาท (20% ของรายได้ ไม่เกินเพดาน)
– ลดหย่อนส่วนตัว: 60,000 บาท
**ขั้นตอนที่ 1: คำนวณเงินได้สุทธิ**
= 500,000 – 100,000 – 60,000 = **340,000 บาท**
**ขั้นตอนที่ 2: คำนวณภาษีตามชั้นรายได้**
– 0 – 150,000 บาท: 0 บาท (ยกเว้น)
– 150,001 – 300,000 บาท: 150,000 × 5% = 7,500 บาท
– 300,001 – 340,000 บาท: 40,000 × 10% = 4,000 บาท
**สรุปภาษีที่ต้องจ่าย:**
7,500 + 4,000 = **11,500 บาท**
หากนายจ้างหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว (ซึ่งปกติจะอยู่ที่ประมาณ 5-10% ของเงินเดือน) และหักไว้เกินกว่า 11,500 บาท คุณจะได้รับ “เงินคืนภาษี” หลังยื่นแบบแสดงรายการ
เครื่องมือช่วยคำนวณภาษี ที่ใช้งานง่ายและแม่นยำ
แทนที่จะมานั่งคิดเลขเองทีละขั้น ก็สามารถใช้เครื่องมือออนไลน์หรือโปรแกรมช่วยได้ เพื่อความรวดเร็วและความถูกต้อง
โปรแกรมคำนวณภาษีออนไลน์
– โปรแกรมจากธนาคาร: หลายธนาคารมีเครื่องมือคำนวณภาษีในเว็บไซต์ เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีฯ ใส่ข้อมูลเพียงไม่กี่นาที ก็รู้ผลทันที
– iTAX: แอปยอดนิยมที่ใช้งานได้ทั้งเว็บและมือถือ มีฟังก์ชันครบครัน รองรับผู้มีรายได้หลายทาง สามารถเก็บข้อมูลรายได้และค่าลดหย่อนไว้ได้ในที่เดียว
– Ocean Life ไทยสมุทร: มี เครื่องมือคำนวณภาษี ที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่ต้องการเช็กเบื้องต้น
ไฟล์ Excel/PDF คำนวณภาษี
หากต้องการความยืดหยุ่นสูง หรือต้องการใช้แบบออฟไลน์ ไฟล์ Excel ที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือบล็อกเกอร์ด้านภาษี ก็เป็นทางเลือกที่ดี แค่กรอกข้อมูลรายได้ ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนลงในช่องที่กำหนด ระบบจะคำนวณให้อัตโนมัติ โดยเฉพาะไฟล์ที่มีระบบเช็คขีดจำกัดของแต่ละรายการ จะช่วยให้คุณไม่กรอกเกิน จนเกิดข้อผิดพลาด
เลือกเครื่องมือให้เหมาะกับความต้องการของคุณ
– พนักงานประจำ รายได้ทางเดียว: ใช้โปรแกรมจากธนาคารหรือ iTAX Lite เพียงพอ
– ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการ: แนะนำ iTAX แบบเต็ม หรือ Excel ที่ออกแบบเฉพาะ เพราะรองรับการป้อนรายได้หลายช่องทาง
– ผู้สูงอายุหรือพ่อแม่: แนะนำให้ใช้เว็บไซต์หรือแอปที่มีอินเตอร์เฟสเข้าใจง่าย และมีคำอธิบายประกอบ
กำหนดเวลาและข้อควรจดจำในการยื่นภาษี
สำหรับปีภาษี 2567 (รายได้ช่วง 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2567) กำหนดยื่นภาษีคือ:
ยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2568
หากยื่นผ่าน i-Tax หรือเว็บไซต์ของกรมสรรพากร จะได้รับการขยายเวลาอัตโนมัติเป็น 8 วันทำการถัดไป ซึ่งมักตรงกับช่วงต้นเดือนเมษายน
⚠️ ข้อควรระวัง:
– ยื่นเกินกำหนด: ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน (คิดจากภาษีที่ต้องจ่าย)
– ยื่นแล้วจ่ายภาษีเกิน: ได้เงินคืน แต่ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้รับ (ปกติ 3-6 เดือน)
– จดบันทึกเอกสาร: ใบหัก ณ ที่จ่าย (50 ท.ว.), ใบเสร็จลดหย่อน, หลักฐานการบริจาค ให้พร้อมทุกปียื่นภาษี
สรุป: วางแผนภาษีล่าช้าไม่ได้ ทำแต่เนิ่นๆ ปีนี้ก็สบายใจ
การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปี 2567 ที่จะยื่นในปี 2568 ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอย่างที่หลายคนคิด เพียงเข้าใจเรื่องเงินได้พึงประเมิน ค่าใช้จ่าย และสิทธิ์ลดหย่อนที่คุณมีสิทธิ์ใช้ ทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่าย
อย่ารอจนถึงมีนาคมถึงจะเริ่มวางแผน เพราะการยื่นภาษีล่วงหน้าช่วยลดความเครียด ป้องกันการกรอกข้อมูลผิด และเพิ่มโอกาสได้รับเงินคืนเร็วขึ้น อย่าลืมใช้เครื่องมือช่วยคำนวณที่มีอยู่มากมาย ทั้ง iTAX หรือโปรแกรมจากธนาคาร เพื่อลดภาระในการคำนวณ
ยื่นภาษีไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่เป็น “โอกาส” ที่จะได้รู้ว่าเงินของเราไปไหน และสามารถเก็บเงินได้มากขึ้นอย่างถูกกฎหมาย วางแผนแต่เนิ่นๆ ยื่นทันเวลา ภาษีปีนี้จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
เงินเดือนเท่านี้เสียภาษีกี่บาท?
จำนวนภาษีที่ต้องเสียขึ้นอยู่กับ “เงินได้สุทธิ” ของคุณ ซึ่งคำนวณจาก (เงินได้พึงประเมิน – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) หากเงินได้สุทธิของคุณไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี คุณจะได้รับการยกเว้นภาษี แต่หากเกินกว่านั้น จะถูกคำนวณตามอัตราภาษีก้าวหน้า ซึ่งเริ่มต้นที่ 5% และสูงสุดที่ 35% ยิ่งเงินได้สุทธิสูง อัตราภาษีที่ต้องจ่ายก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี?
ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดมีหน้าที่ต้องยื่นภาษี ซึ่งได้แก่:
- ผู้ที่มีสถานะโสด และมีเงินได้พึงประเมินเกิน 120,000 บาทต่อปี
- ผู้ที่มีสถานะสมรส และมีเงินได้พึงประเมินรวมกันเกิน 220,000 บาทต่อปี (กรณีมีเงินได้ฝ่ายเดียวเกิน 220,000 บาท หรือมีเงินได้ทั้งสองฝ่ายรวมกันเกิน 220,000 บาท)
- ผู้ที่มีเงินได้สุทธิเกิน 150,000 บาทต่อปีมีหน้าที่ต้องชำระภาษี
ยื่นภาษีปี 2568 ได้ถึงเมื่อไหร่?
สำหรับปีภาษี 2567 (รายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2567) จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 หากยื่นผ่านระบบออนไลน์ กรมสรรพากรมักจะขยายเวลาให้ถึงประมาณวันที่ 8 เมษายน 2568 แต่ควรตรวจสอบประกาศอย่างเป็นทางการของกรมสรรพากรอีกครั้ง
ค่าลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้างที่สำคัญ?
ค่าลดหย่อนภาษีที่สำคัญและใช้กันบ่อยได้แก่:
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนบุตร (ตามเงื่อนไข)
- เบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพ
- เงินสมทบกองทุนประกันสังคม
- การลงทุนในกองทุน SSF, RMF, และ Thai ESG
- ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย
- เงินบริจาค
- มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น Easy E-Receipt (ตามเงื่อนไขของแต่ละปี)
ถ้ามีรายได้หลายทาง ควรคำนวณภาษีอย่างไร?
หากคุณมีรายได้หลายทาง คุณจะต้องรวบรวมเงินได้พึงประเมินจากทุกแหล่ง (เช่น เงินเดือน, ค่าฟรีแลนซ์, ค่าเช่า) นำมารวมกัน จากนั้นหักค่าใช้จ่ายตามประเภทของเงินได้ และหักค่าลดหย่อนต่างๆ เพื่อให้ได้เงินได้สุทธิ และนำไปคำนวณตามอัตราภาษีก้าวหน้า คุณอาจพิจารณาใช้โปรแกรมคำนวณภาษีออนไลน์ที่รองรับรายได้หลายประเภท เช่น iTAX หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี
โปรแกรมคำนวณภาษีฟรีมีอะไรบ้าง?
มีโปรแกรมคำนวณภาษีฟรีหลายตัวที่ได้รับความนิยม เช่น:
- **โปรแกรมคำนวณภาษีของธนาคารต่างๆ:** เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย ซึ่งมักจะมีเครื่องมือบนเว็บไซต์ที่ใช้งานได้ฟรี
- **iTAX Lite:** เป็นเวอร์ชันฟรีของ iTAX ที่ใช้งานง่ายสำหรับการคำนวณเบื้องต้น
- **ไฟล์ Excel ช่วยคำนวณภาษี:** ที่มีการแบ่งปันฟรีในเว็บไซต์หรือกลุ่มการเงินต่างๆ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้