ราคาหุ้นเทสล่า: โอกาสทอง หรือกับดักนักลงทุน?

เพื่อนๆ เคยสังเกตไหมครับว่า เวลาพูดถึงวงการรถยนต์ไฟฟ้า หรือแม้แต่เรื่องนวัตกรรมล้ำๆ ชื่อ “เทสลา” (Tesla) มักจะเด้งขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ เสมอ ไม่ว่าจะในข่าว ในโซเชียล หรือแม้แต่เพื่อนที่เพิ่งถอยรถใหม่ ซึ่งพอพูดถึงบริษัทดังระดับโลกแบบนี้ คำถามต่อมาที่หลายคนอยากรู้ก็คือ แล้ว “ราคาหุ้นเทสล่า” ล่ะ เป็นยังไงบ้าง น่าสนใจลงทุนไหม หรือว่าต้องระวังอะไรหรือเปล่า

วันนี้ในฐานะคนเขียนคอลัมน์การเงินที่ชอบเอาเรื่องยากๆ มาเล่าให้ฟังสบายๆ เหมือนคุยกันริมกาแฟ จะขอชวนทุกคนมาแกะกล่องบริษัทเทสลา และส่องดู ราคาหุ้นเทสล่า ไปด้วยกันครับ รับรองว่าเข้าใจง่าย ไม่ต้องจบการเงินมาก็ฟังเพลิน

เทสลา ไม่ได้มีแค่รถ แต่คืออาณาจักรพลังงานสะอาด

ก่อนจะไปดูเรื่อง ราคาหุ้นเทสล่า เรามาทำความรู้จักกับเทสลาให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน หลายคนอาจจะคิดว่าเทสลาก็คือบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั่นแหละ ซึ่งก็ถูกครับ แต่ไม่ทั้งหมด เพราะจริงๆ แล้วเทสลาทำมากกว่านั้นเยอะ หัวใจหลักของเขาคือการออกแบบ พัฒนา ผลิต และขายทั้งรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่รุ่นซีดานอย่าง Model 3 รุ่นอเนกประสงค์อย่าง Model Y หรือรถบรรทุกไซเบอร์ทรัคสุดล้ำ ไปจนถึงระบบพลังงานแบบครบวงจรเลยครับ

นั่นหมายความว่า เทสลาไม่ได้พึ่งแค่ยอดขายรถอย่างเดียว แต่เขายังมีธุรกิจด้านพลังงาน (Energy Generation and Storage) อีกด้วยครับ ทั้งแบตเตอรี่สำหรับเก็บพลังงานที่บ้าน (อย่าง Powerwall) หรือระดับอุตสาหกรรม (Megapack) ไปจนถึงระบบโซลาร์เซลล์สำหรับผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ พูดง่ายๆ คือเขาวางตัวเองเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดแบบเบ็ดเสร็จ ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต ใช้ ไปจนถึงเก็บพลังงานเลยทีเดียว

บริษัทก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 (2003) โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งหลายท่าน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีชื่อของ “อีลอน มัสก์” (Elon Musk) อยู่ด้วย แม้เขาจะไม่ใช่ผู้ก่อตั้งดั้งเดิมคนแรกสุด แต่ก็เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่และมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนเทสลาจนโด่งดังไปทั่วโลกถึงทุกวันนี้ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาครับ

ราคาหุ้นเทสล่า: รถไฟเหาะตีลังกาแห่งวอลล์สตรีท

ทีนี้มาถึงเรื่องที่หลายคนจับตาดู นั่นก็คือ ราคาหุ้นเทสล่า ครับ ถ้าเปรียบเทียบกับการเดินทาง ราคาหุ้นตัวนี้เหมือนรถไฟเหาะตีลังกาดีๆ นี่เอง เพราะมันมีความผันผวน (Volatility) สูงมากๆ ครับ ตัวเลขที่นักวิเคราะห์เขาใช้ดูกันคือ ค่าสัมประสิทธิ์เบต้า (Beta) ซึ่งของเทสลาอยู่ที่ประมาณ 1.89 หมายความว่า ราคาหุ้นเทสล่า มีแนวโน้มจะขึ้นลงแรงกว่าตลาดโดยรวมเกือบสองเท่าตัวเลยทีเดียว

ในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นเทสล่า ก็ขึ้นลงหวือหวาไม่แพ้ข่าว ลองดูตัวเลขกันชัดๆ นะครับ (อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2568)

* ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาพอสมควร
* แต่พอมองย้อนกลับไป “ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน” (YTD) ราคาหุ้นเทสล่า กลับลดลงไปถึง -29.44% เลยนะ!
* ในทางกลับกัน ถ้ามองย้อนไป “หนึ่งปีที่ผ่านมา” ราคาหุ้นเทสล่า กลับพุ่งขึ้นไปถึง +74.94% นี่แหละครับความผันผวนของจริง
* เคยมีช่วงที่ ราคาหุ้นเทสล่า พุ่งสูงทำสถิติสูงสุดตลอดกาลไปแตะ 488.54 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2567 ด้วย (ตอนนั้นมูลค่าบริษัทรวมกันมหาศาลมาก) แต่ก็เคยลงไปต่ำสุดแถวๆ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อนานมาแล้ว (ปี พ.ศ. 2553 หลังเข้าตลาดช่วงแรกๆ)

ปัจจุบันเทสลามีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) สูงกว่า 7.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นบริษัทที่ใหญ่มากๆ ในตลาดโลกครับ ส่วนมุมมองของนักวิเคราะห์กว่า 50 ท่านที่ติดตามเทสลาอย่างใกล้ชิด ส่วนใหญ่ให้คำแนะนำรวมๆ ว่า “เป็นกลาง” (Neutral) แต่ก็มีหลายรายที่มองว่ายังมี “แรงซื้อรุนแรง” (Strong Buy) อยู่ ซึ่งความเห็นที่หลากหลายนี้ก็สะท้อนความไม่แน่นอนของ ราคาหุ้นเทสล่า ได้เป็นอย่างดีครับ อย่างช่วงราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ก็กว้างมากๆ ตั้งแต่ 115 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจนถึง 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

ผลประกอบการล่าสุด: ฝ่ามรสุม แต่ยังไม่ถอดใจ

พอเจาะลึกไปดูที่ “ผลประกอบการ” (Earnings) ซึ่งเป็นเหมือนรายงานสุขภาพทางการเงินของบริษัท สิ่งที่เห็นในไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 1 ปี พ.ศ. 2568 – หมายเหตุ: น่าจะอ้างอิงผลประกอบการ Q1 2024 จากข้อมูลที่ให้มานะครับ*) ถือว่าน่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกันครับ

* กำไรต่อหุ้น (EPS): ตัวเลขจริงออกมาที่ 0.27 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่ง “ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์” ไว้ที่ 0.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว (ต่ำกว่าคาดไป 34.09%)
* รายได้ (Revenue): ก็ออกมาที่ 19.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งก็ “ต่ำกว่าที่คาดการณ์” ไว้ที่ 21.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นกัน

ตัวเลขเหล่านี้บอกอะไรเรา? มันบอกว่าในไตรมาสล่าสุด เทสลามียอดขายและกำไรที่ทำได้จริง “ไม่ดีเท่าที่ตลาดหวัง” ซึ่งนี่เป็นปัจจัยสำคัญที่กดดัน ราคาหุ้นเทสล่า ในช่วงที่ผ่านมาครับ ถ้ามองภาพรวมแบบปีต่อปี ยิ่งชัดเลยว่าการเติบโตของรายได้ชะลอตัวอยู่ที่แค่ 2.1% และการเติบโตของกำไรแบบปีต่อปีติดลบไปถึง -70.9% ซึ่งถือว่าหนักหนาสาหัสเลยทีเดียว

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีมุมบวกอยู่บ้างครับ เช่น รายได้สุทธิ (Net Income) ในไตรมาสล่าสุดยังคงเพิ่มขึ้น 6.78% จากไตรมาสก่อนหน้า และอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ยังคงอยู่ในระดับที่ดีคือ 13.44% แปลว่าบริษัทก็ยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานอยู่พอสมควรครับ เพียงแต่ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาจจะสูงขึ้น หรือการแข่งขันอาจทำให้ต้องลดราคาลง จนกระทบกำไรขั้นสุดท้าย

เทสลาเป็นบริษัทที่เน้นการเติบโตและลงทุนหนักเพื่อขยายธุรกิจ ดังนั้นจึงยัง “ไม่มีการจ่ายเงินปันผล” (No Dividend) ให้ผู้ถือหุ้นเลย ซึ่งก็เป็นปกติสำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่กำลังขยายตัวครับ

ปัจจัยร้อนๆ รอบตัวเทสลา: ไม่ได้มีแค่ตัวเลข

นอกจากผลประกอบการแล้ว ยังมีข่าวสารและประเด็นร้อนๆ อีกมากมายที่ส่งผลโดยตรงต่อ ราคาหุ้นเทสล่า ครับ เหมือนมีพายุหลายลูกพัดเข้ามาพร้อมๆ กันเลย

* บทบาทของอีลอน มัสก์: คนนี้คือจุดสนใจตลอดเวลาครับ ล่าสุดเขาก็บอกว่าจะลดบทบาทการดูแลงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลลง แล้วจะหันมาโฟกัสกับการบริหารเทสลามากขึ้น ซึ่งแฟนๆ เทสลาก็หวังว่าจะเป็นผลดี แต่ในอีกมุมหนึ่ง การทวีตหรือแสดงความเห็นของเขาก็ยังเป็นดาบสองคมที่สามารถทำให้ ราคาหุ้นเทสล่า ปรับขึ้นหรือลงได้อย่างรวดเร็ว เหมือนครั้งที่มีประเด็นเกี่ยวกับเงินดิจิทัลอย่าง DOGE ครับ
* ข่าวเชิงลบและคดีความ: เทสลากำลังเผชิญกับคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหรัฐฯ ที่ถูกกล่าวหาว่า “ปั่นเลขไมล์” เพื่อเลี่ยงจ่ายค่าซ่อมรถตามประกัน ฟังดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าแพ้คดีก็อาจมีผลกระทบได้ นอกจากนี้ยังมีข่าวไม่ดีอื่นๆ อีก เช่น เหตุการณ์ลอบวางเพลิงที่โชว์รูมหรือสถานีชาร์จในหลายที่ (เหมือนเรื่องราวในภาพยนตร์เลย) หรือแม้แต่การถูกถอดออกจากการร่วมงานแสดงรถยนต์ในแคนาดา ซึ่งข่าวเหล่านี้สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีและอาจกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้
* ยอดขายกับการแข่งขัน: แม้ว่ายอดขายรถในจีนในไตรมาสแรกของปีนี้จะยังเติบโตได้ แต่ในยุโรปกลับทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งถูกมองว่ามาจาก “กระแสต่อต้านอีลอน มัสก์” ที่เริ่มมีผลในบางประเทศยุโรป ยิ่งไปกว่านั้น คู่แข่งอย่าง BYD จากจีน ก็เริ่มทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแซงหน้าเทสลาไปแล้วในปีที่ผ่านมา นี่คือการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดโลก
* กลยุทธ์รับมือ: เทสลาก็ไม่ได้อยู่นิ่งครับ เขามีแผนจะผลิต Model Y รุ่นประหยัดในโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อ “ลดต้นทุนการผลิต” ลงถึง 20% และหวังจะใช้กลยุทธ์นี้รักษาฐานลูกค้าและแย่งส่วนแบ่งตลาดในจีนกลับคืนมา นอกจากนี้ ธุรกิจด้านแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานก็กำลังไปได้ดี และเพิ่งเริ่มส่งออกแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ (Megapack) จากโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ออกไปด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเทสลายังมองหาช่องทางการเติบโตอื่นๆ นอกเหนือจากรถยนต์ด้วย

ลงทุนในราคาหุ้นเทสล่า จากเมืองไทย ทำได้ยังไง?

สำหรับนักลงทุนในประเทศไทยที่สนใจอยากเป็นเจ้าของ ราคาหุ้นเทสล่า หรืออยากลงทุนในบริษัทระดับโลกอย่างเทสลา ไม่ต้องบินไปเปิดบัญชีที่อเมริกาครับ เพราะตลาดหลักทรัพย์ไทยมีเครื่องมือที่เรียกว่า “ใบสำคัญแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ” หรือที่เรียกย่อๆ ว่า “ดีอาร์” (DR) ซึ่งในกรณีของเทสลา ก็คือ DR ที่มีสัญลักษณ์ “TSLA80” ออกโดยธนาคารกรุงไทย (KTB) ครับ

ดีอาร์ตัวนี้ทำให้เราสามารถซื้อขายหุ้นเทสลาได้โดยตรงผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่เรามีอยู่แล้วในประเทศไทยนี่แหละครับ สะดวกมากๆ ล่าสุด (ข้อมูลวันที่ 17 มิ.ย. 2568) ราคา DR TSLA80 ก็มีการซื้อขายกัน มีทั้งราคาสูงสุด ต่ำสุด และปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคา DR ตัวนี้ก็จะอิงกับการเคลื่อนไหวของ ราคาหุ้นเทสล่า ในตลาดแนสแด็ก สหรัฐอเมริกาเป็นหลักครับ

สรุปแล้ว ราคาหุ้นเทสล่า น่าลงทุนไหม?

จากข้อมูลทั้งหมดที่เราคุยกันมา จะเห็นว่าเทสลาเป็นบริษัทที่มีทั้งความน่าตื่นเต้นและมีความท้าทายในเวลาเดียวกันครับ

* ด้านที่น่าสนใจ: เทสลายังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด แผนการลดต้นทุนและขยายธุรกิจพลังงานก็น่าจับตา
* ด้านที่ต้องระวัง: ผลประกอบการล่าสุดที่ต่ำกว่าคาด การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ปัญหาเชิงลบต่างๆ และปัจจัยความไม่แน่นอนจากตัวอีลอน มัสก์ เอง ก็เป็นความเสี่ยงที่มองข้ามไม่ได้ แถม ราคาหุ้นเทสล่า ก็ผันผวนสูงมากๆ

ถ้าถามว่าน่าลงทุนไหม คำตอบสั้นๆ คือ ไม่มีใครบอกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ เพราะการลงทุนใน ราคาหุ้นเทสล่า หรือหุ้นตัวไหนก็ตาม ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการลงทุน ความเสี่ยงที่คุณรับได้ และการศึกษาข้อมูลของคุณเอง

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนที่สนใจ ราคาหุ้นเทสล่า คือต้อง “ทำการบ้าน” ครับ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งเรื่องธุรกิจ ผลประกอบการ แนวโน้มตลาด การแข่งขัน และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ของบริษัทให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เหมือนตอนเราจะซื้อรถสักคัน เราก็ต้องดูรายละเอียดเยอะๆ ใช่ไหมครับ การลงทุนก็เหมือนกัน

และที่สำคัญมากๆ คือ ⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนใน ราคาหุ้นเทสล่า หรือตราสารใดๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง DR TSLA80 ด้วยนะครับ อย่าลืมประเมินความเสี่ยงที่คุณรับได้ และกระจายความเสี่ยงในการลงทุนด้วยนะครับ

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของเพื่อนๆ นักลงทุนทุกคนนะครับ แล้วพบกันใหม่ในคอลัมน์การเงินฉบับหน้าครับ!