เจาะลึกกราฟหุ้น EA: พลังงานสะอาดอนาคตไกล หรือแค่ภาพลวงตา?

เพื่อนๆ นักลงทุนและผู้สนใจในโลกการเงินทุกคนครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวของหุ้นตัวหนึ่งที่น่าสนใจมากมาเล่าให้ฟังครับ หุ้นตัวนี้อยู่ในกระแสพลังงานแห่งอนาคต ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ ไปจนถึงโรงไฟฟ้าจากธรรมชาติ พูดแล้วก็น่าตื่นเต้นใช่ไหมครับ แต่เหมือนกับทุกเรื่องราวในตลาดหุ้น เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ วันนี้เราจะมาแกะกล่อง “พลังงานบริสุทธิ์” หรือที่นักลงทุนคุ้นเคยกันดีในชื่อหุ้น “อีเอ” (EA) ผ่านมุมมองที่เข้าใจง่ายๆ เหมือนคุยกับเพื่อนข้างบ้าน พร้อมเจาะลึกสิ่งที่เห็นบน กราฟหุ้น ea และตัวเลขที่เล่าเรื่องราวบางอย่างให้เราฟังครับ

ถ้าให้เริ่มเล่าถึง EA ต้องบอกว่าเป็นบริษัทสัญชาติไทยแท้ๆ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2549 และเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บ้านเราเมื่อต้นปี 2556 เขาไม่ได้ทำแค่พลังงานทางเดียว แต่กระจายธุรกิจไปหลายแขนงเลยครับ ทั้งผลิตและขายน้ำมันไบโอดีเซลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และลม แถมยังบุกเบิกด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เต็มตัว ซึ่งต่อยอดไปถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเอง มีสถานีชาร์จรองรับทั่วประเทศ และยังมีธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งศูนย์ทดสอบ วิจัยพัฒนา หรือแม้กระทั่งโรงไฟฟ้าจากขยะ ฟังดูแล้วเหมือนเป็นบริษัทแห่งอนาคตที่กำลังขี่กระแสโลกอยู่เลยใช่ไหมครับ

แต่พอเรามาดูสิ่งที่เกิดขึ้นบน กราฟหุ้น ea ในช่วงที่ผ่านมา หลายคนอาจจะต้องขมวดคิ้วครับ ข้อมูล ณ วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ราคาหุ้น EA ปิดอยู่ที่ 2.32 บาท ซึ่งถ้าเราลองมองย้อนกลับไปในอดีตสัก 1 ปี, 5 ปี หรือแม้กระทั่งตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญเลยครับ อย่างในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ราคาลดลงไปเกือบ 60% และถ้ามอง 1 ปี ก็ลดลงเกือบ 90% เลยทีเดียว นี่แสดงให้เห็นถึงแรงขายและความผิดหวังของตลาดที่มีต่อหุ้นตัวนี้อย่างชัดเจน การซื้อขายในแต่ละวันก็ค่อนข้างคึกคัก มีปริมาณมากพอสมควร รวมถึงมีรายการซื้อขายใหญ่ๆ หรือ Big Lot เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการปรับพอร์ตของนักลงทุนรายใหญ่บางส่วนครับ ส่วนนักลงทุนต่างชาติเอง ในช่วงสั้นๆ ก็มียอดขายสุทธิออกมาเช่นกัน ซึ่งเป็นอีกสัญญาณที่ต้องจับตาดูครับ

ทีนี้ มาดูตัวเลขทางการเงินที่เปรียบเสมือนสุขภาพของบริษัทกันบ้างครับ EA เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่มาก มีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 กว่าหนึ่งแสนล้านบาท! หนี้สินก็มีอยู่ราวๆ หกหมื่นกว่าล้านบาทครับ เมื่อเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นแล้ว อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) อยู่ที่ประมาณ 1.51 เท่า ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงพอสมควร แปลว่าบริษัทมีการกู้ยืมมาใช้ในการดำเนินธุรกิจและลงทุนค่อนข้างมาก ตรงนี้เป็นจุดที่นักลงทุนต้องระมัดระวังครับ เพราะหนี้สินที่สูงย่อมมาพร้อมกับภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย และเพิ่มความเสี่ยงทางการเงินหากผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้า

และนี่คือจุดที่น่าเป็นห่วงครับ ตามข้อมูลผลประกอบการล่าสุด ทั้งกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา หรือแม้แต่รายได้สุทธิรายปี บริษัทกำลังประสบปัญหาขาดทุนครับ กำไรต่อหุ้น (LTM) ติดลบถึง 1.40 บาท และมีรายได้สุทธิรายปีติดลบกว่า 4,630 ล้านบาท แม้ในไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 1 ปี 2568) จะรายงานกำไรต่อหุ้นที่ 0.04 บาท แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยผลขาดทุนสะสมได้ ทำให้ภาพรวมยังคงติดลบครับ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ก็ติดลบตามไปด้วย ซึ่งบ่งชี้ว่าสินทรัพย์และเงินทุนของผู้ถือหุ้นที่นำมาใช้ในการดำเนินงานยังไม่สามารถสร้างผลกำไรได้ในช่วงนี้

แต่ในภาพรวมที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความท้าทายนี้ ก็ยังมีมุมที่น่าสนใจอยู่บ้างครับ อย่างแรกคือเรื่องเงินปันผล แม้บริษัทจะกำลังประสบปัญหาขาดทุน แต่มีข้อมูลว่า EA มีประวัติการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอมาตลอดในช่วงปี 2563 ถึง 2567 ในอัตรา 0.3 บาทต่อหุ้นต่อปี ตรงนี้เป็นเหมือนการส่งสัญญาณว่าบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้น ถึงแม้จะอยู่ในช่วงที่ต้องลงทุนหนักและยังไม่เห็นกำไรเต็มที่ก็ตามครับ การที่บริษัทยังคงจ่ายเงินปันผลได้ อาจเป็นเพราะยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในส่วนธุรกิจที่ยังแข็งแกร่งอยู่ หรืออาจต้องการรักษาฐานผู้ถือหุ้นเดิมไว้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณาเองว่า การจ่ายปันผลในภาวะขาดทุนเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ดีกันแน่

อีกมุมหนึ่งที่พอจะเป็นข่าวดีได้บ้างคือพัฒนาการเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ก่อนหน้านี้ EA มีคดีความที่อาจเป็นอุปสรรคต่อโครงการโรงไฟฟ้าลม “วินด์กาฬสินธุ์ 2” แต่ล่าสุดมีข่าวว่าบริษัทได้ถอนฟ้องคดีดังกล่าวแล้ว ซึ่งตรงนี้อาจเป็นสัญญาณบวกที่สำคัญ เพราะอาจเปิดทางให้บริษัทสามารถเดินหน้าเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานลมกับ กกพ. (คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน) ได้ ซึ่งหากโครงการพลังงานลมขนาดใหญ่เกิดขึ้นได้ตามแผน ก็จะเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่จะเข้ามาช่วยพลิกฟื้นผลประกอบการในอนาคตได้ครับ โครงการนี้ยังมีพันธมิตรรายใหญ่อย่าง Gulf และ SSP เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือและศักยภาพในการพัฒนาโครงการครับ

ถ้ามองจาก กราฟหุ้น ea ในเชิงเทคนิคเบื้องต้น ตัวชี้วัดอย่าง MACD (เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่บรรจบและแยกจากกัน) ยังแสดงสัญญาณขาลงต่อเนื่องมา 23 วันแล้ว ส่วนดัชนี RSI (ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์) อยู่ที่ 37.66 ซึ่งไม่ได้อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป แค่อยู่ในโซนที่ค่อนไปทางอ่อนแรงครับ

สรุปแล้ว หุ้น EA เป็นหุ้นที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจและมีความซับซ้อนอยู่ในตัว มีทั้งธุรกิจแห่งอนาคตที่สอดคล้องกับกระแสโลก แต่ในขณะเดียวกันก็เผชิญกับความท้าทายด้านผลประกอบการและภาระหนี้สินที่สูง ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างมากบน กราฟหุ้น ea สะท้อนถึงมุมมองเชิงลบของตลาดในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีประเด็นบวกที่ต้องติดตามอย่างเรื่องเงินปันผลที่สม่ำเสมอ และข่าวดีที่อาจปลดล็อกโครงการโรงไฟฟ้าลมในอนาคต

สำหรับนักลงทุนที่กำลังพิจารณาหุ้นตัวนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจธุรกิจอย่างถ่องแท้ มองภาพระยะยาวถึงศักยภาพการเติบโตในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะพิจารณาความเสี่ยงในระยะสั้น ทั้งเรื่องผลประกอบการที่ยังขาดทุน ภาระหนี้สิน และแนวโน้มราคาหุ้นที่ยังคงเป็นขาลงตามที่เห็นบน กราฟหุ้น ea ครับ การลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนและอยู่ในช่วงปรับตัวแบบนี้ จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังและศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านครับ

⚠️ หากคุณยังเป็นนักลงทุนมือใหม่ หรือเงินทุนของคุณมีสภาพคล่องไม่สูงนัก การลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงแบบนี้อาจต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ควรแบ่งเงินลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหากไม่มั่นใจครับ โปรดจำไว้ว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ.