FTMO คืออะไร? เจาะลึกโมเดลการเทรดกองทุน
แนวคิดหลักและพันธกิจของ FTMO
ในตลาด Forex ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมี “เงินทุน” เพียงพอสามารถกลายเป็นตัวแยกระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลว FTMO ได้เข้ามาในฐานะ บริษัทเทรดดิ้งส่วนตัว (Proprietary Trading Firm) ที่ออกแบบมาเพื่อปิดช่องว่างระหว่างความสามารถกับทรัพยากร โดยให้โอกาส “นักเทรด” ที่มีทักษะแต่ขาดทุนในการแสดงศักยภาพผ่านบัญชีเงินทุนจริง ไม่ว่าจะเป็นในตลาดสกุลเงิน, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี หรือแม้แต่คริปโตเคอร์เรนซี จุดเน้นหลักของ FTMO ไม่ใช่แค่กำไร แต่คือการคัดเลือกผู้ที่มี วินัย ในการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน หากผ่านขั้นตอนการประเมิน นักเทรดจะถูกเสนอให้บริหาร “บัญชีกองทุน” พร้อมแบ่งผลกำไรตามสัดส่วนที่กำหนด ทำให้ FTMO กลายเป็นประตูสู่การเป็น นักเทรดกองทุน (Funded Trader) ที่แท้จริง
กระบวนการประเมินสองขั้นตอนของ FTMO Challenge
เส้นทางสู่การได้รับเงินทุนจาก FTMO ไม่ใช่การสอบเพียงรอบเดียว แต่เป็นกระบวนการคัดกรองสองชั้นที่ออกแบบมาเพื่อทดสอบ “ความสม่ำเสมอ” และ “การจัดการความเสี่ยง” อย่างเข้มงวด ได้แก่:
- FTMO Challenge (ขั้นตอนที่ 1): นี่คือบททดสอบแรกที่กำหนดเป้าหมายกำไรไว้ที่ 10% ของขนาดบัญชี โดยนักเทรดต้องทำให้ได้ภายในระยะเวลาจำกัด ในขณะเดียวกันต้องไม่ละเมิดกฎเกณฑ์เรื่องการขาดทุน
- Verification (ขั้นตอนที่ 2): เมื่อผ่านขั้นตอนแรกแล้ว นักเทรดจะเข้าสู่ขั้นตอนตรวจสอบ ซึ่งมีเป้าหมายกำไรลดลงเหลือ 5% แต่ให้เวลายืดหยุ่นมากกว่า เป้าหมายคือการพิสูจน์ว่าผลกำไรที่ได้ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เกิดจากกลยุทธ์ที่สามารถทำซ้ำได้
ทั้งสองขั้นตอนมี “กำแพงความปลอดภัย” สำคัญสามประการ: กำไรเป้าหมาย, ขาดทุนสูงสุด และ ขาดทุนรายวันสูงสุด หากฝ่าฝืนแม้เพียงข้อเดียว บัญชีจะถูกปิดทันที การผ่านด่านเหล่านี้แสดงถึงระดับวินัยที่ FTMO คาดหวัง
กฎการสอบ FTMO และกลยุทธ์พิชิตความสำเร็จ: สิ่งที่นักเทรดไทยควรรู้
เจาะลึกกฎการเทรดหลักของ FTMO
ความเข้าใจใน “กฎ” เป็นหัวใจสำคัญของการผ่าน FTMO Challenge อย่างมั่นคง ข้อกำหนดหลักๆ มีดังนี้:
| กฎ | คำอธิบาย | ตัวอย่าง (บัญชี 100,000 USD) |
|---|---|---|
| เป้าหมายกำไร (Profit Target) | จำนวนกำไรที่ต้องทำได้ในแต่ละขั้นตอน (Challenge: 10%, Verification: 5%) | Challenge: 10,000 USD, Verification: 5,000 USD |
| ขาดทุนสูงสุด (Maximum Loss) | เงินในบัญชีไม่สามารถลดลงเกินจำนวนนี้ได้นับจากยอดเงินเริ่มต้น (10%) | สูงสุด 10,000 USD (ห้ามต่ำกว่า 90,000 USD) |
| ขาดทุนรายวันสูงสุด (Daily Loss) | เงินในบัญชีไม่สามารถลดลงเกินจำนวนนี้ได้ภายในวันเดียว (5%) | สูงสุด 5,000 USD (นับจากยอดเริ่มต้น หรือยอดสูงสุดในวันนั้น) |
| ระยะเวลาเทรดขั้นต่ำ | ต้องเทรดอย่างน้อย 4 วันทำการในแต่ละขั้นตอน | 4 วันทำการ |
นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเพิ่มเติม เช่น ห้ามเทรดข่าวรุนแรงในบางบัญชี, การถือออร์เดอร์ข้ามสุดสัปดาห์อาจมีข้อห้าม, และการใช้เลเวอเรจที่กำหนดตายตัว การศึกษา กฎ อย่างละเอียดจึงจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคัดออกโดยไม่จำเป็น
กลยุทธ์การเทรด FTMO Challenge สำหรับนักเทรดไทย
นักเทรดชาวไทยควรออกแบบแผนการเทรดโดยเน้น “ความสม่ำเสมอ” แทนการไล่ตามกำไรมากในวันเดียว การบริหารความเสี่ยงจึงต้องเป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์
- กำหนดขนาดล็อตที่เหมาะสม: คำนวณขนาดตำแหน่งให้แน่ใจว่าแม้เกิด ขาดทุนรายวันสูงสุด หรือ ขาดทุนสูงสุด ก็ยังอยู่ในกรอบที่ปลอดภัย ตัวอย่างเช่น ถ้าใช้ 1% ต่อการเทรด ควรเผื่อเหลือ margin สำหรับเหตุการณ์ผันผวน
- เน้นวินัย: ปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการ Overtrade หรือการพยายามแก้เกมหลังจากขาดทุน การรู้ว่าเมื่อไรควรหยุดคือทักษะที่สำคัญที่สุด
- การจัดการทางจิตวิทยา: จิตวิทยานักเทรด มีบทบาทมากกว่าที่หลายคนคิด ความกดดันจากการสอบอาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาด แนะนำให้ฝึกซ้อมด้วยบัญชีทดลองเป็นเวลาอย่างน้อย 1–2 เดือนเพื่อสร้าง “ความเคยชิน” ก่อนลงสนามจริง
FTMO กับระบบเทรดอัตโนมัติ (EA): คู่มือการใช้งานอย่างถูกกฎหมายและมีประสิทธิภาพ
ในประเทศไทย ความนิยมในการใช้ Expert Advisor (EA) สูงมาก ซึ่ง FTMO อนุญาตให้ใช้ EA ได้ แต่มีเงื่อนไขเฉพาะที่ต้องเข้าใจ
- ห้ามใช้ EA ที่มีลักษณะ Copy Trade: FTMO ตรวจจับพฤติกรรมการคัดลอกการเทรดจากบัญชีอื่นอย่างเข้มงวด หากถูกพบจะถูกตัดสิทธิ์ทันที
- EA ต้องมีเอกลักษณ์: หาก EA ของคุณมีรูปแบบการเทรดเหมือนกับนักเทรดคนอื่นบนเซิร์ฟเวอร์เดียวกัน อาจถือว่า “ซ้ำซ้อน” และผิดกฎ ควรปรับแต่ง EA ให้มีพฤติกรรมเฉพาะตัว
- การปรับแต่งเพื่อความปลอดภัย: ต้องตั้งค่า stop loss, position sizing และ trailing stop ให้สอดคล้องกับ ขาดทุนรายวันสูงสุด และ ขาดทุนสูงสุด โดยเฉพาะเมื่อรันบน MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 ควรตรวจสอบการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าธรรมเนียม, การถอนเงิน และการแบ่งปันกำไรจาก FTMO: คู่มือสำหรับคนไทย
ค่าธรรมเนียม FTMO Challenge และนโยบายการคืนเงิน (ftmo ค่าสอบ)
การสอบ FTMO Challenge มี “ค่าธรรมเนียม” ที่แตกต่างกันตามขนาดบัญชี ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ต้องเตรียมพร้อม:
| ขนาดบัญชี (USD) | ค่าธรรมเนียม (EUR) โดยประมาณ |
|---|---|
| 10,000 | 155 |
| 25,000 | 250 |
| 50,000 | 345 |
| 100,000 | 540 |
| 200,000 | 1,080 |
ข่าวดีคือ หากคุณผ่านทั้ง Challenge และ Verification ค่าธรรมเนียมทั้งหมดจะถูก “คืนเงิน” พร้อมกับการถอนกำไรครั้งแรก ทำให้ค่าใช้จ่ายนี้กลายเป็นการลงทุนที่มีศักยภาพในการคืนทุนสูง
ขั้นตอนการถอนเงิน FTMO และช่องทางการชำระเงินสำหรับคนไทย (ftmo จ่ายเงินยังไง)
หลังจากกลายเป็น นักเทรดกองทุน แล้ว กระบวนการ “ถอนเงิน (Withdrawal Process)” ของ FTMO มีความโปร่งใสและยืดหยุ่น โดยเริ่มต้นที่อัตรา “การแบ่งปันกำไร (Profit Split)” 80:20 (นักเทรด 80%, FTMO 20%) และสามารถเพิ่มเป็น 90:10 ได้เมื่อขยายบัญชีผ่าน Scaling Plan
สำหรับนักเทรดไทย มีหลายช่องทางที่รองรับการรับเงิน:
- การโอนเงินผ่านธนาคาร (Bank Transfer): รับเงินเข้า “บัญชีธนาคารไทย” โดยตรง แม้จะมีค่าธรรมเนียมข้ามประเทศและใช้เวลา 3–5 วันทำการ แต่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเอกสารประกอบภาษี
- สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency): ทางเลือกยอดนิยมในไทย ด้วยความเร็วในการทำธุรกรรม (ภายใน 24 ชม.) และค่าธรรมเนียมต่ำ โดยรองรับ Bitcoin, Ethereum, USDT และอื่นๆ
- บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet): เช่น Skrill และ Neteller ซึ่งสะดวกต่อการแปลงเป็นเงินบาทผ่านตลาดแลกเปลี่ยน
นักเทรดควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและเวลาดำเนินการก่อนตัดสินใจ
ข้อควรพิจารณาเบื้องต้นเกี่ยวกับภาษีกำไร FTMO สำหรับนักเทรดไทย
กำไรจาก FTMO ถือเป็น “รายได้จากต่างประเทศ” ซึ่งตาม กรมสรรพากรของไทย หากนำเงินเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีเดียวกัน ต้องมีการ “ยื่นภาษี (Tax Declaration)” ตามปกติ แม้ FTMO จะไม่หักภาษี ณ ที่จ่าย แต่นักเทรดยังคงมีหน้าที่รายงานตนเอง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อวางแผนการเงินอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะหากมีรายได้ประจำหรือมีแหล่งรายได้อื่น
การสนับสนุนแพลตฟอร์ม, ฝ่ายบริการลูกค้า และบทวิจารณ์จากชุมชน FTMO
แพลตฟอร์มและเครื่องมือการเทรด
FTMO รองรับ “แพลตฟอร์มการเทรด (Trading Platforms)” ที่นิยมที่สุดในโลก ทำให้เข้าถึงได้ทั้งนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพ:
- MetaTrader 4 (MT4): แพลตฟอร์มที่นิยมสูง รองรับ EA จำนวนมาก เหมาะสำหรับการเทรดอัตโนมัติ
- MetaTrader 5 (MT5): รุ่นอัปเกรดที่มีไทม์เฟรมมากกว่าและประเภทคำสั่งซื้อขายที่หลากหลาย
- cTrader: อินเทอร์เฟซที่ทันสมัย เหมาะกับนักเทรดที่ต้องการความเร็วและความโปร่งใสในการดำเนินคำสั่ง
นอกจากนี้ยังมี แผนการขยายบัญชี (Scaling Plan) ที่ช่วยให้นักเทรดที่ทำผลงานดีสามารถเพิ่มขนาดบัญชีได้สูงสุดถึงหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญในการรักษาผลประกอบการที่ดี
ฝ่ายบริการลูกค้าและช่องทางการสนับสนุน FTMO
FTMO ให้ความสำคัญกับ “การสนับสนุนลูกค้า (Customer Support)” ผ่านช่องทางหลัก:
- อีเมล: สำหรับคำถามทั่วไปและการส่งเอกสาร
- แชทสด: บนเว็บไซต์ สำหรับการสอบถามด่วน เช่น ปัญหาการเข้าสู่ระบบหรือการยืนยันผล
- โทรศัพท์: มีบริการสายด่วนสำหรับกรณีเร่งด่วน
ทีมงานตอบกลับได้อย่างรวดเร็วและมีความรู้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของ FTMO ว่าเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานสูง
บทวิจารณ์จากผู้ใช้งาน FTMO และการอภิปรายในชุมชนไทย (ftmo pantip)
FTMO ได้รับ “บทวิจารณ์จากผู้ใช้งาน (User Reviews)” ในเชิงบวกมาก โดยเฉพาะบน Trustpilot ที่มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับดีเยี่ยม สะท้อนความพึงพอใจของนักเทรดทั่วโลก
ในประเทศไทย ชุมชนออนไลน์เช่น “ฟอรั่ม Pantip (Pantip Forum)” มีการพูดถึง FTMO อย่างต่อเนื่อง โดยประเด็นหลักที่มักถูกพูดถึง ได้แก่:
- ประสบการณ์การสอบ: การแบ่งปันเทคนิค, ไทม์เฟรมที่เหมาะกับ Challenge และการจัดการอารมณ์
- ข้อควรระวัง: การตีความกฎที่ผิดพลาด เช่น การละเมิด Daily Loss โดยไม่รู้ตัว
- การถอนเงิน: ความรวดเร็วในการรับเงิน และความสะดวกของแต่ละช่องทาง
ข้อมูลจากชุมชนเหล่านี้เป็นทรัพยากรที่มีค่ามาก โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น
FTMO กับบริษัทเทรดดิ้งส่วนตัวอื่นๆ และทางเลือกสำหรับนักเทรดไทย
การวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของ FTMO
FTMO มีจุดแข็งที่โดดเด่นหลายด้าน:
- อัตราการแบ่งปันกำไรสูง: 80–90% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม
- กฎที่ชัดเจนและโปร่งใส: เข้าใจง่าย ไม่กำกวม
- ชื่อเสียงที่แข็งแกร่ง: ดำเนินงานมาหลายปี มีชุมชนผู้ใช้งานกว้างขวาง
- รองรับหลายแพลตฟอร์ม: MT4, MT5, cTrader ทำให้ยืดหยุ่นในการเลือกใช้เครื่องมือ
อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อควรพิจารณา:
- กฎ Daily Loss ที่เข้มงวด: อาจจำกัดกลยุทธ์บางประเภท เช่น Scalping หรือการถือตำแหน่งในช่วงข่าว
- ค่าธรรมเนียมเริ่มต้น: แม้จะคืนเงินได้ แต่ก็ต้องใช้ทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะบัญชีขนาดใหญ่
การเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักเทรดไทย
เมื่อเลือก “บริษัทเทรดดิ้งส่วนตัว” นักเทรดไทยควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
- กฎระเบียบท้องถิ่น (Local Regulations): แม้ FTMO จะตั้งอยู่ในยุโรป แต่การเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับสูง เช่น FCA หรือ ASIC เป็นสิ่งสำคัญหากต้องการเทรดด้วยเงินตัวเอง
- ความสะดวกในการชำระเงิน (Payment Convenience): ควรมีช่องทางที่รองรับการฝาก-ถอนเป็นสกุลเงินบาทหรือผ่านช่องทางที่ใช้บ่อยในไทย
- ภาษาและฝ่ายบริการลูกค้า: การสื่อสารเป็นภาษาไทยจะช่วยลดอุปสรรคในการทำความเข้าใจ
สำหรับผู้ที่ต้องการเทรดด้วย “เงินทุนส่วนตัว” แทนการขอทุนจาก Prop Firm เราขอแนะนำ Moneta Markets ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจาก FCA (Financial Conduct Authority) ของสหราชอาณาจักร และเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอล Atletico Madrid นอกจากนี้ยังมีระบบ Copy Trading ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถเรียนรู้จากนักเทรดมืออาชีพได้อย่างปลอดภัย
สรุป: FTMO เหมาะสำหรับคุณหรือไม่?
FTMO เป็นโอกาสทองสำหรับ “นักเทรด” ที่มี “วินัยสูง” และมี “ความสามารถในการบริหารความเสี่ยง” อย่างเข้มงวด หากคุณสามารถสร้างผลกำไรที่สม่ำเสมอภายใต้ข้อจำกัดที่เข้มงวด FTMO สามารถเปิดประตูสู่การเทรดในระดับที่คุณไม่เคยฝันถึงได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นด้วย “บัญชีทดลอง (Demo Account)” เพื่อทดสอบกลยุทธ์ พัฒนาจิตวิทยา และเข้าใจกฎอย่างแท้จริง ก่อนจะก้าวเข้าสู่สนามแข่งขันจริง การเตรียมตัวอย่างรอบคอบคือกุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาว
FTMO คืออะไร และเหมาะกับใครในประเทศไทย?
FTMO เป็นบริษัทเทรดดิ้งส่วนตัวที่มอบเงินทุนให้กับนักเทรดที่มีทักษะผ่านการประเมิน เหมาะสำหรับนักเทรดชาวไทยที่มีประสบการณ์ มีวินัยในการบริหารความเสี่ยง และต้องการเข้าถึงเงินทุนขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร โดยไม่ต้องใช้เงินทุนส่วนตัวจำนวนมาก
FTMO ค่าสอบแต่ละขนาดบัญชีเท่าไหร่ และคนไทยมีช่องทางการชำระเงินอย่างไรบ้าง?
ค่าสอบ FTMO แตกต่างกันไปตามขนาดบัญชี ตัวอย่างเช่น บัญชี 100,000 USD มีค่าสอบประมาณ 540 EUR โดยค่าสอบจะถูกคืนให้หากผ่านการประเมินสำเร็จ นักเทรดไทยสามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต, Skrill, Neteller หรือสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกและรวดเร็ว
วิธีการเข้าสู่ระบบ FTMO และการสมัครบัญชีทดลอง (Demo Account) สำหรับผู้เริ่มต้นมีขั้นตอนอย่างไร?
การเข้าสู่ระบบ FTMO ทำได้ผ่านเว็บไซต์ทางการหลังจากลงทะเบียนแล้ว สำหรับผู้เริ่มต้น คุณสามารถสมัครบัญชีทดลอง (Demo Account) ได้ฟรีบนเว็บไซต์ FTMO เพื่อฝึกฝนและทำความคุ้นเคยกับกฎและแพลตฟอร์มก่อนตัดสินใจเข้าร่วม FTMO Challenge
สอบกองทุน FTMO ยากไหม? มีเทคนิคหรือกลยุทธ์เฉพาะที่ช่วยให้เทรดเดอร์ไทยประสบความสำเร็จใน FTMO Challenge ได้อย่างไร?
FTMO Challenge ไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับนักเทรดที่มีวินัย เคล็ดลับคือการเน้นการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด การกำหนดขนาดล็อตที่เหมาะสม การรักษากฎ Daily Loss และ Maximum Loss อย่างเคร่งครัด รวมถึงการฝึกฝนจิตวิทยาการเทรดให้มั่นคง
FTMO จ่ายเงินยังไง และมีข้อจำกัดหรือค่าธรรมเนียมในการถอนเงินสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทยหรือไม่?
FTMO มีอัตราการแบ่งปันกำไรเริ่มต้นที่ 80:20 (นักเทรด 80%) และสามารถเพิ่มเป็น 90:10 ได้ การถอนเงินสามารถทำได้ผ่านการโอนเงินผ่านธนาคาร, สกุลเงินดิจิทัล หรือ E-wallet ซึ่งสำหรับคนไทย การใช้สกุลเงินดิจิทัลมักจะสะดวกและมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า ควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมและระยะเวลาดำเนินการกับ FTMO โดยตรง
ถ้าทำผิดกฎ FTMO เช่น Max Daily Loss จะเกิดอะไรขึ้น และมีโอกาสแก้ไขหรือสอบซ่อมได้หรือไม่?
หากคุณทำผิดกฎ FTMO เช่น เกินขีดจำกัด Max Daily Loss หรือ Max Loss บัญชี Challenge หรือ Verification ของคุณจะถูกยกเลิก คุณสามารถซื้อ Challenge ใหม่เพื่อลองอีกครั้งได้ แต่ไม่มีการสอบซ่อมสำหรับบัญชีที่ถูกยกเลิกไปแล้ว
รีวิว FTMO จากผู้ใช้งานจริงใน Pantip และฟอรั่มเทรดดิ้งของไทยเป็นอย่างไรบ้าง? มีข้อควรระวังอะไร?
FTMO ได้รับคะแนนรีวิวที่ดีเยี่ยมบน Trustpilot และในฟอรั่มเทรดดิ้งของไทยอย่าง Pantip มักมีการอภิปรายเกี่ยวกับประสบการณ์การสอบและกลยุทธ์ ข้อควรระวังหลักๆ คือการทำความเข้าใจกฎอย่างละเอียดและการบริหารความเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดกฎโดยไม่ตั้งใจ
การใช้ EA (Expert Advisor) หรือบอทเทรดกับ FTMO มีข้อจำกัดและแนวทางปฏิบัติที่ปลอดภัยอย่างไร?
FTMO อนุญาตให้ใช้ EA ได้ แต่ห้ามใช้ EA ที่มีลักษณะ Copy Trade หรือ EA ที่ทำ arbitrage/tick scalping รวมถึง EA ที่มีพฤติกรรมการเทรดเหมือนกันกับนักเทรดคนอื่น คุณควรปรับแต่ง EA ให้สอดคล้องกับกฎของ FTMO และตรวจสอบให้แน่ใจว่า EA ของคุณมีกลยุทธ์ที่เป็นเอกลักษณ์
มีบริษัท Prop Firm อื่นๆ ที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ไทยนอกเหนือจาก FTMO หรือไม่?
นอกเหนือจาก FTMO แล้ว ยังมีบริษัท Prop Firm อื่นๆ เช่น MyForexFunds (แต่ปัจจุบันมีปัญหาทางกฎหมาย), The Funded Trader, Topstep เป็นต้น อย่างไรก็ตาม FTMO ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดในตลาด
กำไรที่ได้จาก FTMO ต้องเสียภาษีในประเทศไทยหรือไม่ และควรจัดการเรื่องภาษีอย่างไร?
กำไรที่ได้จาก FTMO ถือเป็นรายได้จากต่างประเทศ หากนำเงินเข้าประเทศไทยในปีภาษีเดียวกัน ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องยื่นเสียภาษีตามกฎหมายไทย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อทำความเข้าใจข้อกำหนดและวางแผนภาษีอย่างถูกต้องตามสถานะของคุณ
