HYBE มีวงอะไรบ้าง? สรุปครบทุกค่ายย่อยและศิลปินเด่นในอาณาจักร K-Pop

บทนำ: ทำความรู้จัก HYBE Corporation อาณาจักรเพลงระดับโลก

ภาพวาดอาณาจักรดนตรีอันยิ่งใหญ่ที่มี HYBE Corporation เป็นศูนย์กลาง พร้อมวงไอดอลชื่อดังอย่าง BTS

หากพูดถึงบริษัทบันเทิงที่มีอิทธิพลต่อวงการ K-Pop และดนตรีระดับโลกในทศวรรษที่ผ่านมา คงไม่มีใครไม่รู้จัก HYBE Corporation บริษัทที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ BTS วงบอยแบนด์ที่พลิกโฉมวงการเพลงเกาหลีให้ก้าวไกลไปถึงระดับเวที Grammy และ UN อย่างเต็มตัว แต่เบื้องหลังความสำเร็จของวงดนตรีเดียว กลับซ่อนโครงสร้างองค์กรที่ซับซ้อนและทะเยอทะยานกว่าที่หลายคนคิด บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกมุมของจักรวรรดิบันเทิงแห่งนี้ ตั้งแต่ที่มาที่ไป โครงสร้างบริษัท ศิลปินในสังกัด ไปจนถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ทำให้ HYBE ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของอุตสาหกรรมบันเทิงทั่วโลก

HYBE มีวงอะไรบ้าง? สรุปศิลปินและค่ายเพลงในเครือทั้งหมด

ภาพวาดแสดงระบบค่ายเพลงหลายแห่งภายใต้ HYBE ที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย

ความโดดเด่นของ HYBE Corporation อยู่ที่โมเดลธุรกิจแบบ Multi-Label System หรือการดำเนินงานผ่านค่ายย่อยหลายค่าย ซึ่งแต่ละค่ายสามารถรักษาเอกลักษณ์ แนวคิดสร้างสรรค์ และทีมงานของตัวเองไว้ได้ ในขณะเดียวกันก็ได้รับการสนับสนุนด้านการเงิน โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีจากบริษัทแม่ โมเดลนี้ช่วยให้บริษัทสามารถผลิตผลงานหลากหลาย ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากศิลปินไม่กี่ราย และขยายตัวไปยังตลาดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือรายชื่อค่ายย่อยและศิลปินหลักที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของ HYBE

Big Hit Music: บ้านของตำนาน K-Pop

ภาพวาด Big Hit Music ศูนย์กลางของ HYBE พร้อมการแสดงสดของ BTS และ TXT

หากจะบอกว่า Big Hit Music คือรากฐานของจักรวรรดิ HYBE ก็ไม่ผิดนัก ค่ายนี้เริ่มต้นจากบริษัทเล็กๆ ที่ก่อตั้งโดยบังชีฮยอก จนเติบโตกลายเป็นผู้ผลิต BTS วงที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม K-Pop ทั้งในด้านการผลิต การตลาด และการสื่อสารกับแฟนคลับ หลังจาก BTS ได้รับความนิยมระดับโลก ค่ายนี้ก็เปิดตัววงรุ่นน้องอย่าง TXT (Tomorrow X Together) ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์สดใส ขี้เล่น และมีความเชื่อมโยงกับแฟนคลับในรูปแบบใหม่ ถือเป็นการสานต่อแนวทางของค่ายได้อย่างลงตัว

  • ศิลปิน: BTS, TXT, Lee Hyun

Pledis Entertainment: จากตำนานสู่ยุคใหม่ของ HYBE

Pledis Entertainment เป็นหนึ่งในค่ายเพลงรุ่นบุกเบิกของวงการ K-Pop ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ช่วงต้นยุค 2000 ก่อนที่จะถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ HYBE อย่างเป็นทางการในปี 2020 แม้จะอยู่ภายใต้บริษัทใหญ่ แต่ค่ายนี้ยังคงรักษาอัตลักษณ์เฉพาะตัวไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะ SEVENTEEN ที่เป็นที่รู้จักจากแนวคิด “Self-Producing Idol” ที่สมาชิกมีส่วนร่วมในการแต่งเพลง ออกแบบท่าเต้น และบริหารวงตัวเอง นอกจากนี้ยังมี fromis_9 เกิร์ลกรุ๊ปที่มีภาพลักษณ์สดใส เต็มไปด้วยพลังวัยรุ่น ซึ่งเริ่มต้นจากการรวมตัวในรายการเรียลลิตี้ และยังคงมีศิลปินเดี่ยวที่มีความสามารถโดดเด่นเช่น Baekho และ Minhyun

  • ศิลปิน: SEVENTEEN, fromis_9, Baekho, Minhyun, Bumzu

Source Music: พลังเสียงและเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร

หลังจากเปลี่ยนผ่านช่วงเวลาที่ท้าทาย Source Music กลับมาอย่างแข็งแกร่งภายใต้ร่มเงาของ HYBE โดยนำเสนอ LE SSERAFIM เกิร์ลกรุ๊ปที่เดบิวต์ด้วยคอนเซ็ปต์ “Fearless” หรือ “ไม่กลัว” ซึ่งสะท้อนผ่านทั้งเสียงเพลง ท่าเต้น และทัศนคติของสมาชิก ด้วยซิงเกิลแรกอย่าง “FEARLESS” ที่ทั้งแรง ทั้งมีเอกลักษณ์ ทำให้พวกเธอได้รับความสนใจทั้งในและต่างประเทศอย่างทันที

  • ศิลปิน: LE SSERAFIM

ADOR: นวัตกรรมใหม่แห่งวงการ K-Pop กับ NewJeans

ADOR (All Doors One Room) เป็นหนึ่งในค่ายย่อยที่ได้รับความสนใจมากที่สุดภายใต้ HYBE ภายใต้การนำทัพของมินฮีจิน อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ SM Entertainment ที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบภาพลักษณ์และการผลิตคอนเทนต์ที่ทันสมัย ค่ายนี้สร้าง NewJeans ขึ้นมาด้วยแนวทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากเกิร์ลกรุ๊ปทั่วไป เน้นดนตรีสไตล์ย้อนยุค คอนเซ็ปต์เรียบง่าย แต่แฝงด้วยความซับซ้อนทางอารมณ์ จนกลายเป็นปรากฏการณ์ทั้งในด้านยอดฟัง ยอดวิว และการสร้างเทรนด์แฟชั่น

  • ศิลปิน: NewJeans

Belift Lab: สู่เวทีระดับโลกกับ ENHYPEN

Belift Lab เป็นความร่วมมือระหว่าง HYBE และ CJ ENM ที่เริ่มต้นจากการผลิตรายการเรียลลิตี้แข่งขันอย่าง I-LAND เพื่อเฟ้นหาสมาชิกของวงบอยแบนด์รุ่นใหม่ ผลลัพธ์คือ ENHYPEN ที่เดบิวต์ด้วยคอนเซ็ปต์แฟนตาซีและเรื่องราวที่เชื่อมโยงกันในแต่ละอัลบั้ม ทำให้แฟนคลับมีส่วนร่วมกับเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง ทั้งในเพลง วิดีโอ และกิจกรรมพิเศษ ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของค่ายในการสร้างศิลปินที่ก้าวไกลไปได้ในตลาดโลก

  • ศิลปิน: ENHYPEN

KOZ Entertainment: ความหลากหลายทางดนตรีภายใต้ ZICO

ก่อตั้งโดยแรปเปอร์และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ZICO ค่าย KOZ Entertainment เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ HYBE ด้วยเป้าหมายในการสร้างสรรค์ดนตรีที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบของ K-Pop แบบดั้งเดิม ศิลปินอย่าง BOYNEXTDOOR มาพร้อมกับสไตล์ที่เรียบง่าย เหมือนเพื่อนบ้าน แต่แฝงความน่าสนใจ ขณะที่ Dvwn นำเสนอแนว R&B และฮิปฮอปที่ล้ำสมัย

  • ศิลปิน: ZICO, BOYNEXTDOOR, Dvwn

HYBE LABELS JAPAN & HYBE AMERICA: การขยายสู่ตลาดโลก

ไม่เพียงแต่เน้นตลาดเกาหลี HYBE ยังมีแผนรุกตลาดต่างประเทศอย่างชัดเจน โดยตั้งค่ายย่อยในประเทศสำคัญเพื่อเจาะกลุ่มผู้ฟังท้องถิ่น

  • HYBE LABELS JAPAN: บริหารงานผลิตและโปรโมต &TEAM บอยแบนด์ที่ประกอบด้วยสมาชิกจากหลากหลายประเทศ และทำกิจกรรมหลักในญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนกลยุทธ์การสร้างฐานแฟนคลับในเอเชียตะวันออกอย่างมีเป้าหมาย
  • HYBE AMERICA: เดินหน้ารุกตลาดเพลงตะวันตกอย่างเต็มตัว หลังเข้าซื้อกิจการ Ithaca Holdings ของ Scooter Braun ซึ่งดูแลศิลปินระดับโลกอย่าง Justin Bieber และ Ariana Grande ผ่านบริษัทในเครืออย่าง SB Projects ทำให้ HYBE ไม่ใช่แค่ผู้เล่นจากเกาหลี แต่กลายเป็นผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรมดนตรีโลกอย่างแท้จริง

ตารางสรุปค่ายย่อยและศิลปินหลักของ HYBE Corporation:

ค่ายเพลงย่อย ศิลปินหลัก
Big Hit Music BTS, TXT, Lee Hyun
Pledis Entertainment SEVENTEEN, fromis_9, Baekho, Minhyun, Bumzu
Source Music LE SSERAFIM
ADOR NewJeans
Belift Lab ENHYPEN
KOZ Entertainment ZICO, BOYNEXTDOOR, Dvwn
HYBE LABELS JAPAN &TEAM
HYBE AMERICA (ผ่าน Ithaca Holdings) Justin Bieber, Ariana Grande (และศิลปินอื่นๆ ใน SB Projects)

จาก Big Hit สู่ HYBE: การเดินทางของอาณาจักร K-Pop

จุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัทนี้เกิดขึ้นในปี 2021 เมื่อ Big Hit Entertainment ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น HYBE Corporation อย่างเป็นทางการ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนชื่อ แต่เป็นการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ที่สะท้อนวิสัยทัศน์ใหม่ นั่นคือการก้าวพ้นจากการเป็นเพียง “บริษัทผลิตเพลง” ไปสู่การเป็น “บริษัทแพลตฟอร์มความบันเทิงและไลฟ์สไตล์ระดับโลก” ที่ครอบคลุมทั้งดนตรี แฟชั่น เกม เทคโนโลยี และชุมชนออนไลน์ คำว่า “HYBE” เองเป็นการผสมกันของคำว่า “high” (สูง) และ “be” (การเป็น) ซึ่งหมายถึงการเป็นจุดหมายสูงสุดของวงการบันเทิง Forbes ได้รายงานถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ โดยเน้นย้ำถึงการขยายขอบเขตจากค่ายเพลงไปสู่บริษัทไลฟ์สไตล์บันเทิง

กลยุทธ์ Multi-Label ของ HYBE: กุญแจสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

โมเดล Multi-Label System คือหัวใจหลักที่ทำให้ HYBE แตกต่างจากค่ายบันเทิงแบบดั้งเดิม แทนที่จะรวมศิลปินทุกคนไว้ภายใต้ชื่อเดียว บริษัทเลือกซื้อกิจการค่ายอิสระหรือก่อตั้งค่ายใหม่ที่มีทีมงานและทิศทางของตัวเอง ซึ่งทำให้เกิดข้อได้เปรียบหลายประการ

  • ความหลากหลายทางศิลปะ: แต่ละค่ายมีอิสระในการสร้างสรรค์ ทำให้เกิดผลงานที่หลากหลายทั้งในด้านแนวเพลง คอนเซ็ปต์ และกลุ่มเป้าหมาย
  • การจัดการความเสี่ยง: หากเกิดประเด็นกับศิลปินในค่ายใดค่ายหนึ่ง ผลกระทบจะไม่ลามไปถึงทุกวงในเครือ ช่วยรักษาชื่อเสียงของบริษัทแม่
  • การใช้ทรัพยากรร่วมกัน: ค่ายย่อยได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานของ HYBE เช่น ระบบการตลาดระดับโลก แพลตฟอร์ม Weverse ระบบการจัดจำหน่าย และทีมงานด้านเทคโนโลยี
  • การพัฒนาศิลปินใหม่: ค่ายแต่ละแห่งสามารถโฟกัสกับการค้นหาและพัฒนาศิลปินที่ตรงกับวิสัยทัศน์ของตนเอง ทำให้มีโอกาสผลิตวงใหม่ที่สดใหม่และมีเอกลักษณ์

The Korea JoongAng Daily อธิบายถึงแนวคิดเบื้องหลังโมเดล Multi-Label ของ HYBE ว่าเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์ที่หลากหลายและลดความเสี่ยง

ส่องอนาคต HYBE: ศักยภาพและการขยายอาณาจักรเพลง

อนาคตของ HYBE ดูสดใสและเต็มไปด้วยโอกาส ด้วยโมเดลที่รองรับการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้บริษัทสามารถเปิดตัวศิลปินใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป หรือศิลปินเดี่ยว นอกจากนี้ HYBE ยังลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงในรูปแบบอื่น เช่น เกมผ่าน HYBE IM แพลตฟอร์มชุมชนอย่าง Weverse ที่มีผู้ใช้งานนับสิบล้าน และไลน์ผลิตภัณฑ์แฟชั่นร่วมกับศิลปิน เป้าหมายคือการสร้างระบบนิเวศที่แฟนๆ สามารถมีส่วนร่วมได้ทุกมิติ ไม่เพียงแค่ฟังเพลง แต่ยังซื้อสินค้า เล่นเกม หรือเชื่อมต่อกับแฟนคนอื่นๆ ได้ในที่เดียว

สรุป: HYBE มากกว่าค่ายเพลง แต่คือผู้นำนวัตกรรมบันเทิง

สรุปได้ว่า HYBE ไม่ใช่แค่บริษัทบันเทิงที่รวมศิลปินยอดนิยมไว้ด้วยกัน แต่เป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ทันสมัย การเปลี่ยนจาก Big Hit Entertainment มาเป็น HYBE Corporation ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อ แต่คือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินงานเพื่อรองรับการเติบโตในระดับโลก ด้วยโมเดล Multi-Label ที่ให้ทั้งความหลากหลายและความยืดหยุ่น ทำให้บริษัทสามารถสร้างสรรค์งานที่เป็นเอกลักษณ์ บริหารความเสี่ยงได้อย่างชาญฉลาด และยังคงเป็นผู้นำในการนวัตกรรมด้านคอนเทนต์และประสบการณ์แฟนคลับอย่างต่อเนื่อง Billboard รายงานถึงความสำเร็จทางธุรกิจของ HYBE ซึ่งตอกย้ำสถานะผู้นำในตลาดเพลงโลก

HYBE มีค่ายเพลงย่อยอะไรบ้าง? และแต่ละค่ายมีศิลปินวงไหนเป็นตัวแทน?

HYBE มีค่ายเพลงย่อยหลักๆ ได้แก่:

  • Big Hit Music: BTS, TXT
  • Pledis Entertainment: SEVENTEEN, fromis_9
  • Source Music: LE SSERAFIM
  • ADOR: NewJeans
  • Belift Lab: ENHYPEN
  • KOZ Entertainment: ZICO, BOYNEXTDOOR
  • HYBE LABELS JAPAN: &TEAM
  • HYBE AMERICA: ศิลปินระดับโลกอย่าง Justin Bieber, Ariana Grande (ผ่าน Ithaca Holdings)

ความแตกต่างระหว่าง HYBE กับ Big Hit Entertainment คืออะไร?

เดิมที Big Hit Entertainment คือชื่อบริษัทที่ก่อตั้งและเป็นบ้านของ BTS ต่อมาในปี 2021 บริษัทได้รีแบรนด์เป็น HYBE Corporation เพื่อสะท้อนถึงการขยายธุรกิจที่กว้างขวางขึ้น ไม่ได้จำกัดแค่การผลิตเพลง แต่เป็นบริษัทแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์และความบันเทิงระดับโลก ดังนั้น Big Hit Music จึงกลายเป็นหนึ่งในค่ายย่อยภายใต้ HYBE Corporation ในปัจจุบัน

วง NewJeans อยู่ภายใต้ค่าย HYBE โดยตรงเลยหรือไม่?

วง NewJeans อยู่ภายใต้ค่าย ADOR ซึ่งเป็นค่ายเพลงย่อยที่ก่อตั้งและบริหารโดย Min Hee-jin โดยมี HYBE Corporation เป็นบริษัทแม่ที่ถือหุ้นและให้การสนับสนุน ADOR อีกทอดหนึ่ง

HYBE กำลังจะมีวงใหม่เดบิวต์อีกเมื่อไหร่?

HYBE มีการวางแผนเดบิวต์ศิลปินใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งจากค่ายย่อยที่มีอยู่และโครงการใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม วันที่และรายละเอียดที่แน่ชัดจะถูกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม แฟนๆ สามารถติดตามข่าวสารได้จากช่องทางโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ทางการของ HYBE และค่ายย่อยต่างๆ

ศิลปินไทยมีโอกาสได้เข้าสังกัด HYBE บ้างไหม?

HYBE เป็นบริษัทระดับโลกที่มีความหลากหลายและเปิดกว้างในการค้นหาผู้มีความสามารถจากทั่วโลก ปัจจุบันมีศิลปินลูกครึ่งหรือศิลปินที่มาจากประเทศอื่นในสังกัด การเปิดออดิชั่นระดับโลกเป็นประจำแสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ศิลปินไทยหรือผู้ที่มีความสามารถจากทุกเชื้อชาติจะสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ HYBE ได้ หากมีคุณสมบัติและความสามารถที่โดดเด่น

HYBE มีการลงทุนหรือธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากเพลงบ้างไหม?

ใช่ HYBE มีการขยายธุรกิจไปในหลายด้านนอกเหนือจากเพลง รวมถึง:

  • แพลตฟอร์ม: เช่น Weverse (แพลตฟอร์มแฟนคลับและคอมมูนิตี้)
  • เกม: เช่น HYBE IM (บริษัทพัฒนาเกม)
  • แฟชั่นและไลฟ์สไตล์: การผลิตสินค้าและของที่ระลึกของศิลปิน
  • เทคโนโลยี: การลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิง

แฟนคลับในไทยจะติดตามข่าวสารและกิจกรรมของศิลปิน HYBE ได้จากช่องทางไหนบ้าง?

แฟนคลับในไทยสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมของศิลปิน HYBE ได้จากหลายช่องทาง ได้แก่:

  • Weverse: แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มคอมมูนิตี้อย่างเป็นทางการของศิลปิน HYBE
  • ช่องทางโซเชียลมีเดีย: Twitter, Instagram, Facebook, YouTube ของแต่ละวงและค่ายเพลง
  • เว็บไซต์ทางการ: เว็บไซต์ของ HYBE Corporation และเว็บไซต์ของแต่ละค่ายย่อย
  • สื่อข่าว K-Pop: เว็บไซต์ข่าวบันเทิง K-Pop ทั้งในและต่างประเทศ

การที่ HYBE มีหลายค่ายเพลงย่อย มีข้อดีข้อเสียอย่างไรต่อศิลปิน?

ข้อดี:

  • อิสระทางสร้างสรรค์: ศิลปินสามารถพัฒนาเอกลักษณ์และแนวเพลงได้หลากหลาย
  • การสนับสนุนจากบริษัทแม่: ได้รับทรัพยากรและเงินทุนจาก HYBE
  • ลดความกดดัน: ไม่ต้องแบกรับความคาดหวังทั้งหมดของบริษัทแม่

ข้อเสีย:

  • การแข่งขันภายใน: อาจเกิดการแข่งขันกันเองระหว่างศิลปินในเครือ
  • การประสานงาน: อาจมีความท้าทายในการประสานงานระหว่างค่ายย่อยกับบริษัทแม่

ศิลปินเดี่ยวคนไหนบ้างที่อยู่ภายใต้ HYBE?

ศิลปินเดี่ยวที่อยู่ภายใต้ HYBE และค่ายย่อย ได้แก่:

  • Lee Hyun (Big Hit Music)
  • ZICO (KOZ Entertainment)
  • Dvwn (KOZ Entertainment)
  • Baekho (Pledis Entertainment)
  • Minhyun (Pledis Entertainment)
  • Bumzu (Pledis Entertainment)
  • นอกจากนี้ ศิลปินระดับโลกที่อยู่ภายใต้ HYBE America (ผ่าน Ithaca Holdings) เช่น Justin Bieber และ Ariana Grande ก็ถือเป็นศิลปินในเครือเช่นกัน

HYBE มีส่วนร่วมในการผลิตเพลงหรือคอนเทนต์ของศิลปินในค่ายย่อยมากน้อยแค่ไหน?

โดยทั่วไปแล้ว HYBE ให้ความสำคัญกับความเป็นอิสระของแต่ละค่ายย่อยในการสร้างสรรค์ผลงาน แต่ก็ยังคงมีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำ การลงทุน และการสนับสนุนด้านทรัพยากรต่างๆ เช่น การโปรโมท การจัดจำหน่าย หรือการใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์มอย่าง Weverse ส่วนการผลิตเพลงหรือคอนเทนต์หลักๆ ยังคงเป็นหน้าที่ของทีมงานและโปรดิวเซอร์ภายใต้ค่ายย่อยนั้นๆ เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของศิลปิน