ปฏิทินฟอเร็กซ์: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักเทรดชาวไทย

ปฏิทินเศรษฐกิจคือเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ไม่อาจขาดได้สำหรับนักเทรดฟอเร็กซ์ทุกคน ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นหรือมีประสบการณ์สูง โดยเฉพาะในตลาดที่เต็มไปด้วยความผันผวน การเข้าใจและใช้งานปฏิทินนี้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์การเทรดของคุณได้อย่างชัดเจน บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงกลยุทธ์ขั้นสูง พร้อมมุมมองเฉพาะที่เหมาะกับนักเทรดในประเทศไทย เพื่อให้คุณใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือตัดสินใจอย่างชาญฉลาด และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างยั่งยืน
ปฏิทินฟอเร็กซ์คืออะไร และทำไมนักเทรดต้องเข้าใจ?

ปฏิทินฟอเร็กซ์ หรือที่รู้จักในชื่อ “ปฏิทินเศรษฐกิจ” คือตารางเวลาที่รวบรวมการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากทั่วโลก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อตลาดเงินตราต่างประเทศ ข้อมูลเหล่านี้รวมถึงตัวเลขจากหน่วยงานรัฐ เช่น ธนาคารกลาง หรือสถาบันวิจัย เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ตัวเลขการจ้างงาน และจีดีพี
ความเคลื่อนไหวของราคาในตลาดฟอเร็กซ์มักขับเคลื่อนโดยข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญ ตลาดมักตอบสนองด้วยความผันผวนอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งเปิดโอกาสและสร้างความเสี่ยงให้กับนักเทรด การรู้ล่วงหน้าว่าข่าวอะไรจะออกเมื่อไหร่ ช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงจากความผันผวนที่ไม่คาดคิด และมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ในช่วงเวลาที่ตลาดเคลื่อนไหวรุนแรง
สำหรับนักเทรดชาวไทย แม้จะเทรดในตลาดโลก แต่การติดตามข่าวเศรษฐกิจหลักของประเทศใหญ่ เช่น สหรัฐฯ หรือยุโรป ก็ยังมีความสำคัญ เพราะเศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง การตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า Fed ไม่เพียงส่งผลต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ยังส่งผลทางอ้อมต่อค่าเงินบาท และการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่นักเทรดไทยมักให้ความสนใจ
องค์ประกอบหลักของปฏิทินเศรษฐกิจที่นักเทรดต้องรู้

ปฏิทินเศรษฐกิจทั่วไปจะจัดเรียงข้อมูลในรูปแบบตารางที่ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายอย่าง ซึ่งคุณควรทำความเข้าใจให้ครบถ้วนเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุด
- วันที่และเวลา – ระบุช่วงเวลาที่ข้อมูลจะถูกประกาศ ควรตั้งค่าให้แสดงเป็นเวลาในประเทศไทย (GMT+7) เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน
- สกุลเงิน – บอกว่าข่าวนี้ส่งผลต่อสกุลเงินใด เช่น USD, EUR, JPY ซึ่งช่วยให้นักเทรดคู่เงินอย่าง EUR/USD เข้าใจผลกระทบต่อทั้งสองฝั่ง
- เหตุการณ์ – ชื่อของข้อมูลที่จะประกาศ เช่น อัตราเงินเฟ้อ (CPI), ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP), หรือการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย
- ระดับความสำคัญ – แสดงด้วยสัญลักษณ์ เช่น ดาวหรือสี เพื่อบ่งบอกว่าข่าวนี้มีแนวโน้มจะทำให้ตลาดผันผวนมากน้อยแค่ไหน
- ค่าคาดการณ์ – ค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งตลาดอาจ “สะท้อน” ข้อมูลนี้เข้าไปในราคาแล้วบางส่วน
- ค่าจริง – ตัวเลขที่ประกาศออกมาจริง
- ค่าก่อนหน้า – ผลลัพธ์ของข้อมูลในรอบก่อนหน้า ใช้เปรียบเทียบเพื่อดูแนวโน้ม
ข่าวที่มีผลกระทบสูงมักทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงทันที นักเทรดควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับข่าวสำคัญเหล่านี้:
- การตัดสินใจเรื่อง อัตราดอกเบี้ย จากธนาคารกลางชั้นนำ เช่น Fed, ECB, BoE และ BoJ
- ตัวเลข การจ้างงาน โดยเฉพาะ NFP ของสหรัฐฯ ซึ่งบ่งบอกสุขภาพเศรษฐกิจโดยตรง
- อัตรา เงินเฟ้อ อย่าง CPI ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
- จีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหลักของอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่สะท้อนกิจกรรมในภาคการผลิตและบริการ
- คำกล่าวของหัวหน้าธนาคารกลาง ที่มักบ่งบอกทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต
การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้อย่างเป็นระบบจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น และเตรียมตัวรับมือกับปฏิกิริยาของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระดับความสำคัญ | สัญลักษณ์ (ตัวอย่าง) | ผลกระทบต่อตลาด (โดยทั่วไป) |
---|---|---|
ต่ำ | 1 ดาว / สีเขียว | น้อยมาก หรือไม่มีเลย |
ปานกลาง | 2 ดาว / สีเหลือง | อาจทำให้เกิดความผันผวนบ้าง |
สูง | 3 ดาว / สีแดง | มีโอกาสสร้างความผันผวนรุนแรง |
วิธีใช้ปฏิทินฟอเร็กซ์อย่างได้ผลสูงสุด
การใช้ปฏิทินไม่ใช่แค่การเปิดดูข่าว แต่คือการนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้ในการวางแผนการเทรดอย่างมีระเบียบ ต่อไปนี้คือแนวทางที่นักเทรดควรปฏิบัติ:
- ตั้งตัวกรองให้เหมาะสม
เลือกเฉพาะสกุลเงินที่คุณเทรด เช่น หากคุณเทรด GBP/USD ก็ควรเน้นข่าวของทั้งอังกฤษและสหรัฐฯ กรองเฉพาะข่าวที่มีความสำคัญสูง และตั้งเวลาให้ตรงกับเวลาไทยเพื่อความแม่นยำ - วางแผนล่วงหน้าก่อนข่าวออก
นักเทรดมือใหม่อาจพิจารณาหลีกเลี่ยงการเปิดออเดอร์ในช่วง 15-30 นาทีก่อนและหลังข่าวสำคัญ หรือปิดออเดอร์ที่เปิดอยู่เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หากตัดสินใจเทรดในช่วงเวลานั้น ควรตั้งจุด Stop Loss และ Take Profit อย่างชัดเจน - เลือกกลยุทธ์ตามสถานการณ์
- เทรดตามทิศทางข่าว – หากข้อมูลออกมาดีกว่าที่คาด อาจเข้าซื้อในทิศทางที่สกุลเงินแข็งค่าขึ้น แต่ต้องระวัง Slippage จากความผันผวนสูง
- กลยุทธ์ Breakout – ตั้งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Order) ไว้เหนือหรือใต้แนวรับแนวต้าน รอให้ราคาทะลุกรอบหลังข่าวออก
- รอความชัดเจน – ปล่อยให้ความผันผวนเริ่มลดลงและทิศทางตลาดชัดเจนก่อนเข้าเทรด ช่วยลดความเสี่ยงในช่วงเวลาที่ควบคุมยาก
- วิเคราะห์ผลกระทบ – เปรียบเทียบค่าจริงกับค่าคาดการณ์และค่าก่อนหน้า หากค่าจริงดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ มักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น
สำหรับนักเทรดในประเทศไทย ควรติดตามทั้งข่าวเศรษฐกิจโลกและข่าวในประเทศควบคู่กัน แม้ข่าวไทยอาจไม่ส่งผลต่อคู่เงินหลักโดยตรง แต่ก็มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภูมิภาค และอาจสะท้อนผ่านค่าเงินบาทหรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่คุณเทรด แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น ประชาชาติธุรกิจ หรือ Bangkok Post Business สามารถช่วยให้คุณมองภาพรวมได้ดีขึ้น
เปรียบเทียบปฏิทินฟอเร็กซ์ยอดนิยม ควรเลือกใช้อันไหนดี?
ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มปฏิทินฟอเร็กซ์หลายแห่งที่นักเทรดทั่วโลกใช้กัน แต่ละที่มีจุดเด่นต่างกัน นักเทรดชาวไทยควรเลือกใช้ตามความต้องการและระดับความถนัดของตนเอง
แพลตฟอร์ม | จุดเด่น | จุดด้อย | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|---|
Forex Factory | ได้รับความนิยมสูงสุด มีข้อมูลละเอียด มีฟอรัมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปรับแต่งได้มาก อัปเดตเร็ว | หน้าจออาจดูซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น ไม่มีเวอร์ชันภาษาไทย | นักเทรดทุกระดับที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกและชุมชน |
Myfxbook | เชื่อมต่อกับบัญชีเทรดได้ มีเครื่องมือวิเคราะห์หลากหลาย ใช้งานง่าย และแสดงผลกราฟผลกระทบ | ข้อมูลข่าวอาจน้อยกว่า Forex Factory บางฟังก์ชันต้องเชื่อมกับโบรกเกอร์ | นักเทรดที่ต้องการวิเคราะห์ข้อมูลการเทรดควบคู่กับข่าว |
FXStreet | มีบทวิเคราะห์และคลิปถ่ายทอดสดช่วงข่าวสำคัญ มีหลายภาษา | ข้อมูลบางช่วงอาจไม่ครบถ้วน มีโฆษณาเยอะ | นักเทรดที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกและบทวิเคราะห์ประกอบ |
Investing.com | ครอบคลุมหลายสินทรัพย์ มีเวอร์ชันภาษาไทย ใช้งานง่าย ปรับแต่งได้ดี | อาจมีความล่าช้าเล็กน้อยในช่วงข่าวสำคัญ มีโฆษณา | มือใหม่ หรือผู้ที่เทรดทั้งฟอเร็กซ์ หุ้น และทองคำ |
Bloomberg | ข้อมูลเชิงลึกสูง มีบทวิเคราะห์ระดับมืออาชีพ | ซับซ้อน บางส่วนต้องสมัครสมาชิก ไม่เหมาะกับนักเทรดทั่วไป | นักเทรดมืออาชีพ หรือสถาบันการเงิน |
สำหรับนักเทรดชาวไทย Forex Factory ยังคงเป็นตัวเลือกที่นิยมที่สุด เพราะให้ข้อมูลครบถ้วนและอัปเดตเร็ว แม้ไม่มีภาษาไทย แต่รูปแบบการจัดวางเป็นสากล จึงเข้าใจได้ง่าย ส่วน Investing.com เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่ เพราะมีภาษาไทยและใช้งานง่าย ขณะที่ Myfxbook เหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องมือวิเคราะห์เพิ่มเติม
ไม่ว่าคุณจะเลือกแพลตฟอร์มใด สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับฟังก์ชันต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด
กลยุทธ์ขั้นสูงและการบริหารความเสี่ยงในการเทรดข่าว
การเทรดตามข่าวไม่ใช่เรื่องง่าย และมีความเสี่ยงสูง แต่ถ้าคุณมีแผนที่ดีและบริหารความเสี่ยงอย่างถูกต้อง ก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้
กลยุทธ์ขั้นสูงในการเทรดข่าว:
- วิเคราะห์ผลกระทบอย่างละเอียด
เปรียบเทียบค่าจริงกับค่าคาดการณ์ หากข้อมูลออกมาดีกว่าที่คาดไว้ แนวโน้มค่าเงินมักจะแข็งค่าขึ้น แต่หากแย่กว่าที่คาด แม้จะดีกว่าเดือนก่อน ตลาดอาจรับไม่ดีก็ได้ - กลยุทธ์ “ซื้อข่าวลือ ขายข่าวจริง” (Buy the Rumor, Sell the News)
ตลาดมักเคลื่อนไหวก่อนข่าวออกตามความคาดหวัง หากข่าวออกตรงตามที่คาด ราคาอาจไม่ขยับ หรือกลับตัวลงจากแรงขายทำกำไร - การเทรดสวนทาง (Fade the News)
หลังข่าวออก ราคาอาจพุ่งเกินจริงจากแรงซื้อหรือแรงขายชั่วคราว กลยุทธ์นี้จะเข้าเทรดสวนทาง คาดการณ์ว่าราคาจะกลับสู่ระดับสมเหตุสมผล ต้องใช้ประสบการณ์และจังหวะที่แม่นยำ - ใช้คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Order)
ตั้งคำสั่ง Buy Stop และ Sell Stop พร้อมกัน พร้อมใช้ระบบ O.C.O. (One Cancels the Other) เพื่อป้องกันการเปิดออเดอร์ทั้งสองทิศทาง
เทคนิคการบริหารความเสี่ยง:
- ลดขนาดล็อต – ในช่วงข่าว ควรใช้ขนาดล็อตที่เล็กกว่าปกติ เพื่อจำกัดขาดทุน
- ตั้ง Stop Loss และ Take Profit อย่างเหมาะสม – หลีกเลี่ยงจุดที่แคบเกินไป ซึ่งอาจถูกตัดออกเร็วจากความผันผวน
- ใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง – เลเวอเรจสูงในช่วงข่าว อาจทำให้บัญชีคุณเผชิญ Margin Call ได้ง่าย
- ควบคุมจิตวิทยาการเทรด – อย่าปล่อยให้ความกลัวหรือความโลภครอบงำ ยึดมั่นในแผนที่วางไว้
- เข้าใจความผันผวนสูง – Slippage เป็นเรื่องปกติในช่วงข่าว ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีระบบการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วและเป็นธรรม
สำหรับนักเทรดในประเทศไทย การเลือก โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ที่มีใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อความปลอดภัยของเงินทุน ควรศึกษาข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แม้ ก.ล.ต. จะไม่ได้ดูแลโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์โดยตรง แต่เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับกฎระเบียบทางการเงิน
ข้อควรระวังในการใช้ปฏิทินเศรษฐกิจและข่าว
แม้ปฏิทินเศรษฐกิจจะเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่นักเทรดต้องตระหนักถึงข้อจำกัดและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น:
- ความล่าช้าของข้อมูล – นักเทรดสถาบันอาจได้รับข้อมูลเร็วกว่าหน้าเว็บทั่วไปเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งอาจส่งผลต่อการเข้าเทรด
- Slippage – ในช่วงข่าว ความผันผวนสูงอาจทำให้คำสั่งของคุณดำเนินการที่ราคาต่างจากที่ตั้งไว้
- ความไม่แน่นอนของตลาด – บางครั้งแม้ข้อมูลจะออกมาดี ตลาดอาจกลับตัว หรือมีข่าวไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น วิกฤตการเมือง ที่ไม่อยู่ในปฏิทิน
- จิตวิทยาการเทรด – ความตื่นเต้นหรือความกลัวอาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาด
- ข่าวลวง – ควรระวังข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือ “สัญญาณการเทรด” ที่รับประกันผลกำไรจากข่าว โดยเฉพาะจากบุคคลที่อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมักเป็นกลวิธีหลอกลวง
สรุป: ปฏิทินฟอเร็กซ์ คือกุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรด
ปฏิทินฟอเร็กซ์ไม่ใช่แค่ตารางข่าว แต่คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณเข้าใจแรงผลักดันหลักของตลาด และเตรียมตัวรับมือกับความผันผวนอย่างมีสติ การเรียนรู้การใช้งานอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการกรองข้อมูล การวางแผน หรือการวิเคราะห์ผลกระทบ จะช่วยให้คุณ:
- ตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล ไม่ใช่อารมณ์
- บริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น
- มองเห็นโอกาสในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน
- พัฒนาทักษะการวิเคราะห์เศรษฐกิจในระยะยาว
สำหรับนักเทรดชาวไทย การผสมผสานมุมมองโลกเข้ากับการเข้าใจบริบทในประเทศ จะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม จำไว้ว่า การเทรดคือกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การใช้ปฏิทินเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอจะพาคุณก้าวไปสู่การเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory คืออะไร และทำไมถึงเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ไทย?
Forex Factory Economic Calendar เป็นเว็บไซต์ปฏิทินเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกสำหรับเทรดเดอร์ Forex มันแสดงกำหนดการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญจากประเทศต่างๆ พร้อมรายละเอียดครบถ้วน เช่น ค่าจริง ค่าคาดการณ์ และค่าก่อนหน้า รวมถึงระดับความสำคัญที่ชัดเจน เทรดเดอร์ไทยนิยมใช้เนื่องจากข้อมูลมีความแม่นยำ รวดเร็ว และมีฟังก์ชันการปรับแต่งที่ยืดหยุ่น ทำให้ง่ายต่อการวางแผนการเทรด
ข่าวในปฏิทินเศรษฐกิจมีผลต่อราคาคู่เงินไทยบาท (THB) อย่างไรบ้าง?
โดยตรงแล้ว ข่าวในปฏิทินเศรษฐกิจโลกส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบต่อคู่เงินหลัก (เช่น USD, EUR, JPY) มากกว่า THB อย่างไรก็ตาม ข่าวสำคัญระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หรือตัวเลขเศรษฐกิจจีน ก็สามารถส่งผลกระทบทางอ้อมต่อค่าเงินบาทได้ เนื่องจาก USD เป็นสกุลเงินสำรองของโลก และเศรษฐกิจไทยมีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค นอกจากนี้ ข่าวเศรษฐกิจภายในประเทศที่สำคัญ เช่น รายงาน GDP ของไทย หรือการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มีผลโดยตรงต่อค่าเงินบาทเช่นกัน
ควรใช้ปฏิทินforex เวลาไหนดีที่สุดสำหรับการเทรดในประเทศไทย?
เวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเวลาที่ตลาดมีความคึกคักและมีข่าวสำคัญประกาศออกมา ซึ่งมักจะเป็นช่วงที่ตลาด London (ประมาณบ่าย 2 ถึง 4 ทุ่มตามเวลาไทย) และตลาด New York (ประมาณ 2 ทุ่มถึงตี 4 ตามเวลาไทย) เปิดทำการพร้อมกัน เทรดเดอร์ไทยควรตั้งค่าปฏิทิน Forex ให้แสดงเวลาตามเขตเวลาประเทศไทย (GMT+7) เพื่อให้สามารถติดตามข่าวสารได้อย่างแม่นยำและไม่พลาดโอกาสสำคัญ
มีแอพพลิเคชั่นปฏิทินforex ที่แนะนำสำหรับมือถือที่ใช้งานง่ายสำหรับเทรดเดอร์ไทยไหม?
แน่นอนครับ แอพพลิเคชั่นที่แนะนำและใช้งานง่ายสำหรับเทรดเดอร์ไทย ได้แก่ Investing.com และ Myfxbook ทั้งสองแอพมีเวอร์ชันภาษาไทย (สำหรับ Investing.com) หรือมีการแสดงผลที่เข้าใจง่าย สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนข่าวสาร และปรับแต่งตัวกรองได้ตามต้องการ ทำให้คุณไม่พลาดข่าวสำคัญแม้ไม่ได้อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
ปฏิทินเศรษฐกิจ ทอง แตกต่างจากปฏิทินforex ทั่วไปอย่างไร และเทรดเดอร์ทองควรดูอะไรเป็นพิเศษ?
ปฏิทินเศรษฐกิจทองไม่ได้แตกต่างจากปฏิทิน Forex ทั่วไปมากนัก เพราะราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) และมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคเช่นกัน เทรดเดอร์ทองควรให้ความสนใจเป็นพิเศษกับข่าวที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงิน USD เช่น อัตราดอกเบี้ยของ Fed, ตัวเลขการจ้างงาน NFP, อัตราเงินเฟ้อ CPI และนโยบายการเงินของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกก็มีผลต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
การเทรดข่าวมีความเสี่ยงสูงจริงหรือไม่ และเทรดเดอร์ไทยควรเตรียมตัวอย่างไร?
การเทรดข่าวมีความเสี่ยงสูงจริง เนื่องจากตลาดมีความผันผวนอย่างรุนแรงและคาดเดาทิศทางได้ยาก เทรดเดอร์ไทยควรเตรียมตัวโดย: 1. มีแผนการเทรดที่ชัดเจน: กำหนดจุดเข้า จุดออก Stop Loss และ Take Profit ล่วงหน้า 2. ลดขนาดล็อต: ใช้ขนาดล็อตที่เล็กกว่าปกติเพื่อจำกัดความเสี่ยง 3. ใช้ Pending Order: เพื่อเข้าเทรดเมื่อราคาทะลุแนวรับแนวต้าน 4. ควบคุมอารมณ์: หลีกเลี่ยงการเทรดด้วยความตื่นเต้นหรือความกลัว และ 5. ฝึกฝนในบัญชีทดลอง: ก่อนที่จะนำเงินจริงมาเทรดข่าว
จะรู้ได้อย่างไรว่าข่าวเศรษฐกิจไหนสำคัญที่สุดและส่งผลกระทบต่อตลาดมากที่สุด?
ปฏิทินเศรษฐกิจส่วนใหญ่จะมีสัญลักษณ์บ่งบอกระดับความสำคัญของข่าว (เช่น ดาว 3 ดวง หรือสีแดง) ข่าวที่มีความสำคัญสูงสุดและส่งผลกระทบต่อตลาดมากที่สุดมักได้แก่ การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลัก (Fed, ECB, BoJ), ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯ, อัตราเงินเฟ้อ (CPI) และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) นอกจากนี้ คำกล่าวของประธานธนาคารกลางก็มักมีผลอย่างมากเช่นกัน
ปฏิทินเศรษฐกิจโลก และ ปฏิทินเศรษฐกิจ วันนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้แบบไหน?
โดยพื้นฐานแล้วไม่แตกต่างกันมากนัก “ปฏิทินเศรษฐกิจโลก” มักจะหมายถึงปฏิทินที่รวบรวมข่าวสารจากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับ Forex ส่วน “ปฏิทินเศรษฐกิจ วันนี้” เป็นเพียงการกรองให้แสดงเฉพาะข่าวสารที่จะเกิดขึ้นในวันปัจจุบันเท่านั้น คุณสามารถใช้ปฏิทินเศรษฐกิจโลกและตั้งค่าตัวกรองให้แสดงเฉพาะ “วันนี้” เพื่อดูข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับปัจจุบันได้ ควรเลือกใช้แบบที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของคุณ
หากไม่มีเวลาติดตามปฏิทินforex ทุกวัน มีวิธีจัดการกับข่าวสารสำคัญอย่างไร?
หากคุณไม่มีเวลาติดตามปฏิทิน Forex ทุกวัน คุณสามารถใช้ฟังก์ชันการแจ้งเตือน (Alerts) ที่มีอยู่ในแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ปฏิทินเศรษฐกิจยอดนิยม เช่น Investing.com หรือ Myfxbook เพื่อรับการแจ้งเตือนเฉพาะข่าวที่มีความสำคัญสูง หรือข่าวที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินที่คุณเทรด นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลาที่มีข่าวสำคัญประกาศออกมา เพื่อลดความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
ปฏิทินforex สามารถช่วยในการตัดสินใจเทรดคริปโตเคอร์เรนซีได้ด้วยหรือไม่?
ปฏิทิน Forex สามารถให้ข้อมูลพื้นฐานที่ช่วยในการตัดสินใจเทรดคริปโตเคอร์เรนซีได้ทางอ้อม เนื่องจากตลาดคริปโตฯ ก็ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคเช่นกัน โดยเฉพาะข่าวที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ในการซื้อขายคริปโตฯ หาก USD แข็งค่าขึ้น อาจกดดันราคาคริปโตฯ ได้ อย่างไรก็ตาม คริปโตฯ ยังมีปัจจัยเฉพาะตัวอื่นๆ เช่น ข่าวสารด้านกฎระเบียบ การพัฒนาเทคโนโลยี หรือกิจกรรมของวาฬ ซึ่งปฏิทิน Forex จะไม่ครอบคลุม