ทำไม SWIFT BIC ถึงสำคัญกับการเงินของคุณในยุคโลกาภิวัตน์?

ในยุคที่เศรษฐกิจไร้พรมแดน การติดต่อทางการเงินระหว่างประเทศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการส่งเงินให้ครอบครัวที่อยู่ต่างประเทศ การจ่ายค่าสินค้าหรือบริการจากผู้ค้าต่างชาติ หรือการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ การทำธุรกรรมเหล่านี้ต้องอาศัยระบบที่แม่นยำ ปลอดภัย และเชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินของคุณจะไปถึงมือผู้รับอย่างถูกต้องและทันเวลา ซึ่งในหัวใจของการโอนเงินข้ามประเทศนั้นคือ “SWIFT BIC” รหัสเล็กๆ ที่ทำหน้าที่เหมือนที่อยู่ทางไปรษณีย์ระดับโลกสำหรับธนาคาร ทำให้ระบบการเงินโลกสามารถสื่อสารและดำเนินการโอนย้ายเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกมิติของ SWIFT BIC ตั้งแต่ความหมาย วิธีการทำงาน ความสำคัญ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคนไทย พร้อมคำแนะนำการใช้งานอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณจัดการการเงินระหว่างประเทศได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
SWIFT BIC คืออะไร? ไขความกระจ่างเรื่องความหมายและโครงสร้าง
คำว่า SWIFT BIC มักถูกใช้สลับกันในโลกของการเงิน ทั้งที่จริงแล้วเป็นสองแนวคิดที่เกื้อหนุนกัน แต่มีความหมายเฉพาะตัว การเข้าใจความแตกต่างและความเชื่อมโยงของทั้งสองคำนี้ จะช่วยให้คุณทำธุรกรรมระหว่างประเทศได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) คืออะไร?
SWIFT หรือสมาคมโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1973 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศเบลเยียม หน้าที่หลักของ SWIFT ไม่ใช่การโอนเงินโดยตรง แต่เป็นการให้บริการเครือข่ายการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นมาตรฐานระดับโลก ซึ่งช่วยให้ธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลกสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง เปรียบได้กับระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการเข้ารหัสอย่างเข้มงวด ใช้สำหรับส่งคำสั่งโอนเงินจากธนาคารหนึ่งไปยังอีกธนาคารหนึ่งโดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลรั่วไหลหรือถูกดัดแปลง
BIC (Bank Identifier Code) คืออะไร?
BIC หรือรหัสระบุธนาคาร เป็นรหัสมาตรฐานสากลที่ใช้ในการระบุตัวตนของธนาคารหรือสถาบันการเงินแต่ละแห่งทั่วโลก โดยรหัสนี้ถูกพัฒนาภายใต้มาตรฐาน ISO 9362 และได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายผ่านเครือข่าย SWIFT จึงทำให้หลายคนเรียกรหัสนี้ว่า “รหัส SWIFT” หรือ “SWIFT Code” อย่างไรก็ตาม ชื่อที่ถูกต้องตามมาตรฐานคือ BIC

โครงสร้างของรหัส SWIFT BIC:
รหัส SWIFT BIC สามารถมีความยาว 8 หรือ 11 ตัวอักษร โดยรหัสที่มี 11 ตัวอักษรมักใช้กันมากกว่าเพราะสามารถระบุสาขาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โครงสร้างมีดังนี้:
- AAAA (4 ตัวอักษรแรก): รหัสธนาคาร (Bank Code)
ระบุชื่อธนาคารอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น KASI สำหรับธนาคารกสิกรไทย - BB (2 ตัวอักษรถัดไป): รหัสประเทศ (Country Code)
ใช้รหัสประเทศตามมาตรฐาน ISO 3166-1 เช่น TH สำหรับประเทศไทย - CC (2 ตัวอักษรถัดไป): รหัสเมืองหรือตำแหน่ง (Location Code)
ระบุที่ตั้งของสำนักงานใหญ่หรือศูนย์กลาง เช่น BK สำหรับกรุงเทพฯ - DDD (3 ตัวอักษรสุดท้าย, ไม่บังคับ): รหัสสาขา (Branch Code)
หากไม่ระบุ ค่าปกติจะเป็น XXX ซึ่งหมายถึงสำนักงานใหญ่ของธนาคาร
ตัวอย่างเช่น รหัส KASITHBKXXX หมายถึง ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างของรหัสนี้สามารถศึกษาได้จาก เว็บไซต์ทางการของ SWIFT
SWIFT BIC ทำงานอย่างไร? กลไกเบื้องหลังการโอนเงินระหว่างประเทศที่ราบรื่น

มีความเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้งว่า SWIFT คือผู้ที่โอนเงินจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งโดยตรง แต่ความจริงคือ SWIFT ทำหน้าที่เพียง “ผู้ส่งสาร” เท่านั้น โดยทำหน้าที่ส่งข้อความคำสั่งโอนเงินที่เข้ารหัสอย่างปลอดภัยไปยังธนาคารปลายทาง ส่วนเงินจริงจะยังคงเคลื่อนย้ายผ่านระบบธนาคารดั้งเดิมที่มีความสัมพันธ์กันอยู่
กระบวนการทำงานโดยละเอียด:
- การเริ่มต้นคำสั่งโอน
เมื่อคุณต้องการส่งเงินไปต่างประเทศ คุณจะแจ้งข้อมูลผู้รับให้ธนาคารของคุณ เช่น ชื่อบัญชี เลขที่บัญชีธนาคาร และที่สำคัญ คือ SWIFT BIC ของธนาคารปลายทาง - การส่งข้อความผ่านเครือข่าย SWIFT
ธนาคารต้นทางจะใช้เครือข่าย SWIFT เพื่อส่งข้อความคำสั่งโอนที่เข้ารหัส ซึ่งมีรายละเอียดทั้งหมด เช่น จำนวนเงิน สกุลเงิน ชื่อผู้ส่ง และผู้รับ ไปยังธนาคารผู้รับหรือธนาคารตัวกลาง - บทบาทของธนาคารตัวกลาง (Correspondent Bank)
ในบางกรณีที่ธนาคารต้นทางและธนาคารผู้รับไม่มีความสัมพันธ์โดยตรง เช่น ไม่มีบัญชีร่วมกัน เครือข่ายจะใช้ธนาคารตัวกลางที่มีความสัมพันธ์กับทั้งสองฝ่าย เพื่อทำหน้าที่ถ่ายโอนเงินต่อไป - การโอนเงินจริง
เมื่อธนาคารผู้รับได้รับข้อความและยืนยันการโอนจากต้นทางแล้ว ก็จะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีผู้รับผ่านบัญชีระหว่างธนาคาร ซึ่งกระบวนการนี้เกิดขึ้นภายนอกเครือข่าย SWIFT โดยตรง
ข้อดีของระบบคือ ข้อมูลการโอนเงินมีความถูกต้อง ปลอดภัย และลดความผิดพลาดจากการพิมพ์ชื่อหรือเลขบัญชีผิด ทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศมีความน่าเชื่อถือสูง และลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง
อัปเดตล่าสุด! SWIFT Code ของธนาคารไทยที่สำคัญ (ฉบับสมบูรณ์ 2567)
การใช้ SWIFT Code ที่ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ การให้รหัสผิดเพียงตัวเดียว อาจทำให้เงินล่าช้า ถูกตีกลับ หรือเกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ ต่อไปนี้คือรายชื่อ SWIFT Code ของธนาคารพาณิชย์หลักในประเทศไทย ประจำปี 2567 สำหรับสำนักงานใหญ่
ธนาคารไทย | SWIFT Code (สำนักงานใหญ่) |
ธนาคารกสิกรไทย (Kasikornbank) | KASITHBKXXX |
ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Bank) | KRTHTHBKXXX |
ธนาคารไทยพาณิชย์ (Siam Commercial Bank) | SICOTHBKXXX |
ธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank) | BBLATHBKXXX |
ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) | TMBKTHBKXXX |
ธนาคารออมสิน (Government Savings Bank) | GSBATHBKXXX |
ธนาคารยูโอบี (UOB Thai) | UOVBTHBKXXX |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Krungsri Bank) | AYUDTHBKXXX |
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB Thai Bank) | CIMBTHBKXXX |
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ | LHIBTHBKXXX |
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร | KKPCTHBKXXX |
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย | IBOTTHBKXXX |
ข้อควรระวังเพิ่มเติม:
- ตรวจสอบให้แน่ใจเสมอ
แม้รหัสข้างต้นจะเป็นรหัสสำนักงานใหญ่ แต่บางธนาคารอาจมีรหัสเฉพาะสำหรับสาขา หรือประเภทบัญชีพิเศษ ดังนั้นควรสอบถามรหัสจากผู้รับโดยตรงหรือธนาคารปลายทางก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง - ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง
รหัส SWIFT อาจมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงได้ แนะนำให้ตรวจสอบกับเว็บไซต์ทางการของธนาคารหรือติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรงหากไม่มั่นใจ
คู่มือการค้นหา SWIFT BIC Code: ของคุณและผู้รับฉบับคนไทย
การค้นหา SWIFT BIC Code ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่รู้ว่าควรหาจากที่ใด ต่อไปนี้คือช่องทางที่คุณสามารถใช้ตรวจสอบรหัสของตนเองหรือของผู้รับได้
- สมุดบัญชีธนาคาร
ธนาคารหลายแห่งในประเทศไทยมักพิมพ์ SWIFT Code ไว้บนหน้าแรกของสมุดบัญชี โดยเฉพาะในส่วนข้อมูลบัญชี - ใบแจ้งยอดบัญชี
ไม่ว่าจะเป็นใบแจ้งยอดแบบกระดาษหรือ e-Statement รหัสนี้มักจะแสดงอยู่ในเอกสาร - เว็บไซต์ของธนาคาร
ทุกธนาคารมีหน้าข้อมูลเกี่ยวกับบริการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งมักอยู่ในส่วน “คำถามที่พบบ่อย” หรือ “บริการต่างประเทศ” ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตรวจสอบรหัสของธนาคารกสิกรไทยได้ที่ เว็บไซต์ทางการ - แอปพลิเคชันธนาคารมือถือ
- K-Plus (กสิกรไทย): ตรวจสอบในเมนู “ข้อมูลบัญชี” หรือ “ตั้งค่า”
- SCB Easy (ไทยพาณิชย์): ดูได้ใน “ข้อมูลบัญชีของฉัน” หรือ “บริการโอนเงินระหว่างประเทศ”
- Krungthai NEXT (กรุงไทย): เข้าไปที่ “บัญชีของฉัน” แล้วเลือก “ดูข้อมูลธนาคาร”
- ติดต่อธนาคารโดยตรง
หากไม่พบข้อมูลผ่านช่องทางข้างต้น การโทรศัพท์ไปยังศูนย์บริการลูกค้า หรือไปที่สาขาใกล้บ้าน คือวิธีที่แม่นยำที่สุด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องยืนยันรหัส SWIFT BIC กับผู้รับก่อนทำการโอนทุกครั้ง เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจตามมา
ข้อควรระวังและแนวทางแก้ไขปัญหาเมื่อใช้ SWIFT BIC ในไทย
แม้ระบบ SWIFT จะมีความปลอดภัยสูง แต่ข้อผิดพลาดจากการใช้งานของมนุษย์ยังเกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะการพิมพ์รหัสไม่ครบหรือผิดตัวอักษร การรู้เท่าทันข้อผิดพลาดและรู้วิธีรับมือ จะช่วยให้คุณจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย:
- รหัส SWIFT ผิด
การพิมพ์ผิดเพียงตัวเดียว เช่น ตัวใหญ่-เล็ก หรือตัวอักษรใกล้เคียง อาจทำให้คำสั่งโอนถูกส่งไปยังธนาคารที่ไม่ถูกต้อง - ใช้รหัส 8 ตัว แทน 11 ตัวโดยไม่จำเป็น
แม้บางธนาคารจะยอมรับรหัส 8 ตัวได้ แต่การระบุรหัสสาขา (3 ตัวสุดท้าย) จะช่วยให้เงินไปถึงผู้รับได้ตรงจุดและเร็วขึ้น - ชื่อบัญชีไม่ตรงกับที่ลงทะเบียน
แม้ชื่อจะเหมือนกันแต่สะกดต่างกันเพียงเล็กน้อย เช่น Mr. หรือ Ms. หรือชื่อกลางหายไป ธนาคารปลายทางก็อาจปฏิเสธการโอนได้
ผลลัพธ์จากข้อผิดพลาด:
- การโอนล่าช้า
ธนาคารต้องใช้เวลาตรวจสอบและติดตามข้อมูล อาจใช้เวลาหลายวัน - เงินถูกตีกลับ
หากไม่สามารถแก้ไขได้ เงินจะถูกส่งกลับมา ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ - มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม
คุณอาจต้องจ่ายค่า “แก้ไขคำสั่ง” หรือ “คืนเงิน” ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร
วิธีรับมือเมื่อเกิดข้อผิดพลาดในประเทศไทย:
- ติดต่อธนาคารต้นทางทันที
ยิ่งแจ้งเร็ว ยิ่งมีโอกาสสูงที่จะดึงคำสั่งคืนได้ - เตรียมเอกสารให้พร้อม
มีข้อมูลการโอนเงิน เช่น วันที่ เวลา จำนวนเงิน สกุลเงิน ชื่อผู้รับ เลขที่บัญชี และ SWIFT Code ที่ใช้ - เข้าใจขั้นตอนและระยะเวลา
การแก้ไขการโอนเงินระหว่างประเทศอาจใช้เวลา 2–7 วันทำการ หรือมากกว่านั้น โดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดก่อนส่ง - ความเข้มงวดของธนาคารไทย
ธนาคารในไทยมักตรวจสอบข้อมูลผู้รับอย่างละเอียด หากชื่อไม่ตรงกับในระบบ จะมีโอกาสถูกปฏิเสธสูง
ทางเลือกอื่นในการโอนเงินระหว่างประเทศสำหรับคนไทย: นอกจาก SWIFT แล้วมีอะไรบ้าง?
แม้ SWIFT จะเป็นระบบหลักในการโอนเงินระหว่างประเทศ แต่ปัจจุบันมีทางเลือกอื่นที่อาจเหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะสำหรับคนไทยที่ต้องการความรวดเร็ว ค่าใช้จ่ายต่ำ หรือความสะดวกในการใช้งาน
- PromptPay International
บริการใหม่ที่พัฒนาโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยให้ส่งเงินไปต่างประเทศได้ด้วยเพียงเบอร์มือถือหรือเลขบัตรประชาชนของผู้รับ (ในประเทศที่ร่วมโครงการ) ข้อดีคือ รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ แต่ยังจำกัดเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชีย เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฮ่องกง และอินเดีย - Wise (เดิมชื่อ TransferWise)
ผู้ให้บริการโอนเงินออนไลน์ที่เน้นค่าธรรมเนียมต่ำและอัตราแลกเปลี่ยนใกล้เคียงอัตรากลางตลาด ใช้งานง่ายผ่านเว็บหรือแอป เหมาะสำหรับการโอนเงินหลายสกุล - PayPal
แพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการชำระเงินออนไลน์และโอนเงินระหว่างบัญชี ข้อดีคือ ใช้งานง่ายและได้รับการยอมรับกว้างขวาง แต่มีค่าธรรมเนียมสูงและอัตราแลกเปลี่ยนไม่ค่อยดี - Western Union / MoneyGram
เหมาะสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะผู้รับสามารถรับเงินสดได้ที่ตัวแทน โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร แต่ค่าธรรมเนียมสูงและอัตราแลกเปลี่ยนไม่ค่อยเป็นมิตร - สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrencies)
การส่งเงินผ่าน Bitcoin หรือ Stablecoins ทำได้เร็วมากและค่าธรรมเนียมต่ำ แต่ต้องมีความรู้ และเสี่ยงจากราคาผันผวนและปัญหากฎหมาย
บริการ | ความเร็ว | ค่าธรรมเนียม | ความสะดวก | การครอบคลุม | เหมาะสำหรับ |
SWIFT | ปานกลาง (1-5 วัน) | สูง | ปานกลาง | สูงมาก | ธุรกรรมขนาดใหญ่ หรือองค์กร |
PromptPay International | เร็ว (ทันที-ไม่กี่นาที) | ต่ำ | สูงมาก | ต่ำ (จำกัดประเทศ) | โอนเงินเล็ก-กลาง ไปประเทศที่รองรับ |
Wise | ปานกลาง-เร็ว (0-2 วัน) | ต่ำ | สูง | สูง | บุคคลทั่วไป อัตราแลกเปลี่ยนดี |
PayPal | ทันที (ระหว่างบัญชี) | สูง | สูง | สูง | ชำระค่าสินค้า โอนระหว่างผู้ใช้ |
Western Union | เร็ว (ไม่กี่นาที) | สูงมาก | ปานกลาง | สูง | สถานการณ์ฉุกเฉิน รับเงินสด |
การเลือกวิธีการโอนเงินควรพิจารณาจากความต้องการด้านเวลา ค่าใช้จ่าย และความสะดวกของทั้งผู้ส่งและผู้รับ
สรุป: SWIFT BIC กุญแจสำคัญสู่การเชื่อมโยงการเงินโลกของคุณอย่างมั่นใจ
SWIFT BIC ไม่ใช่แค่รหัสตัวอักษรธรรมดา แต่เป็นหัวใจของระบบการเงินระหว่างประเทศที่ทำให้เงินสามารถเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สำหรับคนไทยที่ต้องส่งหรือรับเงินจากต่างประเทศ การเข้าใจ SWIFT BIC ไม่เพียงช่วยให้ทำธุรกรรมได้ถูกต้อง แต่ยังช่วยให้คุณเลือกวิธีการโอนเงินที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้อย่างชาญฉลาด
หวังว่าคู่มือนี้จะให้ความรู้ที่ครบถ้วนเกี่ยวกับ SWIFT BIC ตั้งแต่พื้นฐาน การใช้งาน ข้อมูลธนาคารไทย ไปจนถึงทางเลือกอื่นๆ ที่มีอยู่ การมีความรู้เหล่านี้จะช่วยให้คุณจัดการการเงินข้ามประเทศได้อย่างมั่นใจ และลดความกังวลในยุคที่ทุกคนเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เคย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SWIFT BIC (FAQ)
SWIFT Code กับ BIC Code ต่างกันอย่างไร?
โดยพื้นฐานแล้ว SWIFT Code และ BIC Code คือสิ่งเดียวกัน BIC (Bank Identifier Code) เป็นรหัสมาตรฐานตาม ISO 9362 ที่ใช้ระบุธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลก และรหัสนี้ก็ถูกใช้งานบนเครือข่าย SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อสารทางการเงิน ดังนั้น จึงมักใช้คำว่า “SWIFT Code” เพื่ออ้างถึงรหัส BIC นั่นเอง
ฉันจะหา SWIFT Code ของธนาคารกสิกรไทย (Kasikornbank) ได้อย่างไร?
คุณสามารถหา SWIFT Code ของธนาคารกสิกรไทย (KASITHBKXXX) ได้จากหลายช่องทาง ได้แก่:
- สมุดบัญชีธนาคารของคุณ
- ใบแจ้งยอดบัญชี (Bank Statement)
- เว็บไซต์ทางการของธนาคารกสิกรไทย (ส่วนบริการโอนเงินระหว่างประเทศ)
- แอปพลิเคชัน K-Plus (มักอยู่ในส่วนข้อมูลบัญชีหรือตั้งค่า)
- ติดต่อศูนย์บริการลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย
ถ้าใส่ SWIFT Code ผิด จะเกิดอะไรขึ้นกับการโอนเงินระหว่างประเทศ?
หากใส่ SWIFT Code ผิดพลาด การโอนเงินอาจเกิดปัญหาได้หลายอย่าง เช่น:
- เงินล่าช้า: ธนาคารอาจใช้เวลาตรวจสอบและแก้ไขข้อมูล
- เงินถูกตีกลับ: หากไม่สามารถแก้ไขได้ เงินจะถูกส่งคืนไปยังผู้ส่ง
- ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม: คุณอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการแก้ไขข้อมูลหรือค่าธรรมเนียมการคืนเงิน
สิ่งสำคัญคือต้องติดต่อธนาคารต้นทางทันทีที่พบข้อผิดพลาด
SWIFT Code จำเป็นสำหรับการโอนเงินภายในประเทศไทยหรือไม่?
ไม่จำเป็น SWIFT Code ใช้สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศเท่านั้น สำหรับการโอนเงินภายในประเทศไทย คุณใช้เพียงเลขที่บัญชีธนาคารและชื่อธนาคารของผู้รับก็เพียงพอแล้ว
มีค่าธรรมเนียมในการใช้ SWIFT BIC สำหรับการโอนเงินไปต่างประเทศหรือไม่ และมีอะไรบ้าง?
มีค่าธรรมเนียมแน่นอนครับ ค่าธรรมเนียมหลักๆ ได้แก่:
- ค่าธรรมเนียมการโอน (Sending Fee): เรียกเก็บโดยธนาคารต้นทาง
- ค่าธรรมเนียมธนาคารตัวกลาง (Correspondent Bank Fee): หากมีการใช้ธนาคารตัวกลาง อาจมีการหักค่าธรรมเนียมระหว่างทาง
- ค่าธรรมเนียมการรับเงิน (Receiving Fee): บางธนาคารปลายทางอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการรับเงิน
ค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละธนาคารและประเทศปลายทาง ควรสอบถามจากธนาคารของคุณก่อนทำธุรกรรม
ฉันสามารถโอนเงินไปต่างประเทศโดยไม่มี SWIFT Code ได้หรือไม่? มีทางเลือกอื่นสำหรับคนไทยไหม?
ได้ครับ คุณสามารถโอนเงินไปต่างประเทศได้โดยไม่ใช้ SWIFT Code ผ่านบริการทางเลือกอื่น ๆ เช่น:
- PromptPay International: สำหรับบางประเทศที่รองรับ ใช้ง่าย ค่าธรรมเนียมต่ำ
- Wise (TransferWise): ผู้ให้บริการโอนเงินออนไลน์ที่ให้เรทดี ค่าธรรมเนียมโปร่งใส
- PayPal: เหมาะสำหรับการชำระค่าสินค้าออนไลน์หรือโอนเงินระหว่างผู้ใช้ PayPal
- Western Union/MoneyGram: สำหรับการโอนเงินด่วนแบบรับเงินสด
SWIFT BIC ใช้เวลานานแค่ไหนในการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศในประเทศไทย?
โดยทั่วไป การโอนเงินผ่าน SWIFT BIC จากประเทศไทยไปยังต่างประเทศจะใช้เวลาประมาณ 1-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับธนาคารต้นทาง ธนาคารตัวกลาง (ถ้ามี) และธนาคารปลายทาง รวมถึงช่วงเวลาทำการและนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน
PromptPay สามารถใช้แทน SWIFT Code สำหรับการโอนเงินไปต่างประเทศได้ทั้งหมดเลยหรือไม่?
ยังไม่สามารถใช้แทนได้ทั้งหมดครับ PromptPay International เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการโอนเงินไปยังประเทศที่เข้าร่วมเครือข่ายและมีวงเงินจำกัด แต่ SWIFT Code ยังคงเป็นมาตรฐานสากลที่ครอบคลุมธนาคารและประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการโอนเงินจำนวนมากหรือไปยังประเทศที่ PromptPay International ยังไม่รองรับ
หากฉันเป็นผู้รับเงินจากต่างประเทศ ต้องแจ้ง SWIFT Code ของธนาคารไทยให้ผู้ส่งอย่างไร?
คุณควรแจ้งข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นให้ผู้ส่งเงินอย่างครบถ้วนและถูกต้อง ได้แก่:
- ชื่อบัญชีของคุณ (เป็นภาษาอังกฤษ ตรงตามที่ระบุในบัญชีธนาคาร)
- เลขที่บัญชีของคุณ
- ชื่อธนาคารของคุณ (เป็นภาษาอังกฤษ)
- SWIFT Code ของธนาคารของคุณ (เช่น KASITHBKXXX สำหรับกสิกรไทย)
- สาขาธนาคาร (หาก SWIFT Code ที่ใช้เป็นแบบ 11 ตัวอักษรที่มีรหัสสาขา)
ตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ให้แน่ใจก่อนแจ้งผู้ส่ง
SWIFT Code ของธนาคารไทยอื่นๆ เช่น กรุงไทย, ไทยพาณิชย์, กรุงเทพ หาได้จากที่ไหนบ้าง?
คุณสามารถค้นหา SWIFT Code ของธนาคารเหล่านี้ได้ในลักษณะเดียวกับธนาคารกสิกรไทยครับ ได้แก่:
- สมุดบัญชี/ใบแจ้งยอดบัญชี
- เว็บไซต์ทางการของแต่ละธนาคาร (เช่น เว็บไซต์ธนาคารกรุงไทย, เว็บไซต์ธนาคารไทยพาณิชย์)
- แอปพลิเคชัน Mobile Banking ของธนาคารนั้นๆ (Krungthai NEXT, SCB Easy)
- ติดต่อศูนย์บริการลูกค้าของธนาคาร