ทำความรู้จัก SWIFT Code ธนาคารกรุงไทย (KRTH TH BK) คืออะไร?

ในยุคที่การทำธุรกรรมทางการเงินข้ามพรมแดนกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเงินให้ครอบครัว การจ่ายค่าบริการต่างประเทศ หรือรับรายได้จากต่างชาติ การใช้รหัสระบุตัวตนของธนาคารจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในเครื่องมือหลักที่ใช้ทั่วโลกคือ SWIFT Code หรือที่บางครั้งเรียกว่า BIC (Bank Identifier Code) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการระบุธนาคารและสถาบันการเงินอย่างถูกต้อง
สำหรับผู้ใช้บริการธนาคารกรุงไทย รหัส SWIFT Code ที่ใช้ในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศคือ KRTH TH BK รหัสนี้ทำหน้าที่เหมือนที่อยู่เฉพาะของธนาคารในระบบโอนเงินโลก ช่วยให้การส่งและรับเงินจากต่างประเทศเป็นไปอย่างแม่นยำ ปลอดภัย และรวดเร็ว โดยเฉพาะในบริบทของการโอนเงินผ่านระบบ SWIFT ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ธนาคารกว่า 11,000 แห่งในกว่า 200 ประเทศใช้ร่วมกันภายใต้มาตรฐาน ISO 9362
SWIFT Code ของธนาคารกรุงไทย (KRTH TH BK) ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

การมี SWIFT Code ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นกุญแจสำคัญที่เปิดทางให้กับธุรกรรมทางการเงินข้ามชาติอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับธนาคารกรุงไทย รหัส KRTH TH BK มีบทบาทหลักในสองสถานการณ์หลัก ได้แก่
การรับเงินจากต่างประเทศ — ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนจากงานต่างแดน เงินลงทุน หรือเงินสนับสนุนจากญาติมิตร การแจ้ง SWIFT Code นี้ให้ผู้ส่งถือเป็นข้อมูลจำเป็นเพื่อให้ธนาคารต้นทางระบุได้ว่าเงินก้อนนี้ต้องไปยังธนาคารกรุงไทย ช่วยลดความเสี่ยงที่เงินจะถูกส่งผิดระบบหรือล่าช้า
การส่งเงินไปต่างประเทศ — เมื่อคุณต้องการโอนเงินไปยังบัญชีต่างประเทศ คุณจำเป็นต้องรู้ SWIFT Code ของธนาคารผู้รับ ซึ่งธนาคารกรุงไทยจะใช้ข้อมูลนี้ในการส่งคำสั่งผ่านเครือข่าย SWIFT ไปยังปลายทางอย่างถูกต้อง ความแม่นยำของรหัสนี้จึงช่วยให้ธุรกรรมดำเนินไปโดยไม่เกิดข้อผิดพลาด เช่น การโอนเงินไปยังบัญชีผิด หรือต้องเสียเวลาในการแก้ไข
เจาะลึกโครงสร้าง SWIFT Code: KRTH TH BK หมายถึงอะไร?

แม้ SWIFT Code จะดูเป็นเพียงชุดตัวอักษร แต่แต่ละส่วนล้วนมีความหมายเฉพาะตัวที่ถูกออกแบบมาเพื่อระบุข้อมูลทางภูมิศาสตร์และองค์กรอย่างชัดเจน โดยทั่วไปรหัสนี้จะมีความยาว 8 หรือ 11 หลัก สำหรับธนาคารกรุงไทยใช้รหัส 8 หลักคือ KRTH TH BK ซึ่งสามารถวิเคราะห์โครงสร้างได้ดังนี้
ส่วนของรหัส | ความหมาย | รายละเอียดสำหรับ KRTH TH BK |
KRTH |
รหัสธนาคาร (Bank Code) ระบุชื่อธนาคารอย่างเป็นทางการ |
ย่อมาจาก “Krungthai” ซึ่งเป็นชื่อภาษาอังกฤษของธนาคารกรุงไทย |
TH |
รหัสประเทศ (Country Code) ระบุประเทศที่ธนาคารตั้งอยู่ |
ย่อมาจาก “Thailand” ตามมาตรฐาน ISO 3166 |
BK |
รหัสที่ตั้ง (Location Code) ระบุเมืองหรือสำนักงานใหญ่ |
ย่อมาจาก “Bangkok” ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของธนาคารกรุงไทย |
(ไม่มี) | รหัสสาขา (Branch Code – ตัวเลือก) ระบุสาขาเฉพาะ (ถ้ามี) |
โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้ 3 หลักสุดท้ายในการโอนเงินระหว่างประเทศ เนื่องจากระบบจะส่งผ่านสำนักงานใหญ่โดยอัตโนมัติ |
ด้วยเหตุนี้ รหัส KRTH TH BK จึงไม่ใช่เพียงชุดตัวอักษร แต่เป็นตัวแทนที่ชัดเจนของ “ธนาคารกรุงไทยในประเทศไทย สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร” การเข้าใจโครงสร้างนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ด้วยตนเอง และมั่นใจว่าธุรกรรมจะไปถึงปลายทางอย่างแม่นยำ
วิธีค้นหา SWIFT Code กรุงไทย (KRTH TH BK) และข้อมูลเพิ่มเติม
การหาข้อมูล SWIFT Code ของธนาคารกรุงไทยทำได้ง่ายและสามารถทำได้หลายช่องทาง โดยแต่ละช่องทางมีความน่าเชื่อถือในระดับสูง
ตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการของธนาคารกรุงไทย
ช่องทางที่ปลอดภัยและอัปเดตที่สุดคือการเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของธนาคารกรุงไทย โดยเฉพาะในส่วน “คำถามที่พบบ่อย” หรือ “บริการโอนเงินระหว่างประเทศ” ซึ่งจะมีการระบุ SWIFT Code อย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบข้อมูลได้โดยตรงที่เว็บไซต์ของธนาคารกรุงไทย เพื่อความมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้รับเป็นปัจจุบันและถูกต้อง
ใช้ผ่านแอปพลิเคชัน KTB NEXT หรือ Krungthai Netbank
สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการดิจิทัลของธนาคารกรุงไทย การหา SWIFT Code สามารถทำได้โดยตรงในแอปพลิเคชัน เมื่อคุณเริ่มต้นการทำรายการโอนเงินไปต่างประเทศ ระบบมักจะแสดงข้อมูลนี้อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของข้อมูลบัญชี หรือเมนูการรับเงินจากต่างประเทศ ทำให้ไม่ต้องจำหรือคัดลอกจากที่อื่น
ติดต่อสาขาหรือศูนย์บริการลูกค้า
หากต้องการความมั่นใจสูงสุดหรือไม่สะดวกใช้ช่องทางออนไลน์ คุณสามารถติดต่อพนักงานได้ที่สาขาทั่วประเทศ หรือโทรไปที่ Krungthai Contact Center หมายเลข 02-111-1111 เจ้าหน้าที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโอนเงินระหว่างประเทศ เช่น เอกสารที่ต้องใช้ หรือข้อควรระวังที่จำเป็น
ขั้นตอนการโอนเงินไปต่างประเทศด้วย SWIFT Code กรุงไทย (KRTH TH BK)
การโอนเงินไปต่างประเทศผ่านธนาคารกรุงไทยสามารถทำได้ทั้งผ่านสาขาและช่องทางดิจิทัล โดยกระบวนการไม่ซับซ้อนหากเตรียมข้อมูลให้ครบถ้วน
เอกสารและข้อมูลที่ต้องใช้
ก่อนเริ่มทำรายการ ควรเตรียมข้อมูลต่อไปนี้ให้เรียบร้อย
- ชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ของผู้รับเงิน — ต้องตรงกับชื่อในบัญชีธนาคารปลายทาง
- ชื่อธนาคารของผู้รับ — ระบุชื่อเต็มของธนาคารและสาขา (ถ้ามี)
- เลขที่บัญชีธนาคารปลายทาง — ตรวจสอบให้ถูกต้องทุกหลัก
- SWIFT Code ของธนาคารปลายทาง — เช่นเดียวกับที่คุณใช้ KRTH TH BK เมื่อผู้อื่นส่งเงินมาให้คุณ
- วัตถุประสงค์ในการโอนเงิน — เช่น ค่าใช้จ่ายการศึกษา ค่าสินค้า หรือเงินช่วยเหลือ
- เอกสารยืนยันตัวตน — เช่น บัตรประชาชน สำหรับผู้โอนในประเทศ
ขั้นตอนผ่าน Krungthai NEXT / Krungthai Netbank
สำหรับผู้ที่ใช้บริการออนไลน์ ขั้นตอนมีดังนี้
- เข้าสู่ระบบ — ใช้ชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านเข้าสู่แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์
- เลือกเมนูโอนเงินต่างประเทศ — ค้นหาในส่วน “International Transfer”
- กรอกข้อมูลผู้รับ — ใส่ชื่อ เลขที่บัญชี ชื่อธนาคาร และ SWIFT Code อย่างแม่นยำ
- ระบุจำนวนเงินและวัตถุประสงค์ — ระบุสกุลเงินและเหตุผลในการโอน
- ตรวจสอบค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยน — ระบบจะแสดงต้นทุนทั้งหมด ทั้งค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะนั้น
- ยืนยันการทำรายการ — ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง กดยืนยัน และใช้ PIN หรือ OTP เพื่อทำรายการ
- บันทึกหลักฐาน — เก็บใบเสร็จหรือสลิปไว้เพื่ออ้างอิงในอนาคต
ค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนที่ควรรู้
การโอนเงินระหว่างประเทศมักมีต้นทุนหลายส่วน
- ค่าธรรมเนียมธนาคารผู้ส่ง — ธนาคารกรุงไทยเรียกเก็บตามนโยบายปัจจุบัน
- ค่าธรรมเนียมธนาคารตัวกลาง — อาจมีการหักเพิ่มหากเงินต้องผ่านธนาคารกลาง
- ค่าธรรมเนียมธนาคารผู้รับ — ธนาคารปลายทางอาจเรียกเก็บเพิ่ม
นอกจากนี้ อัตราแลกเปลี่ยน มีผลโดยตรงต่อจำนวนเงินที่ผู้รับจะได้รับ ควรตรวจสอบให้ดีในขณะทำรายการ เนื่องจากอัตรานี้อาจเปลี่ยนแปลงตามตลาดในแต่ละช่วงเวลา
การรับเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย
หากคุณกำลังรอรับเงินจากต่างประเทศ การแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องให้ผู้ส่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้เงินมาถึงอย่างรวดเร็วและไม่ติดขัด
- ชื่อบัญชีเต็ม — ชื่อ-นามสกุลตามบัญชีธนาคารกรุงไทยของคุณ
- เลขที่บัญชีธนาคารกรุงไทย — หมายเลขบัญชีที่ต้องการให้โอนเข้า
- ชื่อธนาคาร — Krungthai Bank Public Company Limited
- SWIFT Code — KRTH TH BK
- ที่อยู่ธนาคาร — โดยทั่วไปคือสำนักงานใหญ่ 35 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ กรุงเทพฯ 10110
ข้อควรทราบเพิ่มเติม
- เมื่อเงินเข้า คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนผ่าน KTB NEXT หรือ SMS
- อาจมีค่าธรรมเนียมที่ธนาคารปลายทางหรือตัวกลางหักไว้
- สำหรับยอดเงินจำนวนมาก ธนาคารอาจขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบวัตถุประสงค์ตามกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระเบียบการเงินระหว่างประเทศสามารถดูได้จากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย
ทางเลือกอื่นในการโอนเงินระหว่างประเทศ: เปรียบเทียบกับ SWIFT Code
แม้ SWIFT Code จะเป็นมาตรฐานหลัก แต่ในปัจจุบันมีบริการอื่นที่อาจเหมาะกับบางสถานการณ์มากกว่า
- Wise (เดิมชื่อ TransferWise) — บริการออนไลน์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและใช้อัตราแลกเปลี่ยนจริง เหมาะสำหรับโอนยอดไม่สูงและต้องการความโปร่งใส
- Remitly — เน้นการส่งเงินไปประเทศกำลังพัฒนา มีตัวเลือกการรับเงินหลายรูปแบบ เช่น โอนเข้าบัญชี รับเป็นเงินสด หรือเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัล
- PromptPay International — บริการโอนเงินผ่านระบบ PromptPay ที่เชื่อมกับบางประเทศ เช่น สิงคโปร์ โดยใช้เพียงเบอร์โทรศัพท์หรือเลขบัตรประชาชน สะดวก รวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมต่ำ
- Western Union / MoneyGram — เหมาะสำหรับส่งเงินแบบเร่งด่วน ผู้รับสามารถรับเป็นเงินสดได้ที่สาขา โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร
ตารางเปรียบเทียบช่วยให้เลือกบริการได้ง่ายขึ้นตามความต้องการ
บริการ | จุดเด่น | ข้อควรพิจารณา |
SWIFT Code (ธนาคาร) | ความน่าเชื่อถือสูง เหมาะกับยอดเงินมาก | ค่าธรรมเนียมสูง ใช้เวลานาน อัตราแลกเปลี่ยนอาจไม่ดีที่สุด |
Wise | ค่าธรรมเนียมต่ำ อัตราแลกเปลี่ยนจริง รวดเร็ว | จำกัดประเทศและสกุลเงิน ต้องมีบัญชีทั้งสองฝั่ง |
Remitly | ตัวเลือกการรับเงินหลากหลาย เข้าถึงง่าย | อัตราแลกเปลี่ยนอาจไม่ดีที่สุด ค่าธรรมเนียมแตกต่างกัน |
PromptPay Int. | สะดวก รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ | จำกัดประเทศที่รองรับ และจำนวนเงิน |
Western Union | รับเงินสดได้ทันที รวดเร็ว | ค่าธรรมเนียมสูง อัตราแลกเปลี่ยนไม่ดีที่สุด |
การเลือกใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเร็ว ต้นทุน ความสะดวกของผู้รับ และจำนวนเงินที่ส่ง
ข้อควรระวังและเคล็ดลับความปลอดภัยในการโอนเงินระหว่างประเทศ
การโอนเงินข้ามประเทศมีความเสี่ยงที่ควรระมัดระวัง เพื่อป้องกันการสูญเสียทางการเงิน
- ตรวจสอบข้อมูลทุกครั้ง — แม้ตัวอักษรเพียงตัวเดียวที่ผิดในชื่อหรือ SWIFT Code ก็อาจทำให้เงินสูญหายหรือต้องใช้เวลาหลายวันในการแก้ไข
- ระวังการหลอกลวง — อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว รหัสผ่าน หรือ OTP ผ่านอีเมล ข้อความ หรือโทรศัพท์ที่อ้างว่าเป็นธนาคาร ธนาคารกรุงไทยจะไม่ติดต่อขอข้อมูลเหล่านี้ทางช่องทางไม่เป็นทางการ
- เก็บหลักฐานทุกครั้ง — ไม่ว่าจะเป็นสลิป หรือภาพหน้าจอ ควรเก็บไว้เพื่อใช้ยืนยันหากเกิดปัญหา
- เข้าใจค่าใช้จ่าย — ตรวจสอบค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนอย่างละเอียดก่อนยืนยัน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด
- ติดต่อผ่านช่องทางทางการเท่านั้น — หากมีข้อสงสัย ให้ติดต่อผ่าน Call Center หรือสาขาของธนาคารกรุงไทยโดยตรง
- ระบุวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน — การให้ข้อมูลครบถ้วนช่วยให้ธนาคารดำเนินการได้เร็วขึ้นและเป็นไปตามกฎหมาย
การปฏิบัติตามหลักเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงและทำให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศปลอดภัยยิ่งขึ้น
สรุป: SWIFT Code กรุงไทย กุญแจสู่การเงินระหว่างประเทศที่ราบรื่น
SWIFT Code KRTH TH BK ไม่ใช่เพียงรหัสทางเทคนิค แต่เป็นกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่ระบบการเงินโลก ไม่ว่าคุณจะส่งเงินให้ครอบครัว จ่ายค่าบริการ หรือรับรายได้จากต่างประเทศ ความถูกต้องในการใช้รหัสนี้ย่อมส่งผลโดยตรงต่อความเร็ว ความปลอดภัย และความสำเร็จของธุรกรรม
บทความนี้ได้กล่าวถึงทุกมิติของ SWIFT Code ธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่ความหมาย โครงสร้าง การค้นหา การใช้งาน ไปจนถึงทางเลือกอื่นและข้อควรระวังด้านความปลอดภัย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณจัดการการเงินระหว่างประเทศได้อย่างมั่นใจ มีประสิทธิภาพ และไร้กังวล
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SWIFT Code ธนาคารกรุงไทย (FAQs)
SWIFT Code ธนาคารกรุงไทย (KRTH TH BK) ใช้สำหรับทุกสาขาเลยหรือไม่?
ใช่ รหัส SWIFT Code หลัก KRTH TH BK เป็นรหัสของสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทย ซึ่งสามารถใช้ได้สำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศทั้งหมด ไม่ว่าจะเปิดบัญชีที่สาขาใดก็ตาม โดยไม่จำเป็นต้องระบุรหัสสาขาย่อย
ฉันจะหา SWIFT Code ของธนาคารกรุงไทยได้จากที่ไหนบ้าง?
- เว็บไซต์ทางการของธนาคารกรุงไทย (ส่วนของ FAQ หรือการโอนเงินระหว่างประเทศ)
- แอปพลิเคชัน KTB NEXT หรือ Krungthai Netbank (ในเมนูที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินต่างประเทศ)
- ติดต่อสอบถามที่สาขาธนาคารกรุงไทย หรือ Krungthai Contact Center 02-111-1111
ถ้าโอนเงินต่างประเทศโดยใช้ SWIFT Code กรุงไทย จะใช้เวลานานแค่ไหน และมีค่าธรรมเนียมอย่างไร?
โดยทั่วไป การโอนเงินแบบ SWIFT อาจใช้เวลา 1-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับประเทศ ธนาคารตัวกลาง และเวลาที่ทำรายการ ส่วนค่าธรรมเนียมจะประกอบด้วยค่าธรรมเนียมของธนาคารกรุงไทย ค่าธรรมเนียมธนาคารตัวกลาง และค่าธรรมเนียมธนาคารผู้รับ ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบได้จากธนาคารโดยตรงก่อนทำรายการ
ฉันต้องการรับเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ต้องให้ข้อมูลอะไรกับผู้ส่งบ้าง?
- ชื่อบัญชีเต็ม (Full Account Name)
- เลขที่บัญชีธนาคารกรุงไทยของคุณ
- ชื่อธนาคาร (Krungthai Bank Public Company Limited)
- SWIFT Code ของธนาคารกรุงไทย: KRTH TH BK
นอกจาก SWIFT Code แล้ว มีวิธีอื่นในการโอนเงินระหว่างประเทศกับธนาคารกรุงไทยไหม?
ธนาคารกรุงไทยอาจมีบริการโอนเงินระหว่างประเทศอื่นๆ เช่น PromptPay International สำหรับบางประเทศ หรือบริการผ่านตัวแทนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม SWIFT Code เป็นมาตรฐานหลักสำหรับการโอนเงินเข้า-ออกระหว่างประเทศส่วนใหญ่
รหัส SWIFT Code ที่ถูกต้องของธนาคารกรุงไทยคืออะไร?
รหัส SWIFT Code ที่ถูกต้องและใช้กันทั่วไปของธนาคารกรุงไทยคือ KRTH TH BK
หากกรอก SWIFT Code ผิดพลาด จะเกิดอะไรขึ้น และจะแก้ไขได้อย่างไร?
หากกรอก SWIFT Code ผิดพลาด เงินอาจถูกตีกลับมายังบัญชีผู้ส่ง หรืออาจถูกโอนไปยังธนาคารที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดความล่าช้าและมีค่าใช้จ่ายในการแก้ไข หากเกิดข้อผิดพลาด คุณควรรีบติดต่อธนาคารกรุงไทยทันทีเพื่อแจ้งเรื่องและขอคำแนะนำในการแก้ไข
การโอนเงินต่างประเทศผ่าน Krungthai NEXT มีขั้นตอนอย่างไร?
เริ่มต้นด้วยการเข้าสู่ระบบ KTB NEXT เลือกเมนู “โอนเงินต่างประเทศ” กรอกข้อมูลผู้รับเงิน (ชื่อ, เลขที่บัญชี, SWIFT Code) ระบุจำนวนเงินและวัตถุประสงค์ ตรวจสอบข้อมูล ค่าธรรมเนียม และอัตราแลกเปลี่ยน จากนั้นยืนยันการทำรายการด้วย PIN หรือ OTP
มีข้อควรระวังอะไรบ้างเมื่อใช้ SWIFT Code กรุงไทยในการโอนเงินระหว่างประเทศ?
- ตรวจสอบข้อมูลผู้รับและ SWIFT Code ให้ถูกต้องแม่นยำทุกครั้ง
- ระวังการหลอกลวงทางอีเมลหรือข้อความ
- เก็บหลักฐานการทำรายการไว้เสมอ
- ทำความเข้าใจเรื่องค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยน
- ติดต่อธนาคารผ่านช่องทางทางการเมื่อมีข้อสงสัย
SWIFT Code กับ BIC Code แตกต่างกันอย่างไร?
SWIFT Code และ BIC Code คือคำที่ใช้เรียกสิ่งเดียวกัน โดย SWIFT ย่อมาจาก Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลระบบนี้ ส่วน BIC ย่อมาจาก Bank Identifier Code ซึ่งเป็นชื่อของรหัสที่ใช้ระบุธนาคารนั้นๆ