เทรดทอง แอพไหนดี? 5 แอพยอดนิยมสำหรับมือใหม่ในปี 2024 พร้อมคู่มือลงทุน

แอพเทรดทองในไทยตัวไหนดีที่สุด? คู่มือเริ่มต้นสำหรับมือใหม่และรีวิวแอพปี 2024

การลงทุนในทองคำยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่คนไทยให้ความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะในรูปแบบของทองรูปพรรณหรือทองคำแท่ง ต่างก็ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามั่นคงและสามารถกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจผันผวนได้ดี ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ความนิยมในการ “เทรดทองผ่านแอพ” ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปร้านทองอีกต่อไป แค่ปลายนิ้วสัมผัสบนหน้าจอมือถือก็สามารถซื้อขายทองคำได้ทุกที่ ทุกเวลา บทความนี้จึงมาพร้อมกับคำตอบที่หลายคนสงสัย: “เทรดทอง แอพไหนดี” พร้อมอัปเดตแอพพลิเคชั่นยอดนิยมในปี 2024 ที่เหมาะกับทั้งมือใหม่และนักลงทุนระดับกลาง

ผู้หญิงกำลังเทรดทองผ่านมือถือ พร้อมภาพพื้นหลังเป็นทองคำแท่งและเหรียญทอง

ทำไมต้องเทรดทองผ่านแอพในไทย? 3 ข้อดีของการลงทุนออนไลน์

เมื่อเทียบกับการซื้อทองแบบดั้งเดิม การใช้แอพเทรดทองให้ความสะดวกและยืดหยุ่นมากกว่าหลายเท่า โดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วและเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ต่อไปนี้คือเหตุผลหลักที่ทำให้การ “ลงทุนทองคำ มือใหม่” จำนวนมากเริ่มหันมาใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น

ภาพประกอบ 3 ข้อดีของการเทรดทองออนไลน์: นาฬิกา 24 ชั่วโมง, สัญลักษณ์ธุรกรรมเร็ว, และเหรียญเล็กเติบโตเป็นแท่งทอง

**1. ลงทุนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องรอเวลาเปิดร้าน**
ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน บนรถไฟ หรือแม้แต่ในเวลากลางคืน คุณก็สามารถตรวจสอบราคาและสั่งซื้อทองคำได้ทันที แอพส่วนใหญ่เชื่อมต่อกับราคาทองคำโลกแบบเรียลไทม์ ทำให้ไม่พลาดจังหวะซื้อขายในช่วงที่ราคาผันผวน

**2. ซื้อขายง่าย ได้เงินเร็ว ไม่ต้องเก็บทองจริง**
การลงทุนผ่านแอพไม่จำเป็นต้องรับทองคำจริง คุณซื้อและขายในรูปของสิทธิ์ในทองคำ (Digital Gold) โดยเงินจะเข้าบัญชีธนาคารภายในไม่กี่นาทีหลังขาย ช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือถูกโจรกรรม

**3. เริ่มต้นลงทุนน้อย ทุกคนก็มีโอกาส**
หลายแอพกำหนด “ลงทุนขั้นต่ำ” เพียงหลักร้อยบาท ทำให้แม้จะมีเงินไม่มาก ก็สามารถเริ่มต้นสะสมทองคำได้ทีละน้อย คล้ายกับการซื้อกองทุนรวม แต่เน้นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามั่นคง

แอพเทรดทองในไทยเลือกยังไง? 5 มาตรฐานสำคัญที่มือใหม่ควรรู้

การเลือกแอพที่ดีไม่ใช่แค่ดูจากความนิยมหรือโฆษณา แต่ต้องพิจารณาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ต้นทุน และประสิทธิภาพในการใช้งาน ต่อไปนี้คือ 5 ปัจจัยที่ควรตรวจสอบก่อนสมัครใช้งาน

ภาพโล่พร้อมเครื่องหมายถูก ล้อมรอบด้วยสัญลักษณ์หน่วยงานกำกับดูแล เช่น ก.ล.ต. และ ธนาคารแห่งประเทศไทย

1. ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย: เลือกแอพที่ได้รับการกำกับดูแล

สิ่งสำคัญที่สุดคือแอพนั้นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทย การที่บริษัทได้รับใบอนุญาตแสดงว่ามีโครงสร้างการเงินมั่นคง มีระบบป้องกันข้อมูลผู้ใช้ และต้องรายงานผลประกอบการเป็นประจำ ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโกงหรือบริษัทล้มละลายโดยไม่มีการชดเชย

2. ค่าธรรมเนียมและส่วนต่างราคา: ผลกำไรของคุณเริ่มที่ต้นทุน

อย่ามองข้าม “ส่วนต่างราคา” (Bid-Ask Spread) และ “ค่าธรรมเนียม” เพราะนี่คือต้นทุนโดยตรงที่กินกำไรของคุณ
– **ส่วนต่างราคา** คือความต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย ยิ่งต่ำยิ่งดี บางแอพอาจมีส่วนต่างต่ำกว่า 5 บาทต่อบาททองคำ
– **ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม** เช่น ค่าฝาก-ถอน หรือค่าบริการรายเดือน ควรตรวจสอบให้ชัดเจนว่ามีหรือไม่ และในอัตราเท่าใด

3. ฟังก์ชันการใช้งานและประสบการณ์ผู้ใช้: แอพที่ดีต้องใช้งานง่าย

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ แอพที่ดีควรมี
– หน้าจอใช้งานเรียบง่าย อ่านเข้าใจได้ทันที
– แสดงราคาทองคำแบบเรียลไทม์พร้อมกราฟแนวโน้ม
– มีฟีเจอร์ตั้งการแจ้งเตือนเมื่อราคาถึงจุดที่ต้องการ
– มีบทวิเคราะห์สั้นๆ หรือคำแนะนำเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญ
– ฝ่ายบริการลูกค้าที่ติดต่อได้จริง ไม่ว่าจะผ่าน Line, โทรศัพท์ หรือแชทในแอพ

4. วงเงินลงทุนขั้นต่ำและประเภททองคำ: เลือกให้ตรงกับเป้าหมาย

แต่ละแอพมีข้อกำหนดต่างกัน
– บางคนต้องการซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน ควรเลือกแอพที่รองรับการซื้อขายในรูป “ทองคำแท่ง”
– หากต้องการเก็งกำไรระยะสั้น อาจพิจารณา “Gold Futures” หรือ “ทองคำดิจิทัล” ที่สามารถซื้อขายได้บ่อยและมีสภาพคล่องสูง
– สำหรับคนทุนน้อย ควรตรวจสอบว่า “ลงทุนขั้นต่ำ” เริ่มต้นที่เท่าไหร่ บางแอพเปิดให้เริ่มต้นที่ 100 บาท

5. ความเร็วและความสะดวกในการฝากถอนเงิน: ระบบการเงินต้องลื่นไหล

การ “ฝากถอน” เงินควรเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการถอนเงินออกมาใช้ทันที แอพที่ดีจะรองรับการเชื่อมต่อกับ “ธนาคาร” ชั้นนำในไทย เช่น กสิกรไทย, กรุงศรี, ไทยพาณิชย์, กรุงไทย ผ่านระบบพร้อมเพย์หรือ Mobile Banking โดยไม่ต้องกรอกรายละเอียดบัญชีทุกครั้ง

2024 รีวิวแอพเทรดทองยอดนิยมในไทย (พร้อมตารางเปรียบเทียบ)

เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราได้รวบรวมข้อมูลแอพเทรดทองที่ได้รับความนิยมและมีความน่าเชื่อถือในปี 2024 พร้อมจุดเด่นและจุดที่ควรพิจารณา

Gold Now (แอพ Gold Now ดีไหม?)

แอพ Gold Now คือผลงานร่วมกันของ ฮั่วเซ่งเฮง และ YLG Bullion & Futures สองผู้นำในอุตสาหกรรมทองคำของไทย
– **จุดเด่น:** ความน่าเชื่อถือสูง มีชื่อเสียงมายาวนาน ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับ “มือใหม่” ที่ต้องการเริ่มต้นอย่างมั่นใจ
– **ข้อควรพิจารณา:** ฟีเจอร์สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึกยังไม่หลากหลายเท่ากับแอพเฉพาะทาง

MTS Gold (MTS Gold แม่ทองสุก)

บริษัทแม่ทองสุกเป็นอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ในวงการทอง ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ
– **จุดเด่น:** บริการครอบคลุมทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ สามารถซื้อ-ขายผ่านแอพและแลกเป็นทองจริงได้ที่สาขา
– **ข้อควรพิจารณา:** ดีไซน์ของแอพอาจดูไม่ทันสมัยเท่าแอพรุ่นใหม่ แต่ยังคงใช้งานได้ดี

Ausiris (ออสสิริส)

ออสสิริสเป็นโบรกเกอร์ที่เน้นการลงทุนในทองคำและอนุพันธ์
– **จุดเด่น:** มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งทองคำแท่งและ Gold Futures พร้อมบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ
– **ข้อควรพิจารณา:** อาจซับซ้อนเล็กน้อยสำหรับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่คุ้นกับการเทรดอนุพันธ์

YLG Bullion & Futures (วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส)

วายแอลจีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำและฟิวเจอร์สในตลาดไทย
– **จุดเด่น:** รองรับการซื้อขาย “ทองดิจิทัล” และ “Gold Futures” พร้อมข้อมูลเชิงลึกและเครื่องมือวิเคราะห์
– **ข้อควรพิจารณา:** บางฟังก์ชันต้องใช้ความรู้เบื้องต้นในการตีความข้อมูล

Mitrade / Dime (มิตรเทรด / ไดม์)

แพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ได้เน้นเฉพาะทองคำ แต่รวมการลงทุนในหลายสินทรัพย์
– **จุดเด่น:** Mitrade เสนอการเทรดทองคำในรูปแบบ CFD พร้อมเลเวอเรจ ส่วน Dime เน้นการลงทุนระยะยาวในกองทุนและหุ้นต่างประเทศ
– **ข้อควรพิจารณา:** Mitrade เป็นโบรกเกอร์ต่างประเทศ อาจไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทย หากเกิดปัญหาด้านการเงิน

**ตารางเปรียบเทียบแอพเทรดทองยอดนิยมในไทยปี 2024**

| คุณสมบัติ | Gold Now | MTS Gold | Ausiris | YLG Bullion & Futures | Mitrade (ตัวอย่าง) |
| :—————- | :————- | :————- | :—————- | :——————– | :—————– |
| **ผู้ให้บริการ** | Hua Seng Heng, YLG | แม่ทองสุก | Ausiris | YLG Bullion & Futures | Mitrade Global |
| **การกำกับดูแล** | ก.ล.ต. (โดยอ้อม) | ก.ล.ต. (โดยอ้อม) | ก.ล.ต. | ก.ล.ต. | ต่างประเทศ |
| **ประเภททองคำ** | ทองคำแท่ง | ทองคำแท่ง, รูปพรรณ | ทองคำแท่ง, Futures | ทองคำแท่ง, ดิจิทัล, Futures | Spot Gold (CFD) |
| **ลงทุนขั้นต่ำ** | ต่ำ (หลักร้อย-พัน) | ต่ำ (หลักร้อย-พัน) | ปานกลาง | ต่ำ (หลักร้อย-พัน) | ปานกลาง |
| **ค่าธรรมเนียม** | ต่ำ | ต่ำ | ปานกลาง | ต่ำ | ต่ำ (Spread) |
| **เหมาะสำหรับ** | มือใหม่, นักลงทุนทั่วไป | มือใหม่, นักลงทุนทั่วไป | มีประสบการณ์, Futures | มือใหม่, มีประสบการณ์ | มีประสบการณ์, Forex |
| **จุดเด่น** | น่าเชื่อถือ, ใช้งานง่าย | น่าเชื่อถือ, บริการครบ | ผลิตภัณฑ์หลากหลาย, วิเคราะห์ | ทองดิจิทัล, Futures | Leverage, CFD |

คู่มือเริ่มต้นสำหรับมือใหม่: จากการเปิดบัญชีสู่การเทรดทองคำครั้งแรก

ถ้าคุณยังไม่เคย “เทรดทองคำ” มาก่อน อย่ากังวล ขั้นตอนการใช้งานไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด

เตรียมเอกสาร: บัตรประชาชน, บัญชีธนาคาร, โทรศัพท์มือถือ

ก่อนสมัคร ให้เตรียมเอกสาร 3 อย่างนี้ให้พร้อม
– บัตรประจำตัวประชาชน
– บัญชีธนาคารในชื่อคุณ (เพื่อเชื่อมโยงการฝากถอน)
– โทรศัพท์มือถือที่ใช้งานได้ (สำหรับรับ OTP และยืนยันตัวตน)

ขั้นตอนการสมัครแอพและยืนยันตัวตน (KYC)

1. **ดาวน์โหลดแอพ:** ค้นหาชื่อแอพใน App Store หรือ Google Play
2. **กรอกข้อมูลพื้นฐาน:** เช่น ชื่อ, เบอร์โทร, อีเมล
3. **ยืนยันตัวตน (KYC):** ถ่ายรูปบัตรประชาชนและถ่ายภาพใบหน้า (Selfie) บางแอพอาจใช้ระบบสแกนใบหน้าหรือวิดีโอคอล เพื่อยืนยันความถูกต้องตามกฎหมาย

การฝากเงินและถอนเงิน: เชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารไทย

หลังยืนยันตัวตนเรียบร้อย คุณสามารถฝากเงินเข้าบัญชีเทรดผ่าน Mobile Banking จากธนาคารหลัก เช่น SCB, KBank, BBL เป็นต้น โดยเงินจะเข้าทันที ส่วนการถอนเงินก็ทำได้ในไม่กี่นาทีผ่านช่องทางเดียวกัน

วิธีการซื้อขายทองคำในแอพ?

1. **ดูราคาปัจจุบัน:** ตรวจสอบราคาทองคำแบบเรียลไทม์
2. **เลือกประเภทคำสั่ง:**
– **Market Order:** ซื้อหรือขายทันทีที่ราคาตลาด
– **Limit Order:** ตั้งราคาที่ต้องการ ระบบจะดำเนินการเมื่อราคาถึงเป้าหมาย
3. **ระบุจำนวน:** ใส่จำนวนที่ต้องการซื้อหรือขาย (เป็นบาท หรือ กรัม)
4. **ยืนยันคำสั่ง:** ตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนกดยืนยัน

ความเสี่ยงด้านการลงทุนและภาษีทองคำในไทย

การลงทุนมีทั้งโอกาสและอันตราย การทำความเข้าใจความเสี่ยงและภาระภาษีจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น

ระวังกลโกงออนไลน์: ป้องกันก่อนตกเป็นเหยื่อ

ในยุคที่ “เทรดทอง ออนไลน์” ได้รับความนิยม กลโกงก็แฝงตัวมากับคำว่า “เทรดทอง แอพไหนดี Pantip” หรือ “ได้กำไรวันละ 10%”
– หลีกเลี่ยงแอพที่ไม่มีข้อมูลชัดเจน หรือชื่อคล้ายกับแอพจริง
– อย่าหลงเชื่อผลตอบแทนสูงผิดปกติ
– ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการมีใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. หรือไม่
– ไม่เปิดเผยรหัสผ่าน, OTP หรือข้อมูลบัญชีให้ใครเด็ดขาด

กฎระเบียบภาษีทองคำในประเทศไทย

แม้ทองคำจะถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรรู้เรื่องภาษี
– **กำไรจากการขายทองคำแท่ง:** หากไม่ใช่การทำธุรกิจค้ากำไรต่อเนื่อง อาจได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ตามมาตรา 42(10) แห่งประมวลรัษฎากร)
– **Gold Futures:** กำไรจากการเทรดอนุพันธ์ต้องนำมารวมคำนวณภาษี
– **VAT:** การซื้อขายทองคำแท่งได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

**หมายเหตุ:** ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือตรวจสอบกับ กรมสรรพากร เพื่อความถูกต้อง

ความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดและการบริหารความเสี่ยง

ราคาทองคำขึ้นลงตามปัจจัยโลก เช่น อัตราดอกเบี้ย, ค่าเงินดอลลาร์, หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
– **กระจายความเสี่ยง:** อย่าลงทุนทั้งหมดในทองคำ ควรมีสินทรัพย์อื่นๆ ร่วมด้วย
– **ตั้งจุดตัดขาดทุน:** เพื่อจำกัดความเสียหายหากตลาดเคลื่อนตัวสวนทาง
– **ลงทุนตามความสามารถ:** ใช้เงินเย็นที่ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิต

สรุป

การเลือก “แอพเทรดทอง” ที่ดีที่สุดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากคุณเริ่มต้นจากการพิจารณาความน่าเชื่อถือ ค่าธรรมเนียม ความสะดวกในการใช้งาน และความเหมาะสมกับสไตล์การลงทุน คุณก็จะพบกับตัวเลือกที่ใช่ในปี 2024 ไม่ว่าคุณจะเป็น “มือใหม่” หรือนักลงทุนที่ต้องการขยายพอร์ต การศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบคือกุญแจสำคัญในการลงทุนอย่างมั่นใจและปลอดภัย

เทรดทองออนไลน์ ได้เงินจริงไหม และมีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

การเทรดทองออนไลน์สามารถทำกำไรได้จริง หากคุณมีการวิเคราะห์ตลาดที่ดีและบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ก็มีความเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความผันผวนของราคาทองคำ, ความเสี่ยงจากระบบเทรดล่ม, และความเสี่ยงจากผู้ให้บริการที่ไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลและเลือกแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย

แอพไหนดีที่สุดสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเทรดทองคำในไทย?

สำหรับมือใหม่ แอพอย่าง Gold Now หรือ MTS Gold มักเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม เนื่องจากมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ขั้นตอนการเปิดบัญชีไม่ซับซ้อน และได้รับการสนับสนุนจากร้านทองคำที่มีชื่อเสียง ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูงและเหมาะกับการเริ่มต้นเรียนรู้

แอพ Gold Now ของฮั่วเซ่งเฮง น่าเชื่อถือและปลอดภัยแค่ไหน?

แอพ Gold Now มีความน่าเชื่อถือสูงมาก เนื่องจากเป็นผลงานการร่วมมือพัฒนาระหว่างฮั่วเซ่งเฮงและ YLG Bullion & Futures ซึ่งทั้งสองเป็นผู้ค้าทองคำรายใหญ่และมีชื่อเสียงมายาวนานในประเทศไทย มีการดำเนินงานภายใต้กฎหมายและอยู่ในการกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย

การลงทุนทองคำในไทย ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง?

โดยทั่วไป กำไรจากการขายทองคำแท่งสำหรับบุคคลธรรมดาที่ไม่ใช่การค้าเพื่อหากำไรเป็นประจำ มักได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากเป็นการเทรดในลักษณะการค้าหรือการลงทุนใน Gold Futures กำไรที่ได้อาจต้องเสียภาษีเงินได้ นอกจากนี้ การซื้อขายทองคำแท่งบางกรณีอาจได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ควรตรวจสอบรายละเอียดกับกรมสรรพากรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี

ควรเริ่มต้นเทรดทองคำออนไลน์ด้วยเงินทุนเท่าไหร่ดี?

แอพเทรดทองออนไลน์หลายแห่งในไทยเปิดโอกาสให้เริ่มต้นด้วยเงินทุนที่ค่อนข้างต่ำ บางแอพอาจเริ่มได้ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันบาท ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการทดลองลงทุนโดยไม่รับความเสี่ยงมากเกินไป สิ่งสำคัญคือการลงทุนในจำนวนที่คุณพร้อมจะขาดทุนได้

มีแอพเทรดทองคำที่ให้ซื้อขายทองรูปพรรณได้ด้วยไหม?

แอพส่วนใหญ่เน้นการเทรดทองคำแท่งหรือทองคำดิจิทัลเพื่อการลงทุน อย่างไรก็ตาม MTS Gold เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีตัวเลือกให้ซื้อขายทองรูปพรรณได้ด้วย ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียมหรือส่วนต่างราคาที่แตกต่างจากการซื้อขายทองคำแท่ง

การเลือกโบรกเกอร์เทรดทองคำที่ถูกกฎหมายในไทย ดูได้จากอะไร?

คุณสามารถตรวจสอบได้จาก:

  • การได้รับการกำกับดูแลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
  • มีข้อมูลบริษัทที่ชัดเจนและสามารถติดต่อได้
  • มีรีวิวที่ดีจากผู้ใช้งานจริงบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Pantip หรือกลุ่มลงทุน
  • ไม่เสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริงหรือผิดปกติ

ถ้าแอพล่มหรือมีปัญหาในการเทรด ควรติดต่อใคร?

หากเกิดปัญหาแอพล่มหรือไม่สามารถทำการเทรดได้ ควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของแอพนั้นๆ โดยทันที ซึ่งโดยปกติจะมีช่องทางการติดต่อหลายช่องทาง เช่น เบอร์โทรศัพท์, Line Official, หรือ Live Chat ควรบันทึกช่องทางเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า

เทรดทองคำผ่านแอพต่างประเทศ กับแอพไทย ต่างกันอย่างไร?

แอพต่างประเทศมักเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายกว่า เช่น การเทรดทองคำแบบ CFD หรือ Forex ที่มี leverage สูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าและอาจไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทยหากเกิดปัญหา ในขณะที่แอพไทยจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ทำให้มีความปลอดภัยและเป็นไปตามกฎหมายไทยมากกว่า

เทรดทองคำดิจิทัล (Digital Gold) คืออะไร แตกต่างจากทองคำแท่งอย่างไร?

ทองคำดิจิทัลคือการลงทุนในทองคำที่ไม่มีการส่งมอบทองคำจริง แต่เป็นการซื้อขายสิทธิ์ในทองคำที่ถูกเก็บรักษาไว้โดยผู้ให้บริการ คุณเป็นเจ้าของทองคำในรูปแบบดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะดวกกว่าทองคำแท่งจริงที่ต้องดูแลเรื่องการจัดเก็บ แต่ก็ยังคงเคลื่อนไหวตามราคาทองคำโลก