สวิตโค้ด (SWIFT Code) คืออะไร? ทำความเข้าใจพื้นฐาน
สวิตโค้ด หรือที่รู้จักในชื่อเต็มว่า SWIFT Code (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication Code) เป็นรหัสสากลที่ใช้ระบุตัวตนของธนาคารหรือสถาบันการเงินในระดับนานาชาติ ทำหน้าที่เหมือนรหัสไปรษณีย์เฉพาะสำหรับธนาคาร ช่วยให้ระบบการโอนเงินข้ามประเทศสามารถระบุต้นทางและปลายทางได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเงินเพื่อการค้า การเดินทาง หรือการสนับสนุนทางการเงินให้กับครอบครัวในต่างแดน
รหัสนี้ถูกบริหารจัดการโดยองค์กร SWIFT ซึ่งเป็นเครือข่ายสื่อสารทางการเงินที่เชื่อมโยงธนาคารกว่า 11,000 แห่งในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและดำเนินการโอนเงินได้อย่างปลอดภัย รวดเร็ว และมีโครงสร้างที่ชัดเจน โดยเฉพาะในธุรกรรมที่ต้องการความถูกต้องสูง เช่น การนำเข้า-ส่งออก หรือการชำระเงินระหว่างบริษัทข้ามชาติ
ทำไม สวิตโค้ด (SWIFT Code) จึงสำคัญในการโอนเงินระหว่างประเทศ?
หากไม่มีสวิตโค้ด การโอนเงินไปยังต่างประเทศอาจกลายเป็นเรื่องยุ่งยากและเสี่ยงต่อความผิดพลาด เนื่องจากชื่อธนาคารในหลายประเทศอาจซ้ำหรือคล้ายกัน เช่น “Bank of Asia” หรือ “Thai Commercial Bank” ที่อาจมีอยู่ในหลายประเทศ ทำให้การระบุเพียงชื่อธนาคารไม่เพียงพอต่อการส่งเงินไปยังบัญชีที่ถูกต้อง
สวิตโค้ดจึงเข้ามาเป็นตัวกลางที่ช่วยลดความสับสนและเพิ่มความแม่นยำให้กับระบบ โดยทำหน้าที่เปรียบเสมือนรหัสเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันในโลกการเงิน ความสำคัญของมันสามารถสรุปได้ดังนี้:
– **ความแม่นยำในการระบุธนาคารปลายทาง:** ป้องกันไม่ให้เงินไปถึงธนาคารผิดแห่ง แม้ชื่อจะใกล้เคียงกัน
– **ความรวดเร็วของกระบวนการ:** ระบบสามารถประมวลผลคำขอโอนเงินได้ทันทีเมื่อรหัสถูกต้อง ลดเวลาการตรวจสอบด้วยมือ
– **ความปลอดภัยของข้อมูล:** ระบบ SWIFT ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อรักษาความลับของข้อมูลทางการเงิน
– **ข้อกำหนดจำเป็นสำหรับธุรกรรม:** ไม่ว่าจะเป็นการส่งเงินส่วนตัว การรับเงินเดือนจากต่างประเทศ หรือการทำธุรกรรมทางการค้า การมีสวิตโค้ดเป็นสิ่งที่ธนาคารต้นทางต้องการทุกครั้ง
ผู้ที่ต้องการเข้าใจบทบาทเชิงลึกของระบบ SWIFT และการสื่อสารทางการเงินในระดับโลก สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ทางการของ SWIFT
โครงสร้างของ สวิตโค้ด (SWIFT Code / BIC): ถอดรหัสแต่ละส่วน
สวิตโค้ดเป็นรหัสที่ออกแบบตามมาตรฐานสากล ISO 9362 ซึ่งประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลข 8 ถึง 11 หลัก โดยแต่ละชุดจะมีความหมายเฉพาะที่ช่วยระบุข้อมูลของธนาคารอย่างละเอียด การเข้าใจโครงสร้างนี้จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบความถูกต้องของรหัสได้ด้วยตนเอง และเข้าใจว่าทำไมแต่ละตัวอักษรถึงมีความสำคัญ
รหัสนี้แบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ดังนี้:
**1. รหัสธนาคาร (Bank Code) – 4 ตัวอักษรแรก**
เป็นตัวย่อของชื่อธนาคาร เช่น “KASI” สำหรับธนาคารกสิกรไทย หรือ “BBLD” สำหรับธนาคารกรุงเทพ ซึ่งถูกกำหนดให้ไม่ซ้ำกันในระดับสากล
**2. รหัสประเทศ (Country Code) – 2 ตัวอักษรถัดมา**
ใช้รหัสประเทศตามมาตรฐาน ISO เช่น “TH” สำหรับประเทศไทย “SG” สำหรับสิงคโปร์ หรือ “US” สำหรับสหรัฐอเมริกา ช่วยระบุว่าธนาคารตั้งอยู่ในประเทศใด
**3. รหัสสถานที่ (Location Code) – 2 ตัวอักษรถัดไป**
ระบุเมืองหรือภูมิภาคที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารตั้งอยู่ เช่น “BK” สำหรับกรุงเทพมหานคร หรือ “SP” สำหรับเชียงใหม่ บางครั้งอาจรวมตัวเลขเพื่อความเฉพาะเจาะจง
**4. รหัสสาขา (Branch Code) – 3 ตัวอักษรสุดท้าย (ไม่บังคับ)**
ใช้ระบุสาขาของธนาคารโดยเฉพาะ ถ้าไม่มีระบุ (เช่น ใช้เพียง 8 หลัก) หรือใช้ “XXX” แทน หมายถึงการส่งไปยังสำนักงานใหญ่หรือศูนย์กลางการรับโอนเงินของธนาคาร
**ตัวอย่างการวิเคราะห์:**
รหัส **KASITHBKXXX**
– KASI: ธนาคารกสิกรไทย
– TH: ประเทศไทย
– BK: กรุงเทพมหานคร
– XXX: สำนักงานใหญ่ (ไม่ระบุสาขาเฉพาะ)
กรณีที่มีการระบุสาขา เช่น KASITHBK002 จะหมายถึงสาขาที่ 2 ของธนาคารกสิกรไทย ดังนั้น หากต้องการส่งเงินไปยังสาขาเฉพาะ ควรขอรหัสให้ครบ 11 หลักจากผู้รับ
วิธีค้นหา สวิตโค้ด (SWIFT Code) ของธนาคารในประเทศไทย
การมีสวิตโค้ดที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุดก่อนเริ่มต้นการโอนเงิน เพราะหากกรอกรหัสผิด แม้เพียงตัวเดียว ก็อาจทำให้เงินส่งผิดปลายทางหรือถูกส่งคืน ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวันและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนั้นควรตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง
ผ่านเว็บไซต์ธนาคารโดยตรง
วิธีที่เชื่อถือได้ที่สุดคือการเข้าไปที่เว็บไซต์ทางการของธนาคารที่ต้องการ ซึ่งมักจะมีหน้า “บริการโอนเงินต่างประเทศ” หรือ “คำถามที่พบบ่อย” ที่ระบุสวิตโค้ดไว้อย่างชัดเจน ตัวอย่างธนาคารชั้นนำในประเทศไทยที่คุณสามารถตรวจสอบได้ ได้แก่:
– ธนาคารกสิกรไทย
– ธนาคารกรุงไทย
– ธนาคารไทยพาณิชย์
– ธนาคารกรุงเทพ
– ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb)
– ธนาคารออมสิน
– ธ.ก.ส.
ใช้เครื่องมือตรวจสอบออนไลน์
มีเว็บไซต์และเครื่องมือค้นหา SWIFT Code ที่น่าเชื่อถือหลายแห่ง เช่น Wise หรือ Remitly ที่ให้บริการค้นหาฟรีโดยป้อนชื่อธนาคารและประเทศ อย่างไรก็ตาม ควรใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นแนวทางเบื้องต้น และควรยืนยันกับแหล่งข้อมูลทางการอีกครั้ง โดยเฉพาะสำหรับธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง
สอบถามจากธนาคารโดยตรง
หากคุณยังไม่มั่นใจ หรือต้องการรหัสของสาขาเฉพาะ การติดต่อธนาคารโดยตรงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการโทรไปยังศูนย์บริการลูกค้า หรือเดินทางไปยังสาขาที่คุณใช้บริการเพื่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะให้ข้อมูลที่แม่นยำและอัปเดตล่าสุด
ตาราง สวิตโค้ด (SWIFT Code) ธนาคารชั้นนำของประเทศไทย
เพื่อความสะดวกในการโอนเงินระหว่างประเทศ เราได้รวบรวมสวิตโค้ดของธนาคารที่นิยมใช้ในประเทศไทยไว้ด้านล่างนี้ โปรดทราบว่ารหัสที่แสดงส่วนใหญ่เป็นรหัสของสำนักงานใหญ่ หากคุณต้องการส่งเงินไปยังสาขาเฉพาะ ควรตรวจสอบรหัสให้ครบ 11 หลักจากธนาคารโดยตรง
| ชื่อธนาคาร (ภาษาไทย) | ชื่อธนาคาร (ภาษาอังกฤษ) | สวิตโค้ด (SWIFT Code) |
| :————————————— | :———————————– | :——————– |
| ธนาคารกสิกรไทย | KASIKORNBANK PCL | KASITHBK |
| ธนาคารกรุงไทย | KRUNG THAI BANK PCL | KRTHTHBK |
| ธนาคารไทยพาณิชย์ | SIAM COMMERCIAL BANK PCL | SICOTHBK |
| ธนาคารกรุงเทพ | BANGKOK BANK PCL | BBLDTHBK |
| ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) | TMBTHANACHART BANK PCL | TMBKTHBK |
| ธนาคารออมสิน | GOVERNMENT SAVINGS BANK | GSBATHBK |
| ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) | BANK FOR AGRICULTURE AND AGRICULTURAL CO-OPERATIVES | BAAC THBK |
| ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | BANK OF AYUDHYA PCL | AYUDTHBK |
| ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย | CIMB THAI BANK PCL | CIMBTHBK |
| ธนาคารทิสโก้ | TISCO BANK PCL | TISCTHBK |
| ธนาคารเกียรตินาคินภัทร | KIATNAKIN PHATRA BANK PCL | KKPCTHBK |
| ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย | UNITED OVERSEAS BANK (THAI) PCL | UOVBTHBK |
ข้อควรระวังและวิธีแก้ไขเมื่อ สวิตโค้ด (SWIFT Code) ผิดพลาด
แม้จะดูเป็นเพียงรหัสเล็กๆ แต่การกรอกสวิตโค้ดผิด 1 ตัวอักษร ก็อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินส่งล่าช้า เงินถูกส่งคืน หรือในกรณีที่ร้ายแรง อาจถูกโอนไปยังบัญชีที่ไม่ใช่ผู้รับที่ตั้งใจไว้
**ผลกระทบของการกรอกรหัสผิด:**
– **การโอนล่าช้า:** ธนาคารต้นทางและปลายทางต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและค้นหาข้อผิดพลาด ทำให้เงินไม่ถึงมือผู้รับตามเวลา
– **เงินถูกส่งคืน:** หากธนาคารปลายทางไม่สามารถรับเงินได้เนื่องจากรหัสไม่ตรง ธนาคารต้นทางจะต้องส่งคืนเงิน ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียมย้อนกลับ
– **เงินไปถึงบัญชีผิด:** หากสวิตโค้ดที่ผิด ไปตรงกับธนาคารอื่นที่มีอยู่จริง เงินอาจถูกโอนเข้าบัญชีนั้น ทำให้การติดตามและขอเงินคืนเป็นเรื่องซับซ้อนและใช้เวลานาน
**แนวทางการแก้ไขเมื่อเกิดความผิดพลาด:**
1. **ติดต่อธนาคารทันที:** อย่ารอช้า แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีที่รู้ว่ากรอกรหัสผิด พร้อมให้ข้อมูลการทำธุรกรรมทั้งหมด เช่น เลขที่อ้างอิง ชื่อผู้รับ เลขที่บัญชี และสวิตโค้ดที่ถูกต้อง
2. **ให้ข้อมูลที่ครบถ้วน:** ยิ่งให้ข้อมูลชัดเจนมากเท่าไร ธนาคารก็ยิ่งสามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น
3. **สอบถามค่าใช้จ่ายและขั้นตอน:** อาจมีค่าธรรมเนียมในการยกเลิกหรือส่งคืนเงิน รวมถึงค่าธรรมเนียมจากธนาคารต่างประเทศด้วย ควรสอบถามให้ชัดเจน
4. **ติดตามสถานะอย่างสม่ำเสมอ:** ขอเลขติดตาม (tracking number) หรือสถานะการโอน และติดตามกับธนาคารจนกว่าจะได้รับการยืนยันว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดก่อนกดยืนยันทุกครั้ง โดยเฉพาะรหัส SWIFT และเลขที่บัญชี
ความปลอดภัยในการโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน สวิตโค้ด (SWIFT Code)
ระบบ SWIFT ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการสื่อสารระหว่างธนาคาร โดยใช้การเข้ารหัสข้อมูลและมีการตรวจสอบหลายชั้น อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของธุรกรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับระบบเพียงอย่างเดียว แต่ผู้ใช้งานเองก็มีบทบาทสำคัญในการป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามทางไซเบอร์
**ความปลอดภัยในระดับระบบ:**
SWIFT ได้พัฒนา SWIFT gpi (Global Payments Innovation) ซึ่งช่วยให้สามารถติดตามสถานะการโอนเงินแบบเรียลไทม์ ทราบค่าธรรมเนียมล่วงหน้า และลดเวลาการโอนจากหลายวันเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้การโอนเงินโปร่งใสมากขึ้น และลดโอกาสในการฉ้อโกงที่อาศัยช่องว่างของระบบ
**แนวทางป้องกันภัยสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย:**
– **ยืนยันข้อมูลผู้รับทุกครั้ง:** ไม่ว่าจะเป็นชื่อบัญชี เลขที่บัญชี หรือสวิตโค้ด ควรยืนยันกับผู้รับโดยตรงผ่านโทรศัพท์หรือช่องทางที่คุณรู้จัก ไม่ควรเชื่อเพียงอีเมลหรือข้อความที่ส่งมา
– **ระวังอีเมลหลอกลวง (Phishing):** มิจฉาชีพมักสร้างอีเมลหรือข้อความที่ดูเหมือนมาจากธนาคาร เพื่อหลอกให้คุณคลิกลิงก์หรือกรอกข้อมูลส่วนตัว ห้ามเปิดไฟล์แนบหรือคลิกลิงก์จากแหล่งที่ไม่รู้จัก
– **ใช้ช่องทางทางการเท่านั้น:** ทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ทางการของธนาคารเท่านั้น หลีกเลี่ยงการใช้ลิงก์จากโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
– **ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว:** ห้ามให้รหัสผ่าน เลขบัตรประชาชน หรือ OTP กับใครเด็ดขาด
– **ระวังกลโกง “รักออนไลน์” และ “ลงทุนปลอม”:** มิจฉาชีพมักใช้เรื่องความรักหรือผลตอบแทนสูงเพื่อหลอกให้โอนเงินไปต่างประเทศ หากสงสัย ควรปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย มีคำแนะนำด้านความปลอดภัยที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้บริการการเงิน
สวิตโค้ด (SWIFT Code) กับอนาคตของการชำระเงินระหว่างประเทศ
แม้ระบบ SWIFT จะยังคงเป็นมาตรฐานหลักของโลกในการโอนเงินข้ามประเทศ แต่เทคโนโลยีใหม่ๆ ก็เริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการโอนเงินให้เร็วขึ้น ถูกลง และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป
**SWIFT gpi – การปรับตัวเพื่ออนาคต:**
SWIFT ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงพัฒนา SWIFT gpi เพื่อเพิ่มความเร็ว ความโปร่งใส และความสามารถในการติดตาม ทำให้ธุรกรรมส่วนใหญ่สามารถดำเนินการได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือบางกรณีไม่กี่นาที ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการความรวดเร็วเทียบเท่ากับการโอนเงินในประเทศ
**ทางเลือกใหม่ที่กำลังมาแรง:**
– **เทคโนโลยีบล็อกเชน:** ถูกมองว่าเป็นตัวท้าทายระบบดั้งเดิม โดยสามารถโอนเงินข้ามประเทศได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางหลายชั้น แม้ยังอยู่ในช่วงทดลอง แต่หลายประเทศเริ่มทดลองใช้แล้ว
– **PromptPay International:** โครงการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ขยายระบบพร้อมเพย์ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ทำให้สามารถโอนเงินข้ามประเทศได้ด้วยเบอร์โทรศัพท์หรือเลขประจำตัวประชาชน โดยไม่ต้องใช้ SWIFT Code หรือเลขที่บัญชีที่ซับซ้อน ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในประเทศไทย เริ่มให้บริการนี้แล้ว ซึ่งเหมาะกับการโอนเงินจำนวนน้อยและโอนบ่อย
– **บริการฟินเทคดิจิทัล:** แพลตฟอร์มอย่าง Wise, Revolut หรือ Remitly ใช้เครือข่ายของตัวเองเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความเร็ว ทำให้ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าการโอนผ่านธนาคารแบบดั้งเดิม
แม้จะมีทางเลือกใหม่เพิ่มขึ้น แต่สวิตโค้ดยังคงเป็นมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่ เช่น การนำเข้า-ส่งออก หรือการโอนเงินระหว่างบริษัทข้ามชาติ ซึ่งต้องการความแม่นยำและรองรับสกุลเงินได้หลากหลาย
สรุป
สวิตโค้ดเป็นหัวใจสำคัญของระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ ช่วยให้ธนาคารทั่วโลกสามารถติดต่อและโอนเงินกันได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ การเข้าใจความหมาย โครงสร้าง และวิธีการตรวจสอบรหัสที่ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนที่ต้องทำธุรกรรมข้ามประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเงินให้ครอบครัว การทำธุรกิจ หรือการเดินทาง
อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลผู้รับทุกครั้งก่อนกดยืนยัน และเลือกใช้ช่องทางที่ปลอดภัย ทั้งนี้ แม้เทคโนโลยีใหม่จะเข้ามา แต่สวิตโค้ดยังคงมีบทบาทสำคัญในโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของโลก และยังคงเป็นสิ่งที่ต้องรู้และใช้ต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า
สวิตโค้ดของธนาคารกสิกรไทยคืออะไร และหาได้จากที่ไหนบ้าง?
สวิตโค้ดของธนาคารกสิกรไทยคือ KASITHBK คุณสามารถตรวจสอบรหัสนี้ได้จากหลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ทางการของธนาคารกสิกรไทยในส่วนบริการโอนเงินต่างประเทศ หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่สาขา รวมถึงสามารถโทรติดต่อศูนย์บริการลูกค้าเพื่อยืนยันข้อมูลได้
ถ้าไม่มี สวิตโค้ด จะโอนเงินไปต่างประเทศได้หรือไม่? มีทางเลือกอื่นไหม?
โดยทั่วไป การโอนเงินผ่านธนาคารจำเป็นต้องใช้สวิตโค้ด แต่มีทางเลือกอื่นที่ไม่ต้องใช้รหัสนี้ เช่น PromptPay International สำหรับการโอนไปยังประเทศในอาเซียน โดยใช้เบอร์โทรศัพท์หรือเลขบัตรประชาชน หรือบริการจากฟินเทคบางรายที่ใช้ข้อมูลอื่นแทน นอกจากนี้ยังมีบริการแบบรับเงินสด เช่น Western Union หรือ MoneyGram ที่ไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร แต่มีค่าธรรมเนียมสูงกว่า
หากใส่ สวิตโค้ด ผิดพลาดในการโอนเงิน ควรทำอย่างไร และใช้เวลานานแค่ไหนในการแก้ไข?
ควรติดต่อธนาคารต้นทางทันทีเพื่อแจ้งความผิดพลาด พร้อมให้ข้อมูลการทำธุรกรรมทั้งหมด ระยะเวลาการแก้ไขขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ธนาคารปลายทางตอบกลับเร็วแค่ไหน หรือเงินถูกโอนไปยังบัญชีที่มีอยู่จริงหรือไม่ โดยทั่วไปอาจใช้เวลาตั้งแต่ 1-2 วันทำการ ไปจนถึงหลายสัปดาห์หากต้องขอเงินคืนจากต่างประเทศ
สวิตโค้ด กับ BIC Code แตกต่างกันอย่างไร?
สวิตโค้ดและ BIC Code คือสิ่งเดียวกัน คำว่า “สวิตโค้ด” เป็นชื่อที่ใช้เรียกโดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน ส่วน “BIC” (Bank Identifier Code) เป็นชื่อทางการตามมาตรฐานสากล ISO 9362 ทั้งสองคำสามารถใช้แทนกันได้โดยสมบูรณ์
ธนาคารออมสินมี สวิตโค้ด หรือไม่? ถ้ามีคืออะไร?
มีครับ ธนาคารออมสินมีสวิตโค้ดสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งคือ GSBATHBK
การโอนเงินผ่าน สวิตโค้ด ปลอดภัยแค่ไหน และมีวิธีป้องกันมิจฉาชีพอย่างไร?
ระบบ SWIFT มีความปลอดภัยสูงในระดับเครือข่ายธนาคาร อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรระมัดระวังตัวเอง โดยการยืนยันข้อมูลผู้รับผ่านช่องทางที่เชื่อถือได้ ไม่คลิกลิงก์จากอีเมลหรือข้อความที่น่าสงสัย ใช้เพียงแอปหรือเว็บไซต์ทางการของธนาคาร และไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับบุคคลภายนอก
สวิตโค้ด จำเป็นสำหรับรับเงินจากต่างประเทศด้วยหรือไม่?
จำเป็นครับ เมื่อมีผู้อื่นต้องการส่งเงินมาให้คุณจากต่างประเทศ พวกเขาจะต้องใช้สวิตโค้ดของธนาคารที่คุณมีบัญชีอยู่ เพื่อให้ธนาคารต้นทางระบุธนาคารผู้รับได้อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งต้องมีชื่อ-นามสกุล เลขที่บัญชี และชื่อธนาคารของคุณด้วย
สามารถค้นหา สวิตโค้ด ของธนาคารไทยทั้งหมดได้ที่ไหน?
คุณสามารถค้นหาสวิตโค้ดได้จากหลายแหล่ง เช่น เว็บไซต์ทางการของแต่ละธนาคาร ซึ่งเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้ที่สุด หรือใช้เครื่องมือค้นหาออนไลน์จาก Wise หรือเว็บไซต์รวมข้อมูลธนาคาร นอกจากนี้ยังสามารถสอบถามจากเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรงผ่าน Call Center หรือที่สาขา
