ทำไมต้องเลือกการเทรดทองออนไลน์?

การลงทุนในทองคำเป็นหนึ่งในทางเลือกที่คนไทยให้ความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเพื่อสะสมเป็นมรดก ซื้อเป็นเครื่องประดับ หรือใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวนและเงินเฟ้อสูง ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างล้ำลึก การซื้อขายทองคำผ่านช่องทางดิจิทัลหรือที่เรียกว่า **การเทรดทองออนไลน์** ได้กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุน **มือใหม่** ที่ยังไม่เคยสัมผัสตลาดทองมาก่อน หรือเป็นผู้มีประสบการณ์ที่กำลังมองหา **แพลตฟอร์ม** ที่น่าเชื่อถือและใช้งานง่าย บทความนี้จะช่วยคุณไขปัญหาว่า **เทรดทองออนไลน์ ที่ไหนดี** เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจ **ลงทุนทอง** ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การเทรดทองผ่านออนไลน์มีจุดเด่นหลายประการที่ดึงดูดนักลงทุนยุคใหม่ เริ่มตั้งแต่สภาพคล่องที่สูง ทำให้สามารถซื้อขายได้เกือบทุกช่วงเวลา บางแพลตฟอร์มเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทองคำยังถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) ที่มักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงที่ตลาดการเงินโลกมีความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถเข้าถึงข้อมูลราคาแบบเรียลไทม์ กราฟวิเคราะห์แนวโน้ม และเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ต่างๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทำให้การบริหารพอร์ตการลงทุนสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการกำกับดูแลอย่างถูกต้อง และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เพื่อให้การลงทุนของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น
ประเภทและวิธีการเทรดทองออนไลน์ในประเทศไทย

ก่อนจะตัดสินใจว่า **เทรดทองออนไลน์ ที่ไหนดี** สิ่งแรกที่ควรทำความเข้าใจคือรูปแบบการลงทุนในทองคำที่มีให้บริการในประเทศไทย เพราะแต่ละรูปแบบมีลักษณะเฉพาะและเหมาะกับผู้ลงทุนที่มีเป้าหมาย ความรู้ และความเสี่ยงที่แตกต่างกัน
ทองคำแท่งและทองรูปพรรณออนไลน์
การซื้อขายทองคำจริงผ่านระบบออนไลน์เป็นหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูง โดยนักลงทุนไม่จำเป็นต้องเก็บทองคำไว้เอง เพราะแพลตฟอร์มจะจัดเก็บในคลังที่ปลอดภัย หรือหากต้องการ ก็สามารถเลือกรับทองคำจริงได้ตามเงื่อนไข วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในทองคำแท้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านสัญญาหรืออนุพันธ์
- การออมทอง: เป็นตัวเลือกที่เข้าถึงง่ายและเหมาะกับทุกกลุ่ม โดยเฉพาะ **มือใหม่** ที่ต้องการสะสมทองคำแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยเงินเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาท นักลงทุนสามารถทยอยออมทองได้ทุกเดือน หรือตามความสะดวก เมื่อสะสมครบตามจำนวนที่ต้องการ ก็สามารถขายคืนหรือรับทองจริงได้ แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ให้บริการ เช่น YLG Bullion, MTS Gold, และ Hua Seng Heng ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการ **ลงทุนทอง** ระยะยาว
- การซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์: เป็นการซื้อขายตามราคาทองคำโลก โดยสามารถซื้อหรือขายได้ทันที โดยมีส่วนต่างราคา (Spread) ที่ต่ำกว่าทองรูปพรรณ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาทองคำในระยะสั้นถึงกลาง
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ (Gold Futures)
Gold Futures เป็นสินค้าทางการเงินที่อ้างอิงกับราคาทองคำโลก โดยซื้อขายผ่านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (TFEX) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) (ข้อมูลจาก SET) จุดเด่นของรูปแบบนี้คือการใช้เลเวอเรจ หรือเงินทุนหมุนเวียน ที่ทำให้ผู้ลงทุนสามารถควบคุมมูลค่าสัญญาที่สูงกว่าเงินลงทุนจริงได้หลายเท่า ซึ่งเพิ่มโอกาสทำกำไร แต่ก็มาพร้อมกับ **ความเสี่ยง** ที่สูงขึ้น หากการคาดการณ์ผิดพลาด นักลงทุนควรเข้าใจกลไกและจัดการความเสี่ยงได้ดี โบรกเกอร์ที่ให้บริการ เช่น InnovestX และบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่อื่นๆ
สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Gold CFD) และทองคำ Forex
Gold CFD (Contract for Difference) และ Gold Forex เป็นการลงทุนที่ไม่ได้ครอบครองทองคำจริง แต่เก็งกำไรจากส่วนต่างของราคาทองคำในตลาดโลก รูปแบบนี้สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงมาก ซึ่งอาจสร้างผลตอบแทนก้อนโตได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มีความเสี่ยงสูง หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทาง ความเสียหายอาจเกิดขึ้นเร็วและรุนแรง โดยเฉพาะกับนักลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์ ควรระมัดระวังและตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ที่ใช้บริการมีใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เพราะบางแพลตฟอร์มอาจไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินงานในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย
บริการเงินฝากทองคำ (e-FCD Gold) จากธนาคาร
ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำในไทย เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกรุงไทย ได้เปิดตัวบริการ “e-FCD Gold” หรือเงินฝากทองคำ ซึ่งเป็นการลงทุนในรูปแบบบัญชีฝากสกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit) โดยหน่วยนับจะเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) จุดเด่นคือความปลอดภัยสูง เนื่องจากอยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงจากธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) (ข้อมูลจาก BOT) ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการสะสมทองคำแบบมั่นคง ไม่เน้นเก็งกำไรระยะสั้น ข้อเสียคือสภาพคล่องอาจต่ำกว่าโบรกเกอร์โดยตรง และอาจมี **ค่าธรรมเนียม** ในการแปลงสกุลเงินเมื่อทำรายการ
แนะนำและเปรียบเทียบแพลตฟอร์มเทรดทองออนไลน์ในประเทศไทย (อัปเดต 2024)

เมื่อทราบแล้วว่ามีทางเลือกการเทรดทองแบบไหนบ้าง ต่อไปนี้คือการเจาะลึก **แพลตฟอร์ม เทรดทองออนไลน์ ที่ไหนดี** โดยแบ่งตามประเภทและนำเสนอการเปรียบเทียบที่ชัดเจน เพื่อช่วยให้คุณเลือกบริการที่เหมาะสมที่สุดกับเป้าหมายของตัวเอง
แพลตฟอร์มโบรกเกอร์ทองคำ: ความเชี่ยวชาญและความหลากหลาย
โบรกเกอร์ทองคำมีจุดแข็งที่ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและราคาที่อิงกับตลาดโลกอย่างใกล้ชิด
- YLG Bullion (YLG): ผู้นำด้านการซื้อขายทองคำในไทยที่มีบริการครบวงจร ทั้งซื้อขายทองคำแท่ง 96.5% และ 99.99% ออนไลน์ การออมทอง และ Gold Futures จุดเด่นคือมี **แอพเทรดทอง** ที่ใช้งานง่ายอย่าง “YLG Gold Savings” ซึ่งเหมาะสำหรับ **มือใหม่** ที่อยากเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนต่ำ มีสภาพคล่องสูง และบริการลูกค้าที่ได้รับคำชมอย่างต่อเนื่อง
- MTS Gold (แม่ทองสุก): ผู้ค้าทองมีชื่อเสียงยาวนานที่ขยายบริการสู่โลกออนไลน์ ให้บริการซื้อขายทองคำแท่ง ทองออม และ Gold Futures มี “MTS Gold App” ที่รองรับการซื้อขายบนมือถือ พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ที่ได้รับความนิยม จุดเด่นคือราคาที่แข่งขันได้และมีบทวิเคราะห์ตลาดทองคำที่น่าสนใจ
- Hua Seng Heng (ฮั่วเซ่งเฮง): ร้านทองเก่าแก่ที่เปิดตัวบริการ “Hua Seng Heng Gold Now” เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อขายทองคำแท่งและออมทองออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แอปพลิเคชันออกแบบมาเพื่อความเรียบง่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการซื้อขายรวดเร็ว
- ARR Gold Trading: แพลตฟอร์มที่กำลังเติบโตเร็ว ให้บริการซื้อขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณออนไลน์ เน้นความเสถียรของระบบและประสบการณ์การใช้งานที่ดี
บริการทองคำจากธนาคารไทย: ปลอดภัยและมั่นคง
สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก การใช้บริการจากธนาคารพาณิชย์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB): ให้บริการ “SCB Gold Investment” ผ่านบัญชี e-FCD ซึ่งช่วยให้ลงทุนในทองคำแท่งได้โดยไม่ต้องถือทองจริง พร้อมบริการออมทองผ่าน **แอพเทรดทอง** SCB Easy จุดแข็งคือความน่าเชื่อถือสูงและได้รับการกำกับดูแลจาก ธปท.
- ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Bank): เปิดตัว “Krungthai Gold Wallet” บนแอป Krungthai Next ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์ได้สะดวก มีระบบเชื่อมต่อกับบัญชีออมทรัพย์โดยตรง ทำให้บริหารเงินได้ง่ายและปลอดภัย
แอพเทรดทอง: สะดวกและเป็นมิตรกับมือใหม่
แอปพลิเคชันบนมือถือได้รับความนิยมสูง เพราะทำให้สามารถซื้อขายทองคำได้ทุกที่ทุกเวลา
- YLG Gold Savings App: ออกแบบมาเพื่อการออมทองโดยเฉพาะ ใช้งานง่าย มีการแจ้งเตือนราคา และเหมาะกับผู้เริ่มต้น
- MTS Gold App: รองรับทั้งการซื้อขายและออมทอง มีกราฟวิเคราะห์ครบถ้วน เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก
- Hua Seng Heng Gold Now: แอปที่เน้นความสะดวกในการซื้อขายทองคำแท่ง พร้อมฟีเจอร์แจ้งเตือนราคา
- Krungthai Gold Wallet (บน Krungthai Next): เหมาะกับลูกค้ากรุงไทยที่ต้องการความปลอดภัยและใช้งานง่าย
ตารางเปรียบเทียบแพลตฟอร์มเทรดทองออนไลน์หลักในประเทศไทย (ข้อมูลโดยประมาณ 2024)
แพลตฟอร์ม | ประเภทการซื้อขายหลัก | เงินฝากขั้นต่ำ (โดยประมาณ) | ค่าธรรมเนียม/สเปรด (โดยประมาณ) | เลเวอเรจ | การกำกับดูแล | จุดเด่น | App ใช้งานง่าย |
---|---|---|---|---|---|---|---|
YLG Bullion | ทองคำแท่ง, ออมทอง, Gold Futures | เริ่มต้น 100 บาท (ออมทอง) | สเปรดตามตลาด, ค่าคอมฯ Gold Futures | 1:1 (ทองคำ), สูง (Futures) | ก.ล.ต., ส.ค.บ. | สภาพคล่องสูง, ผลิตภัณฑ์หลากหลาย, ออมทอง | ดีมาก |
MTS Gold | ทองคำแท่ง, ออมทอง, Gold Futures | เริ่มต้น 100 บาท (ออมทอง) | สเปรดตามตลาด, ค่าคอมฯ Gold Futures | 1:1 (ทองคำ), สูง (Futures) | ก.ล.ต., ส.ค.บ. | ราคาแข่งขันได้, บทวิเคราะห์ | ดี |
Hua Seng Heng | ทองคำแท่ง, ออมทอง | เริ่มต้น 100 บาท (ออมทอง) | สเปรดตามตลาด | 1:1 | ส.ค.บ. | ชื่อเสียงยาวนาน, ซื้อขาย 24 ชม. | ดี |
SCB (e-FCD Gold) | ทองคำแท่ง (ผ่านบัญชี FCD) | ตามเงื่อนไขธนาคาร | ค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน | 1:1 | ธปท. | ความปลอดภัยสูง, มั่นคง | ปานกลาง |
Krungthai Gold Wallet | ทองคำแท่ง (ผ่าน Krungthai Next) | เริ่มต้น 0.1 บาท/กรัม | สเปรดตามตลาด | 1:1 | ธปท. | สะดวกสำหรับลูกค้ากรุงไทย, ปลอดภัย | ดี |
InnovestX (Gold Futures) | Gold Futures | ตามเงื่อนไขโบรกเกอร์ | ค่าคอมมิชชั่น | สูง | ก.ล.ต. | สำหรับเทรด Futures โดยเฉพาะ | ดี |
หมายเหตุ: ข้อมูลค่าธรรมเนียม, สเปรด, และเงินฝากขั้นต่ำเป็นค่าประมาณและอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับผู้ให้บริการโดยตรงก่อนตัดสินใจ ลงทุนทอง
มือใหม่หัดเทรด: วิธีเริ่มต้นการเทรดทองออนไลน์?

สำหรับ **มือใหม่** ที่เพิ่งเริ่มสนใจ **เทรดทองออนไลน์** การเริ่มต้นอาจดูซับซ้อน แต่ถ้าทำตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ก็สามารถเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ
ขั้นตอนการเปิดบัญชีและเอกสารที่จำเป็น
การเปิดบัญชี **เทรดทองออนไลน์** ในไทยมีขั้นตอนง่ายๆ คล้ายกับการเปิดบัญชีธนาคารหรือหลักทรัพย์
- เลือกแพลตฟอร์ม: พิจารณาจากเป้าหมาย เช่น ต้องการออมทอง เลือก YLG หรือ Hua Seng Heng; ต้องการเทรด Futures เลือกโบรกเกอร์หลักทรัพย์; ต้องการความปลอดภัยสูง เลือกธนาคาร
- เตรียมเอกสาร: บัตรประชาชน, สมุดบัญชีธนาคาร (สำหรับผูกบัญชี), และบางที่อาจขอสำเนาทะเบียนบ้านหรือเอกสารแสดงรายได้
- กรอกใบสมัคร: ทำผ่านเว็บไซต์หรือ **แอพเทรดทอง** หรือไปสาขาโดยตรง
- ยืนยันตัวตน (KYC): ถ่ายรูปบัตรประชาชนคู่กับใบหน้า หรือใช้แอปยืนยันตัวตนดิจิทัล
- รออนุมัติ: เมื่อเอกสารครบ บัญชีจะได้รับอนุมัติและพร้อมใช้งาน
คู่มือการฝากและถอนเงิน
- การฝากเงิน: ส่วนใหญ่รองรับการโอนผ่านธนาคาร บางแพลตฟอร์มมีช่องทาง QR Code หรือ E-Wallet
- การถอนเงิน: โอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผูกไว้ โดยใช้เวลา 1-3 วันทำการ อาจมี **ค่าธรรมเนียม** บางกรณี
การเลือกเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เหมาะสม
- มือใหม่ที่ต้องการสะสมทอง: เลือกแพลตฟอร์มออมทองของ YLG, MTS, Hua Seng Heng หรือธนาคาร ซึ่งมีต้นทุนต่ำและ **ความเสี่ยง** ต่ำ
- นักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไร: หากรับความเสี่ยงได้สูง อาจพิจารณา Gold Futures หรือ Gold CFD พร้อมเลือกโบรกเกอร์ที่มีเครื่องมือวิเคราะห์ครบ
- พิจารณาค่าธรรมเนียม: เปรียบเทียบค่าสเปรด ค่าคอมมิชชั่น และ **ค่าธรรมเนียม** ฝาก-ถอน เพื่อลดต้นทุนการลงทุน
ความเสี่ยงและข้อควรระวังในการเทรดทองออนไลน์ในประเทศไทย
แม้จะมีข้อดี แต่ **การเทรดทองออนไลน์** ก็มีความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจเพื่อป้องกันความสูญเสีย
ความเสี่ยงด้านตลาดและความผันผวนของราคา
ราคาทองคำมีความผันผวนสูงจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก เช่น นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed), อัตราเงินเฟ้อ, และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้สามารถขึ้นลงได้เร็วและรุนแรง นักลงทุนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
ความเสี่ยงด้านแพลตฟอร์มและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
- การกำกับดูแล: แพลตฟอร์มที่ถูกกฎหมายควรได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. (สำหรับ Futures) หรือ ธปท. (สำหรับธนาคาร)
- แพลตฟอร์มต่างประเทศ: ควรหลีกเลี่ยงแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับอนุญาตในไทย เพราะอาจไม่มีการคุ้มครองนักลงทุน
- มิจฉาชีพ: มีเว็บไซต์ปลอมที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือก่อนลงทุน
ข้อพิจารณาด้านภาษีและต้นทุนการดำเนินงาน
- ภาษี: กำไรจาก Gold Futures มักต้องเสียภาษี ขณะที่การซื้อขายทองคำแท่งอาจมีข้อยกเว้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือตรวจสอบจาก กรมสรรพากร
- ต้นทุนแฝง: เช่น ค่าธรรมเนียมข้ามคืน (Overnight Fee) หรือค่าดูแลบัญชี ควรอ่านเงื่อนไขให้ละเอียด
ชุมชน Pantip ว่าอย่างไร? คำถามพบบ่อยและความคิดเห็นจากผู้ใช้
Pantip เป็นแหล่งข้อมูลยอดนิยมที่นักลงทุนไทยใช้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การ **เทรดทองออนไลน์ ที่ไหนดี**
สรุปความคิดเห็นผู้ใช้ Pantip ต่อแพลตฟอร์มยอดนิยม
- YLG: ได้รับคำชมเรื่องความง่ายของแอป เหมาะสำหรับ **มือใหม่** แต่บางครั้งมีข้อกังวลเรื่องสเปรดในช่วงตลาดผันผวน
- MTS Gold: ราคาดี มีบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ แต่แอปอาจดูซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น
- Hua Seng Heng: ได้รับความไว้วางใจจากชื่อเสียง แต่ยังมีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงแอปให้ทันสมัย
- ธนาคาร: ปลอดภัยสูง แต่สภาพคล่องต่ำกว่าและอาจมีค่าธรรมเนียมแฝง
หลีกเลี่ยงกับดักการเทรด: บทเรียนจากประสบการณ์ผู้ใช้
- แพลตฟอร์มปลอม: หลายคนสูญเงินจากแพลตฟอร์มที่ให้ผลตอบแทนเกินจริง ควรตรวจสอบการกำกับดูแลจาก ก.ล.ต. หรือ ธปท.
- การจัดการความเสี่ยง: ขาดการตั้งจุดตัดขาดทุนหรือใช้เลเวอเรจสูงเกินไป
- ปัญหาฝาก-ถอน: บางแพลตฟอร์มที่ไม่น่าเชื่อถือมีปัญหาการถอนเงิน
บทสรุป: ค้นหาแพลตฟอร์มเทรดทองออนไลน์ที่เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ
การเลือก **เทรดทองออนไลน์ ที่ไหนดี** ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น เป้าหมาย ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และประสบการณ์ บทความนี้ได้ครอบคลุมทั้งรูปแบบการลงทุน แพลตฟอร์มยอดนิยม การเปรียบเทียบ คำแนะนำสำหรับ **มือใหม่** และข้อควรระวังสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการเลือกแพลตฟอร์มที่ถูกกฎหมายเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง
สุดท้ายนี้ ขอให้นักลงทุนทุกท่านศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เข้าใจผลิตภัณฑ์ และเลือกแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและตอบโจทย์เป้าหมายของคุณมากที่สุด ขอให้ประสบความสำเร็จในการ **ลงทุนทอง** ออนไลน์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
เทรดทองออนไลน์ ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะเริ่มได้?
เงินลงทุนเริ่มต้นสำหรับการเทรดทองออนไลน์ในประเทศไทยค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและประเภทการเทรด
- **การออมทอง:** สามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินเพียงหลักร้อยบาท (เช่น 100 บาท หรือ 1 กรัม) กับโบรกเกอร์ทองคำ เช่น YLG, MTS Gold, Hua Seng Heng หรือธนาคาร
- **การซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์:** อาจเริ่มต้นที่ประมาณ 1 บาททอง หรือตามน้ำหนักที่กำหนด ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาทองคำ ณ ขณะนั้น
- **Gold Futures:** ต้องมีเงินวางหลักประกัน (Margin) ซึ่งมีจำนวนสูงกว่าการออมทองและขึ้นอยู่กับมูลค่าสัญญา
โดยสรุปแล้ว มือใหม่สามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินจำนวนไม่มากนัก หากเลือกการออมทองเป็นอันดับแรก
แอพเทรดทองไหนดีที่สุดสำหรับมือใหม่ในไทย?
สำหรับมือใหม่ในประเทศไทยที่ต้องการความง่ายในการใช้งานและเริ่มต้นได้ด้วยเงินไม่มากนัก แนะนำแอปพลิเคชันสำหรับการออมทองหรือซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์ เช่น:
- **YLG Gold Savings App:** ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันออมทองเป็นหลัก เหมาะกับการเริ่มต้น
- **MTS Gold App:**

ymbproperties_co
Website: https://ymbproperties.com
You must be logged in to post a comment