รหัส SWIFT ธนาคารกรุงไทย (KRTHTHBK) คืออะไรและสำคัญอย่างไร
ในยุคที่การเชื่อมต่อทางการเงินข้ามประเทศมีความรวดเร็วและซับซ้อนน้อยลง ระบบการโอนเงินระหว่างประเทศได้รับการมาตรฐานเพื่อให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างแม่นยำและปลอดภัย โดยหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่สุดคือ “รหัส SWIFT” หรือที่รู้จักในชื่อ “BIC” ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวระบุเอกลักษณ์ของธนาคารในระบบการเงินโลก สำหรับผู้ใช้บริการธนาคารกรุงไทย รหัส SWIFT ที่ต้องใช้คือ **KRTHTHBK** ซึ่งเป็นข้อมูลจำเป็นที่ช่วยให้ธุรกรรมทางการเงินไปยังหรือจากต่างประเทศดำเนินไปได้อย่างถูกต้อง โดยไม่สับสนกับสถาบันการเงินอื่น
SWIFT ย่อมาจาก Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication หรือองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายสื่อสารการเงินระดับโลก ซึ่งเชื่อมโยงธนาคารและสถาบันการเงินกว่า 11,000 แห่ง จากกว่า 200 ประเทศ โดยมีหน้าที่หลักในการส่งข้อความทางการเงิน เช่น คำสั่งโอนเงิน ข้อมูลการยืนยันบัญชี หรือการชำระเงินระหว่างธนาคาร ผ่านระบบเข้ารหัสที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานสากล การใช้รหัส SWIFT จึงช่วยให้แน่ใจได้ว่า เงินที่คุณส่งออกไปจะไปถึงธนาคารปลายทางที่ถูกต้อง และสามารถตรวจสอบเส้นทางการเคลื่อนไหวของเงินได้อย่างโปร่งใส ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SWIFT
รหัส SWIFT ของธนาคารกรุงไทย หรือ **KRTHTHBK** ประกอบด้วยตัวอักษร 8 ตัว โดยในบางกรณีอาจมีเพิ่มอีก 3 ตัวเป็นรหัสสาขา แต่สำหรับธนาคารกรุงไทยนั้น รหัสนี้เพียงพอแล้วสำหรับการโอนเงินทุกกรณี โครงสร้างของรหัสมีความหมายเฉพาะตัว ดังนี้:
– **KRTHTH (4 ตัวแรก):** รหัสธนาคาร ใช้ระบุว่าเป็นธนาคารกรุงไทย
– **TH (2 ตัวถัดมา):** รหัสประเทศ บ่งบอกว่าธนาคารตั้งอยู่ในประเทศไทย
– **BK (2 ตัวถัดมา):** รหัสที่ตั้ง บ่งชี้ตำแหน่งสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ
ส่วนตัวอักษร 3 ตัวสุดท้ายซึ่งอาจใช้ระบุสาขา สำหรับธนาคารกรุงไทยมักไม่จำเป็น เพราะระบบจะส่งเงินเข้ามาที่สำนักงานใหญ่ก่อน แล้วค่อยกระจายไปยังสาขาที่เกี่ยวข้องเอง ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีบัญชีอยู่ที่สาขาไหน ใช้แค่ **KRTHTHBK** ก็เพียงพอ
การใช้รหัสที่ถูกต้องจึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แม้เพียงตัวอักษรเดียวที่ผิดพลาด ก็อาจทำให้เงินของคุณถูกส่งผิดทาง ส่งผลให้เกิดความล่าช้า หรือในกรณีร้ายแรง เงินอาจถูกตีกลับหรือต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะแก้ไขได้ ยิ่งไปกว่านั้น คุณอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการยกเลิกและทำรายการใหม่ ดังนั้น การตรวจสอบรหัส SWIFT ก่อนยืนยันการทำธุรกรรม จึงเป็นขั้นตอนที่จำเป็นและไม่ควรมองข้าม
วิธีใช้รหัส SWIFT ธนาคารกรุงไทย สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะผู้ส่งหรือผู้รับเงินจากต่างประเทศ การเข้าใจวิธีใช้รหัส SWIFT อย่างถูกต้องจะช่วยให้การทำธุรกรรมผ่านไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะกับธนาคารกรุงไทย ที่มีระบบรองรับการโอนเงินข้ามประเทศทั้งทางออนไลน์และผ่านสาขา
การโอนเงินไปต่างประเทศจากธนาคารกรุงไทย
หากคุณต้องการส่งเงินไปยังบัญชีธนาคารในต่างประเทศ คุณจะต้องเตรียมข้อมูลของผู้รับและธนาคารปลายทางอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะรหัส SWIFT ของธนาคารนั้นๆ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการระบุตัวตนของสถาบันการเงิน
ข้อมูลที่ต้องเตรียมมีดังนี้:
– ชื่อ-นามสกุลของผู้รับ ตามบัญชีธนาคารเป๊ะๆ
– เลขที่บัญชีของผู้รับในประเทศปลายทาง
– ชื่อเต็มของธนาคารผู้รับ
– รหัส SWIFT (BIC) ของธนาคารผู้รับ
– ที่อยู่ของธนาคารผู้รับ (ในบางกรณี)
– วัตถุประสงค์ของการโอน เช่น ค่าใช้จ่ายในการศึกษา ค่าสินค้า หรือส่งเงินให้ครอบครัว
คุณสามารถทำรายการผ่านช่องทางหลักของธนาคารกรุงไทย ได้แก่:
– **แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT:** เหมาะกับการโอนจำนวนไม่สูงไปยังประเทศที่รองรับ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย หรือญี่ปุ่น สะดวก รวดเร็ว และทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง
– **สาขาธนาคารกรุงไทย:** เหมาะสำหรับยอดเงินมาก หรือกรณีที่ต้องการคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะหากมีข้อสงสัยเรื่องเอกสาร หรือข้อกำหนดของประเทศปลายทาง
การรับเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย
เมื่อมีผู้ต้องการส่งเงินมายังบัญชีคุณในไทย คุณจำเป็นต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าหรือการส่งผิดพลาด ข้อมูลที่คุณควรแจ้งมีดังนี้:
– **ชื่อ-นามสกุลเจ้าของบัญชีเป็นภาษาอังกฤษ:** ต้องตรงกับที่เปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทย หากใช้ชื่อไม่ตรง ระบบอาจปฏิเสธหรือกักกันเงินไว้เพื่อตรวจสอบ
– **เลขที่บัญชีธนาคารกรุงไทย:** ไม่ว่าจะเป็นบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวัน
– **ชื่อเต็มของธนาคาร:** **Krungthai Bank Public Company Limited** – ข้อนี้สำคัญมาก เพราะชื่อนี้คือชื่อที่ใช้ในระบบสากล
– **รหัส SWIFT:** **KRTHTHBK** – ใช้ได้กับทุกสาขา
– **ที่อยู่ของธนาคาร:** โดยทั่วไปใช้ที่อยู่สำนักงานใหญ่ เช่น 35 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
– **วัตถุประสงค์การรับเงิน:** เพื่อให้ผู้ส่งระบุในเอกสาร ซึ่งช่วยให้ผ่านกระบวนการตรวจสอบได้รวดเร็ว และเป็นไปตามกฎหมาย
การส่งข้อมูลครบถ้วนจะช่วยลดความเสี่ยงที่เงินจะติดขัดในระบบ หรือต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะเข้าบัญชี
หา SWIFT Code ธนาคารกรุงไทยได้จากที่ไหน?
แม้ **KRTHTHBK** จะเป็นรหัสที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จัก แต่การยืนยันจากแหล่งที่เชื่อถือได้ยังคงจำเป็น โดยเฉพาะกับการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง หรือมีความถี่ในการโอนต่างประเทศ
คุณสามารถตรวจสอบรหัส SWIFT ของธนาคารกรุงไทยได้จากช่องทางต่อไปนี้:
– **เว็บไซต์ทางการของธนาคารกรุงไทย:** เป็นแหล่งข้อมูลที่อัปเดตและแม่นยำที่สุด คุณสามารถค้นหาได้ในหัวข้อ “การโอนเงินระหว่างประเทศ” หรือ “คำถามที่พบบ่อย” ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
– **แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT:** เมื่อเข้าสู่เมนูโอนเงินต่างประเทศ ระบบอาจแสดงข้อมูลนี้โดยอัตโนมัติ หรือมีลิงก์อ้างอิง
– **สาขาธนาคารกรุงไทย:** เจ้าหน้าที่สามารถให้ข้อมูลนี้ได้ทันที และอาจช่วยตรวจสอบข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
– **เอกสารเปิดบัญชีหรือสมุดคู่ฝาก:** ในบางกรณี ข้อมูลนี้อาจถูกรวมอยู่ในเอกสารที่คุณได้รับตอนเปิดบัญชี
สำหรับผู้ที่กังวลว่าจะต้องใช้รหัสเฉพาะสาขา ต้องเข้าใจว่า **ธนาคารกรุงไทยใช้รหัส SWIFT กลาง คือ KRTHTHBK สำหรับทุกสาขา** แม้บางแหล่งจะแสดงรหัสแบบ KRTHTHBKXXX (มีตัวอักษรต่อท้าย) แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะระบบจะจัดการเรื่องสาขาให้โดยอัตโนมัติ
ข้อควรระวังและวิธีแก้ไขปัญหาเมื่อใช้รหัส SWIFT ผิด
การโอนเงินระหว่างประเทศเป็นกระบวนการที่มีหลายขั้นตอน และต้องอาศัยความแม่นยำสูง โดยเฉพาะในเรื่องของข้อมูลธนาคารปลายทาง การระบุรหัส SWIFT ผิด แม้เพียงตัวเดียว อาจส่งผลเสียต่อคุณในหลายด้าน
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย:
– พิมพ์ผิด เช่น KRTHTHBK เป็น KRTHTHKB หรือ KRTHTH8K
– สับสนกับรหัสธนาคารอื่น เช่น คิดว่าเป็น SCB หรือ Kbank
– เข้าใจผิดว่าต้องใช้รหัสเฉพาะสาขา จึงพยายามหาข้อมูลที่ไม่จำเป็น
– ใช้ข้อมูลเก่าที่อาจไม่อัปเดตแล้ว
ผลกระทบจากข้อผิดพลาด:
– **เงินโอนล่าช้า:** เนื่องจากระบบต้องหยุดเพื่อตรวจสอบและยืนยัน
– **เงินถูกตีกลับ:** หากธนาคารปลายทางไม่สามารถระบุตัวตนได้ เงินจะถูกส่งกลับไปยังธนาคารต้นทาง
– **เสียค่าธรรมเนียมซ้ำ:** ทั้งค่ายกเลิก ค่าทำรายการใหม่ และค่าธรรมเนียมจากธนาคารต่างประเทศ
– **เสี่ยงสูญหาย:** แม้จะเกิดขึ้นได้ยาก แต่หากข้อมูลผิดจนไปเข้าบัญชีที่มีอยู่จริง อาจมีความยุ่งยากในการติดตาม
สิ่งที่ต้องทำหากระบุรหัส SWIFT ผิด
หากคุณสังเกตว่ากรอกรหัสผิดหลังจากกดยืนยันแล้ว ให้ดำเนินการทันทีตามขั้นตอนเหล่านี้:
1. **ติดต่อธนาคารกรุงไทยทันที:** โดยเฉพาะฝ่ายบริการโอนเงินระหว่างประเทศ แจ้งหมายเลขอ้างอิงการทำรายการ เวลา ยอดเงิน และข้อมูลผู้รับทั้งหมด
2. **ขอให้หยุดรายการหรือแก้ไขข้อมูล:** หากยังไม่ถูกส่งผ่านระบบ SWIFT อาจสามารถยกเลิกหรือแก้ไขได้
3. **เตรียมเอกสารประกอบ:** เช่น ใบเสร็จ สำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารยืนยันตัวตนเพื่อใช้ในการดำเนินการ
4. **ติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ:** สอบถามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีคำตอบชัดเจน
ความเร็วในการตอบสนองคือกุญแจสำคัญในการลดความเสียหาย และเพิ่มโอกาสในการกู้คืนสถานการณ์ให้กลับมาปกติ
SWIFT Code ของธนาคารไทยอื่นๆ ที่ควรรู้
นอกเหนือจากธนาคารกรุงไทยแล้ว การมีข้อมูลรหัส SWIFT ของธนาคารชั้นนำอื่นๆ ก็เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะหากคุณต้องทำธุรกรรมกับผู้รับที่ใช้บริการธนาคารอื่น ด้านล่างนี้คือรายชื่อธนาคารหลักในประเทศไทยและรหัส SWIFT ที่ควรรู้จัก
| ชื่อธนาคาร (ภาษาไทย) | ชื่อธนาคาร (ภาษาอังกฤษ) | รหัส SWIFT Code |
| :————————- | :———————————— | :————– |
| ธนาคารกรุงไทย | Krungthai Bank Public Company Limited | KRTHTHBK |
| ธนาคารไทยพาณิชย์ | Siam Commercial Bank Public Co. Ltd. | SICOTHBK |
| ธนาคารกสิกรไทย | Kasikornbank Public Company Limited | KASITHBK |
| ธนาคารกรุงเทพ | Bangkok Bank Public Company Limited | BKKBTHBK |
| ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | Bank of Ayudhya Public Company Limited | AYUDTHBK |
| ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) | TMBThanachart Bank Public Company Limited | TMBKTHBK |
| ธนาคารยูโอบี | United Overseas Bank (Thai) PCL | UOVBTHBK |
| ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย | CIMB Thai Bank Public Company Limited | CIMBTHBK |
| ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ | Land and Houses Bank Public Company Limited | LHABTHBK |
ควรทราบว่า รหัสในตารางนี้เป็นรหัสสำนักงานใหญ่ และสามารถใช้ได้กับทุกสาขาของธนาคารนั้นๆ อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการของแต่ละธนาคารก่อนทำรายการสำคัญ เพื่อความมั่นใจสูงสุด
ทางเลือกอื่นๆ ในการโอนเงินระหว่างประเทศนอกเหนือจาก SWIFT Code
แม้ SWIFT จะยังคงเป็นมาตรฐานหลัก แต่เทคโนโลยีทางการเงินได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ตอนนี้มีทางเลือกอื่นที่อาจประหยัดกว่า หรือเร็วกว่าในบางกรณี
PromptPay International
PromptPay International เป็นบริการโอนเงินระหว่างประเทศที่พัฒนาโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งช่วยให้การโอนเงินไปยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นไปอย่างรวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ โดยใช้แค่หมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือเลขประจำตัวประชาชนของผู้รับ แทนที่จะต้องใช้เลขบัญชีและรหัส SWIFT
– **จุดเด่น:** ค่าธรรมเนียมต่ำ โอนเร็ว (เข้าทันทีในหลายกรณี) ใช้ง่ายผ่านแอปธนาคาร
– **ข้อจำกัด:** รองรับเฉพาะบางประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม (กำลังขยายเพิ่ม) และมีวงเงินจำกัดต่อครั้ง
– **เหมาะกับ:** การโอนเงินจำนวนไม่สูง ที่ต้องการความเร็วและประหยัด อ่านเพิ่มเติมจากธนาคารแห่งประเทศไทย
บริการรับ-ส่งเงินระหว่างประเทศอื่นๆ
นอกจาก PromptPay ยังมีผู้ให้บริการภายนอกที่ได้รับความนิยม เช่น:
– **Wise (เดิมชื่อ TransferWise):**
– ค่าธรรมเนียมต่ำ อัตราแลกเปลี่ยนโปร่งใสใกล้เคียงอัตราตลาดจริง
– โอนเร็วในเส้นทางหลัก รองรับหลายสกุลเงิน
– เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าและทำรายการออนไลน์
– **Western Union:**
– มีเครือข่ายตัวแทนกว่า 200,000 จุดทั่วโลก
– ผู้รับสามารถรับเงินสดได้ทันทีโดยไม่ต้องมีบัญชี
– ค่าธรรมเนียมสูงกว่า แต่เหมาะกับการส่งด่วนหรือฉุกเฉิน
– **PayPal:**
– สะดวกสำหรับการชำระเงินออนไลน์
– มีระบบป้องกันผู้ซื้อ-ผู้ขาย
– ค่าธรรมเนียมสูงเมื่อโอนระหว่างบุคคล และอัตราแลกเปลี่ยนอาจไม่ดีนัก
การเลือกช่องทางที่เหมาะสม ต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประเทศปลายทาง จำนวนเงิน ความเร่งด่วน และค่าใช้จ่ายที่ยอมรับได้ การเปรียบเทียบจุดแข็ง-จุดอ่อนของแต่ละช่องทาง จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
สรุป: โอนเงินระหว่างประเทศกับธนาคารกรุงไทยอย่างมั่นใจ
การโอนหรือรับเงินระหว่างประเทศผ่านธนาคารกรุงไทยไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากคุณมีข้อมูลที่ถูกต้อง โดยเฉพาะ **รหัส SWIFT คือ KRTHTHBK** ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เงินเดินทางไปถึงปลายทางได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ส่งหรือผู้รับ การตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างให้ตรงกันเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งชื่อผู้รับ เลขบัญชี ชื่อธนาคาร และรหัส SWIFT หากคุณไม่มั่นใจ อย่าลังเลที่จะติดต่อธนาคารกรุงไทยโดยตรง ไม่ว่าจะผ่านสาขา สายด่วน หรือแชทในแอป Krungthai NEXT เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
ด้วยความระมัดระวังและข้อมูลที่ครบถ้วน ทุกการโอนเงินของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่น มั่นใจ และปลอดภัย
1. รหัส SWIFT ของธนาคารกรุงไทยคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรในการโอนเงินระหว่างประเทศ?
รหัส SWIFT ของธนาคารกรุงไทยคือ KRTHTHBK รหัสนี้ทำหน้าที่เป็นตัวระบุเอกลักษณ์ของธนาคารในระบบการเงินสากล ช่วยให้การโอนเงินระหว่างประเทศไปยังหรือจากธนาคารกรุงไทยทำได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่เงินจะส่งผิดธนาคาร
2. ฉันจะหารหัส SWIFT ของธนาคารกรุงไทย (KRTHTHBK) ได้จากที่ไหนที่น่าเชื่อถือที่สุด?
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุด ได้แก่ เว็บไซต์ทางการของธนาคารกรุงไทย แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ส่วนข้อมูลการโอนเงินระหว่างประเทศ หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่สาขาทุกแห่ง นอกจากนี้ เอกสารเปิดบัญชีหรือสมุดคู่ฝากบางฉบับก็อาจมีข้อมูลนี้อยู่
3. หากฉันต้องการรับเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ฉันต้องแจ้งข้อมูลใดบ้างนอกเหนือจากรหัส SWIFT?
คุณต้องแจ้งข้อมูลต่อไปนี้ให้ผู้ส่งทราบ:
- ชื่อ-นามสกุลเจ้าของบัญชีเป็นภาษาอังกฤษ ให้ตรงกับที่เปิดบัญชี
- เลขที่บัญชีธนาคารกรุงไทย
- ชื่อเต็มของธนาคาร: Krungthai Bank Public Company Limited
- ที่อยู่ของธนาคาร เช่น 35 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ 10110
- วัตถุประสงค์ของการรับเงิน
4. รหัส SWIFT ของธนาคารกรุงไทยมีรหัสเฉพาะสาขาหรือไม่ หรือใช้ KRTHTHBK ได้ทุกสาขา?
ใช้รหัส KRTHTHBK ได้ทุกสาขาครับ ไม่จำเป็นต้องใช้รหัสเฉพาะสาขา เพราะระบบจะส่งเงินไปยังสำนักงานใหญ่ก่อน แล้วจึงกระจายไปยังสาขาที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ
5. ถ้าฉันใส่รหัส SWIFT ของธนาคารกรุงไทยผิดพลาดในการโอนเงินไปต่างประเทศ ฉันควรทำอย่างไรเพื่อแก้ไข?
ให้รีบติดต่อธนาคารกรุงไทยทันที แจ้งรายละเอียดการทำรายการ ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการแก้ไข หากยังไม่ถูกส่งผ่านระบบ อาจสามารถยกเลิกหรือแก้ไขข้อมูลได้ อย่ารอช้า เพราะความเร็วในการตอบสนองจะช่วยลดความเสี่ยง
6. มีค่าธรรมเนียมหรือข้อจำกัดใดบ้างในการใช้รหัส SWIFT ของธนาคารกรุงไทยเพื่อโอนเงินระหว่างประเทศ?
มีค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นจากหลายฝ่าย ได้แก่ ธนาคารต้นทาง ธนาคารกลางทาง และธนาคารปลายทาง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามประเทศและจำนวนเงิน นอกจากนี้ อาจมีข้อจำกัดเรื่องวงเงินต่อวันหรือต่อครั้ง ควรสอบถามรายละเอียดจากธนาคารก่อนทำรายการ
7. นอกจาก SWIFT Code แล้ว ธนาคารกรุงไทยมีทางเลือกอื่นใดในการรับหรือส่งเงินระหว่างประเทศบ้าง เช่น PromptPay International?
มีทางเลือกอื่น เช่น PromptPay International สำหรับการโอนไปยังประเทศที่รองรับ ซึ่งค่าธรรมเนียมต่ำและรวดเร็ว หรือการใช้บริการผ่านแอป Krungthai NEXT ที่อาจมีตัวเลือกพิเศษ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกอย่าง Wise, Western Union หรือ PayPal ได้ตามความเหมาะสม
8. ชื่อเต็มของธนาคารกรุงไทยที่ถูกต้องสำหรับการระบุในเอกสารการโอนเงินระหว่างประเทศคืออะไร?
ชื่อเต็มที่ถูกต้องคือ Krungthai Bank Public Company Limited ซึ่งต้องใช้ในทุกเอกสารการโอนเงินระหว่างประเทศ
9. การโอนเงินด้วย SWIFT Code ใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าเงินจะเข้าบัญชีปลายทาง?
โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง ธนาคารกลางทาง และวันหยุดของแต่ละประเทศ หากข้อมูลไม่ครบถ้วน อาจใช้เวลานานกว่านี้
10. ฉันจะตรวจสอบสถานะการโอนเงินระหว่างประเทศที่ใช้รหัส SWIFT ได้อย่างไร?
สามารถตรวจสอบได้โดยติดต่อธนาคารกรุงไทย โดยแจ้งหมายเลขอ้างอิงการทำรายการ เช่น เลข MT103 หรือหมายเลขเอกสาร หรือตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หากทำรายการผ่านแอป
