รหัส SWIFT ธนาคารกรุงเทพคืออะไร และทำไมคุณถึงต้องการมัน?

เมื่อพูดถึงการส่งหรือรับเงินจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินเพื่อการค้า การศึกษา หรือการสนับสนุนครอบครัว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือรหัส SWIFT หรือที่เรียกอีกอย่างว่า BIC (Bank Identifier Code) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวระบุธนาคารอย่างเป็นทางการในระบบการเงินโลก สำหรับธนาคารกรุงเทพ รหัส SWIFT ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือ **BKKBTHBK** รหัสนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เงินของคุณเดินทางไปยังปลายทางได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะเมื่อต้องส่งหรือรับเงินข้ามประเทศ การมีรหัสที่ถูกต้องจึงไม่ใช่แค่ขั้นตอนหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันความล่าช้าหรือข้อผิดพลาดที่อาจตามมาได้
SWIFT ย่อมาจาก Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกที่ดูแลระบบการสื่อสารทางการเงินระหว่างธนาคาร ทำหน้าที่เสมือนเครือข่ายที่เชื่อมโยงสถาบันการเงินกว่า 11,000 แห่งในกว่า 200 ประเทศ รหัส SWIFT จึงเหมือนที่อยู่เฉพาะของธนาคารแต่ละแห่งในโลกดิจิทัล หากไม่มีรหัสนี้ ระบบจะไม่สามารถระบุได้ว่าเงินควรไปสิ้นสุดที่ธนาคารใด ไม่ว่าคุณจะส่งเงินออกไปจากบัญชีธนาคารกรุงเทพ หรือมีผู้อื่นส่งเงินเข้ามาในบัญชีคุณ การใช้รหัส SWIFT ที่ถูกต้องจึงเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่สะดุด
โครงสร้างของรหัส SWIFT (BIC) และความหมายในแต่ละส่วน

รหัส SWIFT หรือ BIC มีรูปแบบที่เป็นมาตรฐานสากล แบ่งออกเป็น 8 หรือ 11 ตัวอักษร โดยแต่ละชุดมีความหมายเฉพาะที่ช่วยระบุข้อมูลของธนาคารอย่างละเอียด สำหรับรหัส **BKKBTHBK** ของธนาคารกรุงเทพ มาดูว่าแต่ละส่วนหมายถึงอะไร:
– **ตัวอักษร 4 ตัวแรก (รหัสธนาคาร): BKK B**
ส่วนนี้ใช้ระบุชื่อธนาคาร โดยย่อมาจาก Bangkok Bank หรือธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำกับสถาบันการเงินอื่นในโลก
– **ตัวอักษร 2 ตัวถัดมา (รหัสประเทศ): TH**
บ่งบอกว่าธนาคารตั้งอยู่ในประเทศใด ในกรณีนี้คือประเทศไทย ซึ่งใช้รหัสประเทศตามมาตรฐาน ISO
– **ตัวอักษร 2 ตัวถัดมา (รหัสทำเลที่ตั้ง): BK**
บ่งชี้ถึงเมืองหรือสำนักงานใหญ่ของธนาคาร สำหรับธนาคารกรุงเทพ ตัวนี้หมายถึงกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางขององค์กร
– **ตัวอักษร 3 ตัวสุดท้าย (รหัสสาขา): ไม่ระบุใน BKKBTHBK**
ส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องระบุเสมอไป หากไม่มี เช่น ในกรณีของ BKKBTHBK หมายความว่าเป็นรหัสของสำนักงานใหญ่ หรือใช้ได้ทั่วไปสำหรับธุรกรรมส่วนใหญ่ แต่หากมีการระบุเพิ่ม เช่น BKKBTHBKXXX จะหมายถึงสาขาเฉพาะเจาะจง อย่างไรก็ตาม สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศทั่วไป การใช้รหัส 8 ตัวอักษรก็เพียงพอ
ในทางปฏิบัติ ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องกังวลกับรหัสสาขา เว้นแต่ธนาคารผู้รับจะระบุไว้เป็นพิเศษ การใช้รหัส BKKBTHBK จึงถือว่าครอบคลุมและปลอดภัยสำหรับการรับหรือส่งเงินข้ามประเทศ
จะหารหัส SWIFT ธนาคารกรุงเทพ (BKKBTHBK) ได้จากที่ไหน?

การหาข้อมูลรหัส SWIFT ของธนาคารกรุงเทพไม่ใช่เรื่องยาก แต่ควรยึดแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจส่งผลต่อการโอนเงิน ช่องทางหลักที่คุณสามารถตรวจสอบได้มีดังนี้:
– **เว็บไซต์ทางการของธนาคารกรุงเทพ**
เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ที่สุด โดยคุณสามารถเข้าไปที่หน้าบริการ “โอนเงินระหว่างประเทศ” หรือ “รับเงินจากต่างประเทศ” เพื่อดูรหัส SWIFT ได้โดยตรง ข้อมูลรับเงินโอนจากต่างประเทศของธนาคารกรุงเทพ หน้าเว็บจะแสดงรหัสอย่างชัดเจน พร้อมคำแนะนำการใช้งาน
– **สมุดบัญชีและใบแจ้งยอดบัญชี**
ในบางกรณี รหัส SWIFT อาจถูกพิมพ์ไว้ในเอกสารที่ธนาคารออกให้ เช่น สมุดบัญชี หรือใบแจ้งยอดบัญชี (Bank Statement) โดยเฉพาะในบัญชีที่มีการรับโอนเงินต่างประเทศเป็นประจำ
– **ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรง**
หากคุณยังไม่แน่ใจ สามารถติดต่อผ่านช่องทางต่างๆ ได้ เช่น
– คอลเซ็นเตอร์: โทร 1333 หรือ (66) 0 2645 5555
– ไปที่สาขาใกล้บ้าน เพื่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่โดยตรง ซึ่งจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและอัปเดต
– **เว็บไซต์ค้นหารหัส SWIFT จากบุคคลที่สาม**
มีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหารหัส SWIFT โดยป้อนชื่อธนาคารและประเทศ เช่น ข้อมูลจาก SWIFT.com อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบข้อมูลกับเว็บไซต์ทางการของธนาคารอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
เพื่อความสะดวก ธนาคารกรุงเทพมักแสดงรหัสอย่างเด่นชัดในหน้าบริการต่างประเทศ และในบางกรณีอาจมีภาพประกอบช่วยให้เห็นตำแหน่งของรหัสได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ครั้งแรก
วิธีการใช้ SWIFT Code ธนาคารกรุงเทพสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ
การใช้รหัส SWIFT เป็นส่วนสำคัญของการทำธุรกรรมข้ามประเทศ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ส่งหรือผู้รับเงิน ความเข้าใจในขั้นตอนจะช่วยให้กระบวนการราบรื่น
การโอนเงินไปต่างประเทศจากธนาคารกรุงเทพ
หากคุณต้องการส่งเงินจากบัญชีของคุณที่ธนาคารกรุงเทพไปยังต่างประเทศ คุณจะต้องใช้รหัส SWIFT ของ **ธนาคารผู้รับ** ไม่ใช่รหัสของธนาคารกรุงเทพเอง ข้อมูลที่ต้องเตรียมมีดังนี้:
– ชื่อผู้รับ (ตรงกับชื่อบัญชี)
– เลขที่บัญชีผู้รับ
– ชื่อธนาคารปลายทาง (เต็ม)
– รหัส SWIFT ของธนาคารผู้รับ
– ที่อยู่ธนาคาร (ในบางกรณี)
คุณสามารถทำรายการได้สองช่องทางหลัก:
– **ที่สาขาธนาคาร**: กรอกแบบฟอร์มโอนเงินระหว่างประเทศพร้อมเอกสารยืนยันตัวตน
– **ผ่านช่องทางดิจิทัล**: ใช้บริการ Bangkok Bank iBanking หรือแอป Bualuang mBanking เพื่อทำรายการได้ทุกที่ทุกเวลา
การรับเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ
หากมีใครต้องการส่งเงินมาให้คุณ คุณต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้ส่ง เพื่อให้เงินมาถึงโดยไม่ติดขัด ข้อมูลที่ต้องแจ้งมีดังนี้:
– ชื่อ-นามสกุลผู้รับ (ตามบัญชีธนาคาร)
– เลขที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ
– ชื่อธนาคาร: Bangkok Bank Public Company Limited
– รหัส SWIFT: **BKKBTHBK**
– ที่อยู่ธนาคาร: สำนักงานใหญ่ 333 ถนนสีลม บางรัก กรุงเทพฯ 10500
การให้ข้อมูลครบถ้วนและถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะแม้แต่ชื่อที่สะกดผิดเพียงตัวอักษรเดียว ก็อาจทำให้เงินไม่สามารถเข้าบัญชีได้ หรือต้องใช้เวลาตรวจสอบนานขึ้น
การโอนเงินผ่าน Bangkok Bank iBanking และ Bualuang mBanking
สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก บริการออนไลน์ของธนาคารกรุงเทพช่วยให้โอนเงินต่างประเทศได้โดยไม่ต้องเดินทางไปสาขา ขั้นตอนมีดังนี้:
1. เข้าสู่ระบบ Bangkok Bank iBanking หรือเปิดแอป Bualuang mBanking
2. เลือกเมนู “โอนเงินต่างประเทศ” หรือ “International Funds Transfer”
3. กรอกข้อมูลผู้รับ เช่น:
– ประเทศปลายทาง
– สกุลเงิน
– จำนวนเงิน
– ชื่อ-นามสกุลผู้รับ
– ที่อยู่ผู้รับ
– ชื่อธนาคารปลายทาง
– รหัส SWIFT ของธนาคารผู้รับ
– เลขที่บัญชีผู้รับ
– เหตุผลการโอน
4. ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด และยืนยันด้วยรหัส OTP
การทำธุรกรรมผ่านออนไลน์สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง (ยกเว้นช่วงปิดปรับปรุงระบบ) แต่ควรตรวจสอบวงเงินทำรายการและค่าธรรมเนียมก่อนเสมอ
ความแตกต่างระหว่าง SWIFT Code, Bank Code และรหัสสาขาของธนาคารกรุงเทพ
หลายคนมักสับสนระหว่างรหัสต่างๆ ที่ดูคล้ายกัน แต่ใช้คนละวัตถุประสงค์ ดังนี้:
– **SWIFT Code (BIC)**: ใช้เฉพาะการโอนเงินระหว่างประเทศ เป็นรหัสสากล 8 หรือ 11 ตัวอักษร เช่น **BKKBTHBK** สำหรับธนาคารกรุงเทพ
– **Bank Code**: รหัส 3 หลักที่ใช้ในระบบการโอนเงินภายในประเทศ เช่น พร้อมเพย์ หรือการโอนผ่านธนาคารในไทย โดยธนาคารกรุงเทพมี Bank Code คือ **002**
– **รหัสสาขา**: ใช้ระบุสาขาของธนาคาร อาจอยู่ในเลขที่บัญชี หรือบางครั้งผนวกกับ SWIFT Code แต่โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้กับการโอนระหว่างประเทศ
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ดูตารางเปรียบเทียบธนาคารชั้นนำในไทย:
| ธนาคาร | ชื่อเต็ม (ภาษาอังกฤษ) | รหัส SWIFT (BIC) | Bank Code (3 หลัก) |
| :——————- | :———————————– | :————— | :—————– |
| ธนาคารกรุงเทพ | Bangkok Bank Public Company Limited | BKKBTHBK | 002 |
| ธนาคารกสิกรไทย | Kasikornbank Public Company Limited | KASITHBK | 004 |
| ธนาคารไทยพาณิชย์ | Siam Commercial Bank Public Company Limited | SICOTHBK | 014 |
| ธนาคารกรุงไทย | Krungthai Bank Public Company Limited | KRTHTHBK | 006 |
| ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | Bank of Ayudhya Public Company Limited | AYUDTHBK | 025 |
การแยกแยะความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้รหัสที่ถูกต้องในบริบทที่เหมาะสม ลดความสับสนและข้อผิดพลาด
ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อการโอนเงินราบรื่น
เพื่อให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศไม่สะดุด มีข้อควรระวังที่ควรรู้:
– **ตรวจสอบข้อมูลซ้ำทุกครั้ง**: ก่อนกดยืนยัน ควรเช็กชื่อผู้รับ เลขที่บัญชี และรหัส SWIFT อีกครั้งอย่างละเอียด ข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เงินตีกลับหรือสูญหาย
– **เข้าใจค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยน**: ค่าธรรมเนียมอาจแบ่งเป็นของธนาคารต้นทาง ธนาคารกลาง และธนาคารปลายทาง อัตราแลกเปลี่ยนก็อาจมีการหักเพิ่ม ควรสอบถามรายละเอียดก่อนทำรายการ
– **ระยะเวลาการโอน**: โดยทั่วไปใช้เวลา 1–5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง ธนาคารที่เกี่ยวข้อง และช่วงเวลาทำการ รวมถึงวันหยุดในแต่ละประเทศ
– **หากเกิดปัญหา ให้ติดต่อธนาคารทันที**: เตรียมเอกสาร เช่น ใบเสร็จ หรือหมายเลขอ้างอิง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้เร็วขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและแนวทางการโอนเงินสามารถดูได้จาก ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
1. รหัส SWIFT ของธนาคารกรุงเทพคืออะไร?
รหัส SWIFT หลักของธนาคารกรุงเทพคือ BKKBTHBK ซึ่งเป็นรหัส 8 ตัวอักษรที่ใช้ในการระบุธนาคารกรุงเทพสำหรับการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
2. ฉันจะหารหัส SWIFT ของธนาคารกรุงเทพได้จากที่ไหน?
คุณสามารถหารหัส SWIFT ของธนาคารกรุงเทพได้จากเว็บไซต์ทางการของธนาคารกรุงเทพ, สมุดบัญชีธนาคาร, ใบแจ้งยอดบัญชี, หรือติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรงผ่านคอลเซ็นเตอร์หรือที่สาขา
3. รหัส SWIFT ของธนาคารกรุงเทพ ใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศอย่างไร?
หากคุณต้องการรับเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ คุณจะต้องแจ้งรหัส SWIFT BKKBTHBK ให้ผู้ส่งทราบพร้อมกับชื่อบัญชี เลขที่บัญชี และชื่อธนาคาร สำหรับการโอนเงินไปต่างประเทศ คุณจะต้องใช้รหัส SWIFT ของธนาคารผู้รับปลายทาง
4. รหัส SWIFT จำเป็นสำหรับการโอนเงินภายในประเทศหรือไม่?
ไม่จำเป็น รหัส SWIFT ใช้สำหรับการทำธุรกรรม ระหว่างประเทศ เท่านั้น สำหรับการโอนเงินภายในประเทศในประเทศไทยจะใช้เพียงแค่เลขที่บัญชีและชื่อธนาคาร หรือ Bank Code 3 หลัก
5. หากไม่มีรหัสสาขา (Branch Code) ฉันจะยังคงใช้ SWIFT Code ของธนาคารกรุงเทพได้หรือไม่?
ได้ รหัส SWIFT BKKBTHBK ซึ่งเป็นรหัส 8 ตัวอักษรของสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ก็เพียงพอสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศส่วนใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องระบุรหัสสาขาเพิ่มเติม เว้นแต่จะมีข้อกำหนดเฉพาะเจาะจงจากธนาคารผู้ส่ง
6. รหัส SWIFT แตกต่างจาก Bank Code (รหัสธนาคาร 3 หลัก) อย่างไร?
รหัส SWIFT เป็นรหัสสากล 8-11 ตัวอักษร ใช้สำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศ ในขณะที่ Bank Code เป็นรหัส 3 หลักที่ใช้ในการระบุธนาคารสำหรับการทำธุรกรรมภายในประเทศไทยเท่านั้น ตัวอย่างเช่น Bank Code ของธนาคารกรุงเทพคือ 002
7. การโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน SWIFT Code ของธนาคารกรุงเทพมีค่าธรรมเนียมเท่าไร?
ค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศจะแตกต่างกันไปตามจำนวนเงิน สกุลเงิน และปลายทาง รวมถึงนโยบายของธนาคารกรุงเทพและธนาคารตัวกลางที่เกี่ยวข้อง ควรตรวจสอบรายละเอียดค่าธรรมเนียมล่าสุดได้จากเว็บไซต์ของธนาคารกรุงเทพหรือสอบถามเจ้าหน้าที่โดยตรง
8. หากฉันกรอกรหัส SWIFT ผิดพลาด จะเกิดอะไรขึ้น?
หากกรอกรหัส SWIFT ผิดพลาด เงินอาจโอนล่าช้า ถูกตีกลับ หรือในบางกรณีอาจโอนไปยังธนาคารที่ไม่ถูกต้องได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการติดตามและแก้ไข ควรตรวจสอบความถูกต้องก่อนยืนยันการทำรายการเสมอ
9. การโอนเงินระหว่างประเทศด้วย SWIFT Code ธนาคารกรุงเทพใช้เวลานานเท่าไหร่?
โดยทั่วไป การโอนเงินระหว่างประเทศผ่านระบบ SWIFT อาจใช้เวลาประมาณ 1-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเทศปลายทาง, นโยบายของธนาคารที่เกี่ยวข้อง, และช่วงเวลาทำการ
10. รหัส SWIFT ของธนาคารกรุงเทพมีรหัสเดียวหรือแตกต่างกันไปตามแต่ละสาขา?
สำหรับธนาคารกรุงเทพ รหัส SWIFT หลักคือ BKKBTHBK ซึ่งเป็นรหัสของสำนักงานใหญ่และสามารถใช้สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศส่วนใหญ่ได้ โดยไม่จำเป็นต้องระบุรหัสสาขาเพิ่มเติม เว้นแต่จะมีข้อกำหนดเฉพาะเจาะจงสำหรับสาขาที่แตกต่างกัน