บทนำ: Non-Farm Payrolls คืออะไร? ทำไมเทรดเดอร์ถึงให้ความสำคัญ?

ทุกวันศุกร์แรกของเดือน ตลาดการเงินทั่วโลกมักจะหยุดหายใจชั่วขณะเมื่อถึงเวลาประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่เรียกว่า “Non-Farm Payrolls” หรือที่นักเทรดในประเทศไทยมักเรียกกันสั้นๆ ว่า “นอนฟาร์ม” ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลเพียงชิ้นหนึ่ง แต่เป็นหนึ่งในเครื่องมือวัดภาวะเศรษฐกิจที่ทรงพลังที่สุดของสหรัฐอเมริกา ที่สามารถเปลี่ยนทิศทางของค่าเงิน หุ้น และราคาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำได้ภายในไม่กี่วินาที การเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงของตลาดในช่วงเวลานี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากความเชื่อมโยงลึกซึ้งระหว่างตัวเลขการจ้างงาน กับนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งมีผลต่อการไหลเวียนของเงินทุนทั่วโลก
สำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ การเข้าใจ NFP ไม่ใช่แค่การจำนิยามพื้นฐาน แต่คือการอ่านเกมเศรษฐกิจในระดับมหภาค เข้าใจว่าตัวเลขแต่ละตัวสื่ออะไร และสามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้ก่อนที่ราคาจะขยับ บทความนี้จะพาคุณล้วงลึกทุกมิติของ Non-Farm Payrolls ตั้งแต่ความหมาย กลไกการทำงาน ผลกระทบต่อสินทรัพย์หลักอย่างดอลลาร์และทองคำ ไปจนถึงช่วงเวลาประกาศ การตีความข้อมูลอย่างมืออาชีพ และกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่จำเป็นสำหรับทั้งมือใหม่และมือเก่า เพื่อให้คุณสามารถใช้ข้อมูลสำคัญนี้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจลงทุนได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Non-Farm Payrolls คืออะไร? เจาะลึกคำจำกัดความและสิ่งที่ NFP วัดผล

Non-Farm Payrolls หรือ NFP คือ รายงานสถิติการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (Bureau of Labor Statistics – BLS) และเผยแพร่ทุกวันศุกร์แรกของเดือน ข้อมูลนี้ถูกมองว่าเป็นดัชนีชี้วัดตลาดแรงงานที่แม่นยำที่สุด เพราะสะท้อนภาพรวมของภาคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนการเติบโตหลักๆ ของประเทศ ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรม การบริการ การก่อสร้าง การค้าปลีก และเทคโนโลยี แต่ไม่รวมการจ้างงานในภาคเกษตรกรรม ข้าราชการ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และเจ้าของธุรกิจส่วนตัว เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้มีความผันผวนสูงหรือไม่สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมอย่างชัดเจน
รายงาน NFP ประกอบด้วยชุดข้อมูลสำคัญ 3 ส่วนหลักที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิด:
- จำนวนการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Employment Change): ตัวเลขนี้แสดงถึงจำนวนตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หากตัวเลขออกมาในเชิงบวกและสูง บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังขยายตัว มีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น
- อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate): บ่งบอกสัดส่วนของประชากรแรงงานที่กำลังมองหางานแต่ยังไม่ได้งาน ค่าที่ต่ำลงมักสะท้อนถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง แต่หากต่ำเกินไปก็อาจบ่งชี้ถึงความเสี่ยงเงินเฟ้อได้เช่นกัน
- ค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ย (Average Hourly Earnings): แสดงอัตราการเปลี่ยนแปลงของค่าแรงที่นายจ้างจ่ายให้กับพนักงาน ข้อมูลนี้ถูกจับตามองเป็นพิเศษในฐานะตัวชี้วัดเงินเฟ้อ หากค่าจ้างเพิ่มขึ้นเร็ว อาจส่งสัญญาณว่าต้นทุนแรงงานกำลังขยับตัว ส่งผลให้สินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้นในอนาคต
การวิเคราะห์ข้อมูลทั้งสามนี้ร่วมกันจะช่วยให้เห็นภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นแต่ค่าแรงไม่ขยับ หรือการว่างงานต่ำแต่ค่าจ้างพุ่งสูง ก็ล้วนสื่อความหมายที่แตกต่างกันและส่งผลต่อทิศทางของนโยบายการเงินในระยะต่อไป
ทำไม Non-Farm Payrolls ถึงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลก

เหตุผลที่ NFP ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามไม่ใช่แค่เพราะมันมาจากสหรัฐอเมริกา แต่เพราะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ คือเครื่องยนต์หลักของระบบเศรษฐกิจโลก ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินสำรองของโลก และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เป็นหน่วยงานที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลก
ประการแรก NFP เป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจชั้นนำ (Leading Indicator) ที่ให้ภาพสะท้อนแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสุขภาพของเศรษฐกิจ ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งหมายถึงประชาชนมีรายได้ มีกำลังซื้อ และใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้ภาคบริการและอุตสาหกรรมเติบโต ซึ่งเป็นวงจรเศรษฐกิจในเชิงบวก ในทางกลับกัน ข้อมูลที่อ่อนแออาจเป็นสัญญาณเตือนภัยของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังมาเยือน
ประการที่สอง NFP เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ Fed ใช้ประกอบการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการควบคุมเศรษฐกิจ หากตัวเลข NFP ออกมาแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อค่าจ้างเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Fed อาจกังวลว่าเศรษฐกิจจะร้อนแรงเกินไปและเกิดเงินเฟ้อพุ่ง จึงอาจตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อ “เหยียบเบรก” เศรษฐกิจ ตรงกันข้าม หาก NFP อ่อนแอ Fed อาจเลือกที่จะลดอัตราดอกเบี้ยหรือคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่าย
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลโดยตรงต่อกระแสเงินทุนระดับโลก เงินทุนจะไหลเข้าประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ดังนั้นเมื่อสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ย เงินจะไหลเข้าสู่ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าส่งออก หนี้สินในสกุลเงินดอลลาร์ของประเทศเกิดใหม่ และทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก นอกจากนี้ ความมั่นใจของผู้บริโภคที่สะท้อนจาก NFP ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่พึ่งพาการบริโภคภายในประเทศมากกว่า 70% การมีงานทำและรายได้ที่มั่นคงจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจหมุนต่อไปได้
ผลกระทบของ Non-Farm Payrolls ต่อตลาด Forex
ไม่มีช่วงเวลาใดในรอบเดือนที่ทำให้คู่เงินหลักในตลาด Forex เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงเท่ากับช่วงที่มีการประกาศ NFP ความผันผวนมักจะสูงขึ้นหลายเท่าในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยเฉพาะกับคู่เงินที่มีดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นส่วนประกอบ เช่น EUR/USD, USD/JPY และ GBP/USD เพราะนักลงทุนต่างเร่งปรับพอร์ตตามทิศทางใหม่ที่คาดการณ์จากข้อมูลที่เพิ่งประกาศ
ตัวเลข NFP ที่ดีกว่าคาด ส่งผลอย่างไรต่อค่าเงินดอลลาร์
เมื่อตัวเลข NFP ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เช่น การจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง ในขณะที่คาดไว้เพียง 150,000 หรืออัตราการว่างงานลดลงต่ำกว่า 3.5% ตลาดจะตีความว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สิ่งนี้เพิ่มความคาดหวังว่า Fed จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นหรือนานขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ผลที่ตามมาคือ นักลงทุนต่างชาติจะหันมาซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเป็นดอลลาร์ เช่น พันธบัตรสหรัฐฯ มากขึ้น เพื่อรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการดอลลาร์เพิ่มสูงขึ้น และทำให้ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทันที ตัวอย่างเช่น คู่เงิน EUR/USD มักจะดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ USD/JPY มีแนวโน้มพุ่งขึ้น การเคลื่อนไหวเหล่านี้อาจเกิดขึ้นภายใน 5-10 นาทีแรกหลังประกาศ และบางครั้งก็มีการแกว่งตัวมากกว่า 100-200 pip
ตัวเลข NFP ที่แย่กว่าคาด ส่งผลอย่างไรต่อค่าเงินดอลลาร์
ในทางกลับกัน หาก NFP ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ เช่น การจ้างงานเพิ่มเพียง 50,000 ตำแหน่ง ทั้งที่คาดไว้ 150,000 หรืออัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 3.7% เป็น 3.9% ตลาดจะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเริ่มชะลอตัว ความกังวลเรื่องการเติบโตจะเพิ่มขึ้น และความคาดหวังเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะลดลง
ในสถานการณ์นี้ นักลงทุนจะเริ่มลดความเสี่ยง (Risk-off) และอาจถอนเงินออกจากสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์ ส่งผลให้ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง อย่างรวดเร็ว คู่เงินอย่าง EUR/USD จะดีดตัวขึ้น ขณะที่ USD/JPY มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะหากตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า Fed อาจต้อง “ผ่อนคลาย” นโยบายเร็วกว่าที่คิด ความผันผวนในกรณีนี้มักจะรุนแรงไม่แพ้กัน และอาจนำไปสู่การพลิกกลับแนวโน้มของสกุลเงินในช่วงสั้นได้
ผลกระทบของ Non-Farm Payrolls ต่อราคาทองคำ
ราคาทองคำมีความสัมพันธ์เชิงกลับกับทั้งค่าเงินดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ย ทำให้ NFP มีอิทธิพลทางอ้อมแต่รุนแรงต่อราคาสินทรัพย์ปลอดภัยชนิดนี้
NFP กับทองคำ: ความสัมพันธ์ที่ต้องจับตา
- NFP แข็งแกร่ง: เมื่อ NFP ออกมาดี ดอลลาร์แข็งค่า และความคาดหวังเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการถือครองทองคำ (ซึ่งไม่จ่ายดอกเบี้ย) สูงขึ้น นักลงทุนจะหันไปสนใจสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนแทน ทำให้ ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจที่ดีขึ้นยังลดความต้องการทองคำในฐานะ “ที่หลบภัย”
- NFP อ่อนแอ: เมื่อ NFP ออกมาไม่ดี ดอลลาร์อ่อนค่า และความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยหรือการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทองคำน่าสนใจมากขึ้น เพราะต้นทุนการถือครองลดลง อีกทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้นักลงทุนแสวงหาสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ที่ใช้สกุลเงินอื่น กระตุ้นความต้องการในตลาดโลก
ความผันผวนของทองคำในช่วง NFP มักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และบางครั้งสามารถเคลื่อนไหวมากกว่า 20-30 เหรียญดอลลาร์ต่อออนซ์ในชั่วพริบตา นักเทรดทองคำจึงจำเป็นต้องติดตามข้อมูลนี้อย่างใกล้ชิดและมีแผนรับมือที่ชัดเจน
วันและเวลาประกาศ Non-Farm Payrolls: สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องรู้
การวางแผนการเทรดให้ทันกับช่วงเวลาประกาศ NFP เป็นกุญแจสำคัญ นักเทรดควรจดจำรูปแบบการประกาศเป็นประจำ
วันประกาศ: ทุกวันศุกร์แรกของเดือน โดยข้อมูลที่ประกาศคือข้อมูลของเดือนก่อนหน้า เช่น NFP ที่ประกาศในวันศุกร์แรกของเดือนตุลาคม จะเป็นข้อมูลการจ้างงานของเดือนกันยายน
เวลาประกาศ:
- ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน (DST): 20:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
- ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม (Standard Time): 21:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
แม้ว่าเวลาจะค่อนข้างแน่นอน แต่การตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนวันประกาศทุกครั้งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
แหล่งข้อมูลที่ควรติดตาม:
การรู้ล่วงหน้าช่วยให้คุณสามารถประเมินความเสี่ยง ตัดสินใจว่าจะปิดออร์เดอร์ก่อนหน้า หลีกเลี่ยงการเทรด หรือเตรียมกลยุทธ์เฉพาะสำหรับช่วงเวลานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการตีความรายงาน Non-Farm Payrolls เพื่อการตัดสินใจเทรด
การอ่านรายงาน NFP ไม่ใช่แค่ดูตัวเลขแล้วคาดเดาทิศทาง แต่คือการวิเคราะห์เชิงลึกหลายมิติ
การเปรียบเทียบตัวเลขจริงกับตัวเลขคาดการณ์
หัวใจของการตีความคือการเปรียบเทียบสามสิ่ง:
- ตัวเลขจริง (Actual) เทียบกับ ตัวเลขคาดการณ์ (Forecast)
- และเทียบกับ ตัวเลขเดือนก่อน (Previous)
- Positive Surprise: ตัวเลขการจ้างงานจริงสูงกว่าคาดอย่างชัดเจน หรืออัตราการว่างงานต่ำกว่าคาด → สัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ → ดอลลาร์แข็งค่า ทองคำลง
- Negative Surprise: ตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาดมาก หรือว่างงานเพิ่ม → สัญญาณลบ → ดอลลาร์อ่อน ทองคำขึ้น
- No Surprise: ตัวเลขใกล้เคียงคาด → ตลาดอาจเคลื่อนไหวน้อย หรือเคลื่อนตามสัญญาณอื่น
นอกจากนี้ อย่าลืมพิจารณา:
- การปรับตัวเลขเดือนก่อน (Revisions): หากตัวเลขเดือนก่อนถูกปรับเพิ่มขึ้น แสดงว่าภาพรวมแข็งแกร่งกว่าที่คิด แม้ตัวเลขล่าสุดจะไม่โดดเด่น
- ค่าจ้างรายชั่วโมง (Average Hourly Earnings): ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเร็ว แม้การจ้างงานไม่สูง ก็อาจบ่งชี้แรงกดดันเงินเฟ้อ ทำให้ Fed ต้องตึงเครียด และหนุนดอลลาร์ได้
การวิเคราะห์แบบองค์รวมนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ “แรงขับเคลื่อนที่แท้จริง” หลังตัวเลข และตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้น
กลยุทธ์การเทรดในช่วง Non-Farm Payrolls และข้อควรระวัง
การเทรดช่วง NFP เป็นเหมือนการเดินบนเส้นมีด—มีโอกาสทำกำไรก้อนโต แต่ก็มีความเสี่ยงสูญเสียสูงเช่นกัน
ข้อผิดพลาดที่เทรดเดอร์มือใหม่มักทำ
- เข้าเทรดแบบไม่มีแผน: ตื่นเต้นกับความผันผวน ซื้อขายตามอารมณ์
- ไม่ตั้ง Stop Loss: ความผิดพลาดที่อาจทำให้บัญชีล้างได้ในพริบตา
- ใช้เลเวอเรจสูงเกินไป: ยิ่งเพิ่มโอกาสขาดทุนหนัก
- พยายามจับจุดกลับตัวทันที: การสวนเทรนด์หลังประกาศ NFP มักจบไม่สวย
- เปิดออร์เดอร์ก่อนประกาศ: การทายผลล่วงหน้าเป็นการพนัน ไม่ใช่การเทรด
การจัดการความเสี่ยงเฉพาะช่วง NFP
- ตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง: กำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ลดขนาด Lot: ลดความเสียหายหากตลาดเคลื่อนไหวรุนแรง
- รอให้ตลาดสงบ: หลายมืออาชีพรอ 15-30 นาที เพื่อดูทิศทางที่ชัดเจน
- ระวัง Spread และ Slippage: ช่วงประกาศ Spread มักพุ่ง และคำสั่งอาจเติมไม่ตรงราคา
- ใช้บัญชี Demo ฝึกฝน: ทดลองกลยุทธ์ก่อนใช้เงินจริง
สำหรับผู้เริ่มต้น การสังเกตตลาดใน 30 นาทีแรกโดยไม่เข้าเทรด อาจเป็นวิธีเรียนรู้ที่ปลอดภัยที่สุด
บทสรุป: Non-Farm Payrolls เครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุน
Non-Farm Payrolls ไม่ใช่แค่ตัวเลขสถิติ แต่คือกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนสุขภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ และชี้นำทิศทางของนโยบายการเงินโลก ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งใน NFP จะช่วยให้คุณอ่านเกมตลาดได้แม่นยำขึ้น ไม่ว่าคุณจะเทรด Forex ทองคำ หรือลงทุนในสินทรัพย์ใดก็ตาม
การตีความข้อมูลอย่างรอบด้าน การวางแผนกลยุทธ์ล่วงหน้า และการจัดการความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด—โดยเฉพาะการตั้งจุดตัดขาดทุนและควบคุมขนาดการเทรด—คือองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้คุณไม่เพียงแค่อยู่รอด แต่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดทั่วไป และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ NFP กลายเป็นเครื่องมือทรงพลังในมือคุณ แทนที่จะเป็นกับดักที่ทำให้สูญเสีย
Non-Farm Payrolls คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อตลาดการเงิน?
Non-Farm Payrolls (NFP) คือ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่ประกาศโดยสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) ทุกวันศุกร์แรกของเดือน รายงานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะสะท้อนถึงสุขภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้เกิดความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาด Forex, ทองคำ และตลาดหุ้นทั่วโลก
ตัวเลข Non-Farm Payrolls ประกาศเมื่อไหร่และเวลาเท่าไหร่ตามเวลาประเทศไทย?
NFP จะประกาศในวันศุกร์แรกของทุกเดือน โดยจะประกาศเวลา 20:30 น. ตามเวลาประเทศไทยในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ (มีนาคม-พฤศจิกายน) และเวลา 21:30 น. ตามเวลาประเทศไทยในช่วงฤดูหนาวของสหรัฐฯ (พฤศจิกายน-มีนาคม) ควรตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจเพื่อความถูกต้อง
Non-Farm Payrolls ที่ดีกว่าคาดหรือแย่กว่าคาด ส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำอย่างไร?
- **ดีกว่าคาด:** บ่งชี้เศรษฐกิจแข็งแกร่ง หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และราคาทองคำมักจะลดลง
- **แย่กว่าคาด:** บ่งชี้เศรษฐกิจอ่อนแอ กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และราคาทองคำมักจะเพิ่มขึ้น
เทรดเดอร์ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนและระหว่างการประกาศ Non-Farm Payrolls?
เทรดเดอร์ควรวางแผนกลยุทธ์ล่วงหน้า, กำหนดจุด Stop Loss เสมอ, พิจารณาลดขนาด Position ลง, และหลีกเลี่ยงการเทรดทันทีหลังประกาศ หากยังไม่คุ้นเคยกับความผันผวนสูง ควรใช้บัญชี Demo ในการฝึกฝนก่อน
มีข้อผิดพลาดอะไรบ้างที่เทรดเดอร์มักทำในช่วง Non-Farm Payrolls ที่ควรหลีกเลี่ยง?
- Overtrading หรือเข้าเทรดโดยไม่มีแผน
- ไม่ตั้ง Stop Loss
- ใช้ Leverage สูงเกินไป
- เทรดสวนแนวโน้มโดยไม่มีเหตุผล
- คาดการณ์ล่วงหน้าโดยการเปิดออร์เดอร์ก่อนประกาศ
นอกจากจำนวนตำแหน่งงานแล้ว ควรพิจารณาตัวชี้วัดใดอีกบ้างในรายงาน NFP?
ควรพิจารณาอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) และค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ย (Average Hourly Earnings) ร่วมด้วย เพราะเป็นตัวบ่งชี้ถึงสุขภาพตลาดแรงงานและแรงกดดันเงินเฟ้อที่สำคัญ
จะหาข้อมูลวิเคราะห์และแนวโน้ม Non-Farm Payrolls ล่าสุดได้จากแหล่งใด?
สามารถติดตามได้จากปฏิทินเศรษฐกิจของเว็บไซต์เช่น Investing.com, Forex Factory หรือรายงานอย่างเป็นทางการจาก สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS)
Non-Farm Payrolls แตกต่างจากการจ้างงานภาคเกษตรอย่างไร?
Non-Farm Payrolls ไม่รวมการจ้างงานในภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีความผันผวนตามฤดูกาลสูงและไม่สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจโดยรวมได้อย่างแม่นยำเท่าภาคส่วนอื่นๆ ที่ NFP ครอบคลุม
การเทรดในช่วง Non-Farm Payrolls มีความเสี่ยงสูงหรือไม่ และควรจัดการความเสี่ยงอย่างไร?
มีความเสี่ยงสูงมากเนื่องจากความผันผวนรุนแรง ควรจัดการความเสี่ยงด้วยการตั้ง Stop Loss เสมอ, ลดขนาด Position, และพิจารณารอให้ตลาดสงบก่อนเข้าเทรดเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนที่รุนแรงในช่วงแรก
Non-Farm Payrolls มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อย่างไร?
NFP เป็นข้อมูลสำคัญที่ Fed ใช้ประเมินสุขภาพตลาดแรงงานและแรงกดดันเงินเฟ้อ หาก NFP แข็งแกร่งมาก อาจทำให้ Fed พิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่หากอ่อนแอ อาจทำให้ Fed คงอัตราดอกเบี้ยหรือพิจารณาลดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ