โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดในไทย 2025: เทรดปลอดภัย กำไรมั่นคง
ในโลกของการลงทุนที่หมุนเวียนเร็วและไม่เคยหยุดนิ่ง ตลาด Forex หรือการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ยังคงยืนหนึ่งในตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด และดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่มนักเทรดชาวไทยที่เริ่มหันมาให้ความสนใจเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้มาแค่จากเทคนิคการวิเคราะห์หรือความรวดเร็วในการตัดสินใจเท่านั้น แต่เริ่มต้นจากการเลือกตัวช่วยที่ดีที่สุด — นั่นคือ “โบรกเกอร์ Forex” ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของทุกการลงทุน บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกเกณฑ์การคัดเลือกโบรกเกอร์ชั้นนำในปี 2025 และแนะนำ Moneta Markets ในฐานะตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับนักลงทุนชาวไทย

Moneta Markets: ตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับเทรดเดอร์ไทยในยุคดิจิทัล
สำหรับผู้เริ่มต้นหรือแม้แต่นักเทรดมืออาชีพในประเทศไทย การมีโบรกเกอร์ที่เข้าใจความต้องการเฉพาะกลุ่ม ทั้งด้านภาษา การสนับสนุนด้านเทคนิค และความปลอดภัยของเงินทุน คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ Moneta Markets คือหนึ่งในบริษัทที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ จากความโดดเด่นในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นระบบการกำกับดูแลระดับสากล ต้นทุนการเทรดที่ประหยัด หรือแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายและทันสมัย
- การกำกับดูแลระดับโลก วางใจได้ทุกขั้นตอน: จุดแข็งที่สุดของ Moneta Markets คือการอยู่ภายใต้การดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำระดับ Tier-1 อย่าง Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร ผ่านการเข้าซื้อกิจการของ VIBHS Financial Limited ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ยังมีการกำกับดูแลโดย Australian Securities & Investments Commission (ASIC) ผ่าน Moneta Markets International Pty Ltd และ Financial Sector Conduct Authority (FSCA) ของแอฟริกาใต้ ช่วยยืนยันความโปร่งใส และมาตรฐานสูงในการดำเนินงาน การแยกกองทุนลูกค้า (Client Fund Segregation) ยังรับประกันว่าเงินของคุณจะไม่ถูกนำไปใช้ในกิจกรรมอื่นใดของบริษัท คุณสามารถตรวจสอบความถูกต้องของใบอนุญาตได้ที่ เว็บไซต์ FCA และ เว็บไซต์ ASIC
- สเปรดต่ำ ค่าคอมมิชชันยุติธรรม: สำหรับเทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับต้นทุนการเทรด คุณจะได้เปรียบเมื่อใช้งานบัญชี ECN ที่ Moneta Markets เสนอสเปรดเริ่มต้นเพียง 0.0 pips โดยเฉพาะกับคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD หรือ GBP/USD เหมาะอย่างยิ่งกับกลยุทธ์ Scalping หรือการซื้อขายความถี่สูง แม้จะมีค่าคอมมิชชัน $3 ต่อล็อตต่อข้างในบัญชี Prime ECN แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพของบริการแล้ว ถือว่าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้สูง นอกจากนี้ ไม่มีค่า Swap สำหรับการถือสถานะข้ามคืนในทองคำและคริปโตเคอร์เรนซี ช่วยลดต้นทุนการถือครองในระยะยาว
- แพลตฟอร์มครบครัน ตอบโจทย์ทุกสไตล์การเทรด: ไม่ว่าคุณจะเปิดคำสั่งผ่านคอมพิวเตอร์หรือมือถือ Moneta Markets สนับสนุนทุกระบบ ทั้ง MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่นิยมมากที่สุดในโลก พร้อมด้วย ProTrader — แพลตฟอร์มเชิงลึกที่ขับเคลื่อนโดย TradingView ให้คุณวิเคราะห์กราฟได้อย่างละเอียด มีดัชนีและเครื่องมือการวาดกราฟครบครัน อีกทั้งยังมี AppTrader สำหรับการเทรดมือถือที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่สะดุด และไม่ล่าช้า รวมถึงแอป CopyTrader ที่ช่วยให้คุณคัดลอกการซื้อขายจากเทรดเดอร์ประสบการณ์สูงได้แบบเรียลไทม์ (Social Trading) เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ
- สินทรัพย์ให้เลือกมากกว่า 1,000 รายการ: ความหลากหลายของเครื่องมือการลงทุนเปิดโอกาสให้คุณกระจายความเสี่ยงและคว้ากำไรจากหลายตลาด ทั้งคู่สกุลเงิน Forex, หุ้น CFD จากบริษัทชั้นนำอย่าง Apple, Tesla, Amazon, ดัชนีโลก (เช่น S&P500, FTSE100), สินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน, ข้าวโพด), โลหะมีค่า (ทองคำ, เงิน) คริปโตเคอร์เรนซี (Bitcoin, Ethereum), ETF และพันธบัตร ทำให้นักเทรดสามารถปรับพอร์ตตามสถานการณ์เศรษฐกิจหรือแนวโน้มตลาดได้อย่างยืดหยุ่น
- เลเวอเรจ 1:1000 และการป้องกันยอดติดลบ: สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มอำนาจการซื้อขาย เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 สำหรับสกุลเงิน, ดัชนี และโลหะ ช่วยให้คุณสามารถลงทุนด้วยเงินทุนเริ่มต้นน้อยแต่ยังคงผลตอบแทนสูง อย่างไรก็ตาม ระบบ Negative Balance Protection ยังคงทำงานอยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าหากตลาดผันผวนรุนแรง คุณจะไม่ขาดทุนเกินกว่าเงินที่ฝากไว้ ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของตลาด
- ฝาก-ถอน ง่าย รวดเร็ว ฟรีค่าธรรมเนียม: Moneta Markets เข้าใจความต้องการของนักลงทุนไทย จึงรองรับช่องทางการเงินหลากหลาย ทั้งการโอนผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต/เดบิต, E-wallets (เช่น Skrill, Neteller), และการชำระด้วยคริปโตเคอร์เรนซี โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก เงินเข้าบัญชีเร็วภายในไม่กี่นาที ส่วนการถอนเงินผ่านธนาคารจะฟรี 1 ครั้งต่อเดือน กรณีทำเกินอาจมีค่าธรรมเนียม $20 แต่มีการดำเนินการโดยรวดเร็วทันใจ ช่วยให้คุณควบคุมการเงินได้อย่างยืดหยุ่น

ตัวชี้วัดสำคัญ ในการเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ปลอดภัยสำหรับนักเทรดไทย
การเลือกโบรกเกอร์ไม่ใช่แค่ดูจากโปรโมชั่นหรือเลเวอเรจสูง ๆ เท่านั้น แต่ต้องอาศัยการประเมินปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังลงทุนกับสถาบันที่เชื่อถือได้และเหมาะกับสไตล์ของคุณ
การกำกับดูแลจากหน่วยงานรัฐ (Regulation)
แม้ในประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับ Forex สำหรับประชาชนทั่วไป การเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับสากลก็เป็นตัวช่วยสำคัญในการประเมินความน่าเชื่อถือ หน่วยงานอย่าง FCA (สหราชอาณาจักร), ASIC (ออสเตรเลีย), CySEC (ไซปรัส) และ FSCA (แอฟริกาใต้) มีกระบวนการประเมินที่เข้มงวด ทั้งด้านการเงิน การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการแยกกองทุนลูกค้า ความโปร่งใสเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเงินทุนของคุณจะปลอดภัยแม้ในสถานการณ์วิกฤต
ต้นทุนการเทรด: ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชัน
ต้นทุนคือสิ่งที่กินกำไรระยะยาว โบรกเกอร์ที่ดีควรเสนอสเปรดต่ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับคู่เงินหลักที่มีสภาพคล่องสูง หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ซื้อขายบ่อย บัญชี ECN ที่มีสเปรดต่ำแต่คิดค่าคอมมิชชันต่อล็อต จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าบัญชีแบบ STP ที่มีสเปรดกว้างกว่า การเปรียบเทียบทั้งสเปรดเฉลี่ย ค่าคอมมิชชัน และค่าธรรมเนียมแฝงต่าง ๆ จึงช่วยให้คุณคำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำ
ประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มการซื้อขาย
แพลตฟอร์มคือเครื่องมือหลักในการปฏิบัติงาน การเชื่อมต่อช้า กดสั่งคำสั่งแล้วล่าช้า หรือกราฟดีเลย์ แม้เพียงไม่กี่วินาที ก็อาจทำให้คุณเสียโอกาสหรือขาดทุนได้ ควรมองหาโบรกเกอร์ที่สนับสนุน MT4/MT5 ซึ่งมีผู้ใช้งานนับล้านทั่วโลก และมีระบบรับคำสั่งที่เสถียร นอกจากนี้ แพลตฟอร์มที่ทันสมัยอย่าง ProTrader หรือแอปมือถือที่ออกแบบมาดี ก็ช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพึ่งคอมพิวเตอร์
ความเร็วและช่องทางการเงิน
ความคล่องตัวในการจัดการเงินทุนคือหัวใจของการเทรด โบรกเกอร์ที่ดีควรรองรับการฝากถอนผ่านช่องทางยอดนิยมในประเทศไทย เช่น การโอนผ่านธนาคารท้องถิ่น, PromptPay หรือ E-wallet ที่คนไทยนิยมใช้ หากคุณต้องการถอนเงินเร็ว ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีระบบการยืนยันตัวตน (KYC) ง่าย ไม่ยุ่งยาก และดำเนินการถอนเงินได้ภายใน 24 ชั่วโมง
ความหลากหลายของสินทรัพย์
นักลงทุนที่ชาญฉลาดจะไม่พึ่งพิงตลาดเดียว การมีทางเลือกในหลายสินทรัพย์ เช่น หุ้น ดัชนี สินค้า หรือคริปโต ช่วยให้คุณปรับพอร์ตตามสถานการณ์ เช่น เมื่อสกุลเงินอ่อนค่า คุณอาจหันไปซื้อทองคำหรือหุ้นเทคโนโลยี การกระจายความเสี่ยงช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนแม้ในช่วงตลาดผันผวน
การบริการลูกค้า และการสนับสนุนภาษาไทย
ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่จะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าที่เข้าใจภาษาแม่ของคุณ หลายครั้งที่นักเทรดมือใหม่เกิดข้อผิดพลาดหรือมีปัญหาทางเทคนิค และการได้รับความช่วยเหลือจากทีมงานที่พูดภาษาไทยได้ จะช่วยลดความเครียดและแก้ปัญหาได้เร็วกว่ามาก ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีทีมสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง และมีช่องทางติดต่อหลากหลาย เช่น แชทสด อีเมล หรือโทรศัพท์
เลเวอเรจและเงินฝากขั้นต่ำ
เลเวอเรจคือดาบสองคม ช่วยเพิ่มผลตอบแทนแต่ก็เพิ่มความเสี่ยง หากใช้ไม่ระวังอาจทำให้พอร์ตล้างได้ในไม่กี่วินาที ควรเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสมกับสไตล์และประสบการณ์ของคุณ เช่น มือใหม่อาจเริ่มที่ 1:100 หรือ 1:200 เงินฝากขั้นต่ำที่ไม่สูงเกินไป เช่น $50 หรือ $100 ก็ช่วยให้มือใหม่สามารถทดลองระบบและเรียนรู้โดยไม่ต้องเสี่ยงมากเกินไป
เปรียบเทียบโบรกเกอร์ยอดนิยมในไทย: Moneta Markets กับผู้เล่นรายอื่น
นอกจาก Moneta Markets แล้ว ก็มีโบรกเกอร์อีกหลายรายที่เป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนไทย แต่ละรายมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน ดังนี้:
- Exness: โดดเด่นเรื่องเลเวอเรจไม่จำกัด (ในบางประเภทบัญชี) และการฝากถอนที่รวดเร็ว โดยเฉพาะการรองรับธนาคารในประเทศไทยอย่างละเอียด จึงเหมาะกับผู้ที่เน้นความคล่องตัว
- XM: ขึ้นชื่อเรื่องโปรโมชั่นสำหรับสมาชิกใหม่ โบนัสเงินฝาก และกิจกรรมการเรียนรู้เชิงลึก เช่น สัมมนาออนไลน์ คู่มือและวิดีโอบทเรียน จึงเหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการพัฒนาทักษะ
- FBS: เน้นกลุ่มนักลงทุนรายย่อยด้วยบัญชี Cent ที่เปิดตัวด้วยเงินขั้นต่ำเพียง $1 ทำให้ผู้ที่มีทุนจำกัดสามารถทดลองระบบได้อย่างสบายใจ พร้อมกิจกรรมแจกโบนัสบ่อยครั้ง
- Pepperstone: มุ่งเน้นนักเทรดมืออาชีพ ด้วยสเปรดต่ำมากและการดำเนินคำสั่งที่เร็วสุด ๆ โดยเฉพาะในบัญชี Razor ที่มีสเปรดเฉลี่ยต่ำกว่า 0.1 pips เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสภาพคล่องระดับสถาบัน
- IC Markets: เป็นที่รู้จักในวงการด้วยบัญชี Raw Spread ที่มีต้นทุนต่ำ และระบบตรงไปยังตลาดจริง (Straight-Through Processing) เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้นปริมาณสูงและต้องการความเร็ว
เมื่อเทียบในภาพรวม Moneta Markets โดดเด่นด้วยการควบคู่ระหว่างความน่าเชื่อถือระดับโลก การกำกับดูแลจาก FCA และ ASIC ที่มีความเข้มงวดสูง รวมถึงสเปรด ECN ที่ต่ำถึง 0.0 pips และแพลตฟอร์ม ProTrader ที่ขับเคลื่อนด้วย TradingView ซึ่งช่วยให้การวิเคราะห์กราฟทำได้อย่างล้ำลึก เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ผสมผสานระหว่างความปลอดภัย ความเร็ว และประสิทธิภาพอย่างลงตัว จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน
ระวัง! โบรกเกอร์ปลอมมีอยู่จริง — สังเกตสัญญาณเหล่านี้
ตลาด Forex มีโอกาสสูง แต่ก็แฝงด้วยความเสี่ยงจากการถูกหลอก หากคุณพบโบรกเกอร์ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง:
- ไม่มีใบอนุญาตชัดเจน: หรืออ้างว่ามีการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่ไม่เป็นที่รู้จัก หรือใช้ชื่อคล้ายกับหน่วยงานจริงเพื่อหลอกลวง
- สัญญาว่าจะได้กำไรแน่นอน: การันตีผลตอบแทนสูง เช่น “ได้ร้อยละ 30 ต่อเดือน” หรือ “เทรดง่าย ไม่มีขาดทุน” — ซึ่งขัดกับหลักการลงทุนที่ต้องมีความเสี่ยงเสมอ
- เร่งรัดให้ฝากเงินเร็ว: พยายามโน้มน้าวให้คุณฝากเงินจำนวนมากทันที โดยไม่ให้ข้อมูลครบถ้วน
- ถอนเงินยากหรือมีข้ออ้าง: เมื่อคุณต้องการถอนเงิน กลับถูกขอเอกสารเพิ่มไม่รู้จบ หรือถูกบอกว่าระบบขัดข้อง
- ติดต่อมาจากคนแปลกหน้า: มีคนโทรหรือแอดไลน์มาชักชวนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอ้างว่า “ทีมงานจากโบรกเกอร์” ขอให้สงสัยทันที เพราะโบรกเกอร์ที่ถูกต้องจะไม่ทำเช่นนั้น
เพื่อป้องกันความเสี่ยง ควรตรวจสอบข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่มาเชื่อถือได้ เช่น Investing.com – Forex News เพื่อรับข้อมูลตลาดจริง ไม่ใช่จากกลุ่มชักชวนลงทุนที่ให้ภาพลวงตา
สรุป: เลือกโบรกเกอร์ให้เป็น เริ่มต้นอย่างมั่นใจ
การเลือกโบรกเกอร์ Forex ในปี 2025 ไม่ใช่แค่เรื่องของราคาหรือโปรโมชั่น แต่คือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มีผลต่อนานัปการ Moneta Markets แสดงให้เห็นว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับนักลงทุนชาวไทย ด้วยการกำกับดูแลระดับ Tier-1 การสเปรดต่ำ การสนับสนุนภาษาไทย และระบบการเงินที่ยืดหยุ่น คุณจึงสามารถใช้เวลากับการวิเคราะห์ตลาดได้มากขึ้น แทนที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของโบรกเกอร์ หากคุณกำลังมองหาพันธมิตรการลงทุนที่ปลอดภัย มั่นคง และทันสมัย Moneta Markets คือคำตอบที่อาจเปลี่ยนอนาคตการเทรดของคุณไปตลอด
โบรกเกอร์ Forex ถูกกฎหมายในไทยหรือไม่?
ในประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายที่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปซื้อขาย Forex ผ่านบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศโดยตรง อย่างไรก็ตาม การซื้อขายกับโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ เช่น FCA, ASIC หรือ FSCA ถือว่าเป็นการดำเนินการนอกเขตอำนาจ และไม่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายในทางปฏิบัติ แต่คุณควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุน
Moneta Markets มีจุดเด่นอะไรบ้างที่เหมาะกับเทรดเดอร์ไทย?
Moneta Markets มีข้อได้เปรียบที่ตอบโจทย์นักลงทุนชาวไทยอย่างชัดเจน ได้แก่:
- การกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ: ทั้ง FCA (สหราชอาณาจักร), ASIC (ออสเตรเลีย), และ FSCA (แอฟริกาใต้) ช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยของเงินลงทุน
- สเปรดต่ำแบบ ECN: เริ่มต้นที่ 0.0 pips ช่วยลดต้นทุนการเทรด โดยเฉพาะนักเก็งกำไรระยะสั้น
- แพลตฟอร์มหลากหลาย: รองรับ MT4, MT5, ProTrader (TradingView) และแอปมือถือที่ใช้งานลื่นไหล
- เลเวอเรจสูงพร้อมระบบป้องกันยอดติดลบ: เลเวอเรจสูงสุด 1:1000 แต่ยังมีกลไกปกป้องไม่ให้คุณขาดทุนเกินเงินฝาก
- การฝากถอนสะดวก: ไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝาก และรองรับช่องทางหลากหลาย รวมถึง E-wallet และคริปโต ทำให้เข้าถึงง่ายสำหรับคนไทย
คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Moneta Markets เป็นทางเลือกที่ดีทั้งสำหรับมือใหม่และนักเทรดที่มีประสบการณ์
ควรใช้บัญชีประเภทใดกับ Moneta Markets?
Moneta Markets รองรับบัญชีหลัก 3 ประเภท ดังนี้:
- Direct STP: ไม่มีค่าคอมมิชชัน เหมาะกับผู้เริ่มต้น เงินฝากขั้นต่ำ $50 สเปรดเริ่มต้น 1.0 pips
- Prime ECN: สเปรดต่ำเริ่มต้น 0.0 pips มีค่าคอมมิชชัน $3/ล็อต เงินฝากขั้นต่ำ $200 เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ซื้อขายบ่อย
- Ultra ECN: สเปรดต่ำสุดค่าคอมมิชชันเริ่มต้น $1/ล็อต พิเศษสำหรับเทรดเดอร์ระดับสูงที่มีเงินทุนมาก โดยต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ $20,000
หากคุณเริ่มต้นจากการฝึกฝน บัญชี Direct STP เป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะ แต่ถ้าต้องการลดต้นทุนและซื้อขายบ่อย ควรพิจารณา Prime ECN เป็นทางเลือกหลัก
การถอนเงินจาก Moneta Markets ใช้เวลานานแค่ไหน?
Moneta Markets มีชื่อเสียงด้านความรวดเร็วในการจัดการการเงิน โดยทั่วไป:
- การถอนผ่าน E-wallets (เช่น Skrill, Neteller): ใช้เวลา 1-24 ชั่วโมง
- การโอนผ่านธนาคารระหว่างประเทศ: ใช้เวลา 2-5 วันทำการ
คุณสามารถถอนผ่านธนาคารได้ฟรี 1 ครั้งต่อเดือน ครั้งต่อไปอาจมีค่าธรรมเนียม $20 แนะนำให้ตรวจสอบนโยบายล่าสุดผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ หรือติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อรับข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัยที่สุด