Exness Account Types 2025: การวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อการเทรดที่เหนือกว่า

บทนำ: ทำความเข้าใจประเภทบัญชี Exness เพื่อการเทรดที่เหนือกว่า
การเลือกบัญชีซื้อขายที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทุนหรือสเปรดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณก้าวข้ามขอบเขตของการเทรดแบบเดิม ๆ เข้าสู่ระดับที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น Exness หนึ่งในโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ได้พัฒนาประเภทบัญชีที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเทรดเดอร์ไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มต้น นักลงทุนมืออาชีพ หรือผู้ใช้กลยุทธ์เฉพาะทางในปี 2025 โครงสร้างบัญชีของ Exness ยังคงมีความยืดหยุ่น โปร่งใส และปรับตัวตามพฤติกรรมการเทรดของผู้ใช้ในยุคดิจิทัล
บทความนี้จะนำคุณเจาะลึกทุกมิติของบัญชี Exness ปี 2025 ตั้งแต่คุณสมบัติหลัก เงื่อนไขการซื้อขาย เปรียบเทียบความแตกต่าง และช่วยวิเคราะห์ว่าบัญชีใดเหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณมากที่สุด โดยยังคงเน้นข้อมูลที่เป็นจริง ครอบคลุม และพร้อมใช้งานในการตัดสินใจอย่างแท้จริง หากคุณต้องการเลือก ประเภทบัญชี Exness ที่ใช่ และปลดล็อกศักยภาพการเทรดอย่างเต็มที่ คุณมาถูกที่แล้ว
Exness บัญชีมาตรฐาน (Standard Accounts): ทางเลือกสำหรับทุกคน
บัญชีกลุ่ม Standard ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ยืดหยุ่น เข้าถึงง่าย และไม่ซับซ้อน ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ตลาดการเงินในระดับนานาชาติ

บัญชี Standard: ยอดนิยมและเหมาะกับมือใหม่
นับเป็นหนึ่งในบัญชีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มลูกค้าของ Exness ด้วยสมดุลของสเปรด อัตรากำไร และความยืดหยุ่นที่เรียบง่าย บัญชี Standard เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและเทรดเดอร์ที่เน้นกลยุทธ์ระยะกลางถึงยาว
- เงินฝากขั้นต่ำ: เริ่มต้นเพียง $1 หรือเทียบเท่า เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีทุนน้อยสามารถเข้าร่วมตลาดได้ทันที
- สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.2 pips สำหรับคู่สกุลเงินหลัก ซึ่งถือว่ามีความแข่งขันสูงในตลาด
- ค่าคอมมิชชั่น: ไม่คิดค่าคอมมิชชั่นใด ๆ ทำให้ต้นทุนการเทรดชัดเจนและคาดการณ์ได้ง่าย
- เลเวอเรจ: สูงสุดถึง 1:ไม่จำกัด* (ภายใต้เงื่อนไขเฉพาะที่ Exness กำหนด)
- เครื่องมือการเทรด: ครอบคลุมกว่า 100 รายการ ทั้งคู่เงิน Forex, โลหะ, คริปโตเคอร์เรนซี, ดัชนี, หุ้น CFD และพลังงาน
- การดำเนินการคำสั่ง: ใช้ระบบ Market Execution ที่เปิดราคาตามตลาดจริง
- Swap-free: มีให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายข้ามคืน
จุดแข็งของบัญชีนี้คือความสมดุลและเข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการทดลองตลาดโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมซ่อน หรือกังวลเรื่องค่าคอมมิชชั่น นอกจากนี้ยังรองรับกลยุทธ์หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Swing Trading หรือ Position Trading ที่เน้นความเสถียร
บัญชี Standard Cent: ฝึกฝนด้วยความเสี่ยงต่ำ
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มั่นใจในความสามารถหรือทุนหนา บัญชี Standard Cent คือพื้นที่ปลอดภัยในการเรียนรู้และทดลองใช้กลยุทธ์จริงในสภาพแวดล้อมจริง ด้วยระบบการซื้อขายในหน่วย “เซ็นต์” ทำให้ความเสี่ยงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
- เงินฝากขั้นต่ำ: เริ่มต้นเพียง $1 หรือเทียบเท่าในสกุลเงินท้องถิ่น
- หน่วยการเทรด: 1 ล็อต Standard Cent เท่ากับ 0.01 ล็อตของบัญชี Standard หมายความว่าความผันผวนและมูลค่าต่อ pip ลดลงเกือบ 100 เท่า
- สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.2 pips เช่นเดียวกับบัญชี Standard
- ค่าคอมมิชชั่น: ไม่คิดค่าคอมมิชชั่นใด ๆ
- เลเวอเรจ: สูงสุด 1:ไม่จำกัด* ให้อิสระในการใช้เลเวอเรจในระดับต่ำ
- เครื่องมือการเทรด: ส่วนใหญ่เป็นคู่สกุลเงินหลักและโลหะ
บัญชีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบกลยุทธ์ EA (Expert Advisor), ทดลองระบบบริหารความเสี่ยง หรือเรียนรู้การตัดสินใจในเวลาจริงโดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินทุนจำนวนมาก เมื่อคุ้นเคยกับตลาด ก็สามารถโยกเงินไปยังบัญชี Standard หรือบัญชีระดับมืออาชีพได้ทันที
Exness บัญชีมืออาชีพ (Professional Accounts): สำหรับเทรดเดอร์ประสบการณ์
สำหรับผู้ที่ตั้งเป้าหมายในระดับสูงกว่าการเรียนรู้ การใช้บัญชีมืออาชีพกับ Exness คือประตูสู่ประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะ trader ที่ต้องการความแม่นยำในสเปรด การดำเนินคำสั่งที่รวดเร็ว และค่าธรรมเนียมที่โปร่งใสเพื่อเปรียบเทียบและคำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำ
บัญชี Raw Spread: สเปรดต่ำสุดพร้อมค่าคอมมิชชั่นคงที่
ออกแบบสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความเร็วและราคาที่ใกล้เคียงที่สุดกับตลาดจริง บัญชี Raw Spread มอบ “สเปรด 0.0 pips” เป็นจุดเริ่มต้น โดยที่ค่าใช้จ่ายจะถูกปรับชดเชยด้วยค่าคอมมิชชั่นคงที่ต่อล็อต
- เงินฝากขั้นต่ำ: $200 หรือเทียบเท่า
- สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.0 pips สำหรับคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD, GBP/USD
- ค่าคอมมิชชั่น: สูงสุด $3.5 ต่อล็อตต่อด้าน (เช่น เข้าและออก รวมเป็น $7 ต่อล็อตเต็ม)
- เลเวอเรจ: สูงสุด 1:ไม่จำกัด*
- การดำเนินการคำสั่ง: Market Execution ผ่าน ECN-like ที่ช่วยให้เข้าถึงสภาพคล่องมากขึ้น
บัญชีนี้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping ที่ต้องเปิด-ปิดออเดอร์หลายครั้งต่อวัน เพราะแม้จะมีค่าคอมมิชชั่น แต่สเปรดที่ต่ำช่วยลดต้นทุนรวม ทำให้กำไรต่อ pip สูงขึ้นเมื่อเทียบกับบัญชีที่มีสเปรดลอยตัวสูง
บัญชี Zero: สเปรด 0 สำหรับเครื่องมือยอดนิยม
หนึ่งในจุดแข็งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของ Exness คือบัญชี Zero ที่รับประกัน “สเปรด 0.0 pips” สำหรับ 30 เครื่องมือยอดนิยมถึง 95% ของเวลาเทรดในช่วงเปิดตลาดหลัก พร้อมค่าคอมมิชชั่นที่ยืดหยุ่น
- เงินฝากขั้นต่ำ: $200 หรือเทียบเท่า
- สเปรด: 0.0 pips สำหรับเครื่องมือชั้นนำ
- ค่าคอมมิชชั่น: เริ่มต้นที่ $0.05 ต่อล็อตต่อด้าน ขึ้นอยู่กับประเภทสินทรัพย์และขนาดการซื้อขาย
- เลเวอเรจ: สูงสุด 1:ไม่จำกัด*
- การดำเนินการคำสั่ง: Market Execution
บัญชี Zero เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เทรดคู่เงินหลัก คู่เงินต่างประเทศ หรือโลหะอย่างทองและเงินอย่างสม่ำเสมอ เพราะความแน่นอนของสเปรดช่วยให้บริหารกลยุทธ์ได้แม่นยำ แม้ในช่วงตลาดผันผวน
บัญชี Pro: การดำเนินการทันทีและสเปรดต่ำ
หากคุณต้องการความสมดุลระหว่างความเร็วและต้นทุนที่ต่ำ บัญชี Pro คือคำตอบ โดยรวมจุดแข็งของทั้ง Standard และ Raw Spread ไว้ในรูปแบบที่ไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่น
- เงินฝากขั้นต่ำ: $200 หรือเทียบเท่า
- สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.1 pips — แคบที่สุดในกลุ่มบัญชีที่ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น
- ค่าคอมมิชชั่น: ไม่มีค่าคอมมิชชั่นใด ๆ เลย
- เลเวอเรจ: สูงสุด 1:ไม่จำกัด*
- การดำเนินการคำสั่ง: Instant Execution (สำหรับส่วนใหญ่) และ Market Execution ในกรณีที่ราคาไม่สามารถยืนยันได้
บัญชีนี้ตอบโจทย์เทรดเดอร์ที่ต้องการความแม่นยำของราคา พร้อมความเร็วในการดำเนินการที่สูง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้เทคนิคการ Breakout หรือ News Trading ที่ต้องการเข้าตำแหน่งในจังหวะเวลาที่แม่นยำ
ตารางเปรียบเทียบ Exness บัญชีแต่ละประเภท (ภาพรวมคุณสมบัติ)
เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมชัดเจน เราจัดทำตารางเปรียบเทียบบัญชีทั้งห้าประเภทของการเทรดกับ Exness ปี 2025
คุณสมบัติ | Standard | Standard Cent | Raw Spread | Zero | Pro |
---|---|---|---|---|---|
เงินฝากขั้นต่ำ | $1 | $1 | $200 | $200 | $200 |
สเปรดเริ่มต้น | จาก 0.2 pips | จาก 0.2 pips | จาก 0.0 pips | จาก 0.0 pips (30 เครื่องมือยอดนิยม) | จาก 0.1 pips |
ค่าคอมมิชชั่น | ไม่มี | ไม่มี | สูงสุด $3.5/ล็อต/ด้าน | จาก $0.05/ล็อต/ด้าน | ไม่มี |
เลเวอเรจสูงสุด | 1:ไม่จำกัด* | 1:ไม่จำกัด* | 1:ไม่จำกัด* | 1:ไม่จำกัด* | 1:ไม่จำกัด* |
เครื่องมือการเทรด | Forex, โลหะ, คริปโต, พลังงาน, หุ้น, ดัชนี | Forex, โลหะ | Forex, โลหะ, คริปโต, พลังงาน, หุ้น, ดัชนี | Forex, โลหะ, คริปโต, พลังงาน, หุ้น, ดัชนี | Forex, โลหะ, คริปโต, พลังงาน, หุ้น, ดัชนี |
การดำเนินการคำสั่ง | Market Execution | Market Execution | Market Execution | Market Execution | Instant Execution (ส่วนใหญ่) และ Market Execution |
Stop Out | 0% | 0% | 0% | 0% | 0% |
Margin Call | 60% | 60% | 30% | 30% | 30% |
Swap-free | มี | มี | มี | มี | มี |
*เงื่อนไขการใช้เลเวอเรจไม่จำกัดอาจเปลี่ยนแปลงตามระดับเงินในบัญชี ความผันผวนของตลาด และกฎระเบียบในแต่ละเขตอำนาจ
การเลือกบัญชี Exness ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ
ไม่มี “บัญชีดีที่สุด” สำหรับทุกคน เพราะแต่ละคนมีรูปแบบการเทรด ความเสี่ยง และเป้าหมายที่ต่างกัน การเลือกจึงควรเริ่มจากการวิเคราะห์ตัวเองเป็นอันดับแรก
สำหรับมือใหม่และผู้เริ่มต้น
ถ้าคุณยังไม่คุ้นเคยกับข้อจำกัดของตลาดหรือต้องการทดลองใช้กลยุทธ์:
- บัญชี Standard Cent: เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะช่วยให้เรียนรู้ด้วยความเสี่ยงต่ำ สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดคือประสบการณ์จริง ไม่ใช่แค่สมมุติฐาน
- บัญชี Standard: หากคุณเริ่มมีความมั่นใจและต้องการขยายขนาดการซื้อขาย บัญชี Standard จะเป็นก้าวต่อไปที่เหมาะ ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น และยังเข้าถึงสินทรัพย์ได้หลากหลาย
คำแนะนำ: ใช้เวลานาน ๆ ในการทดลองกลยุทธ์ในบัญชี Standard Cent เสียก่อน แล้วจึงขยับเงินไปยังบัญชีจริง การศึกษาการจัดการความเสี่ยงเบื้องต้น เช่น การตั้ง Stop Loss และ Position Sizing จะช่วยลดโอกาสขาดทุนได้มาก
สำหรับ Scalper และเทรดเดอร์ที่ใช้ EA
เทรดเดอร์ที่เข้าออกคำสั่งหลายครั้งต่อวันหรือใช้ระบบอัตโนมัติ (EA) ต้องการความแม่นยำสูงและต้นทุนต่ำที่ซ่อนอยู่น้อยที่สุด:
- บัญชี Raw Spread: เหมาะที่สุดสำหรับ EA Scalping และกลยุทธ์ความถี่สูง เพราะสเปรด 0.0 pips ช่วยให้กำไรต่อ pip มีความหมายมากขึ้น
- บัญชี Zero: เป็นทางเลือกที่ดี ถ้ากลยุทธ์เน้นคู่สกุลเงินหลัก และต้องการความแม่นยำของ pricing ตลอดเวลา
ข้อควรรู้เพิ่มเติม: ค่าคอมมิชชั่นอาจสะสมได้เร็ว หากเปิด-ปิดออเดอร์บ่อย ควรคำนวณผลตอบแทนต่อเดือนโดยรวมทั้งคอมกับการเคลื่อนไหวของราคา ไม่ใช่ดูแค่สเปรดเพียงอย่างเดียว
สำหรับเทรดเดอร์ระยะยาวและผู้ถือสถานะข้ามคืน
ถ้าคุณเทรดแบบ Position Trading หรือถือออร์เดอร์ข้ามคืนหลายวัน ค่า Swap (หรือ Rollover Fee) จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญ:
- บัญชี Standard และ Pro: ทั้งสองประเภทมีตัวเลือก Swap-free ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อถือออเดอร์ในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
- คำแนะนำ: ก่อนเปิดตำแหน่งข้ามคืน ควรตรวจสอบตาราง Swap บนเว็บไซต์ Exness หรือใน MetaTrader โดยตรง แล้วพิจารณาทางเลือกบัญชี Swap-free เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สะสม
ไม่ใช่ทุกสินทรัพย์ที่มี Swap-friendly ดังนั้นควรเรียนรู้ว่าคู่ไหนมีค่า Swap เป็นบวก (Positive Swap) ซึ่งอาจเป็นข้อดี หรือค่า Swap ติดลบ (Negative Swap) ที่ควรหลีกเลี่ยง
Exness Social Trading Accounts: โอกาสใหม่ในการลงทุน
นอกจากการเทรดด้วยตนเอง คุณยังสามารถเปิดบัญชี Social Trading กับ Exness เพื่อคัดลอกกลยุทธ์จากเทรดเดอร์ชั้นนำที่มีผลประกอบการดีต่อเนื่อง
- Social Standard: ออกแบบสำหรับนักลงทุนที่ต้องการคัดลอกกลยุทธ์ด้วยเงินทุนเริ่มต้นต่ำ ระบบนี้ช่วยกระจายความเสี่ยงด้วยการคัดลอกหลายกลยุทธ์พร้อมกัน
- Social Pro: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการเปิดตัวเองเป็น “ผู้ให้บริการกลยุทธ์” (Strategy Provider) และรับค่าตอบแทนจากนักลงทุนที่คัดลอกผลงานของตน
ข้อควรระวัง: การลงทุนใน Social Trading ไม่ใช่การรับประกันกำไร ควรศึกษาประวัติผลตอบแทน ระดับความเสี่ยง (Drawdown), และระยะเวลาการเปิด/ปิดออร์เดอร์ของผู้ให้บริการกลยุทธ์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
วิธีเปิดบัญชี Exness: ทีละขั้นตอน
กระบวนการเปิดบัญชีกับ Exness เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ง่ายที่สุดในกลุ่มโบรกเกอร์ระดับโลก ใช้เวลาไม่เกิน 5-10 นาที
ขั้นตอนการลงทะเบียน Exness
1. เยี่ยมชมเว็บไซต์ Exness: เข้าไปที่ www.exness.com และคลิก “เปิดบัญชี” หรือ “Sign Up”
2. กรอกข้อมูลพื้นฐาน: ระบุประเทศที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ใช้งานได้ กับที่อยู่อีเมล และตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย
3. ยืนยันเบอร์โทรและอีเมล: รับรหัสยืนยันทั้งสองช่องทาง แล้วกรอกเพื่อยืนยันตัวตนชั้นต้น
การยืนยันตัวตน (KYC)
เพื่อความปลอดภัยและมาตรการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) Exness จำเป็นต้องตรวจสอบตัวตนผู้ใช้:
- เอกสารที่ใช้: บัตรประชาชน, หนังสือเดินทาง หรือบัตรขับขี่ เพื่อยืนยันตัวตน และสำเนาใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร หรือใบค่าน้ำ/ไฟ สำหรับยืนยันที่อยู่
- ระยะเวลาตรวจสอบ: โดยทั่วไปใช้เวลา 1-2 วันทำการ แต่บางกรณีอาจตรวจเร็วในไม่กี่ชั่วโมง
- ข้อควรรู้: ยิ่งเอกสารถูกต้อง ไม่เบลอ ระบุชื่อและที่อยู่ชัดเจน ก็จะผ่านการตรวจสอบได้เร็วขึ้น
การฝากเงินเริ่มต้นและเลือกแพลตฟอร์ม
เมื่อยืนยันตัวตนแล้ว คุณสามารถ:
1. เลือกช่องทางการฝากเงิน: เช่น โอนผ่านธนาคาร, TrueMoney, Skrill, Neteller, USDT (TRC20/ERC20), และบัตรเดบิต/เครดิต
2. ฝากเงิน: ตั้งแต่ $1 สำหรับบัญชี Standard หรือ $200 สำหรับบัญชีมืออาชีพ
3. เลือกแพลตฟอร์ม: Exness รองรับ MT4, MT5, Exness Terminal, และ Exness Trade App สำหรับมือถือ คุณสามารถติดตั้งพร้อมกันได้หลายตัว
ความปลอดภัยและการกำกับดูแลของ Exness: เชื่อถือได้แค่ไหน?
ความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญของบริการทางการเงินใด ๆ และ Exness มีโครงสร้างการกำกับดูแลที่ครอบคลุมในหลายเขตอำนาจ
ใบอนุญาตและหน่วยงานกำกับดูแล
Exness Group เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตมากที่สุดในอุตสาหกรรม ครอบคลุมทั่วทั้งยุโรป แอฟริกา อินเดียตะวันตก และเอเชีย
- FSA (เซเชลส์): เป็นหน่วยงานหลักที่กำกับดูแล Exness ที่ให้บริการในหลายประเทศ
- CySEC (ไซปรัส): ให้การรับรองในตลาดยุโรป โดยมีความเข้มงวดสูงและเข้าร่วมในระบบคุ้มครองนักลงทุน (Investor Compensation Fund)
- FCA (สหราชอาณาจักร): Exness (UK) Ltd ได้รับอนุญาตภายใต้มาตรฐานที่เข้มงวดที่สุด
- FSCA (แอฟริกาใต้) และ CMA (เคนยา) ยืนยันกิจกรรมในแอฟริกา
- FSC มอริเชียส, BVI และ FSC หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน: หนุนเสริมโครงสร้างการให้บริการที่หลากหลาย
การมีอยู่ภายใต้การกำกับดูแลระดับโลกช่วยให้มั่นใจว่านโยบายของ Exness ไม่เพียงแค่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นลำดับแรก
การปกป้องเงินทุนและ Negative Balance Protection
Exness ดำเนินมาตรการป้องกันหลายชั้น:
- บัญชีแยก: เงินทุนของลูกค้าถูกเก็บไว้ในบัญชีธนาคารที่แยกจากบัญชีดำเนินงานของบริษัท
- การปกป้องยอดติดลบ: แม้ตลาดจะผันผวนรุนแรง คุณจะไม่ขาดทุนเกินกว่าเงินที่มีในบัญชี นโยบายนี้เป็นมาตรฐานในตลาด CFD/FX
- Encryption ระดับสูง: ทุกการเข้าสู่ระบบและธุรกรรมใช้ HTTPS และ 2FA เพื่อป้องกันการโจมตีไซเบอร์
สำหรับนักเทรดไทย การเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตจาก CySEC หรือ FCA ถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย เนื่องจาก ก.ล.ต. ยังไม่ได้กำกับดูแลโบรกเกอร์ต่างประเทศโดยตรง
สรุป: Exness บัญชีไหนคือคำตอบสำหรับคุณ?
แต่ละบัญชีของ Exness ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่แค่ชื่อที่ต่างกัน แต่มีระบบการให้บริการที่ตอบโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน
- มือใหม่: เริ่มที่ Standard Cent หรือ Standard เพื่อเรียนรู้โดยไม่ต้องเสี่ยงหลายพันบาท
- Scalper และ EA Trader: Raw Spread หรือ Zero คือทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อลดต้นทุนการซื้อขาย
- ผู้เน้นความเร็วและยืดหยุ่น: บัญชี Pro เหมาะสำหรับกลยุทธ์ที่ต้องการ Instant Execution โดยไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่น
สุดท้าย ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณใช้บัญชี “แพง” หรือ “ถูก” แต่อยู่ที่ความเข้าใจในระบบ ความเหมาะสมกับแนวทางซื้อขาย และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีวินัย เมื่อมีองค์ประกอบเหล่านี้แล้ว การเลือกบัญชีที่ใช่จึงเป็นการปูทางสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนกับ Exness ในปี 2025
คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับประเภทบัญชี Exness
1. บัญชี Zero Exness ดีไหม และมีค่าธรรมเนียมอย่างไร?
บัญชี Zero Exness ถือเป็นบัญชีที่ “ดีเยี่ยม” สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการสเปรดที่แคบที่สุด โดยเฉพาะสำหรับ 30 เครื่องมือยอดนิยม ซึ่งมักจะอยู่ที่ 0.0 pips ตลอด 95% ของเวลาเทรด
ค่าธรรมเนียม: บัญชี Zero มีค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นที่ $0.05 ต่อล็อตต่อด้าน ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ซื้อขาย นอกจากนี้อาจมีค่า Swap หากถือสถานะข้ามคืน แต่ก็มีตัวเลือกบัญชี Swap-free ให้เลือกเช่นกัน
2. บัญชี Pro Exness เหมาะกับเทรดเดอร์สไตล์ไหน และแตกต่างจากบัญชี Raw Spread อย่างไร?
บัญชี Pro Exness เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการ “Instant Execution” และสเปรดที่ต่ำ (เริ่มต้น 0.1 pips) โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น เหมาะสำหรับ Day Trading, Swing Trading และเทรดเดอร์ที่ต้องการความยืดหยุ่น
ความแตกต่างจาก Raw Spread:
- สเปรด: Raw Spread มีสเปรดต่ำกว่า (เริ่มต้น 0.0 pips)
- ค่าคอมมิชชั่น: Pro ไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่ Raw Spread มีค่าคอมมิชชั่นคงที่สูงสุด $3.5 ต่อล็อตต่อด้าน
- การดำเนินการ: Pro เน้น Instant Execution (ส่วนใหญ่) ในขณะที่ Raw Spread เป็น Market Execution
3. Exness มีบัญชีทั้งหมดกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำเท่าไหร่?
Exness มีบัญชีหลักทั้งหมด 5 ประเภท:
- Standard: เงินฝากขั้นต่ำ $1
- Standard Cent: เงินฝากขั้นต่ำ $1
- Pro: เงินฝากขั้นต่ำ $200
- Raw Spread: เงินฝากขั้นต่ำ $200
- Zero: เงินฝากขั้นต่ำ $200
นอกจากนี้ยังมีบัญชี Social Standard และ Social Pro สำหรับ Social Trading ด้วย
4. บัญชี Raw Spread กับ Zero ของ Exness มีความแตกต่างที่สำคัญอะไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องสเปรดและค่าคอมมิชชั่น?
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างบัญชี Raw Spread และ Zero อยู่ที่โครงสร้างสเปรดและค่าคอมมิชชั่น:
- สเปรด: ทั้งสองบัญชีมีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips แต่บัญชี Zero รับประกันสเปรด 0.0 pips สำหรับ 30 เครื่องมือยอดนิยมตลอด 95% ของเวลาเทรด ขณะที่ Raw Spread อาจมีสเปรดที่ผันผวนเล็กน้อยเหนือ 0.0 pips สำหรับบางเครื่องมือ
- ค่าคอมมิชชั่น: Raw Spread มีค่าคอมมิชชั่นคงที่สูงสุด $3.5 ต่อล็อตต่อด้าน ส่วน Zero มีค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นที่ $0.05 ต่อล็อตต่อด้าน ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามเครื่องมือ
5. Exness ถูกกฎหมายและปลอดภัยสำหรับการเทรดในประเทศไทยหรือไม่?
ใช่ Exness ถือเป็นโบรกเกอร์ที่ “ถูกกฎหมายและปลอดภัย” สำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย Exness ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเงินระดับโลกหลายแห่ง เช่น CySEC, FCA, FSA, FSCA, FSC เป็นต้น ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ามีการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
แม้ว่าประเทศไทยจะยังไม่มีการกำกับดูแลโบรกเกอร์ Forex โดยตรงจาก ก.ล.ต. แต่การเทรดกับโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดในระดับสากลเช่น Exness ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย
6. ข้อเสียที่พบบ่อยของการเทรดกับ Exness มีอะไรบ้าง?
แม้ว่า Exness จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อควรพิจารณาบางประการ:
- เลเวอเรจสูงมาก: เลเวอเรจไม่จำกัดอาจเป็นดาบสองคม เพิ่มทั้งโอกาสทำกำไรและความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างรวดเร็ว หากไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี
- ข้อจำกัดบางประการสำหรับลูกค้าบางภูมิภาค: บัญชีบางประเภทหรือคุณสมบัติบางอย่างอาจมีข้อจำกัดสำหรับลูกค้าในบางประเทศเนื่องจากข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ
- ค่าคอมมิชชั่นในบัญชีมืออาชีพ: แม้สเปรดจะต่ำมากในบัญชี Raw Spread และ Zero แต่ก็มาพร้อมกับค่าคอมมิชชั่น ซึ่งเทรดเดอร์ต้องคำนวณรวมในต้นทุน
7. ค่าสเปรดของ Exness โดยเฉลี่ยในแต่ละประเภทบัญชีเป็นอย่างไร?
- Standard/Standard Cent: สเปรดผันผวน เริ่มต้นที่ 0.2 pips
- Pro: สเปรดผันผวน เริ่มต้นที่ 0.1 pips
- Raw Spread: สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips
- Zero: สเปรด 0.0 pips สำหรับ 30 เครื่องมือยอดนิยม
ค่าสเปรดจริงอาจแตกต่างกันไปตามสภาวะตลาดและเครื่องมือการเทรด ณ ขณะนั้น
8. บัญชี Standard Cent Exness เหมาะสำหรับมือใหม่จริงหรือ?
ใช่ “เหมาะสำหรับมือใหม่” อย่างยิ่ง บัญชี Standard Cent ช่วยให้คุณสามารถซื้อขายด้วยหน่วยเซ็นต์ ซึ่งหมายความว่าการเทรด 1 ล็อตในบัญชีนี้มีมูลค่าเท่ากับการเทรดเพียง 0.01 ล็อตในบัญชี Standard ทั่วไป
การที่สามารถเปิดสถานะขนาดเล็กมากได้นี้ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินได้อย่างมาก ทำให้มือใหม่สามารถฝึกฝนการจัดการความเสี่ยง ทดลองกลยุทธ์ และทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มการเทรดจริงโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
9. สามารถเปลี่ยนประเภทบัญชี Exness ได้หลังจากเปิดบัญชีไปแล้วหรือไม่?
ไม่สามารถ “เปลี่ยนประเภทบัญชี” เดิมได้โดยตรง
แต่คุณสามารถ “เปิดบัญชีซื้อขายใหม่” เพิ่มเติมใน Personal Area ของคุณได้ คุณสามารถมีบัญชีหลายประเภทพร้อมกันภายใต้บัญชี Exness หลักของคุณ การทำเช่นนี้ช่วยให้คุณสามารถทดลองใช้บัญชีประเภทอื่น หรือแบ่งเงินทุนเพื่อใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันในแต่ละบัญชี
10. Exness มีบัญชี Social Trading ให้บริการหรือไม่ และมีเงื่อนไขอย่างไร?
ใช่ Exness มี “บัญชี Social Trading” ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน Exness Social Trading
โดยแบ่งเป็น:
- Social Standard: สำหรับนักลงทุนที่คัดลอกกลยุทธ์
- Social Pro: สำหรับเทรดเดอร์ผู้ให้บริการกลยุทธ์ (Strategy Providers)
เงื่อนไข: ผู้ให้บริการกลยุทธ์จะได้รับส่วนแบ่งจากกำไรของผู้คัดลอก (Performance Fee) ส่วนนักลงทุนจะจ่ายค่าธรรมเนียมดังกล่าวเมื่อกลยุทธ์ที่คัดลอกทำกำไรได้ ข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำและเงื่อนไขการเทรดจะแตกต่างกันไปตามประเภทบัญชี Social Trading และนโยบายของ Exness