2

2

ศูนย์การเงินโลกในช่วงเปิดตลาด Forex ที่เต็มไปด้วยพลังงานและความเคลื่อนไหว

สำหรับนักซื้อขายในประเทศไทย การเข้าใจช่วงเวลาเปิด-ปิดของตลาด Forex และตลาดทองคำ (Gold) ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการเทรด หากไม่เข้าใจว่าเมื่อใดที่ตลาดใดกำลังเคลื่อนไหว โอกาสในการตัดสินใจผิดพลาดก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยตลาดทั้งสองมีลักษณะการดำเนินงานที่ต่อเนื่องเกือบตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงวันจันทร์ถึงเช้าวันเสาร์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกช่วงเวลามีคุณภาพเท่ากัน ความแตกต่างของสภาพคล่อง (Liquidity) และความผันผวน (Volatility) จากการเปิดปิดของศูนย์การเงินทั่วโลก ทำให้แต่ละช่วงเวลามีลักษณะเฉพาะที่คุณควรรู้ เพื่อวางแผนกลยุทธ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเวลาทำการของตลาดทั้งสอง โดยอิงตามเวลามาตรฐานของประเทศไทย (GMT+7) พร้อมทั้งเปิดเผยจุดสำคัญที่อาจเปลี่ยนแปลงแนวทางการเทรดของคุณ

ตลาด Forex และทองคำ: เปิดปิดกี่โมงในเวลาไทย?

ตลาด Forex หรือที่เรียกว่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรานานาชาติ นับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยไม่มีศูนย์กลางเฉพาะ มีการซื้อขายผ่านระบบเครือข่ายกระจายทั่วโลก ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าตลาดได้ตลอดเวลาในช่วงสัปดาห์ทำการ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์จนถึงเช้ามืดวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นของไทย ลักษณะนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบหลัก เนื่องจากนักเทรดสามารถเลือกช่วงเวลาที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และกลยุทธ์ของตนเองได้

ตลาดทองคำ (XAU/USD) เองก็ดำเนินการในรูปแบบเดียวกัน โดยถูกเปิดรับการซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ที่เชื่อมโยงกับราคาทองระดับโลกที่อ้างอิงดอลลาร์สหรัฐฯ การซื้อขายสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงในบางแพลตฟอร์ม แต่จริงๆ แล้วมักจะมีความคล้ายคลึงกับไทม์ไลน์ของตลาด Forex เพราะมีผู้เข้าร่วมตลาดเดียวกัน ได้แก่ ธนาคาร, สถาบันการเงิน, และนักเก็งกำไรจากทั่วโลก

จุดสำคัญคือ แต่ละช่วงเวลาในโลกมี “เซสชั่นการซื้อขาย” ที่เกิดจากศูนย์การเงินหลัก เช่น ซิดนีย์, โตเกียว, ลอนดอน และนิวยอร์ก การเปิดเล็กปิดของแต่ละเซสชั่นจะกำหนดระดับของกิจกรรมในตลาด ทำให้ราคาเริ่มขยับตัวหรือแข็งตัวตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น การเข้าใจการเคลื่อนที่ของ “คลื่นตลาด” เช่นนี้จึงช่วยให้นักเทรดไทยสามารถเลือกเวลาเข้า-ออกตำแหน่งได้แม่นยำยิ่งขึ้น

เซสชั่นตลาด ช่วงเวลาทำการ (เวลาไทย GMT+7) ลักษณะสำคัญ
ซิดนีย์ (Sydney) ประมาณ 05:00 น. – 13:00 น. (จันทร์ – ศุกร์) เปิดตลาดแรก, สภาพคล่องต่ำ, เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบความสงบ
โตเกียว (Tokyo) ประมาณ 07:00 น. – 16:00 น. (จันทร์ – ศุกร์) คาบเกี่ยวกับซิดนีย์, สภาพคล่องปานกลาง, เน้นคู่สกุลเงินเอเชีย
ลอนดอน (London) ประมาณ 14:00 น. – 23:00 น. (จันทร์ – ศุกร์) เปิดช่วงบ่าย, สภาพคล่องสูง, ความผันผวนสูง, เป็นศูนย์กลางการซื้อขาย
นิวยอร์ก (New York) ประมาณ 19:00 น. – 04:00 น. (ของวันถัดไป, จันทร์ – ศุกร์) คาบเกี่ยวกับลอนดอน, สภาพคล่องสูงสุด, ความผันผวนสูงสุด, มีการประกาศข่าวสำคัญ

ค่าที่ระบุในตารางข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงที่ประเทศต้นทางใช้ Daylight Saving Time (DST) เช่น อังกฤษและสหรัฐอเมริกาจะปรับเวลาไปข้างหน้า 1 ชั่วโมงในช่วงฤดูร้อน ส่งผลให้เวลาเปิด-ปิดของตลาดเหล่านั้นเมื่อเทียบกับประเทศไทยดูเหมือน “เร็วขึ้น” 1 ชั่วโมงชั่วคราว ดังนั้นเทรดเดอร์ควรตรวจสอบตารางเวลาที่อัปเดตล่าสุดจากโบรกเกอร์หรือแหล่งข้อมูลการลงทุนที่น่าเชื่อถือ

เจาะลึกช่วงเวลาการซื้อขาย Forex หลัก

การที่เรารู้เพียงว่าตลาดเปิดกี่โมงยังไม่เพียงพอ แต่ต้องเข้าใจว่าแต่ละช่วงเวลานำมาซึ่งพฤติกรรมราคาและปริมาณการซื้อขายที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งมีผลต่อหน้าที่ของคุณในฐานะนักเทรดโดยตรง

เซสชั่นซิดนีย์ (Sydney Session)

เซสชั่นซิดนีย์เริ่มต้นก่อนคนอื่น ประมาณ 05:00 น. ตามเวลาไทย เป็นจุดเริ่มต้นของสัปดาห์การเทรดอย่างเป็นทางการ แม้จะมีความน่าสนใจในแง่ของการเป็น “ต้นคลื่น” ที่สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนได้ แต่ก็มีสภาพคล่องค่อนข้างต่ำ เนื่องจากศูนย์การเงินขนาดใหญ่ยังไม่ตื่นตัว ทำให้ราคาขยับช้า และส่วนใหญ่เคลื่อนตัวในกรอบแคบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดที่ชื่นชอบกลยุทธ์แบบบีบความผันผวนต่ำ (Range Trading) หรือผู้ที่ต้องการสังเกตแนวโน้มแรกๆ ของสัปดาห์โดยไม่ต้องเผชิญกับแรงกระเพื่อมหนัก

เซสชั่นโตเกียว (Tokyo Session)

ตลาดโตเกียวจะเปิดตามมาในเวลาประมาณ 07:00 น. ซึ่งถือเป็นฮับการเงินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เมื่อตลาดนี้เปิดโดยมีการทับซ้อนกับซิดนีย์เล็กน้อย จะเกิดการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมการซื้อขาย โดยเฉพาะในคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับเยน (JPY) เช่น USD/JPY, EUR/JPY, AUD/JPY และแม้แต่ NZD/JPY ก็จะเริ่มมีแรงเคลื่อนไหวให้เห็นชัดเจนขึ้น จุดเด่นของตลาดนี้คือการตอบสนองต่อข่าวมาจากภูมิภาคเอเชีย เช่น รายงานเศรษฐกิจของญี่ปุ่น นโยบายการเงินของ BOJ (ธนาคารกลางญี่ปุ่น) หรือข้อมูลเงินเฟ้อในออสเตรเลีย

เซสชั่นลอนดอน (London Session)

ลอนดอนคือ “หัวใจ” ของตลาดการเงินโลก การเปิดตัวในช่วงบ่ายของไทย (14:00 น.) เหมือนกับเสียงแตรเริ่มต้นการแข่งขัน ทั้งสภาพคล่องและความผันผวนพุ่งสูงขึ้นทันที ด้วยปริมาณการซื้อขายที่มากกว่า 35% ของปริมาณรวมทั้งหมดในตลาด Forex ทำให้ช่วงนี้กลายเป็นช่วงที่นักเทรดส่วนใหญ่เฝ้ารอ คู่เงินหลักอย่าง EUR/USD, GBP/USD, และ USD/CHF มักจะเริ่มขยับตัวอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง

หากคุณต้องการเห็นแนวโน้มที่ก่อตัวอย่างชัดเจน หรือต้องการเข้าเก็งกำไรจากแรงผลักดันของ “ฝูงชนตลาดใหญ่” ช่วงนี้คือเวทีสำหรับคุณ

เซสชั่นนิวยอร์ก (New York Session)

เริ่มต้นในช่วงเย็นของวันทำงานในไทย (19:00 น.) ตลาดนิวยอร์กมาพร้อมกับน้ำหนักของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ศูนย์กลางการเงินที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดยเฉพาะเมื่อนิวยอร์กเริ่มทำการขณะลอนดอนยังไม่ปิด จะเกิดช่วงเวลาที่มีการซื้อขายหนาแน่นที่สุดของวัน นั่นคือ ยุคทองของสภาพคล่อง และเป็นแหล่งกำเนิดของ “สปอยเลอร์ราคา” ทั้งหลาย เหตุผลก็เพราะข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ อย่าง NFP (Non-Farm Payrolls), ดัชนี CPI, FOMC Decision หรือตัวเลข GDP มักจะประกาศในช่วงนี้

นักเทรดที่ชำนาญมักจะเตรียมตัวและวางแผนพิเศษ เพื่อรับมือกับการเคลื่อนไหวที่อาจพุ่งขึ้นหรือพุ่งลงในเวลาไม่กี่วินาที

นักเทรดชาวไทยจดจ่ออยู่กับหน้าจอหลายเครื่อง ระหว่างการซื้อขายในช่วงตลาดลอนดอน-นิวยอร์ก

จุดตัดที่สำคัญ: ช่วงเวลาคาบเกี่ยว (Overlapping Sessions) โอกาสทองของเทรดเดอร์

ตรงกันข้ามกับความเชื่อทั่วไป โอกาสที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่แค่ในช่วงเวลาเดียว แต่เกิดขึ้นใน “ช่วงทับซ้อน” ของสองตลาดใหญ่ ที่เรียกว่า Overlapping Sessions เพราะเมื่อสองศูนย์การเงินหลักทำงานพร้อมกัน จำนวนผู้ซื้อขายที่เข้าร่วมจะพุ่งสูงขึ้น ทำให้ปริมาณคำสั่ง (Volume) เพิ่มขึ้น ราคาเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น และโอกาสในการทำกำไรก็สูงขึ้นตามไปด้วย

ลอนดอน-นิวยอร์ก (London-New York Overlap)

ช่วงนี้ถือเป็น “จุดพีค” ของตลาดโลก เกิดขึ้นระหว่างเวลา 19:00 น. ถึง 23:00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่าปริมาณการซื้อขายในช่วง 4 ชั่วโมงนี้คิดเป็นมากกว่า 70% ของปริมาณทั้งหมดในวันนั้น ส่งผลให้คู่เงินส่วนใหญ่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางชัดเจน ไม่ค้างในกรอบ

นัก Day Trader และผู้ใช้กลยุทธ์แนวโน้ม (Trend Following) มักจะเน้นเข้าตลาดในช่วงนี้ เพราะแค่การเคลื่อนไหว 30-50 พิป ก็สามารถสร้างกำไรได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แม้แต่ทองคำ (XAU/USD) ก็มักจะมีการขยับตัวราคาอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้ามาสนับสนุน

โตเกียว-ลอนดอน (Tokyo-London Overlap)

แม้จะสั้นกว่าและมีสภาพคล่องน้อยกว่า แต่ช่วงเวลานี้ก็ยังคู่ควรกับความสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เทรดคู่เงินข้ามภูมิภาค เช่น EUR/JPY หรือ GBP/JPY ซึ่งมีต้นทุน (Spread) แคบลงเมื่อมีผู้ซื้อขายจากทั้งยุโรปและเอเชียเข้ามาอยู่ในตลาดพร้อมกัน

ช่วงเวลาดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 14:00 น. – 15:00 น. ของไทย เป็นช่วงที่ตลาดลอนดอนเพิ่งเริ่มต้น ส่วนโตเกียวยังไม่ปิด ซึ่งมักจะเป็นช่วงที่เซนติเมนต์ของตลาดเริ่มเห็นได้ชัด และมีมุมมองที่ดูว่า “ใคร” กันแน่ที่จะควบคุมตลาดในวันนั้น – ยุโรปกับความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย หรือเอเชียกับความกังวลเรื่องความต้องการสินค้า

เวลาที่ดีที่สุดในการเทรด Forex และทองคำสำหรับเทรดเดอร์ไทย

คำว่า “ดีที่สุด” ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเทรดที่คุณใช้ หากคุณเป็นคนแปลกคนที่ตื่นเช้าเพื่อสังเกตการเปิดตลาด หรือเป็นคนทำงานเสร็จแล้วเทรดช่วงเย็น ก็ต่างกัน แต่สามารถสรุปได้ดังนี้:

  • Day Trading และ Scalping: ช่วง 19:00 – 23:00 น. เป็นช่วงที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องลังเล เนื่องจากความผันผวนสูง ราคาเคลื่อนไหวรวดเร็ว และมีโอกาสจับเล็ต (catch a move) ได้หลายรอบต่อวัน แต่คุณต้องมีการตั้ง stop loss ที่มีเหตุผล และมือที่หนักพอที่จะอยู่กับหน้าจอได้อย่างมีวินัย
  • Swing Trading: สำหรับผู้ที่ถือตำแหน่งหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ช่วงเวลาการเข้าเทรดอาจไม่จำเป็นต้องจังหวะกับ “เวลาตลาด” โดยตรง แต่ควรโฟกัสที่ข้อมูล เช่น แนวรับ-แนวต้าน, ระดับ Fibonacci, หรือการเปลี่ยนแปลงของ RSI ใน Timeframe รายวัน และควรรอจนช่วงตลาดลอนดอนเปิด เพื่อยืนยันการเคลื่อนไหว
  • ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ: การเข้าใจปฏิทินเศรษฐกิจเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวใหญ่จากสหรัฐฯ เช่น NFP หรือการประชุม FED ที่มักเกิดขึ้นในช่วง 19:30 น. – 22:00 น. (เวลาไทย) นักเทรดบางคนเลือก “อ่านซิกแนล” ก่อนข่าว และเข้าตลาดเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวล่วงหน้า (Anticipation Trade) ขณะที่บางคนรอให้ราคา “ผลักตัว” แล้วตามในทิศทางนั้นทันที

โดยรวม ช่วงเวลา 14:00 – 23:00 น. ซึ่งครอบคลุมการเปิดของลอนดอนและการทับซ้อนกับนิวยอร์ก ถือเป็นช่วงที่ตลาดมีความคึกคักที่สุดในประเทศไทย เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกประเภท โดยเฉพาะเมื่อต้องการหลีกเลี่ยงปัญหา “สเปรด” ที่พุ่งสูง และต้องการคำสั่งซื้อขายที่ผ่านเรียบร้อยโดยไม่เกิด slippage

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด

ไม่ใช่แค่เวลาเท่านั้นที่กำหนดการเคลื่อนไหวของราคา แม้เวลาจะเปิดอยู่ แต่หากไม่มี “ตัวเร่ง” ราคาจะช้าหรือไม่ขยับเลยก็เป็นไปได้ ดังนั้น นักเทรดควรจับตาปัจจัยเหล่านี้ควบคู่กันไปด้วย:

  • ข่าวเศรษฐกิจ: การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจระดับชาติ เช่น อัตราเงินเฟ้อของยุโรป, ตัวเลขการผลิตอุตสาหกรรมในญี่ปุ่น, หรือ GDP ของสหรัฐฯ มักจะส่งผลต่อสกุลเงินที่เกี่ยวข้องทันที หากข้อมูลดีกว่าคาด ค่าเงินนั้นจะแข็งค่าขึ้น และในทางกลับกัน ข้อมูลที่อ่อนแอกว่าจะทำให้ตกลง
  • เหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์: ความขัดแย้ง ความไม่มั่นคงทางการเมือง หรือภัยพิบัติ มักกระตุ้นให้นักลงทุนหนีความเสี่ยง (Risk-off) และหันไปซื้อเยน (JPY), เงินฟรังก์สวิส (CHF) หรือทองคำ (XAU) ซึ่งถือเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ทำให้ราคาเหล่านี้พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่สัมพันธ์กับข้อมูลพื้นฐาน
  • ความแข็งแรงของดอลลาร์สหรัฐฯ: เนื่องจากทองคำถูกตีราคาในรูปของดอลลาร์ การอ่อนค่าของดอลลาร์ปกติจะทำให้ทองคำแพงขึ้น แต่หากดอลลาร์แข็ง เงินทุนจะไหลออกจากสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย เช่น ทอง ไปยังสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทน เช่น พันธบัตรสหรัฐฯ ทำให้ราคาทองคำลดลง

การเทรดในช่วงวันหยุดและเทศกาลสำคัญ

แม้ตลาดจะเปิด 24/5 แต่ก็มีข้อยกเว้นในช่วงวันหยุดสากลที่ศูนย์การเงินหลักปิดทำการ เช่น:

  • ตลาดปิด: วันปีใหม่ (1 มกราคม), วันคริสต์มาส (25 ธันวาคม), และบางปี Good Friday หรือวันอีสเตอร์ ซึ่งในวันเหล่านี้ ตลาดส่วนใหญ่จะปิด ทำให้เทรดเดอร์ไม่สามารถซื้อขายได้
  • สภาพคล่องต่ำ: วันก่อนหรือหลังวันหยุดหยั่ง มักจะมีผู้เข้าร่วมตลาดลดลง แม้จะเปิดซื้อขาย แต่สเปรดอาจพุ่งสูงผิดปกติ และเกิด slippage ได้ง่าย โดยเฉพาะกับสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ Majors เช่น คู่รอง (Minors) หรือสกุลเงินของประเทศกำลังพัฒนา (Exotics)
  • ความระมัดระวัง: ควรหลีกเลี่ยงการเปิดตำแหน่งยาวในช่วงเทศกาล หรือแม้แต่ปิดสถานะทั้งหมดเพื่อป้องกัน Gap ราคาเมื่อตลาดเปิดใหม่ โดยเฉพาะทองคำ ที่มีโอกาสเปิดต่างจากปลายวันก่อนหน้าอย่างมาก หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างวันหยุด

การบริหารความเสี่ยงและกลยุทธ์ในแต่ละช่วงเวลาตลาด

ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ใด การจัดการความเสี่ยงควรถูกปรับตามลักษณะของแต่ละช่วงเวลา:

  • ช่วงลอนดอน-นิวยอร์ก: แม้จะน่าตื่นเต้น แต่ก็อันตราย ควรใช้ stop loss แน่นอน และควรตั้ง trailing stop หากต้องการรักษาผลกำไร หลีกเลี่ยงการเลเวอเรจสูงเกินไป เพราะการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยอาจทำให้ margin call ได้
  • ช่วงซิดนีย์-โตเกียว: เหมาะสำหรับกลยุทธ์แบบไซด์เวย์ หรือการเทรดแนวรับ-แนวต้านในกรอบราคาแคบ แนะนำให้ใช้ pending order เช่น buy limit หรือ sell limit จะดีกว่า market order ที่อาจโดน slippage
  • ช่วงประกาศข่าว: หากคุณต้องการเทรดตามข่าว ควรใช้คำสั่ง limit order แทน market เพื่อป้องกันการเติมคำสั่งในราคาที่เลวร้ายเกินไป (เช่น เห็นราคา 1.1000 แต่ได้ 1.0950) และควรรอให้ราคาเคลื่อนไหวผ่าน phase แรกแล้วค่อยตาม เพื่อหลีกเลี่ยง false breakout

บทสรุป

ความรู้เรื่องเวลาเปิด-ปิดของตลาด Forex และทองคำไม่ใช่แค่ข้อมูลที่ดูผิวเผิน แต่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของการเทรดได้อย่างมีนัยสำคัญ การเข้าใจลักษณะของแต่ละเซสชั่นจะช่วยให้คุณเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมกับสไตล์ กลยุทธ์ และระดับความเสี่ยงของตัวเอง

ไม่มี “ช่วงเวลาหรือชั่วโมงมหัศจรรย์” ที่เหมาะกับทุกคน แต่คุณสามารถสร้าง “ชั่วโมงทอง” ของตัวเองได้ หากเข้าใจว่าตลาดอยู่ที่จุดใดในโลก การจับจังหวะตลาดไม่ใช่แค่การดูกราฟ แต่คือการอ่าน “จังหวะของโลก” ผ่านพฤติกรรมการซื้อขายระหว่างประเทศ

การรวมกันของความรู้เรื่องเวลาตลาด, ข้อมูลเศรษฐกิจ, และเทคนิคการบริหารความเสี่ยง จะเป็นกองกำลังร่วมช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในตลาดที่ท้าทายและหมุนเวียนตลอด 24 ชั่วโมงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Q1: ตลาด Forex เปิดกี่โมงในประเทศไทย?

ตลาด Forex เปิดทำการตั้งแต่ประมาณ 05:00 น. ของเช้าวันจันทร์ และปิดในเวลาประมาณ 04:00 น. ของเช้าวันเสาร์ตามเวลาประเทศไทย (GMT+7) โดยแต่ละเซสชั่นหลัก (ซิดนีย์, โตเกียว, ลอนดอน, นิวยอร์ก) มีช่วงเวลาเปิด-ปิดที่แตกต่างกันไป.

Q2: วันเสาร์-อาทิตย์ เทรดทองคำได้ไหม?

ไม่ได้ โดยทั่วไปตลาดทองคำ (XAU/USD) จะปิดทำการในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เช่นเดียวกับตลาด Forex ทั่วไป การซื้อขายจะเริ่มเปิดอีกครั้งในเช้าวันจันทร์.

Q3: ช่วงเวลาไหนที่ตลาด Forex มีความผันผวนสูงสุด?

ช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูงสุดมักจะเป็นช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดทำการคาบเกี่ยวกัน หรือประมาณ 19:00 น. ถึง 23:00 น. ตามเวลาประเทศไทย เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายและสภาพคล่องสูงมาก.

Q4: Daylight Saving Time มีผลต่อการเทรด Forex อย่างไร?

การปรับ Daylight Saving Time (DST) ของประเทศในยุโรปและอเมริกาจะทำให้เวลาเปิด-ปิดของเซสชั่นตลาดเหล่านั้นเมื่อเทียบกับเวลาประเทศไทยเลื่อนไป 1 ชั่วโมงในช่วงที่มีการปรับ เทรดเดอร์ควรตรวจสอบเวลาที่ถูกต้องจากโบรกเกอร์หรือปฏิทินเศรษฐกิจเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน.

Q5: ควรเทรดคู่เงิน EUR/USD ในช่วงเวลาใดดีที่สุด?

คู่เงิน EUR/USD มักจะมีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดทำการ หรือช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน (ประมาณ 14:00 น. – 04:00 น. ตามเวลาไทย) โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่าง 19:00 น. – 23:00 น. เป็นช่วงที่มีสภาพคล่องและความผันผวนสูง เหมาะสำหรับการเทรดคู่เงินนี้.

Q6: การประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด?

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐอเมริกามักจะมีการประกาศในช่วงต้นของเซสชั่นนิวยอร์ก (ประมาณ 19:30 น. หรือ 21:00 น. เวลาไทย) ส่วนข่าวจากยุโรปและสหราชอาณาจักรจะประกาศในช่วงเซสชั่นลอนดอน (ประมาณ 14:00 น. – 17:00 น. เวลาไทย) การตรวจสอบ ปฏิทินเศรษฐกิจ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อติดตามช่วงเวลาเหล่านี้.