คู่มือ SWIFT CODE ปี 2025: รหัสธนาคารไทย, ค่าธรรมเนียม, และขั้นตอนรับ/โอนเงินจากต่างประเทศ

คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับ SWIFT Code 2025

ในโลกของการเงินไร้พรมแดน การเข้าใจและใช้งาน SWIFT Code อย่างถูกต้องไม่ใช่แค่เรื่องความสะดวก แต่เป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกรรมเงินระหว่างประเทศ ไม่ว่าคุณจะกำลังรับเงินจากญาติในต่างประเทศ ส่งเงินเพื่อทำธุรกรรมทางธุรกิจ หรือส่งเงินเพื่อชำระค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเล่าเรียนหรือค่ารักษาพยาบาล การระบุข้อมูลธนาคารอย่างแม่นยำด้วยรหัสที่ถูกต้องย่อมลดความเสี่ยงต่อความล่าช้า เงินผิดบัญชี หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ไม่จำเป็น

รหัส SWIFT เปรียบเสมือนหมายเลขประจำตัวของธนาคารในเวทีสากล ช่วยให้ระบบการเงินทั่วโลกสามารถติดต่อและโอนเงินระหว่างกันได้อย่างปลอดภัยและมีมาตรฐานเดียวกัน บทความนี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือการใช้งานที่ครบถ้วนสมบูรณ์สำหรับปี 2025 ครอบคลุมทั้งความรู้พื้นฐาน โครงสร้างรหัส รหัสธนาคารชั้นนำในประเทศไทย วิธีโอนและรับเงินจากต่างประเทศ เรื่องค่าธรรมเนียม และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ที่จะทำให้คุณมั่นใจทุกครั้งที่มีการโอนเงินข้ามประเทศ

คู่มือ SWIFT CODE ปี 2025: รหัสธนาคารไทย, ค่าธรรมเนียม, และขั้นตอนรับ/โอนเงินจากต่างประเทศ

SWIFT Code คืออะไร? เหตุใดจึงจำเป็นต่อการโอนเงินระหว่างประเทศ?

เมื่อพูดถึงการส่งเงินไปต่างประเทศ หนึ่งในข้อมูลที่ขาดไม่ได้ก็คือ SWIFT Code ซึ่งย่อมาจาก Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication หรือที่รู้จักอีกชื่อว่า BIC (Bank Identifier Code) รหัสนี้ถูกใช้ในการระบุตัวตนของธนาคารในระบบการเงินระหว่างประเทศ และจัดทำขึ้นตามมาตรฐานสากล ISO 9362 เพื่อให้มั่นใจว่าคำสั่งโอนเงินจะไปถึงที่หมายอย่างถูกต้อง

ระบบ SWIFT เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2516 (ค.ศ. 1973) โดยกลุ่มธนาคารจาก 15 ประเทศ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างระบบการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นสากลสำหรับสถาบันการเงิน ปัจจุบัน มีธนาคารและสถาบันการเงินกว่า 11,000 แห่งจากกว่า 200 ประเทศทั่วโลกที่เชื่อมต่อกันผ่านเครือข่ายนี้ ทำให้การสื่อสารและโอนถ่ายเงินข้ามประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้

ภาพประกอบแนวคิดการโอนเงินระหว่างประเทศด้วย SWIFT

รู้ลึก! โครงสร้างของ SWIFT Code แต่ละตัวมีความหมายอย่างไร?

รหัส SWIFT Code ประกอบด้วยตัวอักษร 8 หรือ 11 ตัว โดยแต่ละส่วนมีหน้าที่ระบุข้อมูลที่แม่นยำ แตกต่างกันตามลำดับตัวอักษร

  • ตัวอักษร 4 ตัวแรก (Bank Code): ระบุชื่อธนาคาร เช่น “KASI” สำหรับธนาคารกสิกรไทย หรือ “SICO” สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ ตัวอักษรเหล่านี้ไม่ซ้ำกับธนาคารอื่นในระดับสากล
  • ตัวอักษร 2 ตัวถัดไป (Country Code): เป็นรหัสประเทศตามมาตรฐาน ISO เช่น “TH” แทนประเทศไทย “US” สำหรับสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
  • ตัวอักษร 2 ตัวถัดไป (Location Code): แสดงสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ เช่น “BK” สำหรับกรุงเทพมหานคร ซึ่งอาจเป็นตัวอักษรหรือตัวเลข
  • ตัวอักษร 3 ตัวสุดท้าย (Branch Code): (ถ้ามี) ใช้ระบุสาขาเฉพาะของธนาคาร หากไม่ระบุสาขา จะใช้ “XXX” เพื่อแทนสำนักงานใหญ่

ตัวอย่าง เช่น รหัส KASITHBK สำหรับธนาคารกสิกรไทย:

  • KASI = ธนาคารกสิกรไทย
  • TH = ประเทศไทย
  • BK = กรุงเทพมหานคร
  • ไม่มีตัวท้าย = สำนักงานใหญ่

ดังนั้น แค่เพียงดูรหัส 8 ตัวนี้ ระบบก็สามารถระบุธนาคารปลายทางได้อย่างชัดเจน

SWIFT Code ธนาคารชั้นนำในประเทศไทย (อัปเดตปี 2025)

เพื่อลดความสับสนและเพิ่มความแม่นยำในการทำธุรกรรม เราได้รวบรวมรายชื่อ SWIFT Code ของธนาคารหลักในประเทศไทยพร้อมข้อมูลประกอบที่จำเป็น

ธนาคาร ชื่อภาษาอังกฤษ SWIFT Code ที่อยู่สำนักงานใหญ่ (ภาษาอังกฤษ) เว็บไซต์
ธนาคารกสิกรไทย KASIKORNBANK Public Company Limited KASITHBK 1 Soi Kasikornthai Ratburana Rd, Bangkok 10140 www.kasikornbank.com
ธนาคารไทยพาณิชย์ Siam Commercial Bank Public Company Limited SICOTHBK 9 Ratchadaphisek Road Ladyao, Jatujak, Bangkok 10900 www.scb.co.th
ธนาคารกรุงเทพ Bangkok Bank Public Company Limited BKKBTHBK 333 Silom Road Bangrak, Bangkok 10500 www.bangkokbank.com
ธนาคารกรุงไทย Krung Thai Bank Public Company Limited KRTHTHBK 35 Sukhumvit Road, Klong Toey Nua Wattana, Bangkok 10110 www.ktb.co.th
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา Bank of Ayudhya Public Company Limited AYUDTHBK 1222 Rama 3 Road, Bang Phongphang Yannawa, Bangkok 10120 www.krungsri.com
ธนาคารทหารไทยธนชาต TMBThanachart Bank Public Company Limited TMBKTHBK 3000 Phaholyothin Road Chatuchak Bangkok 10900 www.ttbbank.com
ธนาคารออมสิน Government Savings Bank GSBATHBK BUILDING 1, 470 PHAHOLYOTHIN ROAD, SAMSEN NAI, PHAYATHAI, Bangkok 10400 www.gsb.or.th
ธนาคารยูโอบี United Overseas Bank (Thai) Public Company Limited UOVBTHBK 690, UOB PLAZA SUKHUMVIT ROAD KHLONG TAN, BANGKOK www.uob.co.th
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย CIMB Thai Bank PCL UBOBTHBK 44 Langsuan Road, Lumpini, Pathum Wan, Bangkok 10330 www.cimbthai.com
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร Kiatnakin Phatra Bank KKPBTHBK 500 Amarin Tower, Ploenchit Road, Lumpini, Pathumwan, Bangkok 10330 bank.kkpfg.co

จะหา SWIFT Code ของธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารอื่นได้จากที่ไหน?

หากคุณต้องการค้นหารหัส SWIFT Code ของธนาคารกสิกรไทยหรือธนาคารใดก็ตามในประเทศไทย มีหลายช่องทางที่สามารถใช้ตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย

  • เว็บไซต์ทางการของธนาคาร: ทุกธนาคารมีการระบุ SWIFT Code ในส่วนบริการส่งเงินต่างประเทศ หรือหน้า “คำถามที่พบบ่อย”
  • แอปพลิเคชันโมบายล์แบงก์กิ้ง: เช่น แอป K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย หรือ SCB Easy ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีฟีเจอร์ช่วยกรอกข้อมูลโอนเงินต่างประเทศโดยแสดงรหัส SWIFT ให้อัตโนมัติ
  • สอบถามที่สาขาหรือ Call Center: หากไม่แน่ใจ หรือต้องการความชัดเจน ควรโทรสอบถามศูนย์บริการลูกค้า หรือเดินทางไปสอบถามสาขาใกล้บ้าน
  • ใบแจ้งยอดบัญชี (Statement): ในหลายกรณี ธนาคารจะระบุรหัส SWIFT Code ไว้ด้านล่างของเอกสารทางการเงิน แม้จะไม่ปรากฏทุกครั้ง แต่ก็เป็นข้อมูลยืนยันที่น่าเชื่อถือ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ารหัสที่ใช้เป็นรหัสของสำนักงานใหญ่ของธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรหัส 8 ตัว (เช่น XXXXTHBK) หากไม่รู้รหัสสาขา สามารถใช้ “XXX” แทนที่ตำแหน่งสาขา โดยระบบจะนำเงินไปยังสำนักงานใหญ่ของธนาคารปลายทาง และกระจายต่อไปยังสาขาได้เอง

SWIFT Code ต่างจาก IBAN และรหัสธนาคารในประเทศอย่างไร?

แม้ฟังดูคล้ายกัน แต่รหัสทั้งสามประเภทมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และไม่สามารถใช้แทนกันได้

  • SWIFT Code (BIC): ใช้ระบุธนาคารในระดับสากลสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจำเป็นทุกครั้งที่ทำธุรกรรมข้ามประเทศ
  • IBAN (International Bank Account Number): เป็นระบบที่นิยมใช้ในยุโรป ตะวันออกกลาง และบางประเทศแอฟริกา เพื่อมอบความแม่นยำสูงขึ้นในการระบุบัญชีผู้รับ อย่างไรก็ดี ธนาคารในประเทศไทยไม่ได้ใช้ IBAN และยังคงพึ่งพา SWIFT Code ร่วมกับเลขบัญชีปกติในการรับเงินจากต่างประเทศ
  • รหัสธนาคารในประเทศ: เช่น รหัส 004 ของธนาคารกสิกรไทย หรือ 002 ของธนาคารกรุงเทพ ใช้เฉพาะกับการทำธุรกรรมในระบบธนาคารไทย เช่น การหักเงินอัตโนมัติ การโอนเงินผ่าน PromptPay หรือการรับเงินเดือนเท่านั้น ไม่มีบทบาทในธุรกรรมต่างประเทศ

การสับสนระหว่างรหัสเหล่านี้อาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดที่ส่งผลกระทบ เช่น การโอนเงินล้มเหลว หรือเสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนทำรายการทุกครั้ง

ขั้นตอนการโอนเงินระหว่างประเทศด้วยระบบ SWIFT: ทั้งผู้ส่งและผู้รับต้องรู้อะไรบ้าง?

การโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน SWIFT เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยข้อมูลทั้งจากฝั่งผู้ส่งและผู้รับอย่างครบถ้วน ทั้งเพื่อความรวดเร็วและเพื่อความปลอดภัย

สำหรับผู้รับเงินจากต่างประเทศ (Inward Remittance)

หากคุณกำลังรอรับเงินจากต่างประเทศ คุณจำเป็นต้องให้ข้อมูลต่อไปนี้แก่ผู้ส่ง

  • ชื่อธนาคาร (ภาษาอังกฤษ)
  • รหัส SWIFT Code ของธนาคาร
  • ชื่อ-นามสกุลเจ้าของบัญชี (ตามที่ลงทะเบียนไว้กับธนาคาร)
  • เลขที่บัญชีธนาคาร
  • ที่อยู่ธนาคาร (บางครั้งต้องใช้)
  • วัตถุประสงค์การโอน (เช่น การสนับสนุนบุตร ค่าสินค้า หรือค่ารักษาพยาบาล)

เมื่อผู้ส่งดำเนินการโอนแล้ว คุณอาจได้รับข้อความแจ้งเตือนจากธนาคาร หากเป็นเงินจำนวนมาก (เช่น เกิน 50,000 USD) ธนาคารอาจต้องขอเอกสารประกอบ เช่น หนังสือรับรองการจ้างงาน ใบแจ้งหนี้ หรือเอกสารอื่น ๆ ตามระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อยืนยันแหล่งที่มาของเงิน

สำหรับผู้ส่งเงินไปต่างประเทศ (Outward Remittance)

หากคุณเป็นผู้ส่งเงิน คุณจะต้องเตรียมข้อมูลต่อไปนี้ไว้ให้พร้อม

  • ชื่อ-นามสกุลผู้รับ (ภาษาอังกฤษ)
  • เลขที่บัญชีของผู้รับ
  • ชื่อและ SWIFT Code ของธนาคารปลายทาง
  • ที่อยู่สำนักงานใหญ่ของธนาคารผู้รับ
  • จำนวนและสกุลเงินที่ต้องการส่ง
  • วัตถุประสงค์การโอน (ต้องระบุอย่างชัดเจนตามระเบียบธนาคาร)
  • เอกสารประจำตัว (บัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต)

การตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนกดยืนยันเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะหากใส่ชื่อผิดหรือ SWIFT Code ไม่ตรง อาจทำให้เงินถูกส่งผิด หรือถูกตีกลับ พร้อมค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

ค่าบริการและความเร็วในการโอนเงินผ่านระบบ SWIFT

สองปัจจัยที่ผู้ใช้บริการมักให้ความสนใจคือค่าใช้จ่ายและระยะเวลา ซึ่งสามารถแตกต่างกันไปตามธนาคาร ประเทศปลายทาง และช่องทางการโอน

รูปแบบการแบ่งค่าธรรมเนียม (Charge Types)

การโอนผ่าน SWIFT มี 3 รูปแบบที่ใช้ในการแบ่งค่าธรรมเนียม ซึ่งส่งผลต่อจำนวนเงินที่ผู้รับจะได้รับจริง

  • Charge Ben (Beneficiary): ผู้รับเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมทั้งหมด รวมถึงธนาคารต้นทาง ตัวกลาง และปลายทาง ซึ่งอาจทำให้ยอดที่ได้น้อยกว่าที่คาดไว้
  • Charge Sha (Shared): ผู้ส่งจ่ายค่าธรรมเนียมต้นทาง ส่วนค่าธรรมเนียมธนาคารกลางและปลายทางให้ผู้รับจ่าย นี่เป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุดในบริการธนาคารไทย
  • Charge Our (Originator): ผู้ส่งเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมทั้งหมด ทำให้ผู้รับได้ยอดเต็มตามที่ส่งไป แม้จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมล่วงหน้า

สำหรับธนาคารในประเทศไทย ค่าธรรมเนียมการ รับเงินโอนจากต่างประเทศ มักอยู่ที่ประมาณ 0.25% ของยอดเงิน โดยมีขั้นต่ำ 200-300 บาท และสูงสุดไม่เกิน 500 บาทต่อรายการ สำหรับค่าธรรมเนียมการ ส่งเงินออก จะแตกต่างกันไปตามธนาคาร ช่องทาง (สาขา หรือออนไลน์) และสกุลเงินที่ใช้ ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดสามารถตรวจสอบได้ที่ เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของธนาคารทุกแห่ง

ระยะเวลาในการโอนเงิน

โดยทั่วไป การโอนผ่าน SWIFT ใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 7 วันทำการ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยหลายประการ

  • ประเทศปลายทาง (บางประเทศใช้เวลานานกว่า)
  • จำนวนธนาคารตัวกลางที่เกี่ยวข้อง
  • วันทำการและช่วงเวลาทำรายการ (ทำตอนเย็นหรือวันหยุดอาจล่าช้า)
  • ความถูกต้องของข้อมูล (รหัสผิดหรือชื่อผู้รับไม่ตรงอาจทำให้ล่าช้าหลายวัน)
  • การตรวจสอบเพื่อป้องกันการฟอกเงิน โดยเฉพาะธุรกรรมจำนวนมากหรือไปยังประเทศเสี่ยง

คำแนะนำคือ ควรสอบถามธนาคารก่อนทำรายการเสมอเพื่อประเมินต้นทุนและระยะเวลาที่แท้จริง ช่วยให้วางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น

ข้อควรระวังและแนวทางแก้ไขเมื่อเจอปัญหา

แม้ระบบ SWIFT จะทันสมัย แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะจากความคาดเคลื่อนของผู้ใช้งานเอง

  • กรอก SWIFT Code ผิด: เป็นข้อผิดพลาดอันดับหนึ่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารหัสถูกต้องก่อนกดยืนยัน
  • ชื่อผู้รับไม่ตรงกับบัญชี: แม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่ระบบอาจปฏิเสธการโอน หากชื่อไม่ตรงเป๊ะ
  • วัตถุประสงค์การโอนไม่ชัดเจน: ส่งผลให้ธนาคารปลายทางตั้งคำถามหรือขอเอกสารเพิ่มเติม
  • เงินล่าช้า: หากเกิน 5-7 วันทำการ โดยไม่มีการแจ้งเตือน ควรติดต่อธนาคารพร้อมแจ้ง เลขหมายอ้างอิง SWIFT (MT103) เพื่อตรวจสอบเส้นทาง
  • ค่าธรรมเนียมแฝง: บางธนาคารอาจคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากผู้รับ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ควรตรวจสอบประเภทการแบ่งค่าธรรมเนียมก่อนส่ง

ไม่ว่าจะกรณีใด ควร เก็บใบเสร็จรับเงิน หรือเอกสารยืนยันการโอนทุกครั้ง เพราะจะเป็นหลักฐานสำคัญในการติดตามหรือร้องขอแก้ไขหากเกิดปัญหาในภายหลัง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SWIFT Code และการโอนเงินระหว่างประเทศ

1. รหัส SWIFT Code ของธนาคารกสิกรไทยคืออะไร และดูได้จากที่ไหน?

รหัส SWIFT Code ของธนาคารกสิกรไทยคือ KASITHBK คุณสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของธนาคาร ในแอปพลิเคชัน K PLUS (ในส่วนบริการโอนเงินระหว่างประเทศ) หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร.

2. SWIFT Code ของธนาคารกรุงไทยคืออะไร และฉันจะตรวจสอบได้อย่างไร?

SWIFT Code ของธนาคารกรุงไทยคือ KRTHTHBK สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ทางการของธนาคารกรุงไทย หรือติดต่อสอบถามจากสาขาธนาคารโดยตรง.

3. รวบรวม SWIFT Code ของทุกธนาคารในประเทศไทยมีอยู่ที่ไหนบ้าง?

คุณสามารถดูตารางรวบรวม SWIFT Code ของธนาคารหลักๆ ในประเทศไทยได้ในส่วน “รวม SWIFT Code ธนาคารในประเทศไทย (อัปเดต 2025)” ของบทความนี้.

4. หากต้องการโอนเงินไปต่างประเทศ ควรใช้รหัส SWIFT Code ของธนาคารไทยพาณิชย์คืออะไร?

รหัส SWIFT Code สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์คือ SICOTHBK ควรใช้รหัสนี้เมื่อคุณต้องการโอนเงินไปยังหรือรับเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์จากต่างประเทศ.

5. SWIFT Code ของธนาคารกรุงเทพคืออะไร และจำเป็นต้องใช้รหัสสาขาด้วยหรือไม่?

SWIFT Code ของธนาคารกรุงเทพคือ BKKBTHBK โดยทั่วไปหากไม่ทราบรหัสสาขาเฉพาะ สามารถใช้รหัส 8 ตัวอักษรนี้ซึ่งหมายถึงสำนักงานใหญ่ และเงินจะถูกส่งไปยังธนาคารปลายทางได้ แต่การระบุรหัสสาขา 3 ตัวท้าย (หากทราบ) อาจช่วยให้การดำเนินการรวดเร็วยิ่งขึ้น.

6. SWIFT Code ของธนาคาร TTB (ทหารไทยธนชาต) ดูได้จากช่องทางใดบ้าง?

SWIFT Code ของธนาคาร TTB คือ TMBKTHBK สามารถดูได้จากเว็บไซต์ของธนาคาร TTB หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรง.

7. การใช้ SWIFT Code เพื่อรับเงินโอนจากต่างประเทศเสียค่าธรรมเนียมเท่าไหร่?

ค่าธรรมเนียมในการรับเงินโอนจากต่างประเทศผ่านระบบ SWIFT โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 0.25% ของยอดเงินที่โอนเข้า โดยมีขั้นต่ำ 200-300 บาท และสูงสุดไม่เกิน 500 บาทต่อรายการ อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคารและรูปแบบการแบ่งค่าธรรมเนียม (Charge Ben/Sha/Our).

8. ความแตกต่างระหว่าง SWIFT Code กับ Bank Code ที่ใช้ในประเทศไทยคืออะไร?

SWIFT Code ใช้สำหรับระบุธนาคารในการโอนเงินระหว่างประเทศ ส่วน Bank Code (รหัสธนาคารในประเทศ) ใช้สำหรับการทำธุรกรรมภายในประเทศเท่านั้น และไม่สามารถใช้แทนกันได้ในการโอนเงินระหว่างประเทศ.

9. ถ้าฉันไม่มี SWIFT Code ของผู้รับปลายทาง จะโอนเงินระหว่างประเทศได้หรือไม่?

ไม่สามารถทำได้ หากไม่มี SWIFT Code ธนาคารจะไม่สามารถระบุธนาคารผู้รับเงินปลายทางที่ถูกต้องได้ และการโอนเงินจะไม่สำเร็จ คุณจำเป็นต้องมี SWIFT Code ที่ถูกต้องเสมอสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ.

10. โอนเงินด้วย SWIFT Code ใช้เวลากี่วันและมีปัจจัยอะไรที่ส่งผลต่อความเร็ว?

โดยทั่วไป การโอนเงินด้วย SWIFT Code ใช้เวลาประมาณ 1-7 วันทำการ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเร็วได้แก่ ประเทศปลายทาง จำนวนธนาคารตัวกลางที่เกี่ยวข้อง ช่วงเวลาที่ทำรายการ วันหยุดทำการของธนาคาร และความถูกต้องของข้อมูลที่ระบุ.

การเข้าใจ SWIFT Code อย่างถ่องแท้ไม่ใช่แค่ความรู้เท่านั้น แต่คือความสามารถที่จำเป็นในโลกของการเงินยุคใหม่ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจ นักศึกษา หรือแรงงานต่างประเทศ การมีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และทันสมัยเกี่ยวกับรหัสธนาคาร การโอนเงินระหว่างประเทศ และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้คุณจัดการการเงินได้อย่างมั่นใจ มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในทุกธุรกรรมข้ามพรมแดน