ภาษี Forex ในประเทศไทย ปี 2568: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับบุคคลและนิติบุคคล พร้อมกลยุทธ์ลดหย่อนและภาพรวมทั่วโลก

การลงทุนในตลาด Forex หรือที่รู้จักกันในชื่อตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย นักเทรดจำนวนมากเข้ามาในตลาดนี้หวังจะได้รับผลตอบแทนจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม แม้การซื้อขายจะเกิดขึ้นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในต่างประเทศ แต่คำถามที่หลายคนยังคงสงสัยคือ: **”กำไรจากการเทรด Forex ต้องเสียภาษีในไทยหรือไม่?”**
คำตอบคือ **”ต้องเสียภาษี”** หากคุณมีสถานะการเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยและนำเงินกำไรเข้ามาใช้หรือเก็บไว้ในประเทศ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับภาษี Forex ในปี 2568 อย่างละเอียด ครอบคลุมตั้งแต่เงื่อนไขการเสียภาษี รูปแบบการคำนวณ วิธีการยื่นแบบ รวมถึงกลยุทธ์ในการลดหย่อนภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมการเปรียบเทียบกับสินทรัพย์อื่นและภาพรวมภาษีในต่างประเทศ เพื่อให้คุณสามารถบริหารจัดการภาษีได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
ทำไมกำไรจากเทรด Forex จึงเข้าข่ายต้องเสียภาษีในไทย?
ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ 24 ชั่วโมงตลอดสัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ แม้การซื้อขายจะไม่เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยตรง แต่กำไรที่ได้รับถือเป็น **”รายได้”** ตามกฎหมายภาษีของไทย
ตามมาตรา 38 และ 40 แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดไว้ชัดเจนว่า ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา **ไม่ว่าเงินนั้นจะได้มาจากที่ใด** ไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศ แต่มีเงื่อนไขสำคัญ 2 ประการที่ทำให้เงินได้ต่างประเทศกลายเป็นเงินได้พึงประเมินในไทย:
1. ผู้ได้รับเงินได้ต้องเป็น **ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย (Thai Tax Resident)** หมายถึง การพำนักในประเทศไทย **ตั้งแต่ 180 วันขึ้นไปในปีภาษีนั้น**
2. เงินได้จากต่างประเทศจะต้องได้รับ (หรือนำเข้ามายังประเทศไทย) **ภายในปีภาษีเดียวกัน**
ดังนั้น หากคุณอยู่ในไทยเกิน 180 วันต่อปี และทุกครั้งที่ได้กำไรจากโบรกเกอร์ต่างประเทศ คุณโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในไทยหรือใช้จ่ายในประเทศไทยโดยตรง กำไรส่วนนั้นจะถือว่า “ได้รับเงินได้ภายในปีภาษี” และ **มีหน้าที่ต้องเสียภาษีในประเทศไทย** โดยไม่สามารถอ้างว่า “โบรกเกอร์อยู่นอกประเทศไทย ดังนั้นเงินก็อยู่ต่างประเทศ” เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีได้
คำว่า “อยู่ในประเทศเกิน 180 วัน” หมายความว่าอย่างไร?
เกณฑ์ 180 วันเป็นจุดสำคัญที่สุดในการพิจารณาภาษี กรมสรรพากรใช้คำว่า **”ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยเพื่อเสียภาษี”** หรือที่เรียกว่า “Tax Resident”
คุณจะถือว่าเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในการเสียภาษี หากอยู่ในประเทศไทย **ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคมของปีภาษีเดียวกัน รวมกันครบ 180 วันขึ้นไป** ซึ่งสามารถนับรวม:
– การเดินทางเข้า-ออกประเทศหลายครั้ง
– วันที่อยู่จริงแม้จะไม่ได้พำนัก อ้างอิงจากบันทึกการเดินทางในหนังสือเดินทาง
**ตัวอย่างเช่น:**
นาย A อยู่ไทย 50 วัน แล้วเดินทางไปทำงานที่จีน 100 วัน กลับมาอยู่ไทยอีก 60 วัน รวมเท่ากับ 110 วัน ถือว่า **ไม่ถึง 180 วัน** จึงอาจไม่เข้าข่ายต้องเสียภาษีจากกำไร Forex หากมีการนำกำไรเข้ามาในปีถัดไป
แต่หากนาย B อยู่ไทยรวม 200 วัน และมีการโอนกำไร Forex เข้ามาในปีเดียวกัน ถึงแม้จะเกิดกำไรจากการเทรดในต่างประเทศ ก็ **ต้องเสียภาษีในไทย**
กำไรจาก Forex จัดอยู่ในประเภทเงินได้ใด?
เมื่อต้องยื่นภาษี คุณต้องจัดประเภทเงินได้ของคุณตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งมี 8 ประเภท สำหรับกำไรจากการเทรด Forex นักบัญชีและกรมสรรพากรส่วนใหญ่พิจารณาให้จัดอยู่ใน **เงินได้ประเภทที่ 4 (40(4))** ซึ่งหมายถึง:
> **“ดอกเบี้ย, เงินปันผล, ส่วนแบ่งกำไร, หรือผลประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการลงทุน”**
เหตุผลคือ การเทรด Forex ถือเป็นการลงทุนผ่านการเก็งกำไรจากราคาคอร์ส คล้ายกับการซื้อขายหุ้น หรือกองทุนรวม แม้ไม่เข้าจับตัวสกุลเงินจริง แต่ผลตอบแทนที่ได้ก็เกิดจากราคาตลาด จึงเข้าข่ายเงินได้จากการลงทุน
ในกรณีพิเศษ หากคุณเทรด Forex อย่างต่อเนื่อง ใช้เวลาทั้งวัน มีระบบบริหารจัดการ เปิดคำสั่งนับร้อยครั้งต่อวัน และรายได้หลักมาจากตลาด Forex กรมสรรพากรอาจพิจารณาให้เป็น **เงินได้ประเภทที่ 8 (40(8))** คือ “เงินได้จากธุรกิจ” ซึ่งข้อแตกต่างคือ ประเภทที่ 8 สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ในอัตราสูงกว่าและมีความยืดหยุ่นมากกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับเทรดเดอร์ทั่วไปที่ถือว่าเป็นการลงทุนเสริมจากงานประจำ การจัดเป็นประเภท 4 คือแนวทางที่ถูกต้องและพบได้บ่อยที่สุด
ตัวอย่างการคำนวณภาษี Forex ในปี 2568
ประเทศไทยใช้ระบบ **ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบก้าวหน้า** ในปี 2568 (รายได้ปี 2025) อัตราภาษีมีดังนี้:
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี (%) |
0 – 150,000 | 0 |
150,001 – 300,000 | 5 |
300,001 – 500,000 | 10 |
500,001 – 750,000 | 15 |
750,001 – 1,000,000 | 20 |
1,000,001 – 2,000,000 | 25 |
2,000,001 – 5,000,000 | 30 |
5,000,001 ขึ้นไป | 35 |
มาดูตัวอย่างการคำนวณ:
**นาย X** มีรายได้ประจำจากงานประจำปีละ 600,000 บาท และ มีกำไรจากการเทรด Forex 1,200,000 บาท ในปี 2568
มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเทรด เช่น ค่าโอนเงิน, ค่า VPS และ ค่าสัมมนา รวม 150,000 บาท
มีสิทธิ์ลดหย่อน เช่น ส่วนตัว คู่สมรส บุตร เงินประกันชีวิต กองทุนRMF ฯลฯ รวม 200,000 บาท
**ขั้นตอนการคำนวณ:**
1. **รายได้รวม:** 600,000 (เงินเดือน) + 1,200,000 (กำไร Forex) = 1,800,000 บาท
2. **หักค่าใช้จ่าย:** เงินได้ประเภทที่ 4 โดยทั่วไปจะหักแบบเหมา 50% แต่ **หากมีหลักฐานชัดเจน สามารถหักจริงได้สูงสุดถึง 100%** (ต้องเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างรายได้) → 1,800,000 – 150,000 = 1,650,000 บาท
3. **หักค่าลดหย่อน:** 1,650,000 – 200,000 = 1,450,000 บาท
4. **เงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษี:** 1,450,000 บาท
**คำนวณภาษีตามขั้นบันได:**
– 150,000 บาทแรก: 0% = 0 บาท
– 150,001 – 300,000 (150,000 บาท): 5% = 7,500 บาท
– 300,001 – 500,000 (200,000 บาท): 10% = 20,000 บาท
– 500,001 – 750,000 (250,000 บาท): 15% = 37,500 บาท
– 750,001 – 1,000,000 (250,000 บาท): 20% = 50,000 บาท
– 1,000,001 – 1,450,000 (450,000 บาท): 25% = 112,500 บาท
**รวมภาษีที่ต้องจ่ายจากทั้งเงินเดือนและ Forex:** 0 + 7,500 + 20,000 + 37,500 + 50,000 + 112,500 = 227,500 บาท
หากนาย X ไม่ได้รายงานกำไร Forex 1,200,000 บาท กรมสรรพากรอาจประเมินภาษีย้อนหลังพร้อมเงินเพิ่มและค่าปรับ

กระบวนการยื่นภาษีกำไร Forex: เริ่มต้นจาก ภ.ง.ด. 90
บุคคลทั่วไปที่มีรายได้จากการเดิมพันในต่างประเทศ เช่น การเทรด Forex จะต้องยื่น **แบบ ภ.ง.ด. 90** ไม่ใช่ ภ.ง.ด. 91 (ซึ่งใช้สำหรับพนักงานประจำที่มีแต่เงินเดือน)
**ขั้นตอนการยื่น:**
1. **รวบรวมเอกสาร:**
* รายงานผลกำไร-ขาดทุนรายปีจากโบรกเกอร์ (Annual Profit & Loss Statement)
* บัญชีธนาคารที่แสดงการรับเงินเข้าจากโบรกเกอร์
* ใบเสร็จหรือสมุดบัญชีที่แสดงค่าใช้จ่าย
* เอกสารแสดงสิทธิ์ลดหย่อน (หนังสือรับรองการซื้อ RMF, SSF, ใบเสร็จประกัน ฯลฯ)
* บัตรประชาชน + เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
2. **กรอกแบบ ภ.ง.ด. 90:**
* ระบุรายได้ประเภท 4 (40(4))
* กรอกวงเงินรวมกำไร Forex
* กรอกค่าใช้จ่ายที่หักได้ (กรณีมีหลักฐาน)
* ระบุยอดค่าลดหย่อนทั้งหมด
3. **ช่องทางการยื่น:**
* **ออนไลน์:** ผ่านเว็บไซต์ กรมสรรพากร (rd.go.th) โดยใช้ระบบ e-Filing (สะดวก รวดเร็ว แนะนำเป็นอย่างยิ่ง)
* **ยื่นด้วยตนเอง:** ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา
**กำหนดเวลายื่น:**
สำหรับปีภาษี 2568 (รายได้ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2568)
**ยื่นได้ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2569**
*บริการยื่นออนไลน์อาจได้รับการขยายเวลาจนถึงประมาณ 8 เมษายน โดยขึ้นอยู่กับประกาศ*
**สำคัญ:** แม้คุณจะเทรด **ขาดทุน** ในปีนั้น คุณก็ยัง **ต้องยื่น ภ.ง.ด. 90** เพื่อรายงานว่ามีรายได้จากการเทรด แต่ผลรวมสุทธิเป็นลบหรือเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นการชี้แจงกับกรมสรรพากรอย่างโปร่งใส
กลยุทธ์วางแผนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการภาษีไม่ใช่การหลีกเลี่ยง แต่คือการใช้สิทธิ์ที่กฎหมายรองรับเพื่อลดภาระอย่างยุติธรรม มีหลายวิธีที่เทรดเดอร์สามารถใช้ได้:
1. ใช้สิทธิ์ค่าลดหย่อนประจำปี:
- ส่วนตัว: 60,000 บาท
- คู่สมรส: 60,000 บาท (หากไม่มีรายได้)
- บุตร (เกิด 2561 ขึ้นไป): 60,000 บาท/คน
- บิดามารดา: 30,000 บาท/คน
- ประกันสุขภาพตนเอง: 25,000 บาท
- ประกันชีวิต + ประกันสุขภาพ (รวมสูงสุด): 100,000 บาท
- RMF: สูงสุด 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท
- SSF: สูงสุด 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 200,000 บาท
2. หักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรง:
ในกรณีมีหลักฐานชัดเจน คุณสามารถขอหักค่าใช้จ่ายจริงได้ เช่น:
- ค่าธรรมเนียมการโอนเงินเข้า-ออกบัญชีเทรด
- ค่าใช้จ่าย VPS (หากใช้ EA หรือเทรดตลอด 24 ชั่วโมง)
- ค่าซื้อซอฟต์แวร์วิเคราะห์ Forex
- ค่าสัมมนาหรือคอร์สเรียนเกี่ยวกับการวิเคราะห์เทคนิคหรือพื้นฐาน
3. จัดการกระแสเงินสด:
* ไม่จำเป็นต้องโอนเงินกำไรทั้งหมดเข้ามาในประเทศภายในปีเดียวกัน หากรอผลตอบแทนสูงขึ้นในปีถัดไป อาจช่วยเลื่อนภาระภาษีออกไปได้ (แต่ต้องระวังการพำนัก 180 วัน)
* กระจายการลงทุนหรือใช้อยู่ในบัญชี Forex เพื่อเก็บต้นทุนสำหรับการเปิดคำสั่งในปีถัดไป
**คำเตือน:** อย่าคิดจะ “จัดหลักฐานเท็จ” การแสดงรายได้เกินจริงเพื่อหักค่าใช้จ่ายมากเกินไปอาจถูกตรวจสอบและเสียค่าปรับจำนวนมาก
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาษี Forex
- “ใช้โบรกเกอร์ต่างประเทศก็ไม่ต้องเสียภาษี” — ผิด! ขึ้นอยู่กับตัวคุณ ไม่ใช่โบรกเกอร์ ถ้าคุณเป็น Tax Resident และนำเงินเข้ามา ต้องเสียภาษี
- “ถ้าไม่ได้รับใบแจ้งภาษีมาก็ไม่ต้องยื่น” — ผิด! ระบบในไทยเป็น “ประเมินเอง” คุณต้องยื่นเอง หากไม่ยื่นคือความผิด
- “เทรดสูญ จะได้ไม่ต้องยุ่งกับภาษี” — ผิด! ต้องยื่นแบบฯ เพื่อรายงานว่าเสียหาย ยิ่งไม่ยื่น ยิ่งน่าสงสัย
- “กำไรจาก Forex เสียภาษี 15% เหมือนหุ้น” — ไม่ใช่! ภาษี Forex เข้าหมวดเงินได้อื่น ไม่ใช่หัก ณ ที่จ่ายแบบสามัญชน แต่เข้าโครงการเงินได้รวมและเสียตามขั้นบันได
- “Exness, XM หรือ IQ Option เสียภาษีต่างกันไหม?” — ไม่ต่าง! ไม่มีผลจากโบรกเกอร์ ขึ้นอยู่กับสถานะของนักเทรด
เปรียบเทียบภาษี Forex, ทองคำ CFD และ Cryptocurrency
- Forex และ ทองคำ CFD: จัดอยู่ในเงินได้ประเภทที่ 4 เช่นเดียวกัน ได้รับการผ่อนปรน เช่น ไม่ต้องหัก ณ ที่จ่ายเมื่อมีกำไรจากการซื้อขาย แต่ต้องรวมคำนวณภาษีตอนสิ้นปี
- คริปโตเคอร์เรนซี: มีแนวทางเฉพาะคือ
- หัก ณ ที่จ่าย 15% ในบางกรณี (ถ้าไม่ได้ซื้อขายผ่านกระดานไทยที่ ก.ล.ต. กำกับ)
- ยอมให้หักต้นทุน (แบบ FIFO หรือ Moving Average)
- ยังไม่มีการชี้แจงที่ชัดเจนในเรื่องการหักค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอย่าง VPS หรือโปรแกรม
ความแตกต่างหลักคือ Cryptocurrency มีกฎเฉพาะมากกว่าขณะที่ Forex และ CFD ยังคงใช้โครงสร้างภาษีเดิมตามประมวลรัษฎากร ทำให้การจัดเก็บเอกสารของเทรดเดอร์ Forex มีความยืดหยุ่นมากกว่าในทางปฏิบัติ
ภาพรวมภาษี Forex ในต่างประเทศ
แนวทางการจัดเก็บภาษี Forex ต่างกันไปตามประเทศ:
- สหรัฐอเมริกา: เสียภาษีแบบ 60/40 (60% กำไรระยะยาว 40% กำไรระยะสั้น) ภายใต้มาตรา 1256
- แคนาดา: อาจจัดเป็น Capital Gains หรือ Business Income
- อังกฤษ: มีการยกเว้น Capital Gains Tax สำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป แต่ต้องไม่ถือเป็นมืออาชีพ
- สวิตเซอร์แลนด์: กำไรจากการเทรดส่วนบุคคลมักยกเว้น ยกเว้นเป็นนักค้าเต็มตัว
ข้อสังเกตคือ หลายประเทศมี “ภาษีกำไรจากการลงทุน” ที่แยกต่างหาก แต่ในไทยยังไม่มี ดังนั้นกำไร Forex จะถูก **รวมไว้ในรายได้ทั้งหมด** และเสียภาษีตามอัตราก้าวหน้า ซึ่งอาจทำให้บางคนที่มีรายได้สูงรู้สึกว่าเสียภาษีเยอะ แต่ก็เป็นไปตามกฎหมายที่ปัจจุบันยังไม่แยกประเภทของสินทรัพย์ดิจิทัล
ทำธุรกิจซื้อขาย Forex ในนามบริษัท: ดีหรือไม่?
นักเทรดบางรายเลือกจัดตั้ง **บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด** เพื่อทำหน้าที่เทรดแทนบุคคลธรรมดา นี่เป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณาระยะยาว
ข้อดี:
- อัตราภาษีนิติบุคคล 20% (ต่ำกว่าบุคคลธรรมดาที่สูงสุด 35%)
- สามารถหักค่าใช้จ่ายค่อนข้างเต็ม เช่น ค่าเช่าออฟฟิศ, ค่าเงินเดือน, ค่าโฆษณา
- ภาพลักษณ์และเครดิตดีขึ้น
ข้อเสีย:
- ต้นทุนในการจดทะเบียน บัญชี สอบบัญชี รายปี
- ระบบการเงินซับซ้อน
- เมื่อจ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นยังต้องเสียภาษีอีกรอบ (10%)
การตัดสินใจควรทำร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี โดยพิจารณาจากขนาดของกำไรต่อปี หากกำไรเกิน 1-2 ล้านต่อปี การเข้าสู่โหมดนิติบุคคลอาจคุ้มค่ามากขึ้น
ผลกระทบจากความผิดพลาดด้านภาษี
การไม่ยื่นหรือปกปิดรายได้อาจนำไปสู่บทลงโทษที่รุนแรง:
- ไม่ยื่นภาษี: ค่าปรับสูงสุด 2,000 บาท + เงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน
- ยื่นแต่จ่ายไม่ครบ: อาจถูกปรับ 1-2 เท่าของภาษีที่ขาด
- หลีกเลี่ยงภาษีโดยเจตนา: ทั้งจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับสูงสุด 200,000 บาท
- ประวัติด้านภาษีเสีย: ส่งผลต่อการกู้ธนาคาร การยื่นวีซ่า การสมัครงาน
สิ่งสำคัญที่สุดคือ **ความโปร่งใส** ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 ทุกปี ไม่ว่าจะได้หรือเสีย โดยเอกสารครบถ้วน คุณจะปลอดภัยจากปัญหาในอนาคต
สรุป: เทรดให้รวย และจ่ายภาษีอย่างภาคภูมิ
การซื้อขาย Forex ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางความมั่งคั่งที่ต้องบริหารอย่างรอบคอบ รวมถึงเรื่องภาษีด้วย หากคุณเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยและนำกำไรเข้ามา คุณมีหน้าที่ทางกฎหมายที่ต้องยื่นและชำระภาษี
อย่ามองว่าภาษีเป็นภาระ แต่ให้มองว่าเป็นส่วนสำคัญของ **การบริหารการเงินอย่างมืออาชีพ** การวางแผนภาษีล่วงหน้า การจัดเก็บเอกสาร และการใช้สิทธิ์อย่างถูกต้อง จะช่วยลดภาระและทำให้คุณเทรดได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหากับกรมสรรพากรในอนาคต
หากคุณไม่มั่นใจ อย่าลังเลที่จะปรึกษา **ผู้ทำบัญชี หรือที่ปรึกษาด้านภาษี** ที่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน นี่คือการลงทุนง่ายๆ ที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวที่สุด
เทรด Forex ต้องเสียภาษีจริงหรือ?
ใช่ครับ หากคุณเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย (อยู่ในไทยเกิน 180 วันในปีภาษี) และนำกำไรจากการเทรด Forex ที่เกิดขึ้นจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีเดียวกัน กำไรนั้นจะถือเป็น “เงินได้พึงประเมิน” ที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ถ้าเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่างประเทศต้องเสียภาษีในไทยไหม?
เสียภาษีครับ ภาระภาษีไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าโบรกเกอร์ของคุณอยู่ที่ไหน แต่ขึ้นอยู่กับสถานะการเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยของคุณ และการนำเงินกำไรจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย หากเข้าเงื่อนไขเหล่านี้ คุณมีหน้าที่ต้องเสียภาษีไม่ว่าจะเทรดกับโบรกเกอร์ใดก็ตาม
เทรด Forex ขาดทุน ต้องยื่นภาษีหรือไม่?
ต้องยื่นครับ แม้ว่าจะขาดทุน คุณก็ยังมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี (ภ.ง.ด. 90) เพื่อรายงานให้กรมสรรพากรทราบว่าคุณมีรายได้ แต่ไม่มีเงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษี หรือมีรายได้สุทธิเป็นศูนย์ การไม่ยื่นแบบฯ อาจทำให้ถูกปรับได้
มีกำไรจากการเทรดแต่ยังไม่โอนเงินเข้าไทย ต้องเสียภาษีไหม?
หากคุณยังไม่ได้นำเงินเข้ามาในประเทศไทยภายในปีภาษีนั้น (เช่น ยังทิ้งไว้ในบัญชีโบรกเกอร์) โดยที่คุณอยู่ในไทยไม่ถึง 180 วัน และยังไม่ได้ “รับรู้” รายได้ในรูปแบบอื่น มีโอกาสที่จะยังไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีในปีนั้น อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากรายละเอียดอาจซับซ้อน
สามารถใช้การขาดทุนจากปีก่อนลดหย่อนกำไรปีนี้ได้หรือไม่?
ตามประมวลรัษฎากร กำไรหรือขาดทุนจากเงินได้ประเภทที่ 4 เช่น Forex ไม่สามารถนำมายกมาลบข้ามปีได้ ต้องคำนวณแยกตามแต่ละปีภาษีเท่านั้น