เจาะลึกหุ้น AAPL: ทำไม Apple ยังน่าลงทุน?

สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามคอลัมน์การเงินแบบบ้านๆ ของผม วันนี้เราจะมาคุยถึงหุ้นตัวหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จัก หรืออย่างน้อยก็เคยเห็นโลโก้รูปผลไม้แหว่งๆ ของเขาบ่อยๆ ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึง Apple Inc. หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า แอปเปิล ผู้ผลิต iPhone คู่ใจที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนั่นแหละครับ ทีนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วในมุมของการลงทุน เจ้าหุ้นของบริษัทระดับโลกอย่างแอปเปิล หรือที่เราเรียกตามสัญลักษณ์ในตลาดหุ้นว่า หุ้น AAPL เนี่ย มันน่าสนใจแค่ไหน มีอะไรที่เราควรรู้บ้าง ในฐานะที่ปรึกษาการเงินข้างบ้าน วันนี้ผมจะพาไปเจาะลึกแบบเข้าใจง่ายๆ ครับ

คุณอาจจะนึกภาพตามนะครับ วันๆ นึงเราใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Apple เยอะแค่ไหน? ตั้งแต่ตื่นเช้ามาเช็กข้อความใน iPhone ทำงานบน Mac ดูหนังบน Apple TV+ ฟังเพลงผ่าน Apple Music หรือแม้แต่จ่ายเงินด้วย Apple Pay โลกของเราผูกติดกับระบบนิเวศ (Ecosystem) ของ Apple ไปแล้วอย่างเลี่ยงไม่ได้ และนี่แหละคือจุดแข็งแรกที่ทำให้ หุ้น AAPL น่าสนใจมาก เพราะพวกเขาสร้างโลกใบเล็กๆ ที่ทำให้ผู้ใช้อยากอยู่ในนั้นไปนานๆ ยิ่งมีผลิตภัณฑ์เยอะ บริการแยะ ก็ยิ่งเกาะเกี่ยวกันแน่นขึ้นไปอีก เหมือนสร้างบ้านที่มีรั้วรอบขอบชิด แถมยังมีสวนสวยๆ สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำอยู่ข้างใน ใครเข้ามาอยู่แล้วก็ไม่ค่อยอยากออกไปไหนครับ

ทีนี้มาดูตัวเลขที่เป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนบ้างครับ จากข้อมูลทางการเงินล่าสุด (ช่วงไตรมาส 1-3 ปีงบประมาณ 2567) Apple ทำรายได้ไปรวมๆ กว่า 391 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโตขึ้น 2.02% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถามว่ารายได้มาจากไหนเยอะสุด? แน่นอนว่าพระเอกตลอดกาลก็คือ iPhone ครับ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 51.45% ของรายได้ทั้งหมด แต่ที่น่าจับตามากๆ คือ “ธุรกิจบริการ” ครับ ที่รวมเอา App Store, Apple Music, iCloud และอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกัน ตรงนี้เติบโตถึง 12.87% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีสัดส่วนรายได้เกือบ 25% แล้ว นี่แสดงให้เห็นว่า Apple ไม่ได้พึ่งพาแค่การขายฮาร์ดแวร์อย่างเดียวอีกต่อไป แต่กำลังสร้างแหล่งรายได้ใหม่ๆ ที่มีความสม่ำเสมอและอัตรากำไรดีขึ้นเรื่อยๆ การมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 6.43 ดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ที่ 35.20 (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ก.ย. 2567) ก็เป็นตัวเลขที่นักลงทุนใช้ประเมินมูลค่าของบริษัทครับ มูลค่าตลาดของ Apple ณ เวลานั้นพุ่งไปถึง 3.471 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วครับ ใหญ่โตมหาศาลจริงๆ

นอกจากความแข็งแกร่งทางธุรกิจและตัวเลขที่น่าพอใจแล้ว ปัจจัยที่ขับเคลื่อน หุ้น AAPL ในระยะยาวยังมีอีกหลายอย่างครับ อย่างแรกคือนวัตกรรม Apple ไม่เคยหยุดพัฒนา เราเห็นความสำเร็จของชิป M-Series ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ Mac แข็งแกร่งขึ้นมากในตลาด หรือการเข้ามาของเทคโนโลยี 5G ที่กระตุ้นให้คนอยากอัปเกรด iPhone เครื่องเก่า นี่คือสิ่งที่ทำให้ Apple ยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นอกจากนี้ Apple ยังมองไปถึงตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงอย่างในเอเชีย ทั้งจีนและอินเดีย ที่มีประชากรมหาศาลและกำลังซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ตั้งเป้าเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและนักลงทุนก็มองหาบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้นด้วยครับ ทั้งหมดนี้เป็นเหมือนเครื่องยนต์หลายตัวที่ช่วยขับเคลื่อนให้ Apple เดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง

มองย้อนกลับไปในอดีต ผลตอบแทนของ หุ้น AAPL ถือว่าน่าประทับใจมากๆ ครับ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นเติบโตไปกว่า 342% และตั้งแต่เข้าตลาดมา เติบโตไปแล้วกว่า 176,000%! ตัวเลขนี้ทำให้หลายคนตาลุกวาว แต่ก็ต้องเข้าใจว่าอดีตไม่ใช่เครื่องยืนยันอนาคตเสมอไปนะครับ หุ้นตัวนี้เป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนระดับตำนานอย่างคุณปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ด้วยนะครับ พอร์ตลงทุนของบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ของคุณปู่ก็มี หุ้น AAPL เป็นหนึ่งในการถือครองที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมุมมองของนักลงทุนระดับโลกก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตลาดครับ ปัจจุบันนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็ยังคงให้เรตติ้งหุ้น Apple เป็น “ซื้อ” ครับ โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ย 12 เดือนอยู่ที่ประมาณ 196-200 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ช่วงราคาก็มีความหลากหลายนะครับ มีตั้งแต่ 125 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจนถึง 240 ดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว ทั้งนี้ หุ้น AAPL ยังมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ แม้ผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) อาจจะไม่สูงมากนัก (ประมาณ 0.44%) แต่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับหุ้นตัวนี้ และที่สำคัญคือ Apple มีประวัติการแตกหุ้นมาแล้วถึง 5 ครั้ง ครั้งล่าสุดปี 2014 อัตราส่วน 4:1 ซึ่งการแตกหุ้นก็ช่วยให้ราคาต่อหุ้นลดลง ทำให้เข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อยครับ

สำหรับนักลงทุนในประเทศไทยที่สนใจ หุ้น AAPL อาจจะสงสัยว่าแล้วเราจะซื้อยังไง การลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยตรงอาจมีขั้นตอนที่ซับซ้อน แต่ปัจจุบันมีหลายวิธีที่ช่วยอำนวยความสะดวกครับ หนึ่งในวิธีที่นิยมคือการลงทุนผ่าน “ใบแสดงสิทธิในผลตอบแทน” หรือ DR (Depositary Receipt) ครับ ซึ่งสำหรับหุ้น Apple ก็มี DR ที่ชื่อว่า AAPL80 ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนี่เองครับ การมี AAPL80 ทำให้เราสามารถลงทุนในหุ้น Apple ได้ง่ายขึ้น เหมือนซื้อขายหุ้นไทยตัวนึงเลยครับ หรืออีกทางเลือกก็คือการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศโดยตรง อย่างแพลตฟอร์ม Liberator ที่ให้เราเข้าถึงหุ้นสหรัฐฯ ได้กว่า 6,000 ตัว การมีช่องทางเหล่านี้ทำให้นักลงทุนไทยเข้าถึงโอกาสการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกอย่าง Apple ได้สะดวกสบายมากขึ้นครับ

สรุปแล้ว Apple Inc. หรือ หุ้น AAPL เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ธุรกิจมีความหลากหลายและเติบโตต่อเนื่อง มีระบบนิเวศที่แข็งแกร่งซึ่งสร้างความภักดีในหมู่ผู้ใช้สูง มีนวัตกรรมเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน และมีช่องทางการเติบโตในตลาดใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ผลประกอบการที่ผ่านมาก็อยู่ในเกณฑ์ดีและมักจะทำได้เกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์อยู่บ่อยๆ ครับ ทั้งหมดนี้ทำให้ หุ้น AAPL เป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจมาอย่างต่อเนื่องครับ

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นย่อมมีความเสี่ยงครับ แม้ Apple จะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น การแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนที่รุนแรง ปัญหาด้านกฎระเบียบและกฎหมายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก หรือแม้แต่สภาพเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ราคาหุ้นเองก็สามารถผันผวนได้ตามปัจจัยเหล่านี้และข่าวสารต่างๆ ครับ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนใน หุ้น AAPL หรือหลักทรัพย์ใดๆ ก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ทำความเข้าใจธุรกิจ ความเสี่ยง และประเมินความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองรับได้เสมอครับ หากเงินทุนของคุณมีสภาพคล่องไม่สูงมาก หรือเป็นเงินที่อาจจะต้องใช้ในระยะเวลาอันใกล้ การนำไปลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนก็อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดครับ การลงทุนที่ดีคือการลงทุนที่เราเข้าใจ และอยู่บนพื้นฐานของการวางแผนทางการเงินที่รอบคอบนะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุนครับ!