หุ้นโค้ก (Coca Cola): ลงทุนในตำนานที่ Warren Buffett รัก หุ้นปันผลมั่นคงที่คุณต้องรู้!

สวัสดีครับ/ค่ะ นักลงทุนทุกท่าน ผม/ดิฉันเป็นคอลัมนิสต์สายการเงินที่ชอบเล่าเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่ายๆ สไตล์เพื่อนเล่าสู่กันฟัง วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องหุ้นตัวหนึ่งที่เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ นั่นก็คือแบรนด์ที่อยู่คู่โลกมานานแสนนานอย่าง “โคคา-โคล่า” (Coca-Cola) ครับ/ค่ะ

เวลาพูดถึงโค้ก หลายคนคงนึกถึงเครื่องดื่มเย็นๆ ซ่าๆ ที่ช่วยให้สดชื่น แต่รู้ไหมว่าเบื้องหลังแบรนด์ระดับโลกนี้ มีบริษัทขนาดมหึมาที่ชื่อ The Coca-Cola Company หรือที่เรารู้จักในตลาดหุ้นด้วยสัญลักษณ์ย่อว่า **KO** และนี่คือสิ่งที่เราจะมาเจาะลึกกันวันนี้ เพราะ **coca cola หุ้น** หรือหุ้นของบริษัทโคคา-โคล่า ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่มองหาความมั่นคงและกระแสเงินปันผลที่สม่ำเสมอ

**หุ้น KO: แบรนด์ที่ไม่เคยหลับไหลในพอร์ต Warren Buffett**

ถ้าพูดถึง **coca cola หุ้น** สิ่งแรกๆ ที่คอลัมนิสต์สายการเงินมักจะยกขึ้นมาคือเรื่องราวความผูกพันอันยาวนานระหว่างบริษัทนี้กับนักลงทุนระดับตำนานอย่าง Warren Buffett (วอร์เรน บัฟเฟตต์) ครับ/ค่ะ ปู่บัฟเฟตต์แกถือหุ้น KO มานานกว่า 36 ปีแล้วนะ! และยังคงเป็นการถือครองหุ้นลำดับต้นๆ ในพอร์ตของบริษัท Berkshire Hathaway (เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์) ของแกด้วย

จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 24 กรกฎาคม ปี 2024 Berkshire Hathaway ถือหุ้น KO อยู่ถึง 400 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9.29% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท มูลค่าการถือครองนี้มหาศาลถึง 23.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.6 แสนล้านบาทไทย) เลยทีเดียว และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ คาดว่าปู่บัฟเฟตต์จะได้รับเงินปันผลจากหุ้น KO เพียงอย่างเดียวปีละกว่า 775 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท) นี่แหละครับ/ค่ะ พลังของหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอในระยะยาว!

ทำไมปู่บัฟเฟตต์ถึงรัก **coca cola หุ้น** ขนาดนี้? ส่วนหนึ่งมาจากความแข็งแกร่งของแบรนด์โคคา-โคล่าเอง ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก มีฐานลูกค้ากว้างขวาง และมีความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยากจะลอกเลียนแบบ (เรียกว่า Moat หรือคูเมืองป้องกัน) เวลาเศรษฐกิจไม่ดี คนอาจจะลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่การดื่มเครื่องดื่มที่ชอบอาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่ยอมตัด นี่คือความยืดหยุ่นของธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น

**เบื้องหลังความซ่า: โครงสร้างธุรกิจและรายได้ของ KO**

หลายคนอาจคิดว่า The Coca-Cola Company ทำแต่เครื่องดื่มอัดลม แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยครับ/ค่ะ บริษัทนี้มีผลิตภัณฑ์หลากหลายมาก ครอบคลุมตั้งแต่ น้ำดื่ม, เครื่องดื่มกีฬา, น้ำผลไม้, ชา, กาแฟ (อย่าง Costa Coffee ที่ไปซื้อมา) และอื่นๆ อีกมากมาย รวมแล้วกว่า 500 แบรนด์ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก

โครงสร้างรายได้ของบริษัทกระจายตัวอยู่ในหลายภูมิภาคหลัก เช่น อเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา ลาตินอเมริกา และเอเชียแปซิฟิก ซึ่งภูมิภาคอเมริกาเหนือยังคงเป็นแหล่งรายได้หลัก คิดเป็นประมาณ 39.33% ของรายได้รวมในช่วงไตรมาส 1-3 ปี 2024 การกระจายตัวนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป

จุดเด่นของ **coca cola หุ้น** คือความสามารถในการทำกำไรที่สูงมากครับ/ค่ะ จากข้อมูลล่าสุด อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 60.5% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 23.1% ตัวเลขพวกนี้บอกว่าบริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีเยี่ยม ทำให้เหลือเป็นกำไรค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับรายได้

**ผลประกอบการล่าสุดและแนวโน้มที่น่าจับตา**

มาดูตัวเลขผลประกอบการกันบ้าง ในไตรมาส 2 ปี 2024 บริษัท KO มีรายได้เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 12.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจหลักๆ เติบโตได้ถึง 15% ขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 21.3% และที่น่าสนใจคือ กำไรต่อหุ้นออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยด้วย แรงหนุนสำคัญมาจากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น 2% โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ

ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (สิ้นสุด 30 กันยายน 2024) รายได้ของ KO เติบโตได้ 4.5% ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับบริษัทขนาดใหญ่อย่างนี้

แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นนะครับ/คะ **coca cola หุ้น** ก็ต้องเผชิญความท้าทายเหมือนธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบหลักอย่างอะลูมิเนียมสำหรับกระป๋อง น้ำตาล หรือค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้น อย่างในไตรมาส 1 ปี 2022 เราเห็นแล้วว่าราคาต้นทุนส่วนผสมต่างๆ ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7% และในอเมริกาเหนือสูงถึง 11% ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ดันให้บริษัทต้องปรับราคาขาย

อย่างไรก็ตาม บริษัท KO ก็มีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการต้นทุนและราคา มีการปรับขึ้นราคาขายบ้าง และกำลังทดลองใช้โมเดลธุรกิจแบบใหม่ เช่น บรรจุภัณฑ์แบบรีฟิลในลาตินอเมริกาและแอฟริกา หรือขวดแก้วที่ส่งคืนได้ในสหรัฐฯ เพื่อลดต้นทุนและตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนไปด้วย

สำหรับแนวโน้มการเติบโตในอนาคต ตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและลาตินอเมริกายังคงมีศักยภาพสูงในระยะยาว และการลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เช่น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือเครื่องดื่มจากพืช ก็เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโต

**นักวิเคราะห์มองอย่างไร และหุ้น KO มีการแยกหุ้นบ้างไหม?**

มาดูมุมมองจากนักวิเคราะห์กันบ้าง จากนักวิเคราะห์ 7 รายที่ติดตาม **coca cola หุ้น** ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำ “ซื้อ” (4 ราย) และ “ถือ” (3 ราย) โดยไม่มีใครแนะนำให้ “ขาย” เลยครับ/ค่ะ ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ปัจจุบันอยู่ที่ 63.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ และที่น่าสนใจคือ การคาดการณ์ราคาในระยะยาวอย่างปี 2030 อยู่ที่ 118 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทในระยะยาว

สำหรับประวัติราคาหุ้น **coca cola หุ้น** เข้าตลาดครั้งแรกตั้งแต่ปี 1919 ราคา 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาหุ้นก็ผันผวนไปตามเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจและการตลาดต่างๆ ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงสูตร “นิวโค้ก” ในปี 1985 ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับราคาหุ้นพอสมควร

สิ่งที่นักลงทุนควรทราบอีกอย่างคือ **coca cola หุ้น** มีการแยกหุ้น (Stock Split) มาแล้วถึง 11 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ปี 2012 การแยกหุ้นทำให้ราคาต่อหุ้นถูกลง ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นด้วยครับ/ค่ะ

**อีกหนึ่ง Coca-Cola ที่ควรรู้จัก: Coca-Cola Consolidated (COKE)**

ไหนๆ ก็พูดถึง **coca cola หุ้น** แล้ว อยากจะอธิบายเพิ่มเติมเรื่องหนึ่งที่บางคนอาจจะสับสนเล็กน้อย นั่นคือ มีอีกบริษัทหนึ่งที่ชื่อ Coca-Cola Consolidated, Inc. ใช้สัญลักษณ์ย่อว่า **COKE** ซึ่งบริษัทนี้เป็นคนละส่วนกับบริษัทแม่ The Coca-Cola Company (KO) โดยตรงนะครับ/คะ

Coca-Cola Consolidated (COKE) เป็นบริษัทผู้ผลิต ทำการตลาด และจัดจำหน่ายเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดยเน้นผลิตภัณฑ์ของ The Coca-Cola Company เป็นหลัก รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ด้วย เช่น Dr. Pepper หรือ Monster Energy พูดง่ายๆ คือ COKE เป็น “ผู้จัดจำหน่ายขวด” (Bottler) รายใหญ่รายหนึ่งของ KO นั่นเอง

บริษัท COKE มีขนาดเล็กกว่า KO มาก มูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ประมาณ 9.20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เทียบกับ KO ที่ใหญ่กว่าหลายเท่าตัว) ราคาหุ้น COKE ก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 117.71 ดอลลาร์สหรัฐฯ ครับ/ค่ะ ผลตอบแทนจากเงินปันผลของ COKE อยู่ที่ประมาณ 0.68% ต่อปี (Trailing Twelve Months หรือ TTM) ซึ่งค่อนข้างต่ำกว่าของ KO ที่ประมาณ 3.1% อย่างชัดเจน

ดังนั้น หากคุณสนใจลงทุนในบริษัทเจ้าของแบรนด์โค้กตัวจริง ที่มีธุรกิจทั่วโลก เน้นการสร้างแบรนด์ และจ่ายปันผลสูงสม่ำเสมอ หุ้นที่คุณควรมองหาคือ **KO** นะครับ/คะ ส่วน COKE จะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่เน้นการผลิตและจัดจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งมีลักษณะธุรกิจและผลตอบแทนที่แตกต่างออกไปครับ

**นักลงทุนไทยจะลงทุนใน หุ้น KO ได้อย่างไร?**

สำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจอยากเป็นเจ้าของ **coca cola หุ้น** บ้าง มีช่องทางหลักๆ อยู่ 2 ทางครับ/ค่ะ

1. **เปิดบัญชีหุ้นต่างประเทศกับโบรกเกอร์ในประเทศไทย:** ปัจจุบันมีโบรกเกอร์หลายแห่งในไทยที่ให้บริการเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรง เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) ซึ่งเป็นที่ซื้อขายหุ้น KO คุณก็สามารถซื้อหุ้น KO ได้โดยตรง แต่การซื้อขายจะใช้เงินสกุลต่างประเทศ (ดอลลาร์สหรัฐฯ) และอาจมีค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนเงินตรา

2. **ลงทุนผ่าน DR (Depository Receipt):** นี่เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสบายขึ้นครับ/ค่ะ DR คือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่ซื้อขายเป็นเงินบาทในตลาดหลักทรัพย์ไทย ตอนนี้มี DR สำหรับหุ้น KO ให้เลือก อย่างเช่น DR ที่ใช้สัญลักษณ์ย่อว่า **DR KO80** การลงทุนผ่าน DR ทำให้คุณสามารถลงทุนในหุ้น KO ได้โดยใช้เงินบาท ซื้อขายเหมือนหุ้นไทยตัวหนึ่ง แต่ผลตอบแทนจะอิงกับราคาหุ้น KO ในตลาดสหรัฐฯ และเงินปันผลก็จะแปลงเป็นเงินบาทให้ครับ

การเลือกช่องทางไหนขึ้นอยู่กับความถนัด ปริมาณเงินลงทุน และความต้องการของคุณครับ หากอยากซื้อขายคล่องๆ หรือต้องการเป็นเจ้าของหุ้นโดยตรง การเปิดบัญชีหุ้นต่างประเทศก็น่าสนใจ แต่ถ้าอยากลงทุนด้วยเงินบาท ไม่ยุ่งยากเรื่องการแลกเงิน หรือมีเงินทุนเริ่มต้นไม่มาก การลงทุนผ่าน DR ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ

**สรุปและข้อควรพิจารณาสำหรับนักลงทุน**

โดยรวมแล้ว **coca cola หุ้น** (KO) ถือเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจในหลายมิติครับ/ค่ะ

* **ความมั่นคง:** มาจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ระดับโลก และการกระจายตัวของธุรกิจในหลายภูมิภาค
* **ผลตอบแทนสม่ำเสมอ:** ประวัติการจ่ายและเพิ่มเงินปันผลมายาวนานกว่า 60 ปี เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสรายได้ประจำ
* **ศักยภาพเติบโต:** แม้จะเป็นบริษัทใหญ่ แต่ยังมีโอกาสเติบโตจากการพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ และการขยายตัวในตลาดเกิดใหม่
* **หุ้นตัวโปรดของนักลงทุนระดับโลก:** การที่ Warren Buffett ถือหุ้นตัวนี้ในสัดส่วนที่สูงมานาน ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับหุ้น KO

แต่ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนใน **coca cola หุ้น** หรือหุ้นตัวไหนก็ตาม อย่าลืมทำการบ้านให้ดีนะครับ/คะ ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของบริษัทอย่างละเอียด ดูผลประกอบการที่ผ่านมา แนวโน้มในอนาคต รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ด้วย

⚠️ **การลงทุนมีความเสี่ยง:** ราคาหุ้นอาจปรับตัวขึ้นหรือลงได้ตามสภาวะตลาดและปัจจัยต่างๆ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง และควรลงทุนในจำนวนเงินที่สามารถรับความเสี่ยงได้ครับ/ค่ะ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้จักและเข้าใจ **coca cola หุ้น** มากขึ้นนะครับ/คะ ไว้คราวหน้าเรามาเจาะลึกหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจกันอีก สวัสดีครับ/ค่ะ