ร้อนๆ แบบนี้ หรือจะวันไหนๆ ทั่วโลก เครื่องดื่มยอดฮิตที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ คงหนีไม่พ้นน้ำสีเข้มซ่าๆ ที่มีสัญลักษณ์สีแดงเป็นเอกลักษณ์ใช่ไหมครับ? ใช่แล้ว ผมกำลังพูดถึง “โค้ก” หรือแบรนด์ในตำนานอย่าง Coca-Cola ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงเป็นเจ้าตลาดเครื่องดื่มของโลกอยู่เสมอ

ในฐานะคอลัมนิสต์การเงินที่คลุกคลีกับตัวเลขและเรื่องราวในตลาดหุ้นมานาน เพื่อนๆ หรือคนรอบตัวผมก็มักจะถามคำถามยอดฮิตว่า “พี่/อาจารย์/คุณ… หุ้นโคคา-โคลา น่าลงทุนไหม?” หรือ “เห็นเค้าว่ากันว่า ‘ปู่บัฟเฟตต์’ (Warren Buffett) ก็ถือหุ้นตัวนี้เยอะมากจริงหรือเปล่า?” คำถามเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันดีในชีวิตประจำวัน แต่พอมาถึงเรื่องการลงทุน หลายคนก็ยังสับสนหรือไม่แน่ใจ วันนี้ผมเลยอยากชวนทุกคนมาถอดรหัส หุ้นโคคา-โคลา หรือหุ้นที่มีสัญลักษณ์เท่ๆ ว่า KO บนกระดานหุ้น นิวยอร์ก สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ (New York Stock Exchange – ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก) ดูสักหน่อยครับ ว่าเบื้องหลังความซ่านี้ มีอะไรซ่อนอยู่บ้าง
เรื่องราวของ The Coca-Cola Company (บริษัท โคคา-โคลา) นั้นน่าทึ่งมากครับ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1886 นู่น! ลองคิดดูสิครับ ว่าบริษัทอะไรจะยืนหยัดมาได้เกินร้อยปี และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องขนาดนี้ ปัจจุบันไม่ได้มีแค่น้ำอัดลมสีดำๆ เท่านั้นนะครับ แต่เขามีผลิตภัณฑ์ในเครือกว่า 500 แบรนด์ ขายในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ไล่ตั้งแต่ น้ำดื่ม, เครื่องดื่มเกลือแร่, น้ำผลไม้, ชา, กาแฟ (จำ Costa Coffee ได้ไหมครับ นั่นก็อยู่ในพอร์ตเขา), เครื่องดื่มจากพืช ไปจนถึงเครื่องดื่มชูกำลัง เรียกว่าครบวงจรสุดๆ
ที่น่าสนใจคือ โครงสร้างรายได้ของ The Coca-Cola Company ครับ ข้อมูลในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ไตรมาส 1-3) บอกเราว่า รายได้มาจากหลายภูมิภาค ไม่ได้พึ่งพิงแค่ที่ใดที่หนึ่งเป็นพิเศษ แม้ อเมริกาเหนือ (North America) จะยังเป็นแหล่งรายได้หลักที่ 39.33% แต่ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (Europe, Middle East & Africa) ก็มีสัดส่วนถึง 17.83% ลาตินอเมริกา (Latin America) 13.56% และ เอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific) 12.19% การกระจายตัวแบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงได้ดีมากๆ ครับ ถ้าตลาดไหนชะลอตัว ตลาดอื่นก็ยังขับเคลื่อนต่อไปได้ และที่สำคัญคือ ตลาดเกิดใหม่ใน เอเชียแปซิฟิก และ ลาตินอเมริกา นี่แหละคือขุมพลังการเติบโตในระยะยาวที่น่าจับตาสำหรับ หุ้นโคคา-โคลา

หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วบริษัทนี้ทำกำไรดีแค่ไหน? ต้องบอกว่า “ดีมาก” ครับ! ด้วยความเป็นแบรนด์ระดับโลก (แบรนด์ที่แข็งแกร่งระดับโลก) ทำให้เขามีอำนาจในการตั้งราคาและบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเลขล่าสุดบอกว่า อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) สูงถึง 60.5% และ อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ก็โดดเด่นไม่แพ้กันที่ 23.1% นั่นหมายความว่า ทุกๆ 100 บาทที่ขายได้ หลังจากหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว ยังเหลือกำไรเข้ากระเป๋าบริษัทถึงกว่า 23 บาท ซึ่งถือว่าสูงทีเดียวสำหรับอุตสาหกรรมนี้
เรื่องที่ทำให้ หุ้นโคคา-โคลา เป็นที่รักของนักลงทุนสาย VI (Value Investor) หรือนักลงทุนระยะยาว ก็คือความสม่ำเสมอในการจ่ายเงินปันผล (เงินปันผลที่สม่ำเสมอ) ครับ The Coca-Cola Company มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ยาวนานมาก เป็นหนึ่งใน “Dividend Aristocrats” หรือหุ้นปันผลชั้นยอดในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วยซ้ำไป อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ประมาณ 3.1% ซึ่งอาจจะไม่ได้หวือหวามาก แต่ความสม่ำเสมอและแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของเงินปันผลนี่แหละคือสิ่งที่สร้างกระแสเงินสดคืนให้นักลงทุนได้อย่างมั่นคง

มองไปที่ผลประกอบการล่าสุด ไตรมาส 2 ของปี 2567 รายได้ของ The Coca-Cola Company เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 12.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.5 แสนล้านบาท) กำไรต่อหุ้น (EPS – Earnings Per Share) ก็ทำได้ดีเกินคาดที่ 0.84 ดอลลาร์สหรัฐ และบริษัทยังคาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้นทั้งปีจะเติบโตได้ 5-6% ด้วย แสดงว่าพื้นฐานยังแข็งแกร่งอยู่ครับ
แน่นอนว่าการลงทุนใน หุ้นโคคา-โคลา ก็เหมือนกับการลงทุนในหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก ที่ราคาหุ้นมีการขึ้นลงตามสภาวะตลาดและเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีต หุ้น KO ก็เคยผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายมาบ้าง แต่ด้วยความสามารถในการปรับตัวและการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น การลงทุนในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือเครื่องดื่มจากพืช ก็ช่วยให้บริษัทยังคงเติบโตได้
แล้วนักวิเคราะห์มอง หุ้นโคคา-โคลา อย่างไรล่ะ? ข้อมูลล่าสุดจากนักวิเคราะห์ 7 ราย ส่วนใหญ่ยังคงให้คำแนะนำเป็น “ซื้อ” (Buy) ครับ โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 63.2 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบันเล็กน้อย และมองระยะยาวไปถึงปี 2573 ราคาเป้าหมายอาจสูงถึง 118 ดอลลาร์สหรัฐ ได้เลยทีเดียว ซึ่งมุมมองส่วนใหญ่ยังคงเป็นบวกต่อศักยภาพของบริษัทนี้
ทีนี้มาดูอีกบริษัทที่ชื่อคล้ายๆ กัน แต่บทบาทต่างกัน นั่นคือ Coca-Cola Consolidated, Inc. (โคคา-โคลา คอนโซลิเดทเต็ด) ที่มีสัญลักษณ์หุ้นว่า COKE ซื้อขายในตลาด แนสแด็ก (NASDAQ) บริษัทนี้ไม่ใช่เจ้าของแบรนด์โค้กโดยตรงนะครับ แต่เป็น “ผู้ผลิต, ทำการตลาด, และจัดจำหน่าย” เครื่องดื่มของ The Coca-Cola Company และแบรนด์อื่นๆ ในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก เปรียบเสมือนคู่ค้าคนสำคัญในอเมริกา เป็นอีกมุมหนึ่งของอาณาจักรโค้กที่เราอาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อในไทยเท่าไหร่ ตัวเลขทางการเงินล่าสุด (ณ เวลาที่ข้อมูลอ้างอิง) ราคาหุ้นอยู่ที่ 117.71 ดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่าตลาด 9.20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ซึ่งเล็กกว่า KO เยอะมาก) น่าสังเกตว่ารายได้สุทธิไตรมาสล่าสุดลดลง 42.10% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่หุ้นก็มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นในสัปดาห์/เดือน/ปีที่ผ่านมา การลงทุนในหุ้น COKE ก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ต่างจาก KO ครับ
แล้วถ้าเป็น หุ้นไทย ล่ะ มีอะไรเกี่ยวข้องบ้าง? ก็มีตัวอย่างเช่น บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO ที่จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แม้จะเป็นธุรกิจแปรรูปมะพร้าวเป็นหลัก ซึ่งต่างจากเครื่องดื่มน้ำอัดลม แต่ก็อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้บริโภคยังคงมีความต้องการอยู่ ข้อมูลการซื้อขายล่าสุด ณ วันที่ 14 มิ.ย. 2568 ราคาปิดอยู่ที่ 5.90 บาท มีปริมาณและมูลค่าการซื้อขายที่แสดงถึงกิจกรรมในตลาดหุ้นไทย การเคลื่อนไหวของหุ้น COCOCO ก็สะท้อนภาพรวมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องภายในประเทศของเราได้
คำถามสำคัญสำหรับนักลงทุนไทยก็คือ เราจะลงทุนใน หุ้นโคคา-โคลา (KO) หรือ Coca-Cola Consolidated (COKE) ที่เป็นหุ้นสหรัฐอเมริกา ได้อย่างไร? ปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วครับ โบรกเกอร์หลายแห่งในไทย เช่น Liberator หรือ หลักทรัพย์กสิกรไทย มีบริการให้นักลงทุนไทยสามารถเปิดบัญชีเพื่อซื้อขาย หุ้นต่างประเทศ ได้โดยตรง สิ่งที่เราต้องทำก็แค่แลกเงินบาทเป็น สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และมีขั้นต่ำในการซื้อแค่ 1 หุ้น เท่านั้นเอง
การลงทุนใน หุ้นโคคา-โคลา จัดเป็นหนึ่งในการลงทุนในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคป้องกัน (Consumer Defensive) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมั่นคง เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือแย่ ผู้คนก็ยังคงต้องดื่ม ต้องกิน ต้องใช้สินค้าเหล่านี้อยู่ดีครับ นี่คือเหตุผลที่หุ้นกลุ่มนี้มักจะได้รับความสนใจในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน ความมั่นคงตรงนี้ รวมถึงการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ จึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้นักลงทุนระยะยาวมองว่า หุ้นโคคา-โคลา เป็นสินทรัพย์ที่น่าเก็บสะสมไว้ในพอร์ต
สรุปแล้ว ถ้าถามผมว่า หุ้นโคคา-โคลา (KO) น่าสนใจไหมในมุมมองของนักลงทุนไทย? ด้วยความที่เป็นแบรนด์ระดับโลก แข็งแกร่ง มีการกระจายรายได้ดี มีความสามารถในการทำกำไรสูง และจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ แถมยังมีศักยภาพการเติบโตในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ หุ้นโคคา-โคลา เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาความมั่นคงและผลตอบแทนระยะยาวในพอร์ตโฟลิโอ ส่วน Coca-Cola Consolidated (COKE) ก็เป็นอีกมุมหนึ่งในอุตสาหกรรมเดียวกันที่บทบาทต่างกัน และ บริษัท ไทย โคโคนัท (COCOCO) ก็เป็นตัวอย่างหุ้นไทยในกลุ่มใกล้เคียงกันที่เราสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้
ก่อนตัดสินใจลงทุนใน หุ้นโคคา-โคลา หรือหุ้นตัวไหนๆ ก็ตาม อย่าลืมทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และพิจารณาให้เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนของตัวเองด้วยนะครับ การลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาก็มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วยเช่นกัน
⚠️ ข้อแนะนำเพิ่มเติม: หากเงินทุนที่พร้อมนำมาลงทุนมีสภาพคล่องไม่สูงนัก ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนใน หุ้นโคคา-โคลา หรือหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากอาจมีค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินและการซื้อขายเข้ามาเกี่ยวข้อง และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเสมอครับ.