ตลาดหุ้นปิด เสาร์ อาทิตย์ แล้วเปิดกี่โมง? ไขข้อสงสัยนักลงทุนมือใหม่!

หลายคนที่เป็นมือใหม่ในโลกของการลงทุน หรืออาจจะแค่อยากรู้เวลาทำการของตลาดหุ้นไทย ชอบมีคำถามยอดฮิตผุดขึ้นมาในใจครับว่า “ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง เสาร์ อาทิตย์” ใช่ไหมลครับ? คือแบบว่า วันหยุดสุดสัปดาห์อยู่บ้านว่างๆ อยากจะลองส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นดูบ้าง จะได้ไหมนะ?

เอาล่ะ ในฐานะคอลัมนิสต์การเงินที่คลุกคลีกับเรื่องนี้มาพอสมควร ขอตอบแบบเคลียร์ๆ ตรงนี้เลยครับว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งเป็นที่ที่เราซื้อขาย หุ้น ทั่วๆ ไปกันนั้น หยุดทำการซื้อขาย ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ครับ! เหมือนกับธนาคาร หรือหน่วยงานราชการส่วนใหญ่เลย วันหยุดก็คือวันหยุดครับ ตลาดปิด ให้เราได้พักผ่อน วางแผน หรือไปทำกิจกรรมอย่างอื่นกันก่อน

ทีนี้ ถ้าไม่ใช่ เสาร์ อาทิตย์ ตลาดหุ้นไทยเปิด ซื้อขาย วันไหนบ้างล่ะ? แน่นอนครับว่าก็คือ วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ นั่นเอง แต่ในหนึ่งวันของการ ซื้อขาย หลักทรัพย์ นั้น ไม่ได้เปิดยาวตั้งแต่เช้ายันเย็นแบบไม่มีหยุดพักนะ เขาจะมี ช่วงเวลา ทำการที่เป็นระบบระเบียบอยู่ เพื่อให้การจับคู่คำสั่งซื้อขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมกับทุกคนครับ

และที่สำคัญเลยนะ สำหรับนักลงทุนยุคนี้ที่ต้องอัปเดตข่าวสารตลอดเวลา ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ เขาได้มีการปรับเปลี่ยน ช่วงเวลา ทำการ ซื้อขาย ใน ช่วงบ่าย ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 30 นาทีแล้วนะครับ การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ เวลา ทำการของ ตลาดหุ้น ไทยสอดคล้องกับ ตลาด หลักทรัพย์ อื่นๆ ในภูมิภาคมากขึ้น เพราะข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญๆ ที่มีผลต่อ ตลาด อาจเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งวัน การขยาย เวลา ซื้อขาย ช่วงบ่ายให้เร็วขึ้น ก็เหมือนเปิดโอกาสให้นักลงทุนอย่างเราๆ มี เวลา ในการประเมินสถานการณ์และปรับ กลยุทธ์ การลงทุนได้ทันท่วงทีขึ้นนั่นเองครับ ไม่ใช่แค่ ตลาดหุ้น อย่าง SET หรือ mai นะครับ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เองก็ปรับ เวลา ทำการของสินค้าในกลุ่มที่อ้างอิงกับหุ้นให้เร็วขึ้น 30 นาทีช่วงบ่ายตามไปด้วย

เอาล่ะ ทีนี้มาเจาะลึกกันหน่อยว่าในหนึ่งวัน วันจันทร์ถึงศุกร์เนี่ย โครงสร้างและ ช่วงเวลา ซื้อขาย หลักทรัพย์ ทั่วไป (พวก หุ้น ใน SET/mai) เขาแบ่งเป็นยังไงบ้าง จะได้เห็นภาพชัดๆ ครับ

1. **ช่วงก่อนเปิดทำการช่วงที่ 1 (Pre-open Session I):** เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น. ไปจนถึง ช่วงเวลา สุ่มแรก หรือที่เรียกว่า T1 ซึ่งจะสุ่มอยู่ระหว่าง 09.55 – 10.00 น. ช่วงนี้เราสามารถส่งคำสั่ง ซื้อขาย ได้ แต่จะยังไม่เกิดการจับคู่ครับ ระบบจะรวบรวมคำสั่งทั้งหมดไปคำนวณหาราคาเปิด (Auction) ตอนถึง T1 ทีเดียว
2. **ช่วงเวลาทำการช่วงที่ 1 (Trading Session I):** พอถึง T1 ตลาดก็จะเปิดจริงๆ ครับ ช่วงนี้ยาวไปจนถึง 12.30 น. การ ซื้อขาย จะเกิดขึ้นแบบต่อเนื่องด้วยระบบจับคู่อัตโนมัติ หรือ AOM (Automated Order Matching) ไม่ว่าจะเป็นการ ซื้อขาย แบบปกติ (Board Lot) หรือแบบเศษ หุ้น (Odd Lot) ก็ ซื้อขาย กันใน ช่วงเวลา นี้ล่ะครับ
3. **ช่วงหยุดพักการซื้อขาย (Intermission):** นี่คือ ช่วงเวลา พักเที่ยงครับ ตั้งแต่ 12.30 น. ถึง 14.00 น. ตลาดจะหยุด ซื้อขาย ชั่วคราว เป็น ช่วงเวลา พักผ่อน หรือไปทานข้าวของทั้งเจ้าหน้าที่ ตลาด และนักลงทุน
4. **ช่วงก่อนเปิดทำการช่วงที่ 2 (Pre-open Session II):** กลับมาอีกทีตอน 14.00 น. เข้าสู่ ช่วงเวลา ก่อนเปิด ตลาด บ่าย หรือ Pre-open II ไปจนถึง ช่วงเวลา สุ่มที่สอง (T2) ซึ่งจะสุ่มอยู่ระหว่าง 14.25 – 14.30 น. เหมือน ช่วงเช้า ครับ คือส่งคำสั่งได้ แต่จะจับคู่และคำนวณราคาเปิดบ่ายตอนถึง T2
5. **ช่วงเวลาทำการช่วงที่ 2 (Trading Session II):** ตั้งแต่ T2 ไปจนถึง 16.30 น. คือ ช่วงเวลา ซื้อขาย หลักทรัพย์ ใน ตลาด บ่ายหลักครับ ใช้ระบบ AOM ในการจับคู่คำสั่ง ซื้อขาย ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีการบันทึกการ ซื้อขาย รายใหญ่ (Big Lot) หรือ หุ้น ของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign) ใน ช่วงเวลา นี้ด้วย
6. **ช่วงก่อนปิดทำการ (Pre-close):** จาก 16.30 น. ไปจนถึง ช่วงเวลา สุ่มสุดท้าย (T3) ซึ่งจะสุ่มอยู่ระหว่าง 16.35 – 16.40 น. เป็น ช่วงเวลา ที่ระบบจะรวบรวมคำสั่งเพื่อคำนวณหาราคาปิด (Auction) ของแต่ละ หลักทรัพย์ ครับ การ ซื้อขาย รายใหญ่ หรือของนักลงทุนต่างชาติก็ยังบันทึกได้ใน ช่วง นี้เช่นกัน
7. **ช่วงนอกเวลาทำการ (Off-hour):** ตั้งแต่ T3 ไปจนถึง 17.00 น. แม้จะหมด ช่วงเวลา คำนวณราคาปิดแล้ว แต่ ตลาด ก็ยังเปิดให้มีการบันทึกการ ซื้อขาย รายใหญ่ การ ซื้อขาย หุ้นต่างชาติ หรือการ ซื้อขาย แบบอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือการจับคู่แบบปกติได้ครับ
8. **ปิดทำการซื้อขาย (Close):** พอถึง เวลา 17.00 น. เป๊ะ ตลาด หลักทรัพย์ ก็จะปิดทำการ ซื้อขาย หลักทรัพย์ ทั่วไปสำหรับวันนั้นๆ อย่างเป็นทางการครับ

อ้อ! เคยสงสัยไหมครับว่าทำไม เวลา เปิด-ปิด ตลาด เช้าและบ่าย (T1, T2, T3) ถึงต้อง ‘สุ่ม’ ด้วยล่ะ? เหตุผลก็คือ เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครที่รู้ เวลา เป๊ะๆ แล้วอาศัยจังหวะนั้นส่งคำสั่ง ซื้อขาย จำนวนมหาศาลอัดเข้ามาในนาทีแรกหรือนาทีสุดท้ายของการเปิด-ปิด ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้อาจทำให้ราคาเปิดหรือราคาปิดของ หุ้น นั้นๆ เพี้ยนไปจากความเป็นจริงได้ การสุ่ม เวลา นิดๆ หน่อยๆ แบบนี้ช่วยให้การหาราคาเปิด-ปิดเป็นธรรมกับ นักลงทุน ทุกคนมากขึ้นครับ

นอกจาก หุ้น ทั่วไปแล้ว ตลาด ทุนไทยยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกเพียบเลยนะ อย่าง กองทุนรวม ตราสารหนี้ อนุพันธ์ DW ETF DR DRx หรือแม้แต่ Digital Asset พวกนี้ก็จะมี ช่วงเวลา ซื้อขาย ที่แตกต่างออกไปบ้าง ตัวอย่างเช่น หลักทรัพย์ ที่อ้างอิงกับสินทรัพย์ต่างประเทศอย่าง DR, ETF หรือ DW ที่ไปอิงกับดัชนี ตลาด หุ้น นอก เขาจะไม่มี ช่วงเวลา พักเที่ยงนะ ซื้อขาย ยาวตั้งแต่เปิดยันปิด ช่วงบ่าย เลย (ตั้งแต่ T1 ถึง 16.30 น.)

ส่วน DRx หรือตราสารแสดงสิทธิใน หลักทรัพย์ ต่างประเทศแบบ fractional ที่เป็นเศษ หุ้น ต่างประเทศ อันนี้ยิ่งพิเศษ เพราะเปิด ซื้อขาย ตามเขต เวลา ของ ตลาด อ้างอิงเลยครับ เช่น ถ้าอ้างอิง ตลาด ในเอเชีย ก็จะเปิด ซื้อขาย ช่วงเช้าตรู่ ยาวไปจนถึงบ่ายแก่ๆ (ประมาณ 07:00 – 17:00 น.) แต่ถ้าอ้างอิง ตลาด ในสหรัฐฯ อันนี้ก็จะเปิด ซื้อขาย ใน ช่วงเวลา กลางคืนบ้านเรายาวไปจนถึงเช้าตรู่ของอีกวันเลย (ประมาณ 20:00 – 04:00 น. ของวันถัดไป) เพราะฉะนั้นถ้าจะ ซื้อขาย DRx ต้องเช็คดีๆ ว่าตัวที่เราสนใจอ้างอิง ตลาด ไหน และ ช่วงเวลา ทำการคือเมื่อไหร่ครับ

สรุปง่ายๆ เลยครับว่า ถ้าจะ ซื้อขาย หุ้น ไทยส่วนใหญ่ ก็ต้องดู เวลา ทำการ ตลาด หลักทรัพย์ ในวันจันทร์ถึงศุกร์นี่แหละ ส่วนคำถามที่ว่า “ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง เสาร์ อาทิตย์” คำตอบคือ ปิด ครับ! แต่ถ้าเป็นสินทรัพย์อื่นที่อ้างอิง ตลาด ต่างประเทศ ก็อย่าลืมเช็ค เวลา ทำการ เฉพาะของสินทรัพย์นั้นๆ ด้วยนะครับ

การรู้ เวลา ทำการ ตลาด หรือ รอบการซื้อขาย เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญของ นักลงทุน เพราะช่วยให้เราวางแผนการส่งคำสั่ง ซื้อขาย ได้ถูกต้อง ไม่พลาดโอกาส และเข้าใจกลไกของ ตลาด มากขึ้นครับ

⚠️ ข้อควรจำไว้เสมอคือ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของ หลักทรัพย์ หรือสินทรัพย์ที่สนใจอย่างละเอียด รวมถึง ช่วงเวลา ทำการและกฎระเบียบต่างๆ ให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ เพราะต่อให้รู้ เวลา ทำการ ตลาด เป๊ะแค่ไหน ถ้าไม่เข้าใจสินทรัพย์ที่ลงทุนจริงๆ ก็อาจเสียโอกาส หรือเสียเงินได้เหมือนกันครับ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุนครับ!