เจาะลึก หุ้น 9988 อาลีบาบา: โอกาสทอง หรือแค่ภาพลวงตา?

ช่วงนี้เพื่อนๆ ที่ชอบลงทุนหรือติดตามข่าวสารหุ้นต่างประเทศน่าจะคุ้นหูกับชื่อ “อาลีบาบา” กันดีนะครับ โดยเฉพาะกับรหัสหลักทรัพย์ 9988 ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง หลายคนอาจจะรู้จักอาลีบาบาแค่ว่าเป็นเว็บช้อปปิ้งออนไลน์ยักษ์ใหญ่จากจีน แต่จริงๆ แล้วอาลีบาบากลายเป็นอาณาจักรดิจิทัลที่ใหญ่กว่านั้นมาก วันนี้ในฐานะคนวงการการเงินที่ชอบเล่าเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่ายๆ จะพาไปเจาะลึกกันว่าบริษัทนี้มีดีอะไร น่าสนใจแค่ไหน และต้องดูอะไรบ้าง

เริ่มต้นจากภาพรวมก่อนนะครับ อาลีบาบาเนี่ยไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง เถาเป่า (Taobao) หรือทีมอลล์ (Tmall) ซึ่งก็เหมือนห้างสรรพสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ในจีนเท่านั้น แต่เขายังมีธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ที่โตเร็วสุดๆ อย่าง อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ซึ่งเปรียบเสมือนสมองกลที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะ ไช่เหนี่ยว (Cainiao) ที่ทำให้การส่งของรวดเร็ว มีบริการในพื้นที่อย่างสั่งอาหารผ่าน เอ้อเลอเม (Ele.me) หรือแผนที่อย่าง อาแมป (Amap) แถมยังมีธุรกิจสื่อดิจิทัลและความบันเทิงอีกสารพัด เรียกว่าชีวิตประจำวันคนจีนหลายพันล้านคนต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบนิเวศของอาลีบาบาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเลยครับ โครงสร้างธุรกิจที่ซับซ้อนแต่เชื่อมโยงกันหมดนี่แหละที่เป็นจุดแข็งสำคัญ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2542 ที่ แจ็ค หม่า (Jack Ma) ก่อตั้งอาลีบาบาขึ้นมา เริ่มแรกก็เน้นธุรกิจแบบ B2B หรือธุรกิจกับธุรกิจก่อน ผ่านเว็บไซต์ อาลีบาบา.คอม (Alibaba.com) แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ขยายมาสู่ตลาดผู้บริโภครายย่อยด้วย เถาเป่า และ ทีมอลล์ จนกลายเป็นผู้นำตลาดอีคอมเมิร์ซในจีน และสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกอย่างเทศกาลช้อปปิ้ง 11.11 หรือ วันคนโสด ซึ่งยอดขายถล่มทลายในแต่ละปี หลังจากนั้นก็ขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ทั้ง อาลีเพย์ (Alipay) ระบบการชำระเงินที่เปลี่ยนวิถีชีวิตคนจีน หรือ อาลีบาบา คลาวด์ ที่กลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนยุคดิจิทัล แต่ใช่ว่าเส้นทางของอาลีบาบาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบนะครับ ในช่วงหลังปี 2563 อาลีบาบาต้องเผชิญกับนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นจากรัฐบาลจีน ภายใต้แนวคิด “ความรุ่งเรืองร่วมกัน” ซึ่งส่งผลกระทบไม่น้อย แต่บริษัทก็แสดงความยืดหยุ่นด้วยการประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ในปี 2566 เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการระดมทุนและบริหารจัดการแต่ละหน่วยธุรกิจ

ทีนี้มาดูกันที่ตัวเลขทางการเงินบ้าง จากข้อมูลล่าสุดในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อาลีบาบาแสดงสัญญาณการฟื้นตัวที่น่าสนใจ โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 อยู่ที่กว่า 247 พันล้านหยวน (หรือประมาณ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่วนกำไรสุทธิก็พุ่งขึ้นถึงร้อยละ 69 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่จีนผ่อนคลายนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาคึกคักขึ้น ถ้าดูตัวเลขรายปี รายได้และกำไรสุทธิของอาลีบาบาก็เติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปี 2567 ซึ่งปีล่าสุดมีรายได้กว่า 941 พันล้านฮ่องกงดอลลาร์ และกำไรสุทธิกว่า 79 พันล้านฮ่องกงดอลลาร์ ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้จะเจอกับความท้าทาย อาลีบาบายังคงมีความสามารถในการสร้างรายได้และทำกำไรได้ดีจากธุรกิจที่หลากหลาย

พูดถึงกลยุทธ์และจุดแข็ง อาลีบาบามีไม้เด็ดคือการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์มาพัฒนาบริการและเข้าใจลูกค้ามากขึ้น ที่น่าจับตามากคือความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์ของตัวเอง อย่างการเปิดตัว ชุนเหวิน 3 (Qwen 3 AI) ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบโอเพนซอร์ส นี่เป็นสิ่งสำคัญมากในยุคที่ AI กำลังมาแรง ยิ่งในจีนเองก็มีการจำกัดการเข้าถึง ChatGPT ด้วย ยิ่งเป็นโอกาสให้อาลีบาบา คลาวด์ และแพลตฟอร์ม AI ภายในประเทศเติบโต นอกจากนี้ อาลีบาบายังขยายตลาดไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ลงทุนในแพลตฟอร์มท้องถิ่นต่างๆ ทั่วโลก อย่างล่าสุดก็มีบริการ “จ่ายทีหลังสำหรับธุรกิจ” บน อาลีบาบา.คอม เพื่อช่วย SME ในสหรัฐฯ ด้วย

สำหรับนักลงทุนที่สนใจ หุ้น 9988 หรืออาลีบาบาในมุมของตลาดหุ้นบ้างนะครับ ราคาหุ้น ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 อยู่ที่ประมาณ 72 ฮ่องกงดอลลาร์ ซึ่งต้องบอกว่าราคาหุ้นมีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังประมาณ 55-60% เลยทีเดียว แม้หุ้นจะมีความผันผวนสูง (ค่าเบต้า 1.58) แต่จากข้อมูล นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็มองไปในทิศทางบวก โดยให้คำแนะนำตั้งแต่ “เป็นกลาง” ไปจนถึง “ซื้อแข็งแกร่ง” ด้วยราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 186 ฮ่องกงดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบันพอสมควร นี่อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดยังคงมองเห็นศักยภาพของบริษัทนี้ในระยะยาว มูลค่าตลาดของอาลีบาก็ใหญ่มาก อยู่ที่ประมาณ 1.3 – 2 ล้านล้านฮ่องกงดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา ข้อมูลอัตราส่วน P/E ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 16.9 เท่า ส่วนเรื่องเงินปันผลก็มีจ่ายนะครับ อัตราอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.39

แล้วถ้าเป็นนักลงทุนไทย อยากลงทุนใน หุ้น 9988 ทำได้ไหม? ทำได้ครับ ผ่านตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ (DR) ที่เรียกว่า BABA01 ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย เจ้า DR ตัวนี้ก็เปรียบเสมือนการที่เราไปซื้อสิทธิ์ในการถือหุ้นอาลีบาบา 9988 ที่ฮ่องกงนั่นแหละครับ ทำให้เราลงทุนในหุ้นระดับโลกได้ง่ายๆ ด้วยเงินบาทผ่านโบรกเกอร์ในไทยได้เลย ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อขาย BABA01 ก็จะอิงตามเวลาตลาดหุ้นไทยคือช่วง 10 โมงเช้าถึง 11 โมง และบ่าย 2 ถึงบ่าย 3 โมงเย็น

เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าอาลีบาบาต่างกับธุรกิจไทยอย่างไร ก็เหมือนเทียบกับ เซ็นทรัล รีเทล (CRC) ที่เป็นผู้นำค้าปลีกในไทย อาลีบาบาเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมผู้ซื้อกับผู้ขาย ไม่ได้มีสินค้าคงคลังเป็นของตัวเองเหมือน CRC ที่เป็นค้าปลีกแบบดั้งเดิม นี่คือความแตกต่างในโมเดลธุรกิจ

โดยสรุปแล้ว อาลีบาบา (หรือ หุ้น 9988) เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลมาก มีธุรกิจที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันเป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่ มีการลงทุนด้าน AI และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน แม้จะเคยเผชิญความท้าทายจากนโยบายภาครัฐ แต่ก็มีการปรับตัว และสัญญาณล่าสุดก็ดูดีขึ้น ทั้งจากผลประกอบการที่ฟื้นตัว และการที่ภาครัฐเริ่มมีท่าทีผ่อนคลายและสนับสนุนภาคเทคโนโลยีมากขึ้น

สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจากจีน อาลีบาบาเป็นชื่อที่มองข้ามไปไม่ได้จริงๆ ครับ แต่ก่อนจะตัดสินใจลงทุน ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทำความเข้าใจโมเดลธุรกิจ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เช่น ความผันผวนของตลาด นโยบายภาครัฐที่อาจเปลี่ยนแปลง รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเทคโนโลยี ยิ่งถ้าเป็นการลงทุนในหุ้นต่างประเทศหรือ DR ก็ต้องเข้าใจกลไกและค่าธรรมเนียมต่างๆ ด้วย

⚠️ ข้อควรระวัง: การลงทุนในหุ้นต่างประเทศ รวมถึง DR มีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนในหุ้นไทย ทั้งจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงด้านกฎหมายและนโยบายของประเทศนั้นๆ รวมถึงความเสี่ยงของตัวธุรกิจเอง หากคุณมีเงินลงทุนที่จำกัด หรือไม่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งนะครับ อย่าเพิ่งเทหน้าตักตามกระแส ต้องมั่นใจว่าเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังจะลงทุนจริงๆ ครับ