เจาะลึก: กลุ่มหุ้นพลังงาน ทำกำไรอย่างไรในยุคเศรษฐกิจผันผวน

สวัสดีครับ/ค่ะ นักลงทุนทุกท่าน วันนี้เรามาคุยเรื่องใกล้ตัวที่เชื่อมโยงกับกระเป๋าเงินของเราอย่างคาดไม่ถึง นั่นก็คือ “พลังงาน” ครับ/ค่ะ ลองคิดดูสิครับ/คะ ทุกเช้าที่เราเปิดไฟ ชงกาแฟ ขับรถไปทำงาน หรือแม้แต่ไถสมาร์ทโฟน ทุกกิจกรรมล้วนใช้พลังงานทั้งสิ้น และในโลกของการลงทุน โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย กลุ่มหุ้นพลังงาน ถือเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลสูงมากๆ มาตลอด

คุณอาจจะเคยได้ยินข่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นๆ ลงๆ ใช่ไหมครับ/คะ รู้ไหมว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเคลื่อนไหวของ กลุ่มหุ้นพลังงาน นี่แหละครับ/ค่ะ จากข้อมูลในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าตลาดรวมสูงสุดในตลาดหุ้นไทย แถมดัชนีตลาดหุ้นไทยยังได้รับอิทธิพลจากภาคพลังงานสูงถึงร้อยละ 17 เลยทีเดียว พูดง่ายๆ คือ ถ้าหุ้นกลุ่มนี้ขยับแรงๆ ดัชนีก็มีสิทธิ์ไปตามเขาด้วย เพราะฉะนั้น การทำความเข้าใจสถานการณ์พลังงานและกลยุทธ์การลงทุนใน กลุ่มหุ้นพลังงาน จึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับนักลงทุนทุกคนครับ/ค่ะ

ทีนี้ พลังงานที่เราคุยกันไม่ได้มีแค่ “น้ำมัน” อย่างเดียว แต่ยังรวมถึงก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน โรงไฟฟ้า และที่มาแรงมากๆ คือ พลังงานสะอาด หรือ พลังงานหมุนเวียน ครับ/ค่ะ ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Net Zero) ประเทศไทยเองก็มีนโยบายสนับสนุนเรื่องนี้อย่างจริงจัง ผ่านแผนต่างๆ เช่น แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ซึ่งแผนเหล่านี้มีผลโดยตรงกับการเติบโตและทิศทางของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเลยครับ/ค่ะ เพราะรัฐบาลจะเป็นผู้กำหนดว่าจะเพิ่มกำลังผลิตเท่าไหร่ ใช้เชื้อเพลิงประเภทไหน การที่ภาครัฐสนับสนุนพลังงานสะอาดมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้การลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนเติบโตอย่างรวดเร็ว

พอมาดูที่ตัวเลขและหุ้นรายบริษัทใน กลุ่มหุ้นพลังงาน กันบ้างครับ/ค่ะ ณ ข้อมูลล่าสุดที่เราเห็น (ช่วงต้นถึงกลางปี 2567) หลายบริษัทในกลุ่มนี้มีเรื่องน่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่อง เงินปันผล ครับ/ค่ะ มีหุ้นหลายตัวที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ถ้าคัดเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดเกิน 1 หมื่นล้านบาท และให้ปันผลตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD 2567) สูงเกิน 5% ก็มีหลายชื่อที่คุ้นหูนักลงทุนครับ/ค่ะ เช่น เอสพีซีจี (SPCG) ที่ทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ให้ปันผล YTD ปี 2567 สูงถึง 8.48% หรือบ้านปู (BANPU) ที่มีทั้งธุรกิจถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และโรงไฟฟ้า แม้กำไรไตรมาสแรกปี 2567 จะลดลงจากปีก่อน เพราะราคาพลังงานโลกอย่างก๊าซธรรมชาติและถ่านหินปรับตัวลง แต่ก็ยังให้ปันผล YTD ที่ 7.54% ครับ/ค่ะ นอกจากนี้ยังมี ทีพีไอพีพี (TPIPP) โรงไฟฟ้าขยะ ที่ให้ปันผล YTD 7.27% ทีทีดับบลิว (TTW) ธุรกิจน้ำประปา 6.67% ไทยออยล์ (TOP) ธุรกิจโรงกลั่น 6.36% ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 6.19% และ ปตท. (PTT) ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่ม 5.93% ครับ/ค่ะ ตัวเลขปันผลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 ของแต่ละบริษัทจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยธุรกิจและราคาพลังงานโลก แต่หลายบริษัทก็ยังคงจ่ายปันผลได้ดีครับ/ค่ะ

นอกเหนือจากกลุ่มที่เน้นปันผลสูง หุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่น่าสนใจก็มีหลายตัว เช่น บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) ซึ่งมีโรงไฟฟ้ากระจายอยู่ในหลายประเทศ กัลฟ์ (GULF) ที่เป็นผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่และกำลังขยายการลงทุนใน พลังงานสะอาด อย่างต่อเนื่อง รวมถึง บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกโรงไฟฟ้าเอกชน และมีแผนลงทุนขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต พลังงานหมุนเวียน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าครับ/ค่ะ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ามักถูกมองว่าเป็นหุ้นที่มีรายได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ เพราะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับหน่วยงานรัฐ ทำให้มีความผันผวนน้อยกว่ากลุ่มที่ราคาอิงกับ น้ำมันดิบ หรือก๊าซธรรมชาติโดยตรงครับ/ค่ะ

คำถามคือ แล้วเราจะลงทุนใน กลุ่มหุ้นพลังงาน ช่วงไหน อย่างไรดีล่ะ? ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนบอกว่า กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับภาพรวมของ เศรษฐกิจ โลก ราคาน้ำมันดิบ และ อัตราแลกเปลี่ยน เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ครับ/ค่ะ โดยสามารถแบ่งสถานการณ์เศรษฐกิจออกได้เป็น 4 แบบใหญ่ๆ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้นครับ/ค่ะ

ลองนึกภาพตามนะครับ/คะ:
1. เศรษฐกิจเร่งตัว: ช่วงนี้ ราคาน้ำมัน มักจะปรับตัวสูงขึ้น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง กลุ่มที่เหมาะกับการลงทุนคือกลุ่มพลังงานกลางน้ำ (Midstream) เช่น โรงกลั่น หรือปิโตรเคมี ที่ได้ประโยชน์จากความต้องการใช้น้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่สูงขึ้น
2. เศรษฐกิจชะลอตัว: เป็นช่วงที่ ราคาน้ำมัน อาจจะลดลง และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ผู้คนอาจลดการเดินทางหรือใช้พลังงานน้อยลง กลุ่มที่เหมาะคือกลุ่มพลังงานปลายน้ำ (Downstream) เช่น ผู้ค้าปลีกน้ำมัน หรือสถานีบริการน้ำมัน ที่ยังมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่นๆ นอกเหนือจากน้ำมัน (อย่าง OR ที่หลายคนรู้จัก)
3. เศรษฐกิจจำยอม: นี่คือสถานการณ์ที่หลายคนบอกว่าโลกกำลังเผชิญอยู่ หรือเพิ่งผ่านมา คือช่วงที่ ราคาน้ำมัน ยังสูงอยู่ แต่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็แข็งค่าด้วย เพราะเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนหรือมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ต้นทุนพลังงานยังสูง แต่ภาคเศรษฐกิจอื่นๆ อาจจะเริ่มชะลอตัว ในสถานการณ์แบบนี้ กลุ่มพลังงานต้นน้ำ (Upstream) ซึ่งทำธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอย่าง ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) มักจะได้รับประโยชน์จาก ราคาน้ำมัน ที่ยังทรงตัวสูงครับ/ค่ะ
4. เศรษฐกิจความฝัน: อันนี้อาจจะเป็นช่วงที่ ราคาน้ำมัน ร่วงหนัก และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็อ่อนค่าด้วย เป็นช่วงที่เศรษฐกิจอาจจะมีปัญหาจริงๆ จนความต้องการใช้พลังงานลดลงอย่างมาก ในสถานการณ์แบบนี้ การลงทุนในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมันโดยตรง เช่น กลุ่มเทคโนโลยี อาจจะดูน่าสนใจกว่าครับ/ค่ะ

นักกลยุทธ์หลายคนมองว่า ตอนนี้โลกอยู่ในช่วง เศรษฐกิจจำยอม หรือกำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ เศรษฐกิจชะลอตัว ครับ/ค่ะ ดังนั้น กลยุทธ์ที่แนะนำคือ อาจจะเริ่มมองหาโอกาสในหุ้นกลุ่มต้นน้ำอย่าง ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ที่ยังได้รับอานิสงส์จาก ราคาน้ำมัน และในระยะถัดไป หากเศรษฐกิจชะลอตัวชัดเจนขึ้น ก็อาจจะพิจารณาหุ้นกลุ่มปลายน้ำอย่าง โออาร์ (OR) ที่มีธุรกิจหลากหลาย ไม่ได้พึ่งพิงแค่ ราคาน้ำมัน อย่างเดียวครับ/ค่ะ

โดยสรุปแล้ว กลุ่มหุ้นพลังงาน เป็นกลุ่มที่สำคัญและมีอิทธิพลต่อ ตลาดหุ้นไทย อย่างมาก การลงทุนในกลุ่มนี้ต้องทำความเข้าใจปัจจัยหลายอย่าง ทั้งภาพรวม เศรษฐกิจ โลก แนวโน้ม ราคาน้ำมันดิบ นโยบายภาครัฐต่อ พลังงานสะอาด และรูปแบบธุรกิจของบริษัทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ หรือกลุ่มโรงไฟฟ้า นอกจากนี้ การดูเรื่องผลประกอบการและ เงินปันผล ก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจครับ/ค่ะ

ก่อนตัดสินใจลงทุนใน กลุ่มหุ้นพลังงาน ครับ/ค่ะ อย่าลืมว่า การลงทุน มีความเสี่ยงเสมอ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ กำหนดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน และอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน การลงทุน เพื่อวางแผนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ส่วนตัวของคุณนะครับ/คะ การกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่นๆ หรือกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามครับ/ค่ะ

⚠️ การลงทุนใน กลุ่มหุ้นพลังงาน มีความผันผวนสูง โดยเฉพาะหุ้นที่อิงกับราคา น้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ อุปสงค์และอุปทานโลก รวมถึงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสู่ พลังงานสะอาด ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปแบบธุรกิจเดิมๆ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอครับ/ค่ะ