
ช่วงนี้เวลาไปโรงพยาบาลเอกชนใหญ่ๆ รู้สึกไหมครับว่าคึกคักเป็นพิเศษ คนแน่นแทบตลอดเวลา ทั้งคนไทยเองที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น หรือชาวต่างชาติที่บินมาเพื่อรับการรักษาโดยเฉพาะ
พูดถึงโรงพยาบาลใหญ่ระดับประเทศ ก็ต้องนึกถึงเครือ BDMS ใช่ไหมครับ? เครือข่ายโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี วันนี้คอลัมน์ ‘ห้องนั่งเล่นนักลงทุน’ ของเรา จะขอพาไป ‘สแกน’ หุ้นโรงพยาบาลเบอร์ใหญ่แห่งนี้กันหน่อย ว่าในมุมของการลงทุน ‘หุ้น รพ กรุงเทพ’ หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า BDMS เขาเป็นยังไงบ้าง น่าสนใจแค่ไหน และมีอะไรที่เราควรรู้ก่อนตัดสินใจลงเงินไปกับธุรกิจดูแลสุขภาพแห่งนี้
ลองนึกภาพตามนะครับ การจะรู้ว่าบริษัท BDMS ที่เปรียบเสมือนร่างกายขนาดใหญ่นั้นแข็งแรงแค่ไหน เราก็ต้องดูจาก ‘สุขภาพทางการเงิน’ ของเขา เหมือนที่เราไปตรวจร่างกายประจำปีนั่นแหละครับ
จากข้อมูลล่าสุดที่เราเห็นจากแหล่งข้อมูลทางการเงินอย่างตลาดหลักทรัพย์ (SET) และงบการเงินบริษัท ดูเหมือนว่าสุขภาพของ BDMS ในปี 2567/2024 นั้นค่อนข้างดีทีเดียวครับ เพราะเขามีการเติบโตของ ‘รายได้รวม’ และ ‘กำไรสุทธิ’ ที่น่าพอใจ
ในปี 2567 รายได้รวมของ BDMS เพิ่มขึ้น 7.11% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนกำไรสุทธิยิ่งโดดเด่นกว่าครับ พุ่งขึ้นถึง 17.47%! ตัวเลขเหล่านี้บอกเราว่าธุรกิจหลักคือการให้บริการรักษาพยาบาลยังคงเติบโตได้ดี และการบริหารจัดการต้นทุนก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
พอดูงบดุลย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 BDMS มี ‘ทรัพย์สินรวม’ กว่า 147,954 ล้านบาท ในขณะที่มี ‘หนี้สินรวม’ เพียง 44,514 ล้านบาท เห็นไหมครับว่าอัตราส่วน ‘ทรัพย์สินต่อหนี้สิน’ ค่อนข้างสูง แสดงถึง ‘ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง’ มีความมั่นคง ไม่ได้พึ่งพาเงินกู้ยืมจนเกินไป แถมยังมี ‘เงินสด’ ในมืออีกกว่า 11,337 ล้านบาท ถือว่ามีสภาพคล่องพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี
มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น หรือ Book Value ต่อหุ้น ของ BDMS ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 6.58 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่บอกว่าถ้าบริษัทเลิกกิจการและขายทรัพย์สินทั้งหมด หักหนี้สินออก แล้วแบ่งคืนให้ผู้ถือหุ้นแต่ละคนตามสัดส่วน จะได้ประมาณคนละเท่านี้
ที่สำคัญคือ BDMS เป็นหุ้นที่ขึ้นชื่อเรื่องการ ‘จ่ายเงินปันผล’ อย่างสม่ำเสมอครับ มีประวัติการจ่ายย้อนหลังหลายปี ล่าสุดจ่ายเงินปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น สำหรับผลประกอบการปี 2567 ซึ่งจ่ายไปเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 การได้เงินปันผลถือเป็นอีกหนึ่งผลตอบแทนที่นักลงทุนที่เน้นรับกระแสเงินสดชื่นชอบครับ
คราวนี้มาดูที่ ‘จังหวะบนกระดานหุ้น’ หรือความเคลื่อนไหวของ ‘ราคาหุ้น BDMS’ กันบ้างครับ จากข้อมูลการซื้อขายล่าสุด ณ วันที่ 19 เมษายน 2568 ราคาหุ้น BDMS ปรับตัวสูงขึ้นมาปิดที่ 23.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ +1.73% จากวันก่อนหน้า ในวันนั้นมีปริมาณซื้อขาย 23.34 ล้านหุ้น มูลค่า 544.28 ล้านบาท
แต่ถ้าดูข้อมูลที่อัปเดตขึ้นมาอีกหน่อย ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2568 จะเห็นว่า ‘ปริมาณซื้อขาย’ และ ‘มูลค่าซื้อขาย’ ของ ‘หุ้น รพ กรุงเทพ’ อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงทีเดียวครับ มีปริมาณซื้อขายถึง 47.06 ล้านหุ้น มูลค่าซื้อขายเฉียด 1 พันล้านบาท (986.18 ล้านบาท) ตัวเลขเหล่านี้บอกว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจและมีการเปลี่ยนมือของหุ้นจำนวนมากในวันนั้น
ที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งคือ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา (เช่น ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2568) ‘นักลงทุนต่างชาติ’ มียอด ‘ขายสุทธิ’ ในหุ้น BDMS อยู่เหมือนกันครับ ซึ่งสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 25.48% และ NVDR (Thai NVDR Company Limited – บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด) ซึ่งมักเป็นช่องทางสำหรับนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นไทย ก็ถืออยู่ประมาณ 9.79% การเคลื่อนไหวของนักลงทุนกลุ่มนี้ก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนไทยให้ความสนใจเช่นกัน
ถ้ามองในแง่ ‘มูลค่า’ ของหุ้น BDMS ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2568 มี ‘มูลค่าตามราคาตลาด’ หรือ Market Cap อยู่ที่ประมาณ 333,732 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทขนาดใหญ่มากในตลาดหลักทรัพย์ไทย
อัตราส่วน ‘ราคาต่อกำไร’ หรือ P/E Ratio ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 20.82 เท่า หลายคนอาจจะสงสัยว่า P/E 20 เท่าถือว่าถูกหรือแพงสำหรับหุ้นโรงพยาบาล? อันนี้ต้องเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมและคู่แข่ง รวมถึงแนวโน้มการเติบโตในอนาคต ซึ่งอัตราส่วนนี้บอกเราว่านักลงทุนยอมจ่ายเงินประมาณ 20.82 บาท เพื่อแลกกับกำไรสุทธิ 1 บาทที่บริษัททำได้ต่อหุ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ส่วนอัตราส่วน ‘ราคาต่อมูลค่าตามบัญชี’ หรือ P/BV Ratio อยู่ที่ 3.24 เท่า บอกว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดตอนนี้สูงกว่ามูลค่าทางบัญชีประมาณ 3.24 เท่า ก็เป็นอีกมุมที่ใช้ประเมินว่าราคาหุ้น “แพง” เมื่อเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัท
อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Dividend Yield ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 3.57% ต่อปี ถือเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอครับ
แล้ว BDMS ทำอะไรบ้างล่ะ ถึงได้ใหญ่โตและมีสุขภาพทางการเงินดีขนาดนี้?
ถ้าดูโครงสร้างธุรกิจ BDMS ไม่ได้มีแค่โรงพยาบาลนะครับ แต่เป็นเหมือน ‘ระบบนิเวศสุขภาพแบบครบวงจร’ เลยก็ว่าได้ เป็น ‘ผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชน’ ขนาดใหญ่ทั้งในประเทศไทยและขยายไปที่ประเทศกัมพูชาด้วย

ในเครือ BDMS มีโรงพยาบาลกว่า 6 กลุ่มหลักที่คนไทยคุ้นเคยกันดี เช่น กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ, กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลบี เอ็น เอช (BNH), กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท, กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัล (ในกัมพูชา) โรงพยาบาลแต่ละกลุ่มก็มีจุดเด่นและเจาะกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ระดับพรีเมียมไปจนถึงระดับกลาง
นอกจากธุรกิจโรงพยาบาลหลักแล้ว BDMS ยังมี ‘ธุรกิจสนับสนุน’ ที่หลากหลายมากๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง เช่น ธุรกิจห้องปฏิบัติการทางการแพทย์, ธุรกิจผลิตยาและน้ำเกลือ, ธุรกิจประกันสุขภาพ (ที่ดูแลลูกค้าองค์กรต่างๆ), ธุรกิจโรงแรมที่รองรับผู้ป่วยและญาติ, ธุรกิจขนส่งผู้ป่วยทางอากาศ (ที่มีเฮลิคอปเตอร์ของตัวเอง!), ไปจนถึงธุรกิจด้าน ‘นวัตกรรมสุขภาพ’ (Health Innovation) และ E-commerce ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เห็นไหมครับว่าเขาพยายามสร้าง Ecosystem เพื่อรองรับความต้องการด้านสุขภาพของลูกค้าได้อย่างครบวงจรจริงๆ
ถ้าดู ‘สัดส่วนรายได้’ ในปี 2567 จะเห็นชัดเลยว่ารายได้หลักมาจากไหนครับ รายได้เกือบทั้งหมดมาจาก ‘ค่ารักษาพยาบาล’ สูงถึง 94.80% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการจำหน่ายสินค้า 3.80% และรายได้อื่นอีก 1.40% นี่ตอกย้ำว่าหัวใจสำคัญของ BDMS คือการให้บริการทางการแพทย์คุณภาพสูง
แล้ว ‘ใครเป็นเจ้าของ’ BDMS กันบ้าง? ถ้าดูข้อมูล ‘ผู้ถือหุ้นรายใหญ่’ 10 อันดับแรก ณ วันที่ 13 มีนาคม 2568 จะเห็นโครงสร้างที่น่าสนใจครับ
อันดับหนึ่งคือ บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (Thai NVDR Company Limited) ถืออยู่ 10.57% ซึ่งอย่างที่บอกไป เป็นเครื่องมือสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ไม่สามารถถือหุ้นไทยได้โดยตรง ถัดมาก็จะเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร เช่น นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และคู่สมรส ถือรวมกัน 9.31%, แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ถือ 5.80%
นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่เกี่ยวข้อง ถือหุ้นในสัดส่วนที่ค่อนข้างใหญ่ เช่น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (Bangkok Airways Public Company Limited) และบริษัท บางกอกแอร์เวย์สโฮลดิ้ง จำกัด ถือรวมกัน 4.62% และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ถือ 4.27%
รวมๆ แล้ว ‘ผู้ถือหุ้นรายใหญ่’ 10 อันดับแรก ถือหุ้นรวมกันกว่า 50.63% ของหุ้นทั้งหมด โครงสร้างนี้บอกเราว่ามีทั้งกลุ่มผู้ก่อตั้งที่ยังคงมีบทบาทสำคัญ นักลงทุนสถาบันทั้งไทย (กองทุนรวมต่างๆ แม้จะไม่ได้อยู่ใน Top 10 แต่ก็มี) และต่างชาติ รวมถึงบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันเข้ามาถือหุ้น ซึ่งอาจสร้างความมั่นคงในระดับหนึ่ง
แน่นอนว่าธุรกิจโรงพยาบาลขนาดใหญ่ก็มี ‘ความเสี่ยง’ ของตัวเองที่นักลงทุนควรทราบครับ ตามที่บริษัทได้ระบุไว้ในเอกสารต่างๆ ความเสี่ยงหลักๆ ที่ BDMS เผชิญคือ
1. **ความเสี่ยงจากการขาดแคลน ‘บุคลากรทางการแพทย์’ ไม่เพียงพอ:** ทั้งแพทย์ พยาบาล และบุคลากรเฉพาะทาง เพราะความต้องการสูงมาก การแข่งขันแย่งตัวก็สูงตามไปด้วย BDMS รับมือด้วยการให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมภายใน ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ และสร้างแรงจูงใจเพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญ
2. **ความเสี่ยงจากโรคระบาดและเหตุการณ์ฉุกเฉิน:** อย่างที่เราเห็นผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลทั่วโลก BDMS มีการเตรียมความพร้อมด้วยแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน (Business Continuity Plan – BCP) พัฒนาระบบแพทย์ทางไกล (Telehealth) และระบบขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน (Mobile CCU) เพื่อให้สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

3. **ความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรง:** ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนมีการแข่งขันสูงมาก ทั้งจากผู้ประกอบการรายเดิมและรายใหม่ BDMS รับมือด้วยการสร้าง ‘ศูนย์ความเป็นเลิศ’ (Center of Excellence) ในสาขาต่างๆ ลงทุนใน ‘นวัตกรรม’ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่น การนำ ‘AI’ มาช่วยวินิจฉัยโรค หรือการสร้างโรงพยาบาลอัจฉริยะ (Smart Hospital) เพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพในการให้บริการ
แต่ในขณะเดียวกัน BDMS ก็มองไปข้างหน้า ไม่หยุดนิ่งครับ มี ‘โครงการในอนาคต’ ที่น่าสนใจหลายอย่าง
* **BDMS Innovation Incubation Program:** เป็นโครงการที่สนับสนุนและทดลองนำเทคโนโลยีของ Startup ด้าน ‘MedTech’ (Medical Technology) มาใช้จริงในโรงพยาบาล เพื่อมองหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยพัฒนาการแพทย์
* **โครงการ ‘AI’ ช่วยวินิจฉัยโรคทรวงอก:** ร่วมมือกับ Perceptra พัฒนาและประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการช่วยแพทย์วินิจฉัยภาพถ่ายทรวงอก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำและรวดเร็ว
* **’โรงพยาบาลกรุงเทพปลวกแดง’:** เป็นโครงการขยายเครือข่ายโรงพยาบาลแห่งใหม่ในพื้นที่ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษสำคัญ เพื่อรองรับความต้องการด้านสุขภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมและประชาชนในพื้นที่นั้นๆ
โครงการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า BDMS ไม่ได้พึ่งพิงแค่ธุรกิจโรงพยาบาลแบบเดิมๆ แต่กำลังลงทุนเพื่ออนาคต เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของตลาดที่ซับซ้อนมากขึ้น
สรุปแล้ว ‘หุ้น รพ กรุงเทพ’ หรือ BDMS เป็นหุ้นของบริษัทชั้นนำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่มีขนาดใหญ่ มี ‘ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง’ ผลประกอบการเติบโตได้ดี มีการ ‘จ่ายเงินปันผล’ อย่างสม่ำเสมอ และมีแผนลงทุนใน ‘นวัตกรรม’ และขยาย ‘เครือข่ายโรงพยาบาล’ เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ ‘หุ้น BDMS’ ต้องบอกว่านี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่เรานำมา ‘สแกน’ ให้เห็นภาพรวมเท่านั้นครับ ก่อนตัดสินใจ ‘ลงทุน’ ใน ‘หุ้น รพ กรุงเทพ’ คุณต้องทำการบ้านด้วยตัวเอง (Do Your Own Research – DYOR) เสมอ
ลองพิจารณาจากหลายๆ มุม ทั้งแนวโน้มอุตสาหกรรมสุขภาพในอนาคต การแข่งขันในตลาด ความเสี่ยงต่างๆ ที่บริษัทต้องเจอ และที่สำคัญคือ ‘เป้าหมายการลงทุน’ และ ‘ความเสี่ยงที่คุณรับได้’ ครับ
หากเป็นนักลงทุนมือใหม่ หรือมีเงินลงทุนไม่สูงมาก อาจจะลองดูที่การลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) คือการทยอยลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กันเป็นงวดๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา หรืออาจจะพิจารณาลงทุนผ่าน ‘กองทุนรวม’ ที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มสาธารณสุขแทนการซื้อ ‘หุ้น BDMS’ โดยตรง เพื่อกระจายความเสี่ยงก็ได้ครับ
⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน และพิจารณาถึงความเหมาะสมกับการลงทุนของตนเองเสมอ หากไม่เข้าใจในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก่อนตัดสินใจนะครับ
การลงทุนใน ‘หุ้น รพ กรุงเทพ’ หรือหุ้นตัวไหนก็ตาม เปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ครับ ต้องใช้เวลาในการดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ย ค่อยๆ เติบโตไปตามจังหวะของมัน อย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ในชั่วข้ามคืนครับ