เพื่อนๆ นักลงทุนที่น่ารักทุกคน เคยไหมครับที่กำลังดูข่าวหุ้น หรือกำลังคิดแผนเทรดเพลินๆ แล้วเกิดคำถามในใจขึ้นมาว่า “เอ๊ะ แล้ว ตลาดหุ้น เปิดกี่โมง นะ?” บางทีก็งงๆ ว่าตลาดไทยเปิดเวลานี้ ตลาดต่างประเทศล่ะ เปิดเมื่อไหร่ แล้วทำไมบางทีเวลาเหมือนจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย?
บอกเลยว่าคำถามนี้เป็นคำถามพื้นฐานมากๆ ที่นักลงทุนทุกคนควรจะรู้ไว้ เพราะเวลาทำการของ ตลาดหุ้น นี่แหละ คือช่วงเวลาที่เราจะสามารถส่งคำสั่ง ซื้อขาย ได้จริง เป็นช่วงเวลาที่ราคาหุ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงตามแรง ซื้อขาย ของ นักลงทุน ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศเราเท่านั้นครับ
**เปิดประตู ตลาดหลักทรัพย์ ไทย: เวลาทำการล่าสุดที่ต้องจำ!**
สำหรับนักลงทุนในบ้านเรา พระเอกหลักของเราก็คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือที่เรียกกันติดปากว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ นั่นแหละครับ ซึ่งก็มี ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นอีกตลาดสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึง ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) สำหรับสินค้า อนุพันธ์ ต่างๆ
อัปเดตล่าสุดสำหรับ ตลาดหลักทรัพย์ SET และ mai เลยนะ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เขาได้ปรับเวลาทำการช่วงบ่ายให้เร็วขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยครับ!
ถ้าเป็นเวลาทำการแบบดั้งเดิม (ก่อน 25 มี.ค. 2567)
* รอบเช้า: 10:00 น. – 12:30 น.
* รอบบ่าย: 14:30 น. – 16:30 น.
แต่พอเริ่มใช้เวลาทำการใหม่ (ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2567)
* รอบเช้า: ยังคงเดิมที่ 10:00 น. – 12:30 น.
* รอบบ่าย: ปรับเป็น 14:00 น. – 16:30 น.
เห็นไหมครับว่าเวลาทำการช่วงบ่ายขยับเร็วขึ้น 30 นาที! ถามว่าทำไมต้องปรับ? เหตุผลหลักๆ เลยก็เพื่อเพิ่มโอกาสและความสะดวกในการลงทุนให้กับ นักลงทุน ไทย ให้สามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนได้ทันกับสถานการณ์ของ ตลาดหุ้น ทั่วโลกที่มักจะมีการเคลื่อนไหวในช่วงบ่ายของบ้านเรามากขึ้น พูดง่ายๆ คือทำให้ ตลาดทุน ไทยมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นนั่นเองครับ
นอกจากเวลาทำการปกติแล้ว ยังมีช่วงเวลาที่เรียกว่า Pre-Opening Period (ช่วงก่อนเปิดตลาด) ด้วยนะ ช่วงนี้สำคัญเหมือนกัน เพราะเป็นช่วงที่ระบบจะรวบรวมคำสั่ง ซื้อขาย ที่ส่งเข้ามา เพื่อประมวลผลหา ราคาเปิด (Opening Price) ของหุ้นแต่ละตัวนั่นเองครับ
* Pre-Opening รอบเช้า: 09:30 น. – 10:00 น.
* Pre-Opening รอบบ่าย: 13:30 น. – 14:00 น. (ปรับตามเวลาทำการใหม่)
ส่วน ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ก็มีการปรับเวลาทำการช่วงกลางวัน (Afternoon Session) ให้สอดคล้องกับ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยเช่นกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา เวลาทำการใหม่สำหรับสินค้าหลักๆ อย่าง Equity Futures & Options, Currency Futures, Interest Rate Futures ช่วงกลางวันก็จะเริ่มตั้งแต่ 13:45 น. ไปจนถึง 16:55 น. ครับ และมี Pre-Opening ภาคบ่ายตั้งแต่ 13:15 น. – 13:45 น. ด้วย
**ทำไมต้องสนใจเวลา? ก็เพราะมันคือเวลาแห่งการ ซื้อขาย ไงล่ะ!**
ลองนึกภาพตามนะ เวลาทำการของ ตลาดหุ้น ก็เหมือนเวลาเปิดประตูร้านค้าครับ ในช่วงเวลาเหล่านี้ นักลงทุน ทั่วโลก (ทั้ง นักลงทุน สถาบัน, บัญชีบล., นักลงทุน ต่างประเทศ, และ นักลงทุน ในประเทศ) ถึงจะส่งคำสั่ง ซื้อขาย หุ้น, กองทุนรวม, อนุพันธ์, DW, ETF, DR, DRx หรือ ตราสารหนี้ ต่างๆ ได้ ราคาหุ้นก็จะมีการขยับขึ้นลงตามแรง ซื้อขาย จริงๆ มูลค่าซื้อขาย หรือ ปริมาณซื้อขาย ที่เราเห็นในแต่ละวันก็เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้นี่แหละ การรู้ว่า ตลาดหุ้น เปิดกี่โมง จึงเป็นข้อมูลพื้นฐานสุดๆ ที่จะช่วยให้เราวางแผนการ ซื้อขาย ได้ถูกช่วงถูกเวลา
**ข้ามไปดู ตลาดหุ้น สหรัฐฯ: เวลาไม่เหมือนกัน แถมมี ‘เวลาออมแสง’ ด้วย!**
พอพูดถึง ตลาดหุ้น ทั่วโลก ตลาดที่ นักลงทุน ไทยให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คงหนีไม่พ้น ตลาดหุ้น สหรัฐฯ (US Stock Market) ที่มีขนาดใหญ่และมีอิทธิพลต่อ ตลาดหุ้น ทั่วโลก สูงมากๆ ครับ แต่ ตลาดหุ้น สหรัฐฯ (เช่น ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก หรือ ตลาดหุ้น Nasdaq) มีเวลาทำการที่แตกต่างจาก ตลาดหุ้น ไทยอย่างชัดเจน และที่สำคัญคือเวลาทำการของเขาจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลด้วยเหตุผลของ ‘Daylight Saving Time’ (DST) หรือ ‘เวลาออมแสง’
ลองมาดูเวลาทำการของ ตลาดหุ้น สหรัฐฯ เทียบกับเวลาประเทศไทย (GMT+7:00) กันครับ:
* **ช่วงเวลาปกติ (ประมาณกลางเดือนมีนาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน):** ตลาดหุ้น สหรัฐฯ จะเปิดทำการช่วงค่ำของบ้านเรา คือ 20:30 น. และไปปิดตอน 03:00 น. ของอีกวัน
* **ช่วงฤดูหนาว (ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนมีนาคม):** พอปรับ ‘เวลาออมแสง’ แล้ว เวลาทำการของ ตลาดหุ้น สหรัฐฯ จะขยับช้าลง 1 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับเวลาไทย คือจะเปิดทำการช่วงค่ำของบ้านเราที่ 21:30 น. และไปปิดตอน 04:00 น. ของอีกวัน
นักลงทุน ที่เทรดหุ้นสหรัฐฯ ต้องคอยเช็กช่วงเวลาเปลี่ยน ‘เวลาออมแสง’ ให้ดีเลยนะครับ จะได้ไม่พลาดช่วงเวลา ซื้อขาย สำคัญ ตัวอย่างเช่น ในปี 2025 ช่วง 9 มีนาคม – 2 พฤศจิกายน จะใช้เวลา 20:30-03:00 น. พอเข้าสู่ช่วง 2 พฤศจิกายน 2025 – 7 มีนาคม 2026 ก็จะเปลี่ยนเป็น 21:30-04:00 น. ครับ
**ช่วงเวลาพิเศษ: ซื้อขาย ก่อน/หลังตลาดปกติ?**
นอกจากเวลาทำการปกติแล้ว ตลาดหุ้น ยังมีช่วงเวลาพิเศษที่สามารถส่งคำสั่ง ซื้อขาย ได้อีกนะ
* **Pre-Opening Period (ตลาดไทย):** อย่างที่บอกไปช่วง 09:30-10:00 น. และ 13:30-14:00 น. เป็นช่วงที่ระบบรวบรวมคำสั่งก่อนเปิดตลาด เพื่อหาก ราคาเปิด ครับ เราส่งคำสั่งได้แต่ยังไม่มีการจับคู่ทันที
* **Extended Hours (ตลาดหุ้น สหรัฐฯ):** ตลาดหุ้น สหรัฐฯ นี่มีช่วงเวลาพิเศษที่เรียกว่า ‘Extended Hours’ หรือ ‘ช่วงเวลาพิเศษ’ นอกเหนือจากเวลาทำการปกติด้วยนะ แบ่งเป็น 2 ช่วงหลักๆ คือ
* **Premarket (ช่วงก่อนเปิดตลาดปกติ):** เป็นช่วงเวลาที่ นักลงทุน สามารถ ซื้อขาย ได้ก่อนที่ตลาดจะเปิดอย่างเป็นทางการ
* **Post Market (ช่วงหลังปิดตลาดปกติ):** เป็นช่วงเวลาที่ นักลงทุน สามารถ ซื้อขาย ได้หลังจากที่ตลาดปิดแล้ว
ถ้าเทียบกับเวลาไทย ช่วง Premarket จะอยู่ประมาณ 15:00 – 20:30 น. (ช่วงเวลาปกติ) หรือ 16:00 – 21:30 น. (ช่วงฤดูหนาว) ส่วนช่วง Post Market จะอยู่ประมาณ 03:00 – 07:00 น. (ช่วงเวลาปกติ) หรือ 04:00 – 08:00 น. (ช่วงฤดูหนาว)
**⚠️ ข้อควรระวัง!** การ ซื้อขาย ในช่วง ‘Extended Hours’ หรือ ‘ช่วงเวลาพิเศษ’ นี้มีข้อจำกัดและ ความเสี่ยง เพิ่มเติมที่ นักลงทุน ต้องรู้ครับ เพราะ ‘สภาพคล่อง’ (Liquidity) ในตลาดจะค่อนข้างต่ำกว่าช่วงเวลาทำการปกติ ทำให้การ ซื้อขาย หุ้นอาจจะเกิดขึ้นได้ยาก ราคาอาจมีการกระโดดหรือ ความผันผวน สูงกว่าปกติ บางครั้งอาจส่งคำสั่งได้แค่แบบ Limit Price (ระบุราคา) เท่านั้น ไม่สามารถส่งคำสั่งแบบ Market Price (ราคาตลาด) ได้ ต้องเช็กกับโบรกเกอร์ที่เราใช้บริการด้วยนะ ปัจจุบันก็มีโบรกเกอร์บางแห่ง อย่างโบรกเกอร์ Liberator ที่นำเสนอบริการเทรดหุ้นสหรัฐฯ ต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง ครอบคลุมช่วงเวลาเหล่านี้ ซึ่งก็เป็นทางเลือกสำหรับ นักลงทุน ที่ต้องการ ซื้อขาย นอกเวลาปกติครับ แต่ก็ต้องทำความเข้าใจ ความเสี่ยง เพิ่มเติมด้วย
**ตลาดหุ้น ทั่วโลก เปิด-ปิด ไม่พร้อมกัน… เรื่องธรรมดา!**
ไม่ใช่แค่ ตลาดหุ้น ไทยกับสหรัฐฯ นะครับ ตลาดหุ้น ในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก ทั้งยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย หรือแม้แต่อเมริกาใต้ และแอฟริกา ก็มีเวลาทำการที่แตกต่างกันไป บางตลาดอาจมีช่วงพักเที่ยงยาวๆ เหมือน ตลาดหุ้น จีน หรือ ตลาดหุ้น โตเกียว ในอดีต แต่บางตลาดอย่าง ตลาดหุ้น เกาหลีใต้ หรือ ตลาดหุ้น ออสเตรเลีย ก็เทรดยาวๆ ไม่มีพักเที่ยงเลย ซึ่งความแตกต่างของเวลานี่เองที่ทำให้ ตลาดหุ้น ทั่วโลกมีการเคลื่อนไหวสลับกันไปตามเขตเวลา (Time Zone) ครับ
แม้แต่ตลาดการเงินใหญ่ๆ อย่าง ตลาด Forex ที่เทรดกันเกือบ 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ก็ยังมีช่วงเวลาที่เรียกว่า ‘ช่วงคาบเกี่ยว’ (Overlap) ที่ตลาดใหญ่ๆ เช่น ลอนดอนกับนิวยอร์ก หรือ โตเกียวกับลอนดอน เปิดพร้อมกัน ช่วงเวลาเหล่านี้แหละที่มักจะมี ปริมาณซื้อขาย สูง สภาพคล่อง เยอะ และเหมาะกับการเทรดมากที่สุด
**รู้เวลาแล้วทำไงต่อ?**
การรู้ว่า ตลาดหุ้น เปิดกี่โมง เป็นเพียงก้าวแรกของการเป็น นักลงทุน ที่ประสบความสำเร็จครับ เพราะในช่วงเวลาทำการนั้นแหละคือเวลาที่เราจะต้องใช้ความรู้ เครื่องมือ และข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์กราฟ การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ หรือการใช้โปรแกรมคำนวณต่างๆ มาช่วยในการตัดสินใจ ซื้อขาย
นอกจาก หุ้น แล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ และโบรกเกอร์ต่างๆ ก็มีผลิตภัณฑ์ การลงทุน ที่หลากหลายให้เลือกตามความสนใจและระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ เช่น กองทุนรวม ที่มีมืออาชีพบริหารให้, อนุพันธ์ สำหรับการเก็งกำไรหรือบริหาร ความเสี่ยง, หรือ ตราสารหนี้ สำหรับคนที่เน้นความมั่นคงมากขึ้น
สรุปแล้ว เวลาทำการ ตลาดหุ้น ไม่ว่าจะเป็น ตลาดหลักทรัพย์ ไทย หรือตลาดต่างประเทศ เป็นข้อมูลพื้นฐานที่ นักลงทุน ควรสัปเดตอยู่เสมอ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเวลาล่าสุดของ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีผลตั้งแต่ 25 มีนาคม 2567 และการทำความเข้าใจเรื่อง ‘Daylight Saving Time’ หรือ ‘เวลาออมแสง’ ของ ตลาดหุ้น สหรัฐฯ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสและสามารถวางแผนการ ซื้อขาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรเช็กเวลาทำการล่าสุดจากแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการ เช่น เว็บไซต์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือผู้ให้บริการ ซื้อขาย หลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ที่เราใช้งานอยู่เสมอ เพราะข้อมูลเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
**⚠️ การ ซื้อขาย ใน ตลาดหุ้น และผลิตภัณฑ์ การลงทุน อื่นๆ มี ความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และ ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง และควรลงทุนในวงเงินที่ตนเองสามารถรับ ความเสี่ยง จากการขาดทุนได้**
