
เพื่อนๆ เคยรู้สึกไหมครับว่า “อยากลงทุนหุ้นนะ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี?” สมัยก่อนถ้าจะลงทุนหุ้นนี่มันดูยุ่งยากซับซ้อน ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ดูตัวเลข ดูจอกราฟอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด ดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนทั่วไปเลยใช่ไหมครับ
แต่ยุคนี้อะไรๆ ก็ง่ายขึ้นเยอะครับ ด้วยเทคโนโลยีที่เรามีในมือเนี่ยแหละ แอปพลิเคชันในมือถือกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เรื่องการลงทุนเข้าถึงง่ายขึ้นมากๆ ไม่ใช่แค่ `app ดู หุ้น (stock viewing app)` อย่างเดียว แต่ยังมีแอปที่ช่วยทั้งดูข้อมูล วิเคราะห์ ซื้อขาย หรือแม้กระทั่งวางแผนการเงินส่วนตัวให้เราด้วย วันนี้ในฐานะคนที่คลุกคลีในวงการนี้มาสักพัก อยากชวนมาดูกันว่าโลกของการลงทุนผ่านแอปพลิเคชันมันมีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วเราจะเลือกใช้เครื่องมือพวกนี้ยังไงให้ชีวิตการลงทุนง่ายขึ้นครับ
ลองนึกภาพตามนะครับ เหมือนเราจะขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด สิ่งแรกที่เราต้องทำคืออะไรครับ? เราต้องรู้เส้นทางใช่ไหม ต้องดูแผนที่ หรือเปิดแอปนำทาง นั่นแหละครับ การลงทุนก็เหมือนกัน ก่อนจะลงมือซื้อขาย เราต้อง “ดู” ก่อน ดูข้อมูลตลาด ดูราคา ดูข่าวสาร แอปพลิเคชันกลุ่มแรกที่สำคัญมากๆ ก็คือ `app ดู หุ้น (stock viewing app)` หรือแอปดูกราฟและข้อมูลตลาดนี่แหละครับ
ตัวอย่างที่คนนิยมใช้กันทั่วโลกก็เช่น **TradingView** อันนี้เป็นแพลตฟอร์มดูกราฟระดับเทพเลยครับ มีผู้ใช้เยอะมากๆ ข้อมูลครอบคลุมสินทรัพย์แทบทุกประเภททั่วโลก ไม่ใช่แค่หุ้นนะ แต่มีตั้งแต่คู่เงิน สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโทฯ ไปจนถึงดัชนีต่างๆ จุดเด่นคือเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเพียบ กราฟขั้นสูง อินดิเคเตอร์สารพัด แถมยังลองจำลองการซื้อขาย (Paper Trading) ได้ด้วย ถ้าใครชอบวิเคราะห์เจาะลึกทางเทคนิค ตัวนี้คือตัวเลือกอันดับต้นๆ เลยครับ
อีกตัวที่ดังไม่แพ้กันคือ **Investing.com** ครับ อันนี้เน้นข้อมูลแบบเรียลไทม์ครอบคลุมสินทรัพย์กว่าแสนรายการ มีปฏิทินเศรษฐกิจให้ดูด้วยว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญอะไรที่จะกระทบตลาดบ้าง ฟังก์ชันสร้างพอร์ตส่วนตัวก็สะดวกดี ใครที่ต้องการข้อมูลข่าวสารและข้อมูลพื้นฐานควบคู่กับการดูกราฟ แอปนี้ตอบโจทย์ครับ

สำหรับนักลงทุนไทยโดยเฉพาะ เรามีตัวหลักที่ขาดไม่ได้เลยคือ **Settrade Streaming** อันนี้พัฒนาโดย Settrade ครับ เป็นแอปซื้อขายหลักทรัพย์และอนุพันธ์ในตลาดหุ้นไทย (SET) และตลาดอนุพันธ์ไทย (TFEX) โดยเฉพาะ ใช้งานง่าย ออกแบบมาเพื่อคนไทย มีฟีเจอร์ครบครัน ทั้งส่งคำสั่ง ซื้อ-ขาย-ยกเลิก ดูพอร์ต ดูข้อมูลหุ้นเรียลไทม์ แถมมีฟังก์ชันช่วยให้เทรดสะดวกขึ้นเยอะ เช่น Smart Shortcut หรือการแจ้งเตือนต่างๆ เข้าถึงได้ฟรีผ่านบัญชีโบรกเกอร์ที่เราเปิด ส่วน **Yahoo Finance** ก็เป็นอีกแหล่งข้อมูลที่เก่าแก่และน่าเชื่อถือ มีข้อมูลข่าวสาร งบการเงินย้อนหลังให้ดูง่ายๆ เหมาะสำหรับคนชอบดูข้อมูลพื้นฐานและกราฟแบบไม่ซับซ้อนมากครับ และยังมี **efin Trade+** สำหรับคนที่ชอบดูกราฟทางเทคนิคละเอียดๆ บนมือถือ แม้ไม่ได้อยู่หน้าจอคอมฯ ก็ยังวิเคราะห์ได้ลึกพอตัวครับ
พอเห็นภาพรวมของตลาดแล้ว ทีนี้ก็ต้อง “ลงมือทำ” ใช่ไหมครับ แอปพลิเคชันกลุ่มที่สองก็คือแอปที่ช่วยให้เรา ซื้อขาย และจัดการพอร์ตการลงทุนของเราได้สะดวกขึ้น
พระเอกหลักของนักลงทุนหุ้นไทยก็คือ **Streaming** นี่แหละครับ ตัวเดียวจบ ครบเครื่อง ตั้งแต่ดูกราฟคร่าวๆ ดูข้อมูลพื้นฐาน ส่งคำสั่งซื้อขาย ไปจนถึงจัดการพอร์ตที่เรามีอยู่ได้เลย สะดวกมากๆ ครับ
แต่ถ้าเราเป็นมือใหม่มากๆ หรือเน้นลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้เน้นเทรดรายวัน ก็มีแอปที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มนี้ครับ เช่น **AomWise** ที่ทำให้การออมและการลงทุนเป็นเรื่องง่าย เน้นความเข้าใจง่ายเหมาะกับผู้เริ่มต้น หรือถ้าใครสนใจลงทุนในกองทุนรวมโดยเฉพาะ ก็มี **แอปพลิเคชันซื้อขายกองทุนรวม (mutual fund trading application)** ที่มักจะเชื่อมโยงกับระบบของ Streaming อยู่แล้ว ทำให้เช็คสถานะคำสั่ง ดูข้อมูลกองทุน ติดตามพอร์ตง่ายขึ้นครับ
นอกจากการซื้อขายแล้ว การจัดการเงินส่วนบุคคลก็สำคัญไม่แพ้กันครับ **Happy Money App** เป็นอีกแอปที่น่าสนใจ ช่วยบันทึกรายรับ-รายจ่าย ดูสินทรัพย์-หนี้สิน วิเคราะห์สุขภาพการเงินของเราได้ ซึ่งการมีสุขภาพการเงินที่ดีก็เป็นรากฐานของการลงทุนที่มั่นคงครับ
สำหรับคนที่ชอบลงทุนในกองทุนรวม และต้องการข้อมูลเชิงลึกเพื่อประกอบการตัดสินใจ แพลตฟอร์มอย่าง **FINNOMENA** ก็โดดเด่นมากๆ ครับ เค้ามีข้อมูลพื้นฐาน งบการเงินย้อนหลังให้ดูละเอียดกว่าแหล่งข้อมูลทั่วไปเยอะเลยครับ ทำให้เราสามารถวิเคราะห์กองทุนที่ลงทุนในหุ้นรายตัวได้ลึกซึ้งขึ้น ถือเป็นอีกแอปที่นักลงทุนสายกองทุนไม่ควรมองข้ามเลยครับ ส่วนแพลตฟอร์มอย่าง **Mitrade** ก็เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่สนใจซื้อขายสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ซึ่งก็เป็นอีกเครื่องมือลงทุนรูปแบบหนึ่งครับ
แต่ไม่ใช่แค่ดูกับเทรดนะ การลงทุนต้องมีการเรียนรู้และฝึกฝนด้วยครับ แอปพลิเคชันกลุ่มที่สามนี่แหละครับ ที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการพัฒนาตัวเอง

แอปทางการที่นักลงทุนไทยต้องมีเลยคือ **SET App** ครับ พัฒนาโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เองเลย เป็นแหล่งรวมข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวของหุ้นทุกตัวในตลาด ข้อมูลหุ้น IPO กิจกรรมบริษัท (Oppday) แถมยังมีคอร์สเรียนรู้ สัมมนา คลิปความรู้เกี่ยวกับการลงทุนให้เรียนได้ฟรีทุกที่ทุกเวลาครับ
ส่วน Settrade เองก็มีแอปที่เป็นตัวช่วยเรื่องข้อมูลและการเรียนรู้ อย่าง **Settrade App** ที่ให้ข้อมูลข่าวสาร บทความน่าสนใจ แถมยังมีฟังก์ชันเจ๋งๆ อย่าง **Backtesting** ที่ช่วยให้เราทดสอบกลยุทธ์การลงทุนย้อนหลังได้ ว่าถ้าซื้อหุ้นตัวนี้ในช่วงที่ผ่านมา ผลตอบแทนจะเป็นยังไง ทั้งจากเงินปันผลและส่วนต่างราคา ถือเป็นเครื่องมือฝึกฝนที่ดีมากๆ ครับ และสำหรับมือใหม่ที่อยากลองเทรดแบบเสมือนจริงก่อนลงสนามจริง ก็มี **Streaming Click2Win** ที่เป็นแอปสอนวิธีเล่นหุ้นจำลอง ทำให้เราได้ฝึกส่งคำสั่ง ซื้อ-ขาย ในสภาพตลาดจำลอง ได้ลองผิดลองถูกโดยไม่ต้องใช้เงินจริง ช่วยสร้างความคุ้นเคยและความมั่นใจก่อนก้าวเข้าสู่สนามจริงครับ นอกจากนี้ยังมีแอปอย่าง **Start to Invest** ที่ช่วยวางแผนการเงิน ค้นหาสินทรัพย์ที่น่าสนใจ และมีสื่อความรู้ให้ศึกษาด้วยครับ
ทีนี้มาดูข้อมูลเจาะลึกตลาดหุ้นไทยกันบ้างครับ การใช้ `app ดู หุ้น (stock viewing app)` อย่าง Settrade App เนี่ย ทำให้เราเห็นภาพรวมของตลาดได้ชัดเจนมากๆ ไม่ใช่แค่ราคาหุ้นรายตัวนะ แต่มีข้อมูลสำคัญๆ อีกเพียบเลยครับ
เราสามารถดู **สภาวะตลาด** โดยรวมได้เลย ว่าดัชนี SET เป็นยังไง ขึ้นหรือลง จุดสูงสุด จุดต่ำสุดอยู่ที่เท่าไหร่ มูลค่าซื้อขายรวมทั้งวันเป็นยังไง มีหุ้นที่ราคาขึ้น กี่ตัว ลง กี่ตัว ไม่เปลี่ยนแปลง กี่ตัว เห็นภาพรวมได้ในหน้าเดียวครับ
แอปยังบอก **สรุปข้อมูลนักลงทุน** ณ สิ้นวันด้วยครับ ว่านักลงทุนกลุ่มไหนเป็นผู้ซื้อสุทธิ หรือผู้ขายสุทธิ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายย่อย บัญชีหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ สถาบันในประเทศ หรือกองทุนต่างประเทศ ข้อมูลนี้ช่วยให้เราเห็นภาพการเคลื่อนไหวของเงินในตลาดได้ส่วนหนึ่งครับ
ที่น่าสนใจคือมี **สถิติสำคัญ** ของตลาดโดยรวมให้ดูด้วยครับ เช่น มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ของทั้งตลาด อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ที่บอกว่าราคาหุ้นตอนนี้แพงกว่ากำไรต่อหุ้นกี่เท่า หรืออัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV Ratio) ที่เทียบราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชีของบริษัทโดยรวม และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยของตลาด (Market Yield) ข้อมูลพวกนี้ช่วยให้เราประเมินภาพรวมของตลาดได้ว่าตอนนี้อยู่ในโซนไหน น่าสนใจลงทุนไหมเมื่อเทียบกับสถิติในอดีตครับ
แอปยังมีฟังก์ชัน **Ranking** จัดอันดับหุ้นตามเกณฑ์ต่างๆ เช่น หุ้นที่ราคาเปลี่ยนแปลงสูงสุด หุ้นที่มีอัตราส่วนทางการเงินดีๆ อย่าง ROA (อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์) หรือ ROE (อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น) หรือดูประมาณการจากนักวิเคราะห์ (IAA Consensus) ที่รวบรวมข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ มาให้ดู ทำให้เราค้นหาหุ้นที่น่าสนใจได้ง่ายขึ้นครับ
แน่นอนว่าข้อมูลหลักที่เราดูจาก `app ดู หุ้น (stock viewing app)` ก็คือ **ข้อมูลรายตัว** ครับ เราสามารถดูราคาหุ้นรายตัวแบบเรียลไทม์ได้เลย ทั้งราคาล่าสุด ราคาเปิด-ปิด ราคาสูงสุด-ต่ำสุดในวันนั้น มูลค่าซื้อขาย ปริมาณเสนอซื้อ-เสนอขาย (Best Bid/Best Offer) และเพดานราคาครับ
และเพื่อความสะดวก เราสามารถสร้าง **รายการที่สนใจ (Watchlist)** เพื่อติดตามหุ้นที่เราสนใจได้สูงสุด 10 ตัว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาทุกครั้งที่เข้าแอปครับ
สุดท้าย แอปพวกนี้ยังแสดง **สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง** กับหุ้นตัวนั้นๆ ด้วยครับ เช่น ถ้าเราดูหุ้น A แอปก็จะแสดง ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures / Options) ที่อ้างอิงกับหุ้น A ให้ดูด้วย ทำให้เราเห็นภาพรวมของผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องได้ครบวงจรครับ
สรุปแล้ว `app ดู หุ้น (stock viewing app)` และแอปพลิเคชันเกี่ยวกับการลงทุนต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันเนี่ย เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากๆ ครับ ทำให้เรื่องการลงทุนที่ดูเหมือนจะยาก เข้าถึงง่ายขึ้นเยอะเลย ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่อยากเริ่มศึกษา หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้ว แอปพวกนี้ก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การลงทุนของคุณสะดวกสบาย และมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ครบถ้วนมากขึ้นครับ
คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นก็คือ อย่าเพิ่งรีบร้อนใช้เงินจริงครับ ลองเริ่มจากแอปที่ให้ข้อมูล ให้ความรู้ หรือแอปจำลองการซื้อขายอย่าง Streaming Click2Win ก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคยและความเข้าใจ พอเริ่มคล่องแล้ว ค่อยขยับไปใช้แอปที่ช่วยซื้อขายจริงอย่าง Streaming ครับ และอย่าลืมว่าการเลือกใช้แอปดูหุ้น หรือแอปการลงทุนแบบไหน ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนและความต้องการของเราครับ บางคนเน้นเทรดรายวันก็อาจจะต้องใช้แอปที่ดูกราฟได้ละเอียดและส่งคำสั่งได้เร็ว บางคนเน้นลงทุนระยะยาว อาจจะให้ความสำคัญกับแอปที่มีข้อมูลพื้นฐาน งบการเงิน และบทวิเคราะห์เชิงลึกมากกว่าครับ
⚠️ ที่สำคัญที่สุดคือ แม้ว่าจะมีเครื่องมือดีๆ อย่าง `app ดู หุ้น (stock viewing app)` หรือแอปการลงทุนต่างๆ มาช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่การลงทุนทุกประเภทยังมีความเสี่ยงนะครับ ราคาหลักทรัพย์อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ทำความเข้าใจความเสี่ยงของสินทรัพย์แต่ละประเภท และลงทุนเท่าที่ยอมรับความเสี่ยงได้เสมอครับ การใช้เครื่องมือที่ดีควบคู่กับการมีความรู้ความเข้าใจ จะช่วยให้การเดินทางในโลกของการลงทุนของคุณราบรื่นขึ้นอย่างแน่นอนครับ