หุ้นnvda พุ่งแรง! เจาะลึกเบื้องหลัง AI ดันราคา

เดี๋ยวนี้ลองมองไปรอบๆ ตัวสิครับ อะไรๆ ก็ดูเหมือนจะติดปีก ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หรือ AI (Artificial Intelligence) ไปหมด ทั้งในมือถือ ในรถยนต์ ในโรงงาน หรือแม้แต่ในวงการแพทย์ แล้วพูดถึง AI จะไม่พูดถึง ‘เอ็นวิเดีย’ (NVIDIA) หรือที่นักลงทุนไทยเรียกกันติดปากว่า ‘หุ้นnvda’ ได้ยังไงล่ะครับ? ใช่แล้วครับ NVIDIA คือบริษัทที่เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญที่ทำให้ AI ฉลาดขึ้นและเร็วขึ้น จนกลายเป็นกระแสที่นักลงทุนทั่วโลกต้องจับตาดู

ช่วงนี้ชื่อเสียงเรียงนามของ NVIDIA หรือหุ้นnvda นี่ดังกระฉ่อนโลกการเงินจริงๆ ครับ จากเดิมที่เรารู้จักกันดีในฐานะผู้ผลิต ‘หน่วยประมวลผลกราฟิก’ หรือ GPU (Graphics Processing Unit) เจ๋งๆ สำหรับคอเกม (Gaming) ตัวยง ภายใต้แบรนด์ GeForce (จีฟอร์ซ) ที่ให้ภาพสวยสมจริง แต่ตอนนี้ NVIDIA ได้ขยายอาณาจักรไปไกลกว่านั้นมาก โดยเฉพาะในโลกของ AI และ ‘ศูนย์ข้อมูล’ (Data Center) ซึ่งกลายเป็นขุมทรัพย์แห่งการเติบโตครั้งใหม่ ที่ทำให้หุ้นnvda กลายเป็นหุ้นเนื้อหอมที่หลายคนอยากมีไว้ในพอร์ต

NVIDIA Corporation เป็นบริษัทเทคโนโลยีจากอเมริกา ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1993 โดยกลุ่มผู้ก่อตั้งที่มองการณ์ไกลว่าพลังประมวลผลกราฟิกจะสำคัญแค่ไหนในอนาคต สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซานตาคลารา (Santa Clara) รัฐแคลิฟอร์เนีย (California) โดยบริษัทนี้เชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตชิปเซ็ต (Chipset) ซอฟต์แวร์มัลติมีเดีย (Multimedia Software) และแน่นอนว่าคือหัวใจสำคัญอย่าง GPU นั่นเอง หุ้นของ NVIDIA ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (NASDAQ) ซึ่งเป็นแหล่งรวมบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ภายใต้สัญลักษณ์ทีคเกอร์ NVDA (NVDA) หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า หุ้นnvda นั่นเองครับ

แล้วผลประกอบการของ NVIDIA หรือหุ้นnvda เป็นยังไงบ้างล่ะครับ? บอกเลยว่าน่าประทับใจมากๆ ครับ ในไตรมาสล่าสุดที่ผ่านมานี้ ผลประกอบการออกมาดีเกินคาด ทั้ง ‘กำไรต่อหุ้น’ (Earnings Per Share – EPS) ที่ 0.89 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้ที่ 0.85 ดอลลาร์สหรัฐฯ เรียกว่าเซอร์ไพรส์ตลาดไป 4.96% เลยทีเดียว และ ‘รายได้’ (Revenue) ก็พุ่งสูงถึง 39.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เกินกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 38.10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นกัน ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความต้องการผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA ที่ยังคงแข็งแกร่งสุดๆ

ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าครับ ‘รายได้สุทธิ’ (Net Income) ของ หุ้นnvda ไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 22.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 14.41% จากไตรมาสก่อนหน้า และถ้าดูการเติบโตแบบปีต่อปี (Year-over-Year – YOY) ยิ่งเห็นภาพความร้อนแรงชัดเจนขึ้นไปอีก เพราะรายได้เติบโตพุ่งขึ้นถึง 77.9% และกำไรก็โตแรงกว่าถึง 83.6%! นี่ไม่ใช่การเติบโตแบบธรรมดา แต่เป็นการเติบโตแบบ ‘ก้าวกระโดด’ อย่างแท้จริง ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยืนยันว่า NVIDIA ได้รับประโยชน์เต็มๆ จากกระแส AI และ ‘การประมวลผลแบบเร่งความเร็ว’ (Accelerated Computing) ที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมหาศาล

นอกจากรายได้และกำไรที่พุ่งกระฉูดแล้ว ตัวเลข ‘ประสิทธิภาพการดำเนินงาน’ อย่าง EBITDA (Earnings Before Interest, Taxes, Depreciation, and Amortization) ของ หุ้นnvda ก็สูงถึง 83.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมี ‘อัตรากำไร EBITDA’ ปัจจุบันอยู่ที่ 63.85% ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า NVIDIA มีความสามารถในการทำกำไรจากธุรกิจหลักได้อย่างแข็งแกร่งมากครับ

สำหรับนักลงทุนที่มองหา ‘เงินปันผล’ (Dividend) เป็นหลัก อาจจะต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของ หุ้นnvda นิดนึงครับ คือ NVIDIA มีนโยบายจ่ายเงินปันผลทุกไตรมาสจริงครับ แต่จำนวนค่อนข้างน้อยมาก ล่าสุดจ่ายเพียง 0.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น ทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Trailing Twelve Months – TTM) อยู่ที่เพียง 0.039% เท่านั้น และอัตราการจ่ายเงินปันผลในปี 2024 ก็อยู่ที่ประมาณ 1.16% ดังนั้น หุ้นnvda จึงไม่เหมาะกับสายเน้นรับปันผลครับ แต่เหมาะกับนักลงทุนที่เน้นการเติบโตของราคาหุ้นเป็นหลักจากผลประกอบการที่ร้อนแรงของบริษัท

แล้วราคาหุ้นnvda ตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะครับ? ต้องบอกว่า แม้ช่วงสั้นๆ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รอบสัปดาห์ล่าสุด หรือรอบเดือนที่ผ่านมา ราคาอาจมีปรับลดลงบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของตลาดหุ้นที่มีความผันผวน แต่ภาพรวมหนึ่งปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่า 14.89% แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมการเติบโตในระยะยาวที่ยังคงแข็งแกร่งอยู่ หุ้นnvda เคยทำราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ไว้ที่ 153.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเคยต่ำสุดถึง 0.03 ดอลลาร์สหรัฐฯ ย้อนกลับไปปี 1999 โน่น การเดินทางของราคาหุ้นตัวนี้บอกเล่าเรื่องราวการเติบโตของบริษัทได้เป็นอย่างดีครับ

หนึ่งเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับ หุ้นnvda คือประวัติการ ‘แตกหุ้น’ (Stock Split) ครับ NVIDIA เคยแตกหุ้นมาแล้วถึง 5 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2021 ในอัตรา 4 ต่อ 1 หมายความว่าหนึ่งหุ้นเดิมกลายเป็นสี่หุ้นใหม่ การแตกหุ้นแบบนี้ช่วยให้ราคาต่อหุ้นดูถูกลง ทำให้จำนวนหุ้นในตลาดมีมากขึ้น และทำให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงและซื้อขายได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลดีต่อสภาพคล่องและการซื้อขายของหุ้น

ด้วยผลงานที่โดดเด่น และการเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทำให้ปัจจุบัน NVIDIA มี ‘มูลค่าตามราคาตลาด’ (Market Cap) สูงถึงระดับ ‘兆ดอลลาร์’ หรือประมาณ 2.48 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครับ ถึงแม้จะมีปรับลดลงบ้างเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่มากๆ ติดอันดับต้นๆ ของโลกในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

สำหรับนักลงทุนในไทยที่สนใจลงทุนในหุ้นnvda มีวิธีหลักๆ คือการเปิดบัญชีกับ ‘โบรกเกอร์ออนไลน์’ (Online Broker) ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศโดยตรงในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (NASDAQ) หรืออีกทางเลือกที่ง่ายขึ้นสำหรับหลายคน คือการลงทุนผ่าน ‘ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ’ หรือ Depositary Receipt (DR) ของหุ้น NVDA ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครับ โดย DR ตัวนี้ออกโดยธนาคารกรุงไทย (KTB) ใช้สัญลักษณ์การซื้อขายในตลาดไทยว่า NVDA80 (เอ็นวิเดียแปดศูนย์) ซึ่งทำให้เราสามารถลงทุนในหุ้นระดับโลกอย่าง NVIDIA ได้ง่ายๆ ผ่านพอร์ตหุ้นไทยที่เราคุ้นเคยนี่แหละครับ

คำถามคือ อะไรที่ขับเคลื่อนการเติบโตมหาศาลของหุ้นnvda ในช่วงนี้กันแน่? คำตอบหลักๆ ก็อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นครับ คือ ‘ความต้องการหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในตลาด AI และ Data Center’ ครับ ลองนึกภาพ AI เหมือนสมอง และ GPU ของ NVIDIA ก็เหมือนชิปประมวลผลอัจฉริยะที่ทำให้สมองนั้นทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การพัฒนา AI ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT (แชทจีพีที) หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ต่างๆ ล้วนต้องพึ่งพาพลังประมวลผลจากชิปของ NVIDIA ทั้งนั้น ยิ่งโลกเข้าสู่ยุค AI มากเท่าไหร่ ความต้องการชิปเหล่านี้ก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

NVIDIA จึงอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบอย่างมหาศาลในตลาดนี้ เป็นผู้นำด้าน ‘เซมิคอนดักเตอร์’ (Semiconductor) สำหรับ AI และ ‘การประมวลผลแบบเร่งความเร็ว’ (Accelerated Computing) พวกเขามีการเติบโตที่รวดเร็วมากในกลุ่มธุรกิจ Data Center ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่รองรับการใช้งาน AI ในวงกว้าง และยังมีความสามารถในการสร้างสรรค์ ‘นวัตกรรม’ (Innovation) ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้คู่แข่งตามได้ยาก

มุมมองจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็สอดคล้องกันครับ พวกเขาให้ความเห็นในเชิง ‘แรงซื้อรุนแรง’ (Strong Buy) โดยให้ ‘ราคาเป้าหมาย’ (Price Target) โดยเฉลี่ยสูงกว่าราคาปัจจุบันพอสมควร ประมาณ 161.59 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีประมาณการสูงสุดถึง 235.92 ดอลลาร์สหรัฐฯ และต่ำสุดที่ 100.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่สูงขนาดนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตในอนาคตของบริษัทจากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญในวงการ

สรุปแล้ว NVIDIA หรือ หุ้นnvda เป็นบริษัทที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในโลกเทคโนโลยีและตลาดหุ้น ด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำในตลาด AI/Data Center ที่กำลังขยายตัวมหาศาล และมุมมองนักวิเคราะห์ที่ค่อนข้างดีมากๆ ซึ่งทั้งหมดนี้อธิบายได้ว่าทำไมหุ้นตัวนี้ถึงได้รับความสนใจและมีผลตอบแทนที่โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา

แต่การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเสมอครับ แม้ หุ้นnvda จะมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตที่ดี แต่ราคาหุ้นก็อาจผันผวนได้ตามปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสภาวะตลาดโดยรวม การแข่งขันในอุตสาหกรรม ‘เซมิคอนดักเตอร์’ ที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี หรือข่าวสารต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทได้

หากสนใจลงทุนในหุ้นnvda ไม่ว่าจะโดยตรงหรือผ่าน DR อย่าง NVDA80 ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้รอบด้าน ทำความเข้าใจธุรกิจอย่างถ่องแท้ ประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และพิจารณาว่าหุ้นตัวนี้เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตัวเองหรือไม่ อย่าลงทุนตามกระแสโดยปราศจากการทำการบ้านนะครับ และสำหรับคนที่ลงทุนโดยตรงในตลาดสหรัฐฯ อย่าลืมเรื่องการจัดการ ‘สกุลเงิน’ และ ‘อัตราแลกเปลี่ยน‘ รวมถึง ‘ค่าธรรมเนียม‘ ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยนะครับ

⚠️ การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน และควรลงทุนในวงเงินที่พร้อมจะสูญเสียได้เสมอครับ