หุ้น PFE: เจาะลึกงบการเงิน จ่ายปันผลสูง น่าลงทุนจริงหรือ?

“`html

เคยสงสัยไหมครับว่า บริษัทยาระดับโลกอย่าง “ไฟเซอร์” (Pfizer Inc.) ผู้ผลิตยาและวัคซีนที่เราคุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา หุ้นของเขาอย่าง หุ้น PFE ที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) เนี่ย มีสถานะทางการเงินและแนวโน้มเป็นยังไงบ้าง? ในฐานะคอลัมนิสต์สายการเงินที่ชอบเอาเรื่องซับซ้อนมาเล่าให้ฟังง่ายๆ วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่อง หุ้น PFE แบบถึงลูกถึงคนกันครับ

มาเริ่มกันที่ตัวบริษัทก่อนเลยครับ ไฟเซอร์ (Pfizer Inc.) เป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceutical) ยักษ์ใหญ่จากนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (New York, USA) เขาทำธุรกิจครบวงจร ตั้งแต่ค้นคว้า วิจัย พัฒนา ผลิต ทำการตลาด และจัดจำหน่ายยาและวัคซีนไปทั่วโลก ครอบคลุมหลายโรคเลยนะ ไม่ใช่แค่เรื่องวัคซีนโควิด-19 อย่างเดียว แต่ยังมีพวกยาสำหรับโรคหัวใจ ไมเกรน โรคติดเชื้อ โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน และอื่นๆ อีกมากมาย แถมยังมีธุรกิจรับจ้างผลิตยาให้บริษัทอื่นด้วย เรียกว่าเป็นเบอร์ใหญ่ในวงการสุขภาพโลกเลยทีเดียว

ทีนี้มาดูผลงานของ หุ้น PFE ในตลาดกันบ้างครับ ณ วันที่ข้อมูลที่เรามี ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 27.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีราคาเปิดวันอยู่ที่ 27.76 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบ 52 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นเคยขึ้นไปสูงสุดถึง 37.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ และลงไปต่ำสุดที่ 25.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นก็มีความเคลื่อนไหวแกว่งตัวอยู่ในช่วงนี้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ Market Cap (มาร์เก็ตแคป) ของ หุ้น PFE นี่ก็ไม่ธรรมดา อยู่ที่ประมาณ 158.948 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว ส่วนค่า Beta (เบต้า) ซึ่งเป็นตัววัดความผันผวนของหุ้นเมื่อเทียบกับตลาด อยู่ที่ 0.63 แปลง่ายๆ ว่า หุ้น PFE มีแนวโน้มที่จะผันผวนน้อยกว่าตลาดโดยรวมนิดหน่อยครับ ส่วนอัตราส่วนราคาต่อกำไร หรือ P/E Ratio (พี/อี เรโช) ตอนนี้ยังไม่แสดงค่า อาจเพราะมีปัจจัยบางอย่างในงบที่ทำให้คำนวณไม่ได้ หรือกำไรต่อหุ้นในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (EPS TTM) อยู่ที่ -0.05 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นค่าติดลบครับ

ลองแง้มดูงบการเงินล่าสุดของ ไฟเซอร์ (ข้อมูล ณ ธันวาคม 2567) เพื่อดูสุขภาพทางการเงินของเขาหน่อยครับ รายได้ของบริษัทอยู่ที่ 17.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งน่าสนใจตรงที่รายได้นี้เติบโตขึ้นจากปีก่อนถึง 21.92% โห… ถือว่าทำได้ดีเลยนะ แต่พอไปดูที่กำไรสุทธิ (Net Income) อยู่ที่ 410.00 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อันนี้ยิ่งน่าทึ่งกว่า เพราะเติบโตขึ้นจากปีก่อนถึง 112.17% หรือร้อยกว่าเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ทำให้กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 0.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งค่านี้ก็สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 0.47 ดอลลาร์สหรัฐฯ เสียอีก นี่อาจเป็นสัญญาณที่ดีในมุมของความสามารถในการทำกำไรในไตรมาสนั้นๆ นะครับ

อย่างไรก็ตาม ก็มีตัวเลขที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปด้วย อย่าง EBITDA (อีบิด้า) ซึ่งเป็นตัววัดความสามารถในการทำกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย อยู่ที่ 4.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากปีก่อน 33.15% และกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) ซึ่งเป็นเงินสดที่บริษัทเหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายและเงินลงทุนเพื่อการดำเนินงานแล้ว อยู่ที่ 7.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากปีก่อน 28.55% ตัวเลขเหล่านี้อาจบ่งชี้ถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานหรือการลงทุนที่เพิ่มขึ้น หรือรายได้บางส่วนที่ลดลงในภาพรวมเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งนักลงทุนควรไปศึกษาในรายละเอียดของงบการเงินเพิ่มเติมนะครับ ส่วนสถานะในงบดุล (Balance Sheet) ณ สิ้นปี 2567 ไฟเซอร์มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นกว่า 20.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 61.36% จากปีก่อน แสดงว่ามีสภาพคล่องค่อนข้างสูงเลยครับ

ไฮไลท์ที่หลายคนสนใจใน หุ้น PFE ก็คือ “เงินปันผล” นี่แหละ! ไฟเซอร์มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ โดยจ่ายเป็นรายไตรมาส และที่น่าประทับใจคือ จ่ายต่อเนื่องมาถึง 37 ปีแล้วนะ! แสดงถึงความมั่นคงและนโยบายการคืนกำไรผู้ถือหุ้นที่ชัดเจน อัตราผลตอบแทนเงินปันผล หรือ Dividend Yield (ดิวิเดนด์ ยีลด์) ในรอบ 12 เดือนล่าสุด หรือ ณ วันที่ข้อมูลนี้อยู่ที่ประมาณ 6.51% – 7.33% ซึ่งถือว่า “เยอะ” ใช้ได้เลยในตลาดหุ้นสหรัฐฯ สำหรับรอบการจ่ายปันผลครั้งต่อไปที่คาดการณ์ไว้ เงินปันผลต่อหุ้นอยู่ที่ 0.43 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีวันที่ซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมาย (Ex-Dividend Date) และวันที่บันทึก (Record Date) คาดการณ์ไว้ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2568

แต่มีตัวเลขหนึ่งที่นักลงทุนสายเงินปันผลต้องทำความเข้าใจนิดหน่อย นั่นคือ อัตราการจ่ายเงินปันผล หรือ Payout Ratio (เพย์เอาท์ เรโช) ซึ่งสูงปรี๊ดอยู่ที่ 119.24% ตัวเลขนี้หมายความว่า ในช่วงเวลาที่คำนวณอัตรานี้ ไฟเซอร์มีการจ่ายเงินปันผลสูงกว่ากำไรสุทธิที่ทำได้ในช่วงนั้นๆ ครับ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วบริษัทที่จ่ายปันผลเกิน 100% อาจต้องดึงเงินสดสำรอง กำไรสะสม หรืออาจกระทบกับงบลงทุนในอนาคตได้ แต่ในกรณีของบริษัทใหญ่ๆ ที่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ก็อาจเกิดขึ้นได้ในบางช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่ากำไรก็เป็นจุดที่ต้องจับตาดูความยั่งยืนในระยะยาวครับ ส่วนอัตราการเติบโตของเงินปันผลใน 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 4.32% ก็ถือว่าเติบโตในอัตราที่สม่ำเสมอดี

มาดูกันว่ากูรูทางการเงิน หรือ “นักวิเคราะห์” เขาให้คะแนน หุ้น PFE ยังไงบ้างครับ จากข้อมูลล่าสุด มีนักวิเคราะห์ 23 ท่านที่ให้เรตติ้งกับหุ้นตัวนี้ โดยแนวโน้มเรตติ้งส่วนใหญ่มอง “เป็นกลาง” (Neutral) ครับ แต่โดยภาพรวมแล้ว “เรตติ้งโดยรวม” (Overall Rating) แสดงถึงแนวโน้ม “มีการซื้อ” (Buy) นะครับ ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ให้ไว้สำหรับ 1 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 31.46 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดถึง 35.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ และต่ำสุดที่ 23.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงว่ายังมีอัพไซด์ (โอกาสที่ราคาจะขึ้น) อยู่บ้างจากราคาปัจจุบันที่ประมาณ 27-28 ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) สำหรับไตรมาสหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.69 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยครับ

สำหรับนักลงทุนสายดูกราฟ “วิเคราะห์ทางเทคนิค” ของ หุ้น PFE ก็มีจุดที่น่าสนใจครับ ลองดูในกราฟรายวัน ระดับราคาที่เคยลงมาแล้วมีแนวโน้มจะเด้งขึ้น หรือที่เรียกว่า “แนวรับ” (Support) สำคัญจะอยู่ที่ประมาณ 25.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ และโซน 24.80 – 25.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วน “แนวต้าน” (Resistance) หรือจุดที่ราคามีแนวโน้มจะขึ้นไปชนแล้วย่อตัวลง อยู่ที่ประมาณ 27.00 – 28.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ ครับ ตอนนี้ราคาซื้อขายก็อยู่ใกล้ๆ แนวต้านนี้เลย

ส่วนในกราฟรายสัปดาห์ แนวรับที่แข็งแรงขึ้นจะอยู่บริเวณ 24.00 – 26.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ และแนวต้านสำคัญจะอยู่ที่ 30.00 – 31.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) อย่าง SMA 50 วันก็อยู่ใกล้ๆ ราคาปัจจุบัน (ประมาณ 26.29 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าโมเมนตัมระยะสั้นยังไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่ครับ แต่เส้น SMA 200 วันที่ประมาณ 27.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นแนวต้านระยะยาวที่สำคัญ ถ้า หุ้น PFE สามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเป็นสัญญาณที่ดีของโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งขึ้นครับ ส่วนตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ อย่าง RSI (อาร์เอสไอ) และ MACD (แม็คดี) ก็อยู่ในโซนที่เป็นกลางๆ หรือกำลังส่งสัญญาณบวกอ่อนๆ ครับ

ข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ หุ้น PFE ก็มีทั้งมุมบวกและมุมที่ต้องพิจารณาครับ อย่างการที่ หุ้น PFE ถูกจัดอยู่ในลิสต์ “หุ้นปันผลที่น่าเชื่อถือ” ที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลเงินปันผลที่เราเห็น ในอีกมุมหนึ่ง ก็มีข่าวเกี่ยวกับประเด็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบในอุตสาหกรรมยา ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทใหญ่มักต้องเจอและบริหารจัดการครับ นอกจากนี้ ข้อมูลยังบอกว่า นักลงทุนสถาบันรายใหญ่ ถือ หุ้น PFE อยู่ถึง 68% ซึ่งแสดงว่านักลงทุนรายใหญ่ยังให้ความสนใจกับหุ้นตัวนี้อยู่ครับ

สรุปแล้ว หุ้น PFE เป็นหุ้นของบริษัทใหญ่ในอุตสาหกรรมสุขภาพที่มีความมั่นคง มีธุรกิจที่หลากหลาย มีจุดเด่นที่นโยบายการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอและให้ผลตอบแทนสูง แม้ว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลจะค่อนข้างสูงในบางช่วง แต่ก็มีประวัติการจ่ายต่อเนื่องยาวนาน ผลประกอบการล่าสุดในบางตัวเลขก็ดูดี เช่น รายได้และกำไรสุทธิที่เติบโตสูงกว่าปีก่อนและดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่นักลงทุนก็ต้องพิจารณาตัวเลขอื่นๆ ที่อาจชะลอตัวลงอย่าง EBITDA และกระแสเงินสดอิสระควบคู่ไปด้วย มุมมองจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เป็นกลาง แต่โดยรวมแล้วมีคำแนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมายในอนาคตที่สูงกว่าราคาปัจจุบัน ส่วนการวิเคราะห์ทางเทคนิคก็ให้แนวรับแนวต้านที่น่าจับตาดู

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจ หุ้น PFE อาจจะเพราะชอบธุรกิจด้านสุขภาพ มองหาหุ้นปันผลสม่ำเสมอ หรือเห็นว่าราคาปัจจุบันน่าสนใจ สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้านครับ ดูงบการเงินฉบับเต็ม ติดตามข่าวสารของบริษัทและอุตสาหกรรมยา รวมถึงพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่ดูตัวเลขสรุปที่เราคุยกันวันนี้ ลองนำข้อมูลที่เราคุยกันไปต่อยอดวิเคราะห์ในสไตล์ของคุณดูนะครับ

⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ และควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเองครับ
“`