“`html
ยุคนี้ใครๆ ก็พูดถึง AI ใช่ไหมครับ? ทั้ง ChatGPT ที่คุยกับเราได้, AI ที่วาดรูปสวยๆ, หรือแม้แต่รถยนต์ไร้คนคนขับ แต่เบื้องหลัง “สมอง” ที่ทำให้ AI ฉลาดสุดๆ แบบนี้ทำงานได้ล่ะ มันคืออะไรกันนะ? คำตอบก็คือ “ชิป” ครับ และมีบริษัทนึงที่ผลิตชิปตัวเก่งนี้จนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในโลกเทคโนโลยี นั่นก็คือ NVIDIA ครับ หลายคนอาจจะคุ้นๆ ชื่อนี้จาก “การ์ดจอเกม” ใช่ไหม? แต่วันนี้ nvidia คืออะไร ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นเยอะมากเลย จนมูลค่าบริษัทพุ่งแซงหน้ายักษ์ใหญ่หลายรายไปแล้ว เรื่องราวของเค้าน่าสนใจมากๆ มาดูกันครับ
ย้อนไปปี 1993 NVIDIA ก่อตั้งขึ้นที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มคนที่มีวิสัยทัศน์ (หนึ่งในนั้นคือ คุณเจนเซน ฮวง ซีอีโอคนปัจจุบัน ที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้าจากเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำประจำตัว) เค้าเริ่มต้นจากความตั้งใจที่จะผลิตชิปประมวลผลกราฟิก หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “GPU” (Graphics Processing Unit) เพื่อให้ภาพในวิดีโอเกมมันสวยงามและสมจริงขึ้น ชิปตระกูล GeForce ของ NVIDIA นี่แหละครับที่ทำให้วงการเกมพีซีพัฒนาไปไกลมาก
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ nvidia คืออะไร ที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่บริษัทเกมเกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2006 ครับ NVIDIA ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ชื่อว่า CUDA ซึ่งทำให้ชิป GPU ของเค้าไม่ได้แค่เก่งเรื่องประมวลผลกราฟิกอย่างเดียวแล้ว แต่สามารถนำไปประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนมากๆ ได้พร้อมกันทีละเยอะๆ ด้วยความสามารถนี้เอง ทำให้ชิป GPU ของ NVIDIA ถูกนำไปใช้ในงานทางวิทยาศาสตร์ งานวิจัย หรืองานคำนวณหนักๆ ก่อนที่พวกเขาจะมองเห็นศักยภาพอันมหาศาลของมันกับ “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI ในช่วงปี 2010 เป็นต้นมา
แล้วตอนนี้ธุรกิจหลักของ NVIDIA คืออะไรล่ะ? ต้องบอกว่าเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเยอะมากครับ ถ้าดูจากตัวเลขรายได้ล่าสุด ส่วนใหญ่กว่า 87% มาจากธุรกิจ “Data Center” หรือ “ศูนย์ข้อมูล” ครับ พูดง่ายๆ ก็คือ พวกคลาวด์คอมพิวติ้งยักษ์ใหญ่ระดับโลก (อย่าง Microsoft Azure, Google Cloud, AWS ของ Amazon) หรือบริษัทที่กำลังพัฒนา AI โมเดลใหญ่ๆ (อย่าง OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT) เค้าต้องการชิปประมวลผลที่แรงมากๆ ไปใช้ในการฝึกฝน AI และประมวลผลข้อมูลมหาศาล และชิป GPU ตัวเทพอย่าง NVIDIA Hopper นี่แหละครับ ที่ครองตลาดชิปสำหรับ Data Center ไปกว่า 70% เลยทีเดียว นี่คือขุมทรัพย์ที่แท้จริงของ NVIDIA ในยุคนี้
ส่วนธุรกิจดั้งเดิมอย่าง “การ์ดจอเกม” (GeForce) ที่หลายคนคุ้นเคย ตอนนี้เหลือประมาณ 10% ของรายได้เท่านั้นครับ ถึงแม้จะยังเป็นผู้นำในตลาดนี้ด้วยส่วนแบ่งกว่า 84% และมีเทคโนโลยีเจ๋งๆ อย่าง DLSS ที่ใช้ AI มาช่วยให้ภาพเกมสวยขึ้นและลื่นไหลขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ตัวทำเงินหลักเหมือนในอดีตแล้วครับ นอกจากนี้ NVIDIA ยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่น่าจับตา เช่น ชิปสำหรับงานภาพขั้นสูง งานออกแบบเฉพาะทาง (ตระกูล Quadro) หรือระบบสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ (NVIDIA DRIVE) ที่มีแววเติบโตสูงในอนาคต การที่บริษัทมีผลิตภัณฑ์หลากหลายในอุตสาหกรรมที่เป็น Megatrend แบบนี้ ก็ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจเดียวได้ดีครับ
ตัวเลขผลประกอบการของ NVIDIA นี่เรียกได้ว่า “ว้าว” แบบสุดๆ ครับ ไตรมาสล่าสุด (ตามข้อมูลที่ได้มา) รายได้พุ่งไปถึง 26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 262% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน! กำไรสุทธิยิ่งน่าทึ่ง ทะลุ 14.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โตขึ้นถึง 462% ที่แรงแบบนี้ก็มาจากธุรกิจ Data Center ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 427% นี่แหละครับ ลูกค้าหลักๆ ก็คือพวกบริษัทคลาวด์, บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่, บริษัทด้าน Healthcare และผู้ผลิตรถยนต์
การเติบโตแบบติดเทอร์โบนี้ทำให้มูลค่าบริษัทของ NVIDIA พุ่งทะยานแบบไม่หยุดยั้ง จากแค่บริษัทผลิตการ์ดจอเกม ตอนนี้ nvidia คืออะไร ที่เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกแล้วครับ เค้าได้เข้าสู่กลุ่มบริษัท “1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ” และเคยมีช่วงเวลาที่มูลค่าบริษัทแซงหน้ายักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft หรือ Google ไปได้เลยทีเดียว (อันนี้เป็นภาพ Snapshot ช่วงที่ข่าวออกมา ซึ่งสะท้อนความร้อนแรงในช่วงนั้น) ใครที่ถือหุ้น NVIDIA หรือหุ้นในสัญลักษณ์ NVDA มาตั้งแต่ช่วงไม่กี่ปีที่แล้ว น่าจะยิ้มแก้มปริ เพราะราคาหุ้นเติบโตขึ้นหลายเท่าตัวเลยครับ บางข้อมูลบอกว่าหุ้นโตกว่า 7 เท่าใน 5 ปี (2018-2023) และต้นปี 2024 มานี่ก็บวกไปกว่า 140% แล้ว (ณ ช่วงเวลาที่ข้อมูลเผยแพร่)
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเป็นชิป GPU ของ NVIDIA ล่ะ? ชิป CPU ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ทั่วไปมันทำแทนไม่ได้เหรอ? ลองนึกภาพง่ายๆ ครับ CPU เหมือนสมองที่เก่งเรื่องคิดวิเคราะห์ สั่งงานได้ซับซ้อน แต่ทำได้ทีละอย่าง (เหมือนคนๆ เดียวคิดปัญหาซับซ้อน) ส่วน GPU เนี่ย เดิมทีทำมาเพื่อประมวลผลกราฟิก ซึ่งมันต้องทำ “คำนวณซ้ำๆ” พร้อมกันเป็นล้านๆ ครั้ง (เหมือนคนนับล้านคนช่วยกันคิดเลขง่ายๆ) พอมาใช้กับงาน AI โดยเฉพาะการ “ฝึกฝน” โมเดล AI ที่ต้องป้อนข้อมูลเข้าไปมหาศาลและคำนวณซ้ำๆ เพื่อหาแพทเทิร์น งานแบบนี้แหละครับที่ GPU ถนัดกว่า CPU มากๆ เพราะมันประมวลผลแบบขนาน (Parallel Processing) ได้ดีกว่า ชิปของ NVIDIA เลยกลายเป็นขุมพลังหลักที่ขับเคลื่อน AI ยุคใหม่และ “เศรษฐกิจดิจิทัล” ครับ
แล้วนักลงทุนชาวไทยจะเข้าถึงการเติบโตของ NVIDIA ได้ยังไงบ้างล่ะ? ข่าวดีคือตอนนี้เราสามารถลงทุนในหุ้น NVIDIA (NVDA) ได้ง่ายขึ้นผ่าน “DRx” (หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ) ที่ซื้อขายในตลาดหุ้นไทยได้เลย เหมือนซื้อขายหุ้นไทยนี่แหละครับ หรือบางคนที่ลงทุนใน “กองทุนรวม” ที่เน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหรือกลุ่ม “เซมิคอนดักเตอร์” อยู่แล้ว ก็มีโอกาสที่พอร์ตของเราจะมีหุ้น NVIDIA อยู่ด้วยครับ การเติบโตของ NVIDIA ในฐานะผู้นำด้าน AI และเซมิคอนดักเตอร์ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มสำคัญของเศรษฐกิจโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยในระยะยาวเช่นกันครับ
สรุปแล้ว nvidia คืออะไร ในปี 2024 นี้? เค้าไม่ใช่แค่บริษัททำ “การ์ดจอ” หรือ “ชิป” ทั่วไปแล้วครับ แต่คือผู้เล่นหลักและเป็น “สมอง” ที่ขับเคลื่อนยุค AI อย่างแท้จริง การเติบโตทางธุรกิจและมูลค่าบริษัทที่พุ่งสูงขึ้นเป็นหลักฐานชัดเจนถึงความสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ สำหรับใครที่มองหาโอกาสการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของโลก NVIDIA ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองครับ แต่จำไว้เสมอว่า การลงทุนในหุ้นโดยเฉพาะหุ้นที่มีการเติบโตสูงแบบนี้ ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน ราคาหุ้นอาจผันผวนรุนแรงได้ตามข่าวสารและแนวโน้มตลาด AI ที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก หากเงินลงทุนก้อนนี้ไม่ใช่เงินเย็น หรือสภาพคล่องไม่สูงพอ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ทำความเข้าใจธุรกิจ ความเสี่ยง และประเมินระดับความเสี่ยงที่เรารับได้ ก่อนตัดสินใจนะครับ ลงทุนอย่างเข้าใจ ไม่ใช่ลงทุนตามกระแสครับ!
“`
