เพื่อนๆ เคยไหมครับ? เวลาทำธุรกิจเล็กๆ แล้วจู่ๆ ก็มีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่เข้ามา ต้องหาเงินสดมาจ่ายให้ทันที… หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน ถ้าเงินสดในกระเป๋าเหลือน้อยๆ เราก็ชักไม่สบายใจใช่ไหมครับ? ในโลกธุรกิจก็เช่นกัน การมี ‘เงินสด’ หรือสิ่งที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่ายๆ นี่แหละ คือหัวใจสำคัญ ที่เขาเรียกว่า ‘สินทรัพย์หมุนเวียน’ (Current Assets) นั่นเองครับ มันเหมือนกับ “สภาพคล่อง” (Liquidity) ของบริษัท ที่พร้อมหยิบใช้ได้ตลอดเวลา

แล้วไอ้เจ้า สินทรัพย์หมุนเวียนคือ อะไรกันแน่? พูดง่ายๆ มันคือทรัพย์สินของบริษัทที่มีสภาพคล่องสูงมากๆ จนสามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นเงินสดได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ปกติก็คือ ‘ภายใน 1 ปี’ หรือไม่เกิน 1 รอบระยะเวลาการดำเนินงานตามปกติของธุรกิจนั้นๆ แหละครับ คิดภาพว่ามันคือ ‘กองทุนสำรองฉุกเฉิน’ ที่พร้อมหยิบมาใช้ได้ทันที มันสำคัญเพราะช่วยให้ธุรกิจมีเงินสดจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เงินเดือนพนักงาน ค่าเช่า หรือจ่ายหนี้ซัพพลายเออร์ระยะสั้นๆ ไม่ให้สะดุดนั่นเองครับ ลองนึกถึงช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน บริษัทไหนมีสินทรัพย์หมุนเวียนพร้อมอยู่มือ มักจะรับมือกับวิกฤตได้ดีกว่า เปรียบเหมือนมีร่มพร้อมใช้ในวันฝนตกกะทันหัน
ทีนี้มาดูกันว่าในกองสินทรัพย์หมุนเวียนนี่มีอะไรซ่อนอยู่บ้าง? ตัวท็อปสุดแน่นอนคือ เงินสด อันนี้ไม่ต้องพูดถึง สภาพคล่องสูงสุด พร้อมใช้ทันที ถัดมาก็ เงินฝากธนาคาร อันนี้ก็สภาพคล่องสูงเหมือนกัน ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ รวมพวกเช็คที่ยังไม่ทันเข้าบัญชีด้วยนะ อีกตัวที่เจอประจำคือ ลูกหนี้การค้า คือเงินที่ลูกค้าติดเราอยู่ เพราะเราให้เครดิตเขาไป ก็ต้องบริหารดีๆ ให้เก็บเงินได้ตามกำหนดนะ ไม่งั้นเงินจม ส่วน สินค้าคงเหลือ อันนี้ก็สำคัญมาก ตั้งแต่วัตถุดิบ งานระหว่างทำ ไปจนถึงสินค้าสำเร็จรูป ถ้าขายได้ก็กลายเป็นเงินสด แต่ถ้าค้างสต็อกเยอะไปล่ะก็ อาจจะกลายเป็นปัญหาแทนนะ นอกจากนี้ยังมี เงินลงทุนระยะสั้น ที่กะถือไว้ไม่เกินปี, ตั๋วรับเงิน, เงินให้กู้ยืมระยะสั้น, วัสดุสำนักงาน ที่ใช้หมดในเร็ววัน, รายได้ค้างรับ (ที่ควรได้แต่ยังไม่ได้) และ ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า อีกด้วยครับ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะปรากฏอยู่ใน งบดุล (Balance Sheet) ของบริษัท ส่วนเงินสดเป๊ะๆ ก็ไปดูได้ใน งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)

แล้วทำไมธุรกิจต้องมีสินทรัพย์หมุนเวียนในปริมาณที่พอเหมาะ? ประโยชน์แรกเลยคือ รักษาสภาพคล่อง ทำให้ธุรกิจมีเงินสดพร้อมใช้ จ่ายบิลได้ตรงเวลาไม่เสียเครดิต ประโยชน์ถัดมาคือ สร้างความมั่นคงและความยืดหยุ่น เวลาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ยอดขายตกฉับพลัน หรือต้องลงทุนเพิ่มกะทันหัน สินทรัพย์หมุนเวียนนี่แหละคือเบาะรองรับชั้นดี ไม่ทำให้ธุรกิจล้มง่ายๆ แถมยัง เพิ่มความน่าเชื่อถือ ให้กับคู่ค้าและสถาบันการเงินด้วยนะ เพราะเห็นว่าเรามีฐานะทางการเงินที่แข็งแรงพอจะชำระหนี้ได้ สุดท้ายก็คือช่วยให้ การดำเนินธุรกิจราบรื่น ไม่สะดุด ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องเงินขาดมือตลอดเวลาครับ
ไม่ได้มีประโยชน์แค่กับเจ้าของธุรกิจเท่านั้นนะครับ นักลงทุนอย่างเราๆ ก็ใช้ข้อมูล สินทรัพย์หมุนเวียน นี่แหละ เป็นเครื่องมือชั้นดีในการ ประเมินสุขภาพทางการเงินของบริษัท ครับ ลองนึกภาพว่าถ้าบริษัทไหนมีเงินสดน้อยมากๆ ลูกหนี้เก็บยาก แถมสต็อกสินค้าบวม นั่นอาจเป็นสัญญาณอันตรายว่าเขากำลังมีปัญหาเรื่องเงินหมุนเวียนอยู่ การวิเคราะห์สินทรัพย์หมุนเวียนช่วยให้เรา วิเคราะห์สภาพคล่องและความเสี่ยง ได้ก่อนตัดสินใจลงทุน ว่าบริษัทมีเงินพอจ่ายหนี้ระยะสั้นไหม มีความเสี่ยงที่จะขาดสภาพคล่องหรือเปล่า ข้อมูลพวกนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ครับ

แต่ก็ใช่ว่าการมีสินทรัพย์หมุนเวียนเยอะๆ จะดีเสมอไปนะครับ เหมือนกับการมีเงินในบัญชีเยอะๆ ก็ดี แต่ถ้าเงินนั้นดันไปจมอยู่ที่ สินค้าคงเหลือ ที่ขายไม่ออกกองเต็มโกดัง อันนั้นก็อาจเป็นปัญหามากกว่าเป็นทรัพย์สินที่ดีนะ หรือถ้าลูกหนี้การค้าเยอะเกินไปจนเก็บไม่ได้ก็เหมือนกันครับ การมีสินทรัพย์หมุนเวียน น้อยเกินไป แน่นอนว่าอันตราย ขาดสภาพคล่อง จ่ายหนี้ไม่ไหว แต่การมี มากเกินไป บางทีก็อาจหมายถึงการบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ เงินทุนจม ไม่ได้นำไปลงทุนต่อยอดให้เกิดผลตอบแทนที่ดีที่สุด ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือ ความสมดุล ที่เหมาะสมกับประเภทและขนาดของธุรกิจนั้นๆ ครับ
สรุปแล้วนะครับ การทำความเข้าใจว่า สินทรัพย์หมุนเวียนคือ อะไร มีอะไรบ้าง และสำคัญอย่างไร เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญมากๆ ทั้งสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องบริหารสภาพคล่องในแต่ละวัน และสำหรับนักลงทุนที่ใช้ดูความแข็งแกร่งและความเสี่ยงของบริษัท ก่อนตัดสินใจลงทุน ลองไปเปิดงบการเงินของบริษัทที่คุณสนใจ แล้วมองหาส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียนดูนะครับ ทำความเข้าใจมันให้ดี อย่างน้อยก็ช่วยให้เราเห็นภาพรวมได้ชัดขึ้น ⚠️ โปรดจำไว้ว่าข้อมูลสินทรัพย์หมุนเวียนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ทั้งหมด การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วยเสมอ และควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนลงทุนนะครับ